บทที่ 169 ใครกล้าให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าบ้าน
ในคฤหาสน์ ลี่เจี้ยนหวา โม่เสี่ยวฮุ่ย และยังมีลี่หยูนห่วนกับพ่อแม่ของเขา แต่ละคนยากนักที่จะได้มารวมตัวกันทานข้าวด้วยกัน
แน่นอนว่าในโอกาสอย่างนี้ จะขาดลี่จีถองที่เป็นลูกรักของคุณปู่ตระกูลลี่มาโดยตลอด ไปไม่ได้เลย
เดิมทีแต่ละคนได้ทานข้าวกันอย่างเงียบ ๆ แต่สายตาของลี่จีถองกลับมองไปยังคุณปู่ตระกูลลี่ตลอดเวลา
ทำไมยังไม่เอ่ยเรื่องสำคัญขึ้นมาล่ะ……
ลี่จีถองจ้องมองคุณปู่ตระกูลลี่ตลอดเพื่อให้สนับสนุนเธอ ทันใดนั้น เมื่อเห็นว่าคุณปู่ตระกูลลี่ไม่พูดอะไร ในใจก็อดไม่ไหว เริ่มใจร้อนขึ้นมา
ไม่ได้การละ เธอจะนั่งรอความตายอยู่อย่างนี้ไม่ได้นะ……ถ้าเกิดคุณปู่ตระกูลลี่ลืมขึ้นมาจริง ๆ จะทำยังไงล่ะ?
ที่จริง ถ้าหากคิดดูให้ดี ๆ แล้ว คุณปู่ตระกูลลี่ไม่น่าจะลืมเรื่องพวกนี้ได้ เพียงแต่เขาในตอนนี้ ยังอยากนั่งทานข้าวมื้อนี้กับคนในครอบครัวเงียบ ๆ ให้เสร็จก่อน
ในส่วนของเรื่องไม่พึงปรารถนาพวกนั้น เอาไว้ค่อยจัดการทีหลัง
คิดไปคิดมา ลี่จีถองที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารก็เลือกที่จะเอ่ยปากพูดขึ้นมาก่อน
“พ่อคะ หลายวันมานี้ที่พ่อไปพักผ่อนหย่อนใจอยู่ที่เมืองนอก เที่ยวสนุกไหมคะ?”
คุณปู่ตระกูลลี่อยู่มาจนอายุปูนนี้แล้ว อีกทั้งเป็นคนฉลาด จึงรู้ได้ทันทีว่าที่ลี่จีถองเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมานั้นหมายความว่ายังไง
คุณปู่ตระกูลลี่ชายตามองลี่จีถอง ทำให้ลี่จีถองอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาอาการไว้ด้วยรอยยิ้ม กลัวว่าคุณปู่ตระกูลลี่จะรู้ทันความคิดตัวเอง
แต่ลี่จีถองจะไปรู้ได้ยังไง ว่าสำหรับสิ่งที่เธอคิดนั้น คุณปู่ตระกูลลี่รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว เพียงแต่ยังคงรักและตามใจเธอ จึงไม่ได้ขัดเธอไปตรง ๆ
คุณปู่ตระกูลลี่อยู่มานานขนาดนี้แล้ว เขารู้ทุกอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง บางเรื่องเขาเลือกที่จะอดทนไว้ ขอเพียงแต่อย่าทำให้เขาหมดความอดทน
เมื่อได้ยินลี่จีถองเอ่ยถามอย่างนี้ คุณปู่ตระกูลลี่ก็ถอนหายใจออกมา จากนั้นสายตาก็หันไปจับจ้องที่ลี่จุนถิง
ลี่จุนถิงรับรู้ได้ถึงสายตาของคุณปู่ แต่เขาก็ไม่ได้หลบเหมือนกับลี่จีถอง ซ้ำยังเงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วสบตากับคุณปู่
เมื่อเห็นดังนั้น สีหน้าของคุณปู่ตระกูลลี่ก็ดูบึ้งตึงขึ้นมาทันที
จิตใต้สำนึกของเขา บ่งบอกว่าครั้งนี้ลี่จุนถิงทำผิด เมื่อเห็นท่าทีไม่สะทกสะท้านของลี่จุนถิง ในใจก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ
“ที่จริง ฉันก็ค่อนข้างมีความสุขอยู่ เพราะกว่าจะหาเวลาว่างออกไปเที่ยวได้นั้นก็ไม่ง่ายเลย แต่……หลังจากที่ฉันได้ยินเรื่องบางเรื่อง ก็รู้สึกไม่มีความสุขขึ้นมาละ”
พูดจบ แววตาของคุณปู่ตระกูลลี่ก็ยิ่งดูเย็นยะเยือกขึ้นมา
“ช่วงที่ฉันไม่อยู่นี้ ที่บ้าน……เหมือนจะมีเรื่องเกิดขึ้นไม่น้อยเลยนะ? พอฉันไป ที่บ้านก็เกิดเรื่องขึ้นทันที ต่อไปฉันจะกล้าไปไหนได้อีก?”
คุณปู่ตระกูลลี่ไม่จำเป็นต้องปกปิดอะไรต่อไปแล้ว เลยได้หันหน้าไปทางลี่จุนถิงโดยตรง
“เพื่อผู้หญิงคนเดียว ทำเอาที่บ้านวุ่นวายไปหมด คุ้มค่าไหม? แกอยากให้ฉันโมโหจนตายใช่ไหม?” คุณปู่ตระกูลลี่ยกมือขึ้นมาตบโต๊ะ ทำให้ดูมีพลังอำนาจขึ้นมา
ลี่จุนถิงมองดูสีหน้าของคุณปู่ ก็รู้ว่าเรื่องนี้ต้องพูดกับคุณปู่ให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้น……ต่อไปเจียงหยุนเอ๋อคงใช้ชีวิตลำบากแน่
แต่ ผู้หญิงของลี่จุนถิง ไม่จำเป็นต้องสนใจคนอื่น แม้แต่คุณปู่ตระกูลลี่ก็ไม่มีข้อยกเว้น
ลี่จุนถิงกำลังจะเอ่ยปาก ยังไม่ทันได้พูดอะไร ลี่จีถองที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดแทรกขึ้นมา
“ก็ใช่ไงคะ พ่อ พ่อดูจุนถิงสิ เพื่อผู้หญิงคนเดียว ทำเรื่องเกินเลยไปตั้งเท่าไหร่แล้ว”
ได้ยินดังนั้น สีหน้าของคุณปู่ตระกูลลี่ก็ยิ่งบึ้งตึงเข้าไปอีก หันหน้าไปมองลี่จีถอง เอ่ยพูดอย่างเคร่งขรึมว่า : “หืม? เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?”
“พ่อคะ พ่อไม่รู้อะไร จุนถิงเขาไม่สนความเห็นของพวกเรา ดึงดันที่จะอยู่กับผู้หญิงที่มีลูกติด ไม่เพียงแต่จับลี่หยูนห่วนเข้าคุก ยังมาเป็นศัตรูกับหนูอีกด้วย อายัดการเงินทุกอย่างของหนู”
พูดจบ ขอบตาของลี่จีถองก็มีน้ำตาไหลปริ่มออกมา ท่าทางน่าสงสารไร้เดียงสา : “พ่อคะ พ่อว่า จุนถิงทำอย่างนี้ใช่ได้ที่ไหนกัน? ทั้ง ๆ ที่พวกเราเป็นญาติของเขานะ!”
คุณปู่ตระกูลลี่ได้ยินดังนั้น ก็โกรธจัดทันที ตบโต๊ะแล้วถามออกมาเสียงดัง : “จุนถิง ฉันมอบอำนาจทุกอย่างในบ้านให้แก แต่แกกลับทำกับคนในครอบครัวอย่างนี้เหรอ? ตอนแรกเพราะฉันเชื่อมั่นในตัวแกถึงได้ตัดสินใจอย่างนั้น แต่ไม่ใช่ให้แกมาเป็นศัตรูกับคนในครอบครัว!”
สีหน้าลี่จุนถิงดูเย็นชามาก ถึงแม้ว่าจะกำลังเผชิญหน้าอยู่กับคุณปู่ตระกูลลี่ที่เคร่งขรึมและทรงพลังอย่างนี้ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีเกรงกลัวอะไรออกมา
“คุณปู่ ปู่ไม่ถามถึงสาเหตุหน่อยเหรอ? ผมเป็นคนยังไง ปู่ก็รู้ดีอยู่แล้ว ปู่คิดว่าผมจะทำเรื่องแบบนี้โดยไม่มีเหตุผลงั้นเหรอ?”
ถ้าหากคุณปู่ตระกูลลี่เป็นคนที่ยอมรับฟังคนอื่นบ้างก็คงจะดี แต่นี่ เขากลับเป็นคนเผด็จการ เมื่อได้ยินคำพูดของลี่จุนถิงกลับยังคิดว่าเขากำลังหาข้อแก้ตัว
“ไม่ว่าจะสาเหตุอะไรก็ตาม แต่การที่แกทำกับคนในครอบครัวแบบนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง”
คุณปู่ตระกูลลี่แทบจะไม่ยอมให้โต้แย้งได้ง่าย ๆ
คนอื่น ๆ ที่อยู่บนโต๊ะอาหาร ตอนนี้ก็สัมผัสได้ถึงสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างลี่จุนถิงและคุณปู่ตระกูลลี่ แต่ละคนก็ได้มีความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป
พ่อแม่ของลี่จุนถิงหวังว่าเรื่องนี้จะไม่ยืดเยื้อต่อไป แต่สำหรับคนอื่นนั้น……ได้แต่หวังให้เรื่องนี้รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ถ้าหากสามารถเอาอำนาจที่อยู่ในมือของลี่จุนถิงยึดกลับมาได้ก็ยิ่งดีขึ้นไปใหญ่
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ลี่หยูนห่วนและลุงรองไม่มีทางปล่อยโอกาสดี ๆ นี้หลุดมือแน่นอน จึงได้พูดเสริมขึ้นมา
“พ่อ พ่อไม่รู้อะไร จุนถิงตอนนี้หลงยังจิ้งจอกนั่นหัวปักหัวปำ ช่วงนี้ยังคิดจะจัดงานแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นอย่างใหญ่โต!” ลุงรองเอ่ยพูด
ลี่หยูนห่วนก็รีบใส่ไฟ : “ใช่ครับ คุณปู่ ปู่ว่าผู้หญิงที่น่าอับอายอย่างนั้นจะแต่งงานเข้าตระกูลเราได้ยังไง?”
ได้ยินดังนั้น คุณปู่ตระกูลลี่ก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา สายตาที่มองไปยังลี่จุนถิงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ : “ไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ใครกล้าให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าบ้าน?”
เมื่อได้ยินที่คุณปู่ตระกูลลี่พูด พวกที่คิดคดในใจก็ค่อย ๆ รู้สึกโล่งใจขึ้น
ดูท่า ตอนนี้คุณปู่ตระกูลลี่จะไม่พอใจลี่จุนถิงเข้าแล้ว สำหรับพวกเขานั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
แต่ลี่เจี้ยนหวากลับรู้สึกวิตกกังวล เพราะยังไงลี่จุนถิงก็เป็นลูกชายของเขา
“จุนถิง แกยังไม่รีบขอโทษคุณปู่อีก!” ลี่เจี้ยนหวาพูดขึ้นมาอย่างดุ ๆ
แต่ทว่า ลี่จุนถิงกลับทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเขา แล้วพูดกับคุณปู่ตระกูลลี่ว่า : “คุณปู่ครับ อยากใช้ชีวิตกับผู้หญิงคนนั้นทั้งชีวิต เป็นสิทธิ์ของผม คุณปู่ไม่ต้องมาจัดการ ในเมื่อคุณปู่ไม่ยินดีที่จะฟังผมอธิบาย งั้นผมคิดว่าผมก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อแล้ว”
พูดจบ ลี่จุนถิงก็ไม่คิดจะทานข้าวต่อ ได้แต่ลุกขึ้นแล้วเดินจากไป