บทที่ 82: แย่งชิง!
เมื่อนักสู้ทั้งสามเห็นหวังเต็งขุดแกนดาราออกมาจากซากของซาลาแมนเดอร์ภูเขาไฟ พวกเขาก็ตกตะลึงพวกเขารีบไปหาซากที่พวกเขาฆ่าและผ่าท้องของมันออกมา
ไม่มีอะไร!
พวกเขาค้นหาอยู่เป็นเวลานาน แต่มันก็ไม่พบอะไรเลย!
นี่เป็นข้อแตกต่างระหว่างคนที่โชคดีกับคนที่โชคร้ายอย่างงั้นหรอ?
หวังเต็งมองไปที่ทั้งสามคนและรู้สึกว่าใบหน้าของพวกเขาค่อนข้างคล้ํา
จีฉวนหายใจเข้าลึกๆและมองไปที่แกนดาราในมือของหวังเต็ง เขารู้สึกอิจฉาเล็กน้อยในขณะที่พูดว่า “ หวังเต็ง เธอนี้โชคดีจริงๆ มันมีสัตว์อสูราราเพียงสองตัวเท่านั้น และหนึ่งในนั้นก็มีแกนดาราและเธอก็เป็นคนที่ฆ่ามัน”
“ อาจเป็นเพราะฉันหล่อ” หวังเต็งตอบอย่างไม่ใส่ใจ
นักสู้ทั้งสาม:
ขอโทษที่พวกเราน่าเกลียดนะ!
นักสู้ทั้งสามรู้สึกราวกับฝูงม้าทั้งฝูงได้เหยียบย่ําหัวใจของพวกเขาและเหยียบย่ําจิตใจที่อ่อนแอของพวกเขา
“ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะแก้ปัญหาไปแล้วสินะ!”
ในขณะนั้นก็มีเสียงมาจากปากทางเข้าถ้ํา และชายผู้สง่าก็เดินออกมาในทันที
หวังเต็งหันกลับไปและพบกับสายตาของชายคนนั้น ออร่าอันทรงพลังพุ่งเข้าหาเขา และทําให้เขาตกตะลึง
เป็นออร่าที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้ คนๆนี้คือใครกัน?
ขณะที่ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจของหวังเต็ง นักสู้ทั้งสามก็รีบวิ่งไปข้างหน้าในทันทีและโค้งคํานับด้วยความเคารพ
“ ผู้ว่าฯ!”
ผู้ว่าฯ!
หวังเต็งตกใจเมื่อได้ยินคําๆนี้ สีหน้าตกตะลึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
มันมีเพียงคนเดียวในตงไห่เท่านั้นที่มีสิทธิ์จะถูกเรียกเช่นนี้
ผู้ว่าราชการตงไห่!
ผู้ที่มีอํานาจมากที่สุดในตงไห่
ถ้าผู้อํานวยการเหอเป็นผู้ประกอบการ ผู้ว่าราชการตงไห้ก็จะเป็นเจ้าสัวรายใหญ่
นี่คือชีวิตครั้งที่สองของหวังเต็ง และหากเขาไม่ได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ตามสถานะและตัวตนดั้งเดิมของเขาแล้ว เขาก็จะไม่มีวันได้พบกับบุคคลระดับนี้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาก็ได้พบเขา แล้ว และบุคคลคนนี้ก็ได้อยู่ต่อหน้าต่อตาเขาแล้ว
“ ฉันเห็นการแสดงของเธอในระหว่างการประเมินการต่อสู้จริงแล้ว ไม่เลว” ทันใดนั้นผู้ว่าราชการเจียงก็พูดกับหวังเต็ง
หวังเต็งไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าชายผู้นี้จะเอ่ยชมเขา หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ และเขาก็รีบตอบด้วยน้ําเสียงที่สุภาพว่า “ คุณกําลังชมฉันมากเกินไปแล้ว”
ผู้ว่าราชการเจียงพยักหน้า เขาไม่ได้พูดอะไรต่อและหันไปมองที่นักสู้ทั้งสาม “ พวกคุณฆ่าสัตว์อสูรดาราทั้งสองเหล่านี้ได้ทันเวลาและป้องกันไม่ให้ภูเขาไฟปะทุ พวกคุณทําได้ดีมาก!”
นักสู้ทั้งสามคนต่างเบิกบานใจ พวกเขาแลกเปลี่ยนสายตากัน และในขณะที่พวกเขากําลังจะพูดอะไรบางอย่าง พวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบอยู่นอกถ้ํา
ผู้อํานวยการเหอ,เทียนเต่ําและฉินหานซวนก็ได้มาถึงแล้ว
“ ผู้เข้าสอบทั้งหมดถูกส่งไปยังที่ปลอดภัยแล้ว อย่างไรก็ตาม มันก็มีผู้เสียชีวิตเป็นจํานวนมาก” ผู้อํานวยการเหอเดินเข้าไปข้างๆผู้ว่าราชการเจียงและกระซิบกับเขา
ผู้ว่าราชการเจียงพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไร
ผู้อํานวยการเหอรู้สึกกดดันขึ้นมาในทันที เหงื่อเม็ดใหญ่ปรากฏเต็มหน้าผากของเขา
เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยและเห็นซากของสัตว์อสูรดาราทั้งสองที่นอนกองอยู่
“ จีฉวน นายเป็นฆ่าสัตว์อสูรดาราทั้งสองตัวนี้อย่างงั้นหรอ?” ผู้อํานวยการเหอถามนักสู้ทั้งสามในทันใด
จีฉวนยิ้มอย่างขมขึ้นและตอบว่า “ ผู้ว่าราชการ,ผู้อํานวยการเหอ เราฆ่าสัตว์อสูรดาราไปเพียงตัวเดียวเท่านั้น ส่วนสัตว์อสูรดาราอีกตัวหนึ่งนั้นถูกหวังเต็งฆ่า และหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเขา เราก็คงจะไม่สามารถทําภารกิจนี้สําเร็จได้”
ในวินาทีที่เขาพูดจบ ทุกคนก็ตกตะลึง สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่หวังเต็งซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ในทันทีโดยไม่ตั้งใจ
ผู้อํานวยการเหอได้คิดเอาไว้แล้ว
เขามีความเข้าใจที่ชัดเจนมากเกี่ยวกับความสามารถของนักสู้ทั้งสามคน ดังนั้นเขาจึงรู้ว่ามันเป็นการยากสําหรับพวกเขาที่จะจัดการกับสัตว์อสูรดาราทั้งสองตัวในคราวเดียวยิ่งไปกว่านั้นมันก็ไม่ต้องพูดถึงภายในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้เลย
ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะยืมมือคนอื่นเข้ามาช่วย!
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงรู้สึกประหลาดใจและสงสัยเมื่อได้ยินว่าหวังเต็งนั้นเป็นคนฆ่าสัตว์อสูรดาราเพียงลําพัง
เขาไม่ใช่คนเดียวเท่านั้นที่ตกใจ แม้แต่ผู้เทียนเต่าและฉินหานหยวนซึ่งรู้อยู่แล้วว่าหวังเต็งนั้นเป็นนักสู้ก็ยังพบว่ามันน่าประหลาดใจมาก
แค่เป็นนักสู้ด้วยอายุแค่นี้นั้นก็น่าประทับใจมากพอสมควรแล้ว และหากเขายังมีความสามารถในการต่อสู้ในระดับที่สามารถฆ่าสัตว์อสูรดาราได้เพียงลําพังได้แล้วล่ะก็ เด็กคนนี้ก็จะต้องเป็นสัตว์ประหลาดอย่างแน่นอน!
อาจาย์ใหญ่ของสถาบันสอนศิลปะการต่อสู้อีกสองคนที่เหลือเองก็ไม่เชื่อเช่นกัน พวกเขาจ้องไปที่นักสู้ทั้งสามและถามว่า “ พวกนายแน่ใจนะว่าหวังเต็งคนนี้คือคนที่ฆ่าสัตว์อสูรดารานี่เพียงลําพัง?”
“ พวกคุณแน่ใจไหม?” ผู้ว่าราชการเจียงขมวดคิ้วและถามพวกเขาด้วย
เป็นนักสู้ฆ่าสัตว์รอสูรดารา!
มันมีอัจฉริยะที่น่าทึ่งและมีพรสวรรค์มากขนาดนี้ในหมู่ผู้เข้าสอบจริงๆหรอ?
“ จีฉวน นายจะต้องรับผิดชอบต่อคําพูดของนาย อย่าคิดที่จะปิดบังความจริง” ผู้อํานวยการเหอเตือนเขา
แม้ว่าเขาจะต้องการให้หวังเต็งนั้นโดดเด่นในการประเมินการต่อสู้จริง แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการจะให้เรื่องมันเกินเบอร์ถึงขนาดนี้
จีฉวนยิ้มอย่างขมขึ้นและตอบว่า “ ผู้ว่าราชการเจียง ผู้อํานวยการเหอ เราจะโกหกคุณเรื่องนี้ได้อย่างไร? หากคุณไม่เชื่อเรา คุณก็สามารถดูบาดแผลบนศพของซาลาแมนเดอร์ภูเขาไฟได้มันเพิ่งตายไปได้ไม่นาน และร่องรอยของพลังฟอร์สก็ควรจะยังเหลืออยู่ คุณจะได้รู้ว่าพลังฟอร์สที่อยู่บนนั้นนั้นแตกต่างจากพลังฟอร์สของเรา”
ผู้ว่าราชการเจียงและผู้นําคนอื่นๆไปยืนอยู่ข้างๆซากศพ พวกเขาสังเกตบาดแผลของมันและในไม่ช้าพวกเขาก็ได้คําตอบ
“ มันเป็นความจริง มันมีเพียงพลังฟอร์สเพียงธาตุเดียวเท่านั้น!”
“แต่พลังฟอร์สนี้มัน”
“ พลังฟอร์สธาตุน้ําแข็ง!”
ช่วงเวลาต่อมา หวังเต็งก็รู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่เข้มข้นของเหล่าผู้นําที่ทรงพลัง ความรู้สึกไม่ สบายใจได้ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างของเขา และเขาก็เริ่มตัวสั่น
พลังฟอร์สธาตุน้ําแข็งนั้นเป็นพลังฟอร์สที่กลายพันธุ์ออกมาเป็นพิเศษนอกเหนือจากพลังฟอร์สหลักทั้งห้าอันได้แก่ โลหะ,ไม้, น้ํา,ไฟและดิน
โดยสรุปแล้ว พลังฟอร์สทั้งห้านี้ก็เป็นสิ่งที่สามรถพบเจอได้ทั่วไป ในขณะที่พลังฟอร์สกลายพันธุ์นั้นหายากกว่ามาก พลังฟอร์สกลายพันธุ์เหล่านี้นั้นทรงพลัง และพวกมันก็ยังมาพร้อมกับเอฟเฟกต์พิเศษอีกด้วย
ความสามารถในการครอบครองพลังฟอร์สกลายพันธุ์เป็นสัญลักษณ์ของความสามารถของเขา และนั่นก็ทําให้คนอื่นทําได้แค่อิจฉา
ผู้ว่าราชการเจียงก็หัวเราะออกมาในทันที เขาตบไหล่ของหวังเต็งอย่างหนักและพูดว่า “เธอทําได้ดีมากเธอเก่งมาก”
“ ตงไห่ของเราจะเปล่งประกายในปีนี้อย่างแน่นอน มาดูกันว่าใครจะกล้าดูถูกเราอีก!”
ผู้นําคนอื่นๆก็มีความสุขมากเช่นกัน ทุกคนเริ่มประสานเสียงกัน
“ ผู้ว่าราชการเจียงพูดถูก ตงไห่จะต้องเปล่งประกายอย่างแน่นอน!”
* ใช่แล้ว เราจะแสดงให้เมืองใหญ่อื่นๆได้เห็นว่าในฐานะเขตเศรษฐกิจพิเศษชายฝั่งตงไห่ของเราก็เป็นเมืองสําคัญเช่นกัน พวกเราจะไม่แพ้พวกมัน!”
“ เด็กดี เธอสนใจที่จะเข้าร่วมสถาบันสอนศิลปะการต่อสู้เหล่ยติงของฉันไหม? เธอจะสามารถขออะไรก็ได้!”
“ เจียงหงนายนี่มันช่างหน้าด้านเหลือทน? หวังเต็ง ทําไมเธอถึงไม่มาที่ไปเหลียงของฉันแท นล่ะ? ไม่ว่าเหล่ยติงจะให้อะไรเธอ ฉันก็สามารถให้เธอได้มากกว่าทั้งนั้น”
“ เจ้าสองคนนี้นี่ หวังเต็งเป็นสมาชิกของจีซินของฉัน ทําไมพวกแกถึงไร้ยางอายได้ ขนาดนี้นะ?”
เทียนเต๋กระโจนออกไปด้วยความโกรธ
สองคนนี้ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก! พวกเขาพูดออกมาหน้าตาเฉยแบบนี้ได้ยังไงกัน?! พวกเขากําลังดูถูกเขา?
“ ฉันได้สั่งให้คนของฉันไปตรวจสอบหวังเต็งมาแล้ว จริงอยู่ที่เขาเป็ศิษย์นักสู้ของจีซินอย่างไรก็ตาม เขาก็ยังไม่ใช่สมาชิกนักสู้อย่างเป็นทางการของนาย ดังนั้นเขาจึงยังมีสิทธิที่จะเลือก” คู่เหอเฟยหัวเราะเยาะ
“ ถูกต้อง เขาสามารถเลือกคนที่ให้ผลประโยชน์สูงสุดแก่เขาได้ นั่นเป็นเรื่องปกติ!” เจียงหงกางแขนของเขาออกเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าช่วยไม่ได้
“ โอ้ พระเจ้าช่วย พวกแกอยากปะทะนักใช่ไหม? ห้ะ? มา มา มา…”