บทที่ 83: ผู้หญิงยิ่งสวย ก็ยิ่งอันตราย!

การต่อสู้ระหว่างผู้นําทั้งสามกําลังจะปะทุขึ้น และนั่นก็ทําให้ทุกคนได้แต่ยิ้มแหยๆออกมา และแม้แต่ผู้ว่าราชการเจียงก็ยังรู้สึกปวดหัว

“ เอาล่ะ พวกคุณทุกคนก็อายุเกือบสี่สิบกันหมดแล้ว ทําไมยังทําตัวเหมือนเด็กแย่งของเล่นกันอีก? พวกคุณไม่คิดว่ามันน่าอายบ้างหรอ?”

มีเพียงผู้ว่าราชการเจียงเท่านั้นที่สามารถตําหนิพวกเขาได้

ผู้นําทั้งสามเงียบลงในทันที อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังคงจ้องมองกันและกัน หลังจากเรื่องนี้จบลง พวกเขาก็คิดที่จะนัดไปต่อยกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

หวังเต็งอยู่ในความงุนงงตั้งแต่ต้น

ทําไมพวกคุณถึงแย่งฉันโดยที่ไม่ถามฉันสักคําเลยหล่ะ?

แน่นอน แรงจูงใจของเขามาถึงแล้ว เขาได้แสดงความสามารถของนักสู้ และผลก็ดีกว่าที่คาดไว้มาก

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ขยิบตาให้ผู้อํานวยการเหอ

ผู้อํานวยการเหอยังคงทําตัวเข้มงวดและชอบธรรมราวกับว่าเขาไม่เห็นอะไรเลย

ชายคนนี้ก็เป็นราชาการแสดง

“ ในเมื่อปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้ว งั้นเราก็ลงเขากันเถอะ เรายังจําเป็นต้องแจ้งผู้ปกครองของผู้เข้าสอบให้ทราบเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการสอบศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้” น้ําเสียงของผู้ว่าราชการเจียงฟังดุหนักแน่น

การแสดงออกของผู้อํานวยการเหอเองก็ไม่ได้ดีเช่นกัน ในฐานะอํานวยการกระทรวงศึกษาธิการ เขาก็แทบจะหนีไม่พ้นโทษ

โชคดีที่มีหวังเต็งเป็นผู้ช่วยชีวิตของเขาในปีนี้ หากไม่เป็นเช่นนั้น เขาก็จะไม่สามารถรักษาตําแหน่งไว้ได้อย่างแน่นอน

สําหรับการเลื่อนตําแหน่งของเขา มันก็คงจะไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว!

ผู้อํานวยการเหออารมณ์ไม่ดีเมื่อนึกถึงเรื่องทั้งหมดนี้

ทุกคนเตรียมออกจากภูเขา

“ หวังเต็ง มันค่อนข้างเป็นเรื่องที่ยากลําบากในการจัดการกับวัตถุดิบในร่างของสัตว์อสูรดารา ดังนั้นหากเธอไว้ใจเรา เราก็สามารถช่วยเธอดูแลและขายให้เธอได้ หลังจากนั้นเราก็จะโอนเงินให้เธอ เธอคิดว่ายังไง?” จีฉวนถาม

ทั้งสามคนเริ่มมีความกระตือรือร้นต่อหวังเต็งมากยิ่งขึ้นหลังจากได้เห็นทัศนคติของเหล่าผู้นํา

ตามที่คาดไว้ เด็กคนนี้มีศักยภาพมหาศาล!

อย่างงั้นแล้วทําไมพวกเขาถึงจะไม่ควรตีสนิทเขาล่ะ?

เรามันห่วย? คุณกําลังล้อเล่น พวกเราคือนักสู้! เราเป็นคนแบบนั้นเหรอ?

“ ก็ได้ ขอโทษที่รบกวนนะ” หวังเต็งพยักหน้า เขาไม่ได้ปฏิเสธความช่วยเหลือของพวกเขา เพราะพวกเขาจะช่วยให้เขาไม่ต้องพยายามหาช่องทางในการขายสินค้า

เขาไม่ได้กังวลว่านักสู้ทั้งสามคนนี้จะเล่นกลกับเขา ยังไงซะแกนดาราก็อยู่ในมือของเขาแล้ว และมันก็มีผู้นําจํานวนมากเฝ้าดูอยู่ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าพวกเขาก็ไม่น่าจะโง่ขนาดนั้น

หวังเต็งบอกหมายเลขบัญชีธนาคารของเขา จากนั้นเขาก็เดินตามผู้ว่าราชการเจียงและผู้นําคนอื่นๆลงภูเขาไป

ระหว่างทาง เขาก็เห็นซากสัตว์กลายพันธุ์มากมาย รวมทั้งร่างของผู้เข้าสอบด้วย เจ้าหน้าที่สถานที่สอบกําลังจัดการกับผลที่ตามมาของอุบัติเหตุและอุ้มศพลงจากภูเขา

หัวใจของหวังเต็งรู้สึกหนักอึ้ง เขารู้สึกเป็นห่วงหลินซัวหานอีกครั้ง

กองเนื้อนั่นคงไม่ใช่เธอใช่ไหม?

หลินซัวหานนั้นอ่อนแอมาก มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธออยู่กลางดงสัตว์กลายพันธุ์? เธอจะไม่มีโอกาสรอดชีวิตเลยนี้ไม่ดีแล้ว นี่มันแย่มาก

เขาเก็บความคิดแย่ๆไว้ในใจขณะกลับไปที่ลานเต็นท์ ผู้เข้าสอบทั้งหมดนั่งอยู่บนพื้น มันสามารถเห็นคราบเลือดบนร่างกายของทุกคนได้ และมันก็ดูโกลาหลเป็นอย่างยิ่ง

ผู้เข้าสอบบางคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นมันจึงมีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์คอยดูแล

มันสามารถได้ยินเสียงสะอื้นได้จากทุกที่!

ความโหดร้ายของการสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้นั้นส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้เข้าสอบ พวกเขาต้องทนทุกข์กับสิ่งที่ไม่ควรทนในวัยแค่นี้

หวังเต็งดึงดูดความสนใจของทุกคนเมื่อเขากลับมาพร้อมกับผู้ว่าราชการเจียงและผู้นําคนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจเขา ในตอนนี้ พวกเขาเพียงแค่เหลือบมองเขาแล้วเพ่งมอง

“หวังเต็ง!” ทันใดนั้นเสียงที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจก็ดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน

หวังเต็งหันกลับไปและเห็นหลินซัวหานโบกมือให้เขา

“ ท่านผู้นํา เพื่อนของฉันกําลังเรียกหาฉัน ฉันขอตัวไปก่อนนะ” หวังเต็งกล่าวกับผู้ว่าราชการเจียงและคนอื่นๆที่อยู่ข้างๆเขา

“ เอาเลยไอ้หนุ่ม!”

จิ้งจอกเฒ่าเหล่านี้มองเขาอย่างรู้ทันในขณะที่พวกเขายิ้มและตอบเขา

หวังเต็งรู้สึกปวดหัวขึ้นมาในทันที

ช่วยทําตัวให้น่าเคารพสมฐานะผู้นําหน่อยจะได้ไหม? กะอีแค่เด็กผู้ชายเดินไปหาเด็กผู้หญิงมันมีอะไรน่าซุบซิบกัน?

หวังเต็งเดินไปหาหลินซัวหานอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อมองดูใบหน้าที่งดงามของเธอ เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอ โชคดีที่ไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้น

เขาไม่สามารถอธิบายความรู้สึกโล่งใจที่เขาประสบอยู่ในตอนนี้ได้

“ นายสบายดีไหม?” หลินซัวหานรีบถามเขาในทันทีที่เขาเข้ามาใกล้

“ ฉันจะไม่เป็นไรได้ยังไง” หวังเต็งตอบติดตลก

“ นายน้อยหวัง!” หยางเจี้ยนนั่งอยู่ข้างๆพวกเขา ขาของเขาได้รับบาดเจ็บและถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผล มันหนาเป็นสองเท่าของปกติ และมันก็ทําให้เขาไม่สามารถยืนขึ้นได้

“ เกิดอะไรขึ้นกับขานาย” หวังเต็งถาม

“ ฉันถูกสัตว์กลายพันธุ์ข่วนน่ะ โชคดีที่หอาจารย์ใหญ่สถาบันสอนศิลปะการต่อสู้ไบ่เหลียนมาถึงทันเวลา ไม่อย่างนั้นฉันก็คงจะตายอยู่ที่นั่น”

หยางเจี้ยนยังคงมีความกลัวอยู่ จากนั้นเขาก็พูดด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย “ คุณไม่เห็นว่าอาจารย์ใหญ่นั้นน่าประทับใจเพียงใด เขาใช้เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น แต่เขาก็สามารถจัดการกับสัตว์กลายพันธุ์ได้มากถึงสิบกว่าตัว!”

หวังเต็งรู้ว่าเพื่อนคนนี้ยังสบายดีเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา

จากนั้นเขาก็หันกลับมาถามหลินซัวหาน “ เธอทําของตกรึเปล่า?”

“ ฉันทําของตกหรอ? ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ!” หลินซัวหานสายหัว

“ ตรวจสอบซิว่าบัตรประจําตัวผู้เข้าสอบของเธอยังอยู่ไหม?”

หวังเต็งรู้สึกพูดไม่ออก หลินซัวหานไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเธอทําบัตรประจําตัวหาย

หลินซัวหานรีบค้นร่างกายของเธอ จากนั้นเธอก็อุทานอย่างบ้าคลั่ง “ โอ้ แย่แล้ว บัตรประจําตัวของฉันหายไปจริงๆด้วย!”

“ เอาไป!” หวังเต็งหยิบบัตรประจําตัวผู้เข้าสอบของหลินซัวหานออกจากกระเป๋าของเขา และส่งให้เธอ เขาส่ายหัวและพูดต่อ “ เธอควรจะทําดีกับฉันให้มากๆนะต่อจากนี้”

“ ขอบคุณ! ขอบคุณมาก!” หลินซัวหานถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ นายหามันเจอที่ไหน?”

“ เกี่ยวกับเรื่องนั้น เธอกําลังทําอะไรอยู่ที่ยอดภูเขาไฟ? ฉันพบบัตรประจําตัวใบนี้ที่นั่น เธอไม่รู้หรอว่ามันอันตรายมาก” หวังเต็งโกรธมาก

“ ใครบอกว่าที่นั่นอันตราย? หากอุบัติเหตุไม่เกิดขึ้น มันก็จะเป็นเพียงภูเขาไฟที่ดับแล้วเท่านั้น แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันก็สังเกตเห็นว่ามันไม่มีสัตว์กลายพันธุ์ที่ยอดภูเขาไฟ ดังนั้นฉันจึงคิดว่ามันปลอดภัยมาก” หลินซัวหานปฏิเสธด้วยตรรกะของเธอเอง

“ ไม่มีสัตว์กลายพันธุ์อยู่ที่นั่นหรอ?” ถึงคราวของหวังเต็งที่ต้องตกใจแล้ว

“ ถูกต้อง หลังจากที่ฉันฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ไป 5 ตัว ฉันก็รู้สึกว่ามันปลอดภัยมาก ดังนั้นฉันจึงวางแผนที่จะอยู่ที่นั่นจนกว่าการสอบจะสิ้นสุดลง ฉันไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้น และโชคดีที่ฉันตามหลังฝูงของสัตว์กลายพันธุ์ไป มันจึงทําให้ฉันกลับมาได้อย่างปลอดภัย” หลินซัวหานกล่าว

“ สัตว์กลายพันธุ์ธรรมดาคงไม่กล้าเข้าไปใกล้ยอดเขาเพราะมันมีสัตว์อสูรดาราธาตุไฟอยู่ละมั้ง” นี่คือการคาดเดาของหวังเต็ง

“ เดี๋ยวก่อนนะ เธอฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ไปห้าตัวแล้วหรอ!” เขาฟื้นสติขึ้นมาในทันใดและอุทานด้วยความประหลาดใจ

“ ทําไมฉันถึงจะทําไม่ได้ล่ะ?” หลินซัวหานจ้องไปที่หวังเต็ง เธอรู้สึกราวกับว่าเขากําลังดูถูกเธอ

“ ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็แค่ตะลึงเล็กน้อยเพราะเธออ่อนแอมากก็เท่านั้นเอง” หวังเต็งล้อเธอ

“ ฮึ่ม!” หลินซัวหานเย้ยหยัน เธอพูดอย่างไม่พอใจว่า “ ฉันอาจไม่แข็งแกร่งเท่านาย แต่ฉันฉลาดกว่าเยอะย่ะ”

“ เอาล่ะ ไม่เป็นไร เธอฉลาดๆ แล้วเธอฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ทั้งห้าได้ยังไงกัน? ท่านนักปราชญ์หลิน โปรดบอกฉันถึงการกระทําอันรุ่งโรจน์ของท่านด้วย” หวังเต็งถามด้วยความสนใจขณะที่เขาไขว่ห้างและนั่งลง

“ นายหมายความว่ายังไง? อย่ามาตั้งฉายาให้ฉันนะ” หลินซัวหานกลอกตา แต่เธอยังคงบอกเขาอย่างมีความสุขว่าเธอฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ได้อย่างไร

ปากของหวังเต็งเปิดกว้างหลังจากที่ได้ยินเรื่องราวของเธอ เขารู้สึกว่าหลินซัวหานเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่แท้จริง

เขาไม่ได้คาดคิดว่าหลินซัวหานจะใช้วิธีที่เจ้าเล่ห์และเย็นชาเช่นนี้

หลังจากที่หลินซัวหานเข้าไปในป่าดิบชื้น เธอก็ได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจาก “ การสอบศิลปะการต่อสู้ห้าปี เอกสารจําลองสามปี” อย่างละเอียดและคล่องตัว

ตัวอย่างเช่น เธออําพรางร่างกายของเธอด้วยน้ําจากต้นไม้ฉุนเพื่อททําให้สัตว์กลายพันธุ์ไม่สามารถจับกลิ่นของเธอได้ นอกจากนั้นเธอก็ยังใช้เวลาสามชั่วโมงในการค้นหาสัตว์กลายพันธุ์ที่ตายแล้ว และซ่อนสมุนไพรพิษที่เธอพบในปาในร่างของสัตว์กลายพันธุ์ จากนั้นเธอก็แค่รอให้ซากสัตว์ตัวนั้นถูกกิน

แน่นอนว่าผู้เข้าสอบทั่วไปคงจะไม่สามารถคิดวิธีนี้ได้!

นอกจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นการรู้จักสมุนไพรที่มีประโยชน์ การมองหาสัตว์กลายพันธุ์ที่ตายตามธรรมชาติ หรือการรอให้สัตว์กลายพันธุ์ตกลงไปในกับดัก สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลาอย่างมาก และหากไม่มีความอดทนเพียงพอ มันก็จะทําสําเร็จไม่ได้

แน่นอนว่ามันก็มีองค์ประกอบในเรื่องของโชคเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย อย่างไรก็ตาม หากปราศจากความรู้ ความอดทนอย่างแรงกล้า และการเตรียมการล่วงหน้าแล้วล่ะก็ โชคก็จะไม่ตกอยู่กับเธอ

ความอดทนและการคํานวณของเธอนั้นน่าประทับใจ

แม่ของเขาพูดถูก ผู้หญิงยิ่งสวยก็ยิ่งอันตราย!