บทที่ 84: สิ้นสุดการสอบ
เมื่อมองแวบแรก วิธีการฆ่าของหลินซัวหานก็ดูเหมือนจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าคุณคิดให้รอบคอบมันก็น่าเกรงขามมาก
หากพูดกันตามตรงแล้ว ในบรรดาผู้เข้าสอบทั้งหมดที่นี่ มันก็น่าจะมีไม่ถึงห้าคนด้วยซ้ําที่คิดวิธีการนี้ได้
นี่เป็นการคํานวณที่เฉียบคมมาก และพูดได้เลยว่าหลินซัวหานนั้นคงจะเป็นคนเดียวเท่านั้นที่คิดเรื่องนี้ได้
แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็น่ากลัวมาก!
และก็น่าขนลุกเล็กน้อย!
หลินซัวหานตกตะลึงเมื่อสังเกตเห็นว่าการจ้องมองของหวังเต็งนั้นเปลี่ยนไปอย่างแปลกๆขณะที่เขามองไปที่เธอ วินาทีต่อมา เธอก็เข้าใจในสิ่งที่เขาคิด
ไอ้สารเลวนี่มันหัวเราะเยาะฉันอีกแล้ว!
ทั้งหมดที่ฉันต้องการก็คือการสอบผ่าน
นายไม่รู้หรอว่าน้ําต้นไม้มันมีกลิ่นแรงแค่ไหน? รู้บ้างไหมว่าตอนที่ฉันรอให้สัตว์กลายพันธุ์มาติดกับดักนั้นฉันถูกแมลงต่อยซ้ําแล้วซ้ําเล่า…
แค่คิดก็เศร้าแล้ว!
เธอจ้องไปที่หวังเต็งอย่างโกรธจัด
“ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คราวนี้เธอก็จะผ่านการสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้อย่างแน่นอน ฉันขอแสดงความยินดีกับเธอล่วงหน้าด้วยนะ” หวังเต็งไออย่างเชื่องช้าและพูด
ความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลินซัวหาน แต่เธอก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ “ ฉันยังหวังว่าจะได้รับการคัดเลือกจากมหาวิทยาลัยชั้นนํา อย่างไรก็ตาม ผลการประเมินการต่อสู้จริงของฉันมันก็คงจะไม่ดี ฉันหวังว่าคะแนนจากการสอบข้อเขียนจะช่วยฉันได้นะ”
มหาวิทยาลัยชั้นนําบางแห่งให้ความสําคัญกับผลการสอบข้อเขียนเป็นอย่างมาก พวกเขาจะยอมรับนักเรียนดีเด่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งแม้ว่าผลการประเมินการต่อสู้จริงของพวกเขาจะด้อยไปเล็กน้อย”
“ ไม่น่าจะเป็นปัญหาหรอก” หวังเต็งปลอบเธอ
“ เฮ้ หลังเกิดอุบัติเหตุแบบนี้แล้วพวกคุณคิดว่าทางการจะยังนับผลสอบในปีนี้ไหม?” หยางเจี้ยนถามขึ้นในทันที
หวังเต็งและหลินซัวหานตกตะลึงครู่หนึ่งเมื่อได้ยินเรื่องนี้
หวังเต็งมองขึ้นไปบนฟ้า ฟ้าใกล้จะรุ่งสางแล้ว ท้องฟ้ากลายเป็นสีขาวไปแล้ว และแดดแรกก็สามารถมองเห็นได้บนขอบฟ้า
“ เมื่อฝูงสัตว์กลายพันธุ์ปรากฏขึ้น มันก็น่าจะเหลือเวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงจนกว่าจะสิ้นสุดการทดสอบ ดังนั้นผลกระทบต่อผลงานของพวกเราจึงไม่ควรมากเกินไป และมันก็เป็นไปได้มากว่าพวกเขาจะไม่ยกเลิกผลนะ”
“ นายลืมไปรึเปล่าว่าจุดประสงค์ของการประเมินการต่อสู้จริงคืออะไร?” หวังเต็งถามด้วยน้ําเสียงที่มีนัยยะ
“ ในการต่อสู้จริง อุบัติเหตุใดๆก็ถือเป็นการประเมิน!” หลิฯซัวหานและหยางเจี้ยนกล่าวพร้อมกัน
“ ถูกต้อง” หวังเต็งพยักหน้า “ ฉันคิดว่าการแสดงของนักเรียนในช่วงที่ฝูงสัตว์กลาย พันธุ์นั้นก็น่าจะได้รับการพิจารณาด้วย ดังนั้นผู้เข้าสอบที่ไม่ได้ฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ครบ 5 ตัว แต่ทําผลงานได้ดีก็อาจจะมีโอกาส”
“ ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะดีมากเลย ฉันเพิ่งฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ไปเพียงสี่ตัวเท่านั้น และเมื่อตอนที่ฝูงสัตว์กลายพันธุ์ปรากฏขึ้น ฉันก็กําลังต่อสู้กับสัตว์กลายพันธุ์ตัวที่ห้าของฉัน และขณะที่ฉันกําลังจะฆ่ามัน มันก็วิ่งหนีไป อย่างไรก็ตาม ฉันก็ได้ช่วยชีวิตผู้เข้าสอบเอาไว้หลังจากนั้น และยังได้รับคําชมจากอาจารย์ใหญ่ของไบ่เหลียนอีกด้วย”
หยางเจี้ยนยังคงกังวล ท้ายที่สุดแล้วสิ่งเหล่านี้ก็เป็นเพียงการคาดเดาของพวกเขา มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้คุมสอบยังคงมองแค่นี้ตัวเลข?
นั่นก็จะเป็นโชคร้ายสําหรับพวกเขา!
หยางเจี้ยนและผู้เข้าสอบที่โชคร้ายคนอื่นๆไม่สามารถทําอะไรได้
หวังเต็งและหลินซัวหานยืนไว้อาลัยเงียบๆสักครู่เพื่อแสดงความสงสาร
“ โอ้ใช่ แล้วพวกเขาจัดการกับงสัตว์กลายพันธุ์ได้ยังไงกัน?” หวังเต็งถาม
“ พวกเขาจะทําอะไรได้อีกล่ะ? พวกเขาก็ใช้ปืนใหญ่ระดมยิงใส่สัตว์กลายพันธุ์จนพวกมันกลัวจนไม่กล้าลงมาอีกยังไงล่ะ” หลินซัวหานอธิบาย
“ บนเกาะมีสัตว์กลายพันธุ์อยู่จํานวนจํากัด ดังนั้นนี่จึงเป็นเพียงฝูงสัตว์กลายพันธุ์ขนาดเล็กเท่านั้น และเมื่อปืนใหญ่ถูกนําไปใช้จริง มันก็ทําให้พวกมันเริ่มที่จะล่าถอย!” หยางเจี้ยนยิ้มและพูดว่า
หวังเต็งพูดคุยอย่างสบายๆกับเพื่อนๆของเขา
ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ว่าราชการเจียงและผู้นําคนอื่นๆก็ได้ไปที่ห้องควบคุมกลางและจัด ประชุมเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็ม หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินออกไปกลางลานเต็นท์
ผู้ว่าราชการเจียงไขว้มือไว้ด้านหลังและมองไปยังผู้เข้าสอบที่หดหู่ด้านล่าง เขาเปิดปากและพูดว่า “ ทุกคน ฉันคือผู้ว่าราชการตงไห่”
ผู้ว่าราชการตงไห่!
ทุกคนเงยหน้าขึ้นเมื่อเสียงของเขา ในตอนแรกพวกเขาก็จ้องมองเขาอย่างไม่ใส่ใจ แต่แล้วก็ เกิดความโกลาหลขึ้น
“ โอ้ พระเจ้า นั่นคือผู้ว่าราชการตงไห่!”
“ ผู้ว่าราชการของเรามาเองเลยหรอ?”
“ เขามาดูการประเมินการต่อสู้จริงของเราหรอ?”
“ ท่านผู้ว่าฯ จะคํานวณผลอย่างไรดี? พวกเราหลายคนพลาดเกณฑ์ที่จะผ่านไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
“ ท่านผู้ว่าการ เพื่อนร่วมชั้นของเราหลายคนเสียชีวิตจากฝูงสัตว์กลายพันธุ์ นี่มันน่าเศร้าจริงๆ…”
ผู้เข้าสอบเริ่มตะโกนอย่างต่อเนื่องราวกับว่าพวกเขาได้พบกับเสาหลักแห่งการสนับสนุน ผู้ว่าราชการเจียงไม่ได้หยุดพวกเขาและปล่อยให้พวกเขาระบายอารมณ์ออกมา เขาพูดต่อหลังจากที่เสียงเงียบลง
“ มันเป็นความรับผิดชอบและความผิดของเราที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น เราจะชดเชยผู้เข้าสอบทั้งหมดที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่โชคร้ายนี้”
“ อย่างไรก็ตาม คุณต้องจําไว้สิ่งหนึ่ง เส้นทางของนักสู้นั้นยากและรุนแรงกว่านี้เป็นพันเท่า คุณอาจเคยเห็นแต่ด้านที่มีเสน่ห์และทรงพลังของนักสู้ แต่คุณไม่รู้หรอกว่าจํานวนเลือดและหยาดเหงื่อที่พวกเขาต้องจ่ายนั้นมันมากมายเท่าใด โลกแห่งนักสู้นั้นโหดร้ายและนองไปด้วยเลือด”
“ ผลงานของคุณในช่วงฝูงสัตว์กลายพันธุ์จะถูกคํานวณในผลลัพธ์ของคุณเช่นกัน ผู้ที่ทําได้ดีจะได้รับคะแนนเพิ่มเติม และผู้ที่ทําผลงานได้ไม่ดีก็สามารถพึ่งพาจํานวนสัตว์กลายพันธุ์ที่ถูกฆ่าไปก่อนหน้านี้ได้เท่านั้น”
“ เอาล่ะตอนนี้ฉันขอประกาศการสิ้นสุดการประเมินการต่อสู้จริงอย่างเป็นทางการ!”
ทันทีที่เขาพูดจบ ความโกลาหลก็ปะทุขึ้นท่ามกลางผู้เข้าสอบ
โลกของนักสู้ช่างโหดร้ายจริงหรอ?
ก่อนการสอบ พวกเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับความโหดร้ายและความปาเถื่อนของโลกของนักสู้ และหลังจากประสบกับฝูงสัตว์กลายพันธุ์ พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่พวกเขาได้ยินมานั้นมันยังไม่ถึงครึ่งของที่พวกเขาเจอ
และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของผู้เข้าสอบหลายคนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย บางคนตัดสินใจที่จะเข้าร่วมการสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้เพราะพวกเขาตื่นตากับชื่อเสียงและความเย้ายวนใจในอํานาจ พวกเขาหวังว่าจะมีโอกาสที่ดีในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาก็ได้เห็นด้านมืดของโลกแห่งศิลปะการต่อสู้แล้ว ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาจะต้องทําต่อไปก็คือการพิจารณาว่าพวกเขายังต้องการที่จะเดินไปบนเส้นทางนี้ต่อไปหรือไม่
ไม่มีอาหารกลางวันแจกฟรีในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้ หากคุณต้องออกสํารวจ คุณก็จะต้องแบกรับความรับผิดชอบและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
แน่นอน สําหรับผู้เข้าสอบที่แน่วแน่ในการเป็นนักสู้ คําพูดของผู้ว่าราชการเจียงก็ทําให้พวกเขามีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น
คนอย่างหยางเจี้ยนที่ใกล้จะได้รับการยอมรับต่างก็มีความสุขกับการประกาศนี้ อย่างน้อยพวกเขาก็จะสามารถเข้าเรียนหลักสูตรศิลปะการต่อสู้ได้
เมื่อมองดูหยางเจี้ยนที่มีความสุขแม้หลังจากได้รับบาดเจ็บ มันก็ง่ายที่จะบอกว่าเขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องความสูญเสียเลย
“ ผู้เข้าสอบทุกคน โปรดเตรียมตัวกลับ!”
เสียงมาจากเวที มันเป็นเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการสอบ ผู้ว่าราชการเจียงออกไปแล้ว
ผู้เข้าสอบทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเลือด บางส่วนก็เป็นของตัวเองในขณะที่บางส่วนก็เป็นของสัตว์กลายพันธุ์ พวกเขาต่อคิวและขึ้นเรือเหาะพลังฟอร์สที่จอดอยู่บนพื้นที่ว่างด้านข้าง
ผู้เข้าสอบสองสามคนอยู่ในอาการโคม่า ดังนั้นพวกเขาจึงถูกนิ้วขึ้นเครื่อง ขณะที่คนอื่นๆก็เดินขึ้นไปด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนของพวกเขา
“ แล้วพวก… ผู้เข้าสอบที่ตายไปแล้ว!”
จู่ๆผู้เข้าสอบก็ชี้ไปที่เปลที่คลุมด้วยเสื้อผ้าสีขาวตรงหน้าพวกเขา พวกเขาถูกพาไปที่ด้านหลังของเรือเหาะ ซึ่งปกติแล้วจะเป็นที่วางสัมภาระ
ผู้เข้าสอบลุกขึ้นยืนตัวตรงและสบตากับพวกเขาในทันที พวกเขามองไปที่ผ้าคลุมสีขาวที่เปื้อนเลือด บรรยากาศที่มืดมนและกดดันแผ่ซ่านไปรอบตัวพวกเขา
พวกเขาเป็นเพื่อนกัน แต่คนเหล่านี้ก็กลับต้องมาจบชีวิตลงซะแล้ว ความคิดแบบเดียวกันนี้ ปรากฏขึ้นในใจของผู้เข้าสอบ และมันก็ทําให้พวกเขารู้สึกซับซ้อน