บทที่ 16 เจ้าไปที่บ้านข้าทำไม

นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา

นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 16 เจ้าไปที่บ้านข้าทำไม?
“เจ้าทำร้ายข้าตอนที่อยู่บนเขานั่นแหละ”เฉินโหยวซวนจ้องมองดูโจวกุ้ยหลาน นังสารเลวคนนี้คิดจะไม่ยอมรับ?

ได้ยินแบบนี้ โจวกุ้ยหลานหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “บ้านของข้าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า เจ้าไปหาข้าบนเขาทำไม?”

ประโยคนี้ ทำให้ทุกคนต่างอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเฉินโหยวซวน

ใช่ ก่อนหน้านี้พวกเขามัวแต่โกรธโมโหเฉียนต้ายาที่อ้าปากด่าทอ ไม่ได้คิดว่าทำไมโจวกุ้ยหลานถึงทำร้ายเขา แล้วทำร้ายที่ไหน

เฉินโหยวซวนอ้ำๆอึ้งๆไม่กล้าพูด แอบเหลือบมองเฉียนต้ายา แล้วร้องโอดอวยขึ้นมาอีกครั้งว่า “ไอโย้ ท่านแม่ ข้าเจ็บมากเลย”

เฉียนต้ายาก็เป็นคนฉลาด เข้าใจทุกอย่างแล้ว เอามือทั้งคู่เท้าเอว แล้วก็ก่นด่าว่า “ลูกชายข้าเป็นแบบนี้แล้ว พวกเจ้ายังไม่รีบชดใช้เงิน”

โจวเหล่าไท่ไท่ไม่ใช่คนที่สามารถหลอกลวงได้ง่ายๆ เมื่อได้ยินลูกสาวของตนพูดเช่นนี้ ก็รู้แล้วว่าเรื่องราวเป็นมายังไง รีบยกมือขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “รีบร้อนทำไม ยังไงลูกชายของเจ้าก็หาภรรยาไม่ได้ ให้ลูกสาวของข้าได้พูดออกมาอย่างชัดเจน ไม่อย่างนั้น ตระกูลเฉินพวกเจ้ายังไม่รู้เลยว่ามาหาเรื่องเดือดร้อนตระกูลโจวของเราด้วยเหตุอันใด”

พวกตระกูลเฉินที่ตามมาด้วยต่างมองหน้ากัน รู้สึกขึ้นมาได้ทันทีว่าเรื่องราวไม่ธรรมดา หนึ่งในคนแก่คนหนึ่งออกมาพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “งั้นพวกเจ้าพูดมาว่าเกิดอะไรขึ้น”

ที่เหลืออีกหลายคนก็ร้องพูดขึ้นมา

โจวเหล่าไท่ไท่ดึงโจวกุ้ยหลานออกมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ลูกท่านแม่ เจ้าเล่าเรื่องทั้งหมดออกมา มีท่านแม่อยู่ที่นี่ ไม่มีใครกล้ารังแกเจ้า”

ชอบเวลาที่ท่านแม่ถือหาง เข้าข้างแบบนี้ที่สุด

โจวกุ้ยหลานยิ้มแย้ม เมื่อหุบยิ้มแล้วค่อยหันไปมองเฉินโหยวซวน พร้อมพูดขึ้นว่า “เมื่อวานเฉินโหยวซวนฉวยโอกาสตอนที่สามีของข้าออกไปล่าสัตว์ แล้ววิ่งมาขโมยของในบ้านของข้า ถูกข้าจับได้พอดี ข้าคว้าได้หมอนไม้จึงทุบทำร้ายเขา”

“เจ้าพูดไปเรื่อย ข้าไปขโมยของตรงไหน?”เฉินโหยวซวนโกรธจนแทบลุกขึ้นมา แต่ท่อนล่างของร่างกายเจ็บปวดจนเขาทนไม่ไหว นอนลงกลับไปอีก

“ไม่ได้ไปขโมยของที่บ้านข้า แล้วเจ้าไปทำอะไรที่บ้านของข้า? ยังฉวยโอกาสไปตอนที่บ้านข้าไม่มีใคร?”โจวกุ้ยหลานถามขึ้น

ยุคสมัยนี้ไม่เป็นการดีสำหรับผู้หญิง หากนางเล่าความจริง จะทำให้เฉินโหยวซวนเสื่อมเสียชื่อเสียง ชื่อเสียงของนางเองก็ไม่ดี เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ นางจึงเปลี่ยนเป้าหมาย ยังไงผลก็ออกมาเหมือนกัน ลดปัญหาได้เยอะด้วย

เมื่อนางถามเช่นนี้ เฉินโหยวซวนก็พูดไม่ออก

หากเขาพูดว่า เขาไปบ้านพวกเขาเพื่อหวังที่จะข่มขืนโจวกุ้ยหลาน งั้นคนตระกูลโจวต้องฉีกร่างเขาแน่ ยังมีสวีฉางหลิน…..

คิดถึงสวีฉางหลิน เขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทาขึ้นมา

เฉียนต้ายาเห็นสายตาทุกคนที่มองลูกชายตนเองเปลี่ยนไป ก็รีบลุกขึ้นมา พูดขึ้นอย่างโกรธโมโหว่า “เจ้านังสารเลวพูดจาเหลวไหล นายพรานคนหนึ่งที่นาอะไรก็ไม่มี ยากจนขนาดนั้น ลูกชายของข้าจะไปขโมยที่บ้านเขาหรือ?”

ยุคสมัยนี้ ทุกคนต่างทำไร่ทำสวน บ้านใครมีที่เยอะบ้านนั้นมีเงินเยอะ สวีฉางหลินเป็นนายพรานที่ไม่มีที่สวน จึงโดนคนดูถูก

คราวนี้ไม่รอให้โจวกุ้ยหลานพูดออกมา โจวเหล่าไท่ไท่ก็พูดตอบโต้เฉียนต้ายาว่า “ครอบครัวคนที่มีที่ดินใช่ไหม ที่พวกเจ้าสนใจ?”

ประโยคนี้ เฉียนต้ายาตอบไม่ได้เลยทีเดียว

โจวเหล่าไท่ไท่พูดต่อไปอีกว่า “ไม่มีที่ดินก็จะไม่มีเนื้อไม่มีเงินหรือ? ลูกชายของเจ้าไม่ได้ไปเพื่อขโมยเนื้อหรือ? ไม่งั้นจะไปบนเขานั่นเพื่ออะไร? ไปหาลูกสาวข้าหรือ?”

เมื่อกี้นางต้องคับข้องใจอย่างมาก คราวนี้รู้ว่าลูกสาวของนางมีเหตุผล นางยังสามารถแพ้นางก็จะไม่เรียกชื่อว่าสวีเหมยฮวา

“เจ้านังสารเลวกล้าใส่ร้ายลูกชายข้า ข้าจะฆ่าเจ้า”

เฉียนต้ายากะพริบตา พุ่งพรวดไปหาโจวกุ้ยหลาน แล้วก็จะทำร้ายนาง

เวลานี้หากไม่เดือดร้อนขึ้นมา ลูกชายของนางก็จะกลายเป็นหัวขโมยแล้ว

คนตระกูลเฉินที่ตามมาด้วยต่างมองหน้ากัน พวกเขาเป็นครอบครัวตระกูลเดียวกัน ยังไงก็ต้องไม่เข้าข้างคนอื่น วันนี้เป็นการมาเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเฉินโหยวซวน ใครจะไปคิด เขากลับไปขโมยของถึงถูกตี นี่ยังจะมีความยุติธรรมอะไรให้เรียกร้อง

พวกญาติพี่น้องตระกูลโจว พวกผู้ชายไปกับสวีฉางหลินเมื่อกี้แล้ว ตอนนี้เหลือเพียงผู้อาวุโสบางคน เห็นคนตระกูลเฉินไม่ขยับ พวกเขาก็ไม่กล้าลงมือ

สวีเหมยฮวาเป็นคนยังไง จะยอมเสียเปรียบหรือ?