‘5,000 เหรียญดวงดาวถ้าฉันเอาชนะกบบาร็อคได้ในห้านาทีงั้นหรอ?’

ข้อเสนอลึกลับที่ถูกยืนให้โดยกลุ่มดาวแบบนี้นั้นไม่เกิดขึ้นมาก่อน

อารัชคิดเกี่ยวกับมันเพียงชั่วครู่และยิ้มออกมาในทันที

ไม่มีปัญหา

อย่างแรก ภายเวลา 10 นาทีมันเป็นไปได้อยู่แล้ว

ถึงแม้ว่ามันจะเสี่ยงกว่านิดหน่อยด้วยเงื่อนไข 5 นาทีมันก็ยังเป็นไปได้อย่างแน่นอน

เขาอาจจะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยถ้าจะทำแบบนั้นแต่มันไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีอยู่แล้วเมื่อเป็นเรื่องของเหรียญดวงดาว

นอกจากนี้ไม่ใช่ว่าการทำแบบนี้มันอาจจะทำให้เหล่ากลุ่มดาวอื่นๆรู้สึกว่ามันน่าสนใจและสนับสนุนเขาเพิ่มในตอนที่เขาเคลียร์ภารกิจที่ยากกว่านี้ได้งั้นหรอ?

‘ฉันคงต้องโกงเล็กน้อย’

ในโลกใบนี้ หรือเกมส์ๆนี้นั้นเต็มไปด้วยบัคและก็อีสเตอร์เอ้กมากมาย

ในตอนที่เขาได้พัฒนาเกมส์นี้ขึ้นมาเขาไม่สามารถที่จะซ่อมแซมจุดเหล่านี้ทั้งหมดได้เพราะว่าเขาไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำมัน

อย่างไรก็ตามในตอนนี้สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดได้กลายมาเป็นแรงขับเคลื่อนเบื้องหลังการเติบโตของเขา

‘ถ้าฉันสู้กับมันแบบธรรมดามันจะใช้เวลาอย่างน้อย 9 นาทีอย่างถ้าหากว่าฉันใช้รูปแบบกางเขนหละก็ฉันจะสามารถเอาชนะมันได้ภายใน 4 นาที’

‘แท่นสีเหลืองที่อยู่ตรงกลางนั้นถ้าฉันก้าวไปเหรียญบนนั้นเป็นเวลา 2 วินาทีแบบตรงเป๊ะๆหละก็เสาไฟจะถูกยิงออกมาไขว้กันจากทั้งสี่ด้านของกำแพง’

ขูดดาบของเขาอย่างช้าๆอารัชได้จุดประกายไฟขึ้นมา

[ชาวประชงที่ไล่ตามดวงดาว : การใช้ไฟสู้กับศัตรูธาตุไฟอย่างงั้นหรอ?]

[เสียงแคร๊กที่น่ารำคาญ : นี่เขาคิดอะไรอยู่เนี่ย?]

[พืชมีพิษในเรือนกระจก : อ้า]

ช่องแชทท่วมท้นไปด้วยคำถามเหล่านี้อย่างรวดเร็ว

ถึงอย่างนั้น อารัชยังคงเป็นคนที่รู้ดีที่สุดเกี่ยวกับเจ้ากบตัวนี้

กบบาร็อคนั้นมีความต้านทานต่อการโจมตีแบบปกติแต่แพ้ไฟ

นี้คือเหตุผลว่าทำไมเสาไฟรูปแบบไม้กางเขนนี้ถึงสามารถทำความเสียหายให้กับมันได้

“ฮึบ!”

เขาโน้มตัวไปด้านหน้าและวิ่งตรงเข้าไปหากบบาร็อค อารัชได้เหวี่ยงดาบยาวที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยไฟของเขาไปด้านหน้า

ไฟต้านไฟ

มันดูเหมือนว่าจะเป็นการปะทะที่มีแต่เสียแต่ว่าในจังหวะที่การโจมทั้งสองปะทะกัน

วูฟ!

ร่างกายของกบบาร็อคปกคลุมไปด้วยเปลวไฟพวกนี้ในทันที

[จุดสุดยอดของภูเขาน้ำแข็ง : มอนสเตอร์ธาตุไฟถูกไฟเผาได้ด้วยอย่างนั้นหรอ?]

[พิษมีพิษในเรือนกระจก : นี้มันไม่ใช่เรื่องปกติที่มอนสเตอร์ธาตุไฟจะเผา ฉันรู้แล้ว! อารัชคงจะต้องทำอะไรกับมันสักอย่างแน่]

[หอยทากที่หายไป : ฉันแค่ต้องการให้เขาถูกเผาจนตาย น่าเสียดายชะมัดเลย]

[มองไปที่มดผ่านแว่นขยาย : สติปัญญาของเขาล้ำเลิศมาก!]

ไม่ใช่แค่เพียงอารัชจะสามารถสะกดข่มกบบาร็อคได้เท่านั้นแต่เขายังเอาชนะใจกลุ่มดาวเหล่านี้ได้ด้วย

ถึงแม้ว่าอารัชจะอ่อนแอกว่ากบบาร็อคตัวนี้ก็ตามกบตัวนี้ก็มีรูปแบบของมันเองซึ่งถูกเขามองทะลุหมดแล้ว

เมื่อมันได้ทำการโจมตีไปเมื่อกี้นี้แล้วมันจะเหวี่ยงหางของมันเป็นวงกว้างรัศมี 5 เมตรและมันจะกระโดดขึ้นลงสามครั้งก่อนที่จะกระโจนเข้ามา

ร่วมไปถึงรูปแบบอื่นๆทั้งหมด

อารัชรู้พวกมันทั้งหมดเลย

วูฟ!

ในไม่ช้ากำแพงที่ล้อมลอบกบบาร็อคเอาไว้ทั้งสี่ด้านก็สว่างขึ้น

‘ได้เวลาแล้ว’

ในตอนนี้เองที่พลังชีวิตของกบบาร็อคได้ลดหวบลงไปถึง 30% ทันที เวลาสามนาทีก็ได้ผ่านไป

แม้ว่าการโจมตีนี้จะมีประสิทธิภาพเต็มที่รวมกับการอ่านรูปแบบของมันทั้งหมดออก เวลาก็ยังคงเข้าใกล้ 5 นาทีเข้าไปทุกที

หรือว่าอารัชจะล้มเหลวเป็นครั้งแรกกัน?

เหล่ากลุ่มดาวเริ้มที่จะถล่มช่องแชทกันอีกครั้งด้วยความรู้สึกตื่นเต้นไปกับความคิดเช่นนั้นแต่พวกเขาคงจะต้องผิดหวัง

ฮึบ!

อารัชก้าวไปบนแทนสี่เหลืองที่อยู่ตรงใจกลางของบริเวณนี้ และนับเวลา 2 วินาทีอย่างแม่นยำจากนั้นค่อยกระโดดไปทางด้านหลัง

ตึง!

กบบาร็อคที่พยายามกระโจนตรงเข้ามาเพื่อที่จะจับอารัชในตอนนี้ได้ตรงตำแหน่งศูนย์กลางของรูปแบบนี้พอดี

วูฟ…!!

เสาไฟทั้งสี่ได้ถูกยิงออกมาจากกำแพงทุกด้านมาบรรจบกันตรงกลาง

แล้วเสียงกรีดร้องที่ทรงพลังมากพอที่จะทำลายแก้วหูของใครก็ตามในบริเวณนี้ได้ดังไปทั่วทั้งพื้นที่ ขัดขวางอารัชที่กำลังทำคอมโบอยู่

แต่แม้จะโดนแบบนั้นเขาก็ยังสบายดีอยู่เพราะเขามีร่างกายที่แข็งแกร่ง

‘ตอนนี้แหละ!’

มันไม่มี ‘ระบบติดตาม’ บนเสาไฟพวกนี้ดังนั้นเขาจะต้องหยุดกบบาร็อคนี้จากการหลบหนีด้วยตัวเขาเอง

เขาพุ่งตรงไปทางบาร็อคอย่างรวดเร็วและโจมตีเข้าไปอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มันไม่มีโอกาสที่จะหลบหนีออกไปจากจุดนั้นได้

ในท้ายที่สุด เจ้ากบบาร็อคตัวนี้ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้อีกและสูญเสีย HP ไปอย่างรวดเร็ว

แล้วเวลาก็ได้ผ่านไปอีกอีก 1 นาที 30 วินาที

หรือรวมทั้งหมดแล้วก็เป็น 4 นาที กับอีก 40 วินาที

{ด่านที่ 9 – บอสหลักของซากปรักหักพังโบราณของมาร์ติได้ตายลง}

{โซโล่เคลียร์! ได้รับรางวัลเพิ่มเติมเนื่องจากความสำเร็จอันน่าอัศจรรย์นี้}

{ได้รับเหรียญดวงดาว}

{เคลียร์ด้วยเวลาที่สั้นที่สุด! ได้รับรางวัลเพิ่ม…}

ข้อความจากระบบจำนวนมากได้ปรากฏขึ้น

[รูปปั่นเรือเฟอร์รี่สีขาว : สุดจริง!]

[ชายผู้ลุกขึ้นยืนด้วยเท้าของเขา : ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะสามารถวางกับดักแบบนี้ได้นี้มันสุดๆไปเลย]

[ชายผู้เดินบนขอบเหว : เขาตัดสินใจเรื่องทั้งหมดนี้ได้ภายในไม่กี่นาทีเองงั้นหรอ? ไม่มีทางหรอกน่า]

ข้อความที่แสดงออกถึงความตื่นเต้นจำนวนมากมายของเหล่ากลุ่มดาวพวกนี้นั้นมาพร้อมกับการสนับสนุนเหรียญดวงดาวจำนวนมาก

[เค้กข้าวและซุปเกี๊ยวในวันปีใหม่มอบ 5,000 เหรียญดวงดาวเป็นการสนับสนุน]

[เค้กข้าวและซุปเกี๊ยวในวันปีใหม่ : ฉันไม่คิดว่านายจะทำมันได้สำเร็จนะเนี่ยแต่นี้มันก็สุดยอดมากเลย ไว้มาทำให้สนุกอีกทีในครั้งหน้าแล้วกันนะ]

มองไปที่กระแสตอบรับในครั้งนี้ อารัชรู้สึกได้เลยว่า

‘…ไม่ใช่ว่านี้มันเป็นเรื่องที่ดีเลยงั้นหรอ?’

ก่อนหน้านี้เขามีแค่ความคิดเพียงแค่ว่าต้องเดินตรงไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว

แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้เข้าได้รู้แล้วว่าถ้าเพียงแค่เขายอมเหนื่อยมากขึ้นอีกหน่อยรวมกับ ‘ความลับ’ เหล่านั้นมันก็เป็นไปได้ที่จะกระตุ้นให้เกิดกระแสตอบรับเชิงบวกจากกลุ่มดาวเหล่านั้นให้มากขึ้นได้

วิกฤต

การท้าทายที่ไม่น่าจะเป็นไปได้

และความมั่นใจในตัวเองของเขาว่าจะทำเรื่องพวกนี้สำเร็จ

หัวใจของอารัชกำลังเต้นกระหน่ำราวกับว่ามีคนมารั่วกลองอยู่ภายในนั้น

เขาไม่รู้ว่ามันจะตื่นเต้นมากขนาดนี้ในตอนที่ได้เป็นจุดสนใจของเหล่ากลุ่มดาวทั้งหมดนี้

‘นี้เป็นโอกาส’

อารัชที่ได้ผายมือออกแล้วพูดขึ้น

“กลุ่มดาวเค้กข้าวและซุปเกี๊ยวในวันปีใหม่ใช่ไหมครับ! ผมขอบคุณเป็นอย่างมากสำหรับภารกิจนี้นะครับ! มันยากนิดหน่อยแต่ผมก็สนุกกับมันเช่นกันครับ ไว้มาทำภารกิจแบบนี้อีกครั้งในคราวหน้านะครับ”

ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการขอภารกิจมากขึ้นแบบอ้อมๆ

เมื่อกลุ่มดาวทั้งหลายได้ยินคำพูดแบบนั้น ภารกิจต่างๆได้เริ่มที่จะไหล่บ่ามาจากกลุ่มดาวเหล่านี้ในทันที

ทำให้มุมปากของอารัชได้ยกขึ้นอย่างช้าๆ

……………………………………………………..

หลังจากที่ทำภารกิจการกลุ่มดาวทั้งหลายอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาสองเดือน อารัชได้มาถึงด่านที่ 10 แล้ว

ด่านที่ 10 นั้นมีขนาดที่ใหญ่กว่าโลกอื่นๆโดยเฉลี่ยประมาณสามเท่า

มีจำนวนดันเจี้ยนมากกว่าและทั้งหมดนี้ก็ถูกครอบครองไว้โดยอารัชแต่เพียงผู้เดียว

ทำให้จำนวนของเหล่ากลุ่มดาวที่กำลังดูอยู่นั้นเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

[นกพันตัวที่ข้ามผ่านฟากฟ้ามอบ 500 เหรียญดวงดาวเป็นการสนับสนุน]

[นกพันตัวที่ข้ามผ่านฟากฟ้ามอบ : ฉันจะให้อีก 3,000 เหรียญดวงดาวถ้านายตบไปที่หน้าของบาสตนนั้นได้ห้าครั้ง]

[ตำแหน่งที่สมบูรณ์มอบ 2,000 เหรียญดวงดาวเป็นการสนับสนุน]

[ตำแหน่งที่สมบูรณ์ : ฉันจะเพิ่มให้อีก 5,000 เหรียญเลยถ้านายใช้เพียงแค่เคลื่อนไหวในแนวเส้นทแยงมุมเท่านั้นในตอนที่สู้กับบอส]

[นาฬิกาทรายใต้น้ำมอบ 3,000 เหรียญดวงดาวเป็นการสนับสนุน]

[นาฬิกาทรายใต้น้ำ : ฉันจะเพิ่มให้อีก 7,000 เหรียญดวงดาวหากว่านายสามารถล้มบอสนั้นได้โดยที่ไม่ใส่อะไรเลยสักชิ้น]

ภารกิจมากมายหลากหลายประเภทและหลากหลายความยากเริ่มที่จะเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณเช่นกัน

บางครั้งภารกิจพวกนี้ก็เป็นสิ่งที่อันตรายมากสำหรับอารัชเหมือนกันแต่เขาได้แต่รับมันมาอย่างไม่มีทางเลือก

นี้เป็นเพราะว่า ‘ประเพณี’ นี้ได้ถูกสร้างขึ้นแล้วหลังจากที่ภารกิจแรกได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยกลุ่มดาวในตอนนั้นเพราะงั้นกลุ่มดาวอื่นเลยตามรอยกลุ่มดาวแรกมาโดยการจ่ายค่ามัดจำก่อนแล้วค่อยให้ภารกิจตามมา

‘บ้าเอ้ย…ภารกิจนี้มันก็เกินไปหน่อยนะ’

‘ถ้าฉันมีเพื่อนร่วมทีมสักคนหละก็…’

อารัชส่ายหัวอย่างรวดเร็วให้กับความคิดนั้น

เขาไม่ได้ตั้งใจจะแบ่งปันความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของเขาให้กับใครก็ตาม

มีเพียงแค่การครอบครองข้อมูลทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะทำให้เขาสามารถเพิ่มโอกาสของตนให้สมความปรารถนาได้

แรกเริ่มเดิมทีแล้ว ถ้าหากว่าอารัชเป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัวเขาคงจะแบ่งปันข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับโลกของอารัชให้กับผู้ท้าชิงคนอื่นอีกหลายแสนคนเพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของคนเหล่านั้น

แต่อย่างไรก็ตามเขาความปรารถนาของเขาคือการที่ให้วันหนึ่งเขาได้เคลียร์ด่านพวกนี้ทั้งหมดและกลายมาเป็นกลุ่มดาว

เขาไม่มีเวลาที่จะมาสนใจคนอื่นและเพียงแค่ต้องการที่จะทำให้ความปรารถนานี้สำเร็จอย่างรวดเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้

‘มันก็ยังดีนะที่ฉันสามารถที่จะข้ามภารกิจบางอันได้’

มีภารกิจบางอันที่ไร้สาระโดยสิ้นเชิงอย่างเช่น ‘ฆ่าตัวตายซะ’ หรือไม่ก็ ‘กระโดดลงไปในลาวาด้วยร่างเปลือยของนาย’

เมื่อไหรก็ตามที่ฉันได้รับภารกิจแบบนี้ กลุ่มดาวอื่นๆจะส่งคำร้องไปเพื่อให้ยกเลิกพวกมันเพราะว่าภารกิจแบบนี้มันไม่สนุกสำหรับพวกเขา

แต่ถึงอย่างนั้นถ้าหากว่าเป็นภารกิจที่ให้ล่าบอสหรือดันเจี้ยนเขาก็จำเป็นที่จะต้องทำมันอย่างไม่มีเงื่อนไขเพราะว่าเขาได้รับการชำระเงินมาล่วงหน้าแล้ว

ยังดีที่ทุกครั้งที่ผ่านมามันราบรื่นดี

เขาได้เคลียร์ดันเจี้ยนทุกดันเจี้ยนทำให้เลเวลของเขาได้ยกระดับไปค่อนข้างสูงต้องขอบคุณเหรียญดวงดาวจำนวนมากที่เขาได้รับมา

ทำให้เขาสามารถที่จะเคลียร์ด่านที่ 10 ไปจนถึงด่านที่ 12 ได้อย่างง่ายๆเลยในตอนนี้

แต่เขากำลังรอคอยให้เค้กข้าวและซุปเกี๊ยวในวันปีใหม่ส่งภารกิจมาให้เขาอีกภารกิจหนี่งก่อนที่เขาจะเคลียร์ส่วนสุดท้ายของด่านที่ 10

เพราะว่ากลุ่มดาวนี้เป็นกลุ่มดาวที่เสนอแนวคิดเรื่องการมอบภารกิจทีดูคล้ายกับนิยายขึ้นมาซึ่งมันได้กลายมาเป็นที่นิยมท่ามกลางกลุ่มดาวทั้งหลายเหล่านี้

ดังนั้นทำไมเขาถึงจะไม่ชะลอการเคลียร์ส่วนสุดท้ายของด่านนี้ออกไปถ้าหากว่าเขาสามารถที่จะได้รับเหรียญดวงดาวจำนวนมากจากกลุ่มดาวนี้หละ?

ถึงแม้ว่ากลุ่มดาวนี้จะไม่เคยจ่ายเงินล่วงหน้าอารัชก็ไม่มีความตั้งในที่จะปฏิเสธภารกิจใดๆที่จะได้รับเลย

[เค้กข้าวและซุปเกี๊ยวในวันปีใหม่มอบ 3,000 เหรียญดวงดาวเป็นการสนับสนุน]

กลุ่มดาวนี้จะปรากฏขึ้นวันเว้นวันหรือไม่ก็ในทุกๆสามวัน

อารัชที่มีสีหน้าพอใจที่ประดับไว้ด้วยรอยยิ้มกว้างพูดขึ้น

“คุณมาแล้ว! คุณกำลังจะให้ภารกิจอีกอันกับผมใช่ไหมในครั้งนี้?”

[เค้กข้าวและซุปเกี๊ยวในวันปีใหม่ : ไม่นะฉันแค่ต้องการจะสนับสนุน]

“แค่นั้นนะเหรอ?”

[เค้กข้าวและซุปเกี๊ยวในวันปีใหม่ : ใช่แล้ว ตอนนี้ฉันเบื่อด่านที่ 10 แล้วนะ ไปด่านต่อไปเถอะฉันอยากรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร]

“…!”

มองไปที่ข้อความที่เขาหวังว่าจะได้เห็น อารัชได้ยิ้มออกมา

เขาได้อยู่ที่ด่านที่ 10 มาเป็นเวลาสองเดือนแล้ว

มันก็ดีที่ได้รับเหรียญดวงดาวมากขนาดนี้จนถึงจุดที่ว่าทำให้เขาเหนือกว่าผู้ท้าชิงคนอื่นอย่างชัดเจนแต่สุดท้ายแล้วเป้าหมายของเขาก็ยังเป็นด่านสุดท้ายอยู่ดี

มันถึงเวลาสำหรับการเดินหน้าต่อแล้ว

กลุ่มดาวอื่นส่วนมากก็เห็นด้วยเหมือนกันว่าด่านที่ 10 มันเริ่มจะน่าเบื่อแล้ว

“ได้เลยกลุ่มดาวทุกท่านผมจะมุ่งตรงไปที่ส่วนสุดท้ายของด่านที่ 10 เดวนี้เลยครับ!”

กระบวนการเตรียมการนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว

เขารู้รายละเอียดทุกอย่างของด่านที่ 10 และด้วยระดับของเขาที่ค่อนข้างจะสูงแล้วดังนั้นมันไม่จึงนับเป็นอันตรายอะไร

ตามจริงเขาว่าส่วนสุดนี้คงจะน่าเบื่อแย่เพราะมันง่ายเกินไป

‘มันคงจะดีถ้าฉันได้รับอีกสักภารกิจที่ส่วนสุดท้าย’

ด้วยความคิดที่เบิกบานใจเช่นนี้เองอารัชได้มาถึงที่ส่วนสุดท้ายของด่านที่ 10

{ปิ๊บ ปิ๊บ! ผู้ท้าชิงรายอื่นกำลังทำการท้าทายส่วนสุดท้ายอยู่}

{โปรดกลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้!}

แล้ว

{ส่วนสุดท้ายของด่านที่ 10 ได้รับการเคลียร์ครั้งแรกแล้ว}

{ผู้ท้าชิง : ซาจุน,แจซูล,กรูลาร์ และเมย์วา}

{ด่านที่ 11 ได้เปิดออก}

ตรงเบื้องหน้าของอารัชเป็นสี่ร่างดูที่คุ้นหูคุ้นตา ซึ่งสามารถที่จะผ่านส่วนสุดท้ายได้ก่อนตน

คนพวกนั้นหายใจด้วยความหนักหน่วงตามร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลในขณะที่กำลังหลั่งน้ำตาและกอดอีกคนด้านข้าง

มองไปที่พวกเขาเหล่านี้อารัชมีหลายคำถามขึ้นมาในใจ

‘เมื่อไหร?’

‘จบอย่างนั้นแล้วหรอ?’

‘เร็วไปไหม?’

‘พวกเขาเลเวลอะไร?’

คำถามมากมายผุดขึ้นมาภายในหัวของเขาแต่ความเป็นจริงนี้ก็ได้อยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว

‘ผู้ท้าชิงสี่คนนี้เคลียร์ด่านที่ 10 สำเร็จก่อนฉัน’

เขารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

แต่อย่างไรก็ตามในเมื่อเขาได้ใช้เวลาอยู่ที่นี่มาสองเดือนแล้ว

มันก็เป็นเวลาที่มากพอที่จะให้ผู้ท้าชิงคนอื่นมาถึงที่นี้ได้

ด้วยความตกตะลึงและพยายามที่จะเข้าใจสถานการณ์ ข้อความได้ปรากฏขึ้นมาในช่องโดยไม่ได้ให้โอกาสใดๆกับเขาเลย

[เค้กข้าวและซุปเกี๊ยวในวันปีใหม่ : หา…งั้นคนพวกโน้นก็มาถึงก่อนแล้วอย่างนั้นหรอ?]

[เค้กข้าวและซุปเกี๊ยวในวันปีใหม่ : อะ? แล้วพวกเขาก็จะต้องไปที่ด่าน 11 ถูกไหม? ฉันจะตามพวกเขาไปและให้ภารกิจกับพวกเขาแทนละกัน]

ตัวของอารัชถือได้ว่าเป็นที่สุดในทุกๆด่านอย่างแน่นอน

เลเวลของเขา,การได้รับพร,สกิล,ความสามารถ และอื่นๆ…ทั้งหมดอยู่สูงที่สุดด้วยสิ่งที่เขามีและได้รับมา

แต่ถึงอย่างนั้น…

ถ้าหากว่าเขาเริ่มที่จะตกลงไปด้านหลังในการผ่านด่าน ทั้งหมดนั้นจะนำไปใช้อะไรได้ในท้ายที่สุดหละ?

‘ไม่สิ ไม่…!’

มองไปที่ข้อความของเค้กข้าวและซุปเกี๊ยวในวันปีใหม่เหล่ากลุ่มดาวอื่นๆก็เริ่มที่จะคล้อยตาม

กลุ่มดาวเหล่านี้เป็นพวกที่แสวงหาความสุขอยู่แล้วเพราะงั้นพวกเขาคงจะกำลังสงสัยว่าอะไรที่กำลังเกิดขึ้นในด่าน 11 ในตอนนี้

และพวกเขาก็คงจะอยากรู้ว่าภารกิจอะไรที่เค้กข้าวและซุปเกี๊ยวในวันปีใหม่จะมอบให้คนพวกนั้น

‘เมื่อด่านได้ถูกเคลียร์ไปแล้วครั้งหนึ่งผู้ท้าชิงคนอื่นจะต้องคอยไปอีกหนึ่งวัน’

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเหล่ากลุ่มดาวทั้งหลายที่กำลังดูอยู่ในช่องของเขาในตอนนี้จะถูกฉกไปโดยกลุ่มผู้ท้าชิงทั้งสี่คนนั้น

เขาไม่สามารถจะปล่อยให้มันเกิดขึ้นได้

‘นี้อาจจะเป็นเรื่องที่อันตรายเล็กน้อยแต่…’

อารัชเงยหน้าขึ้นและเบิกตากว้าง

ยังไม่มีกลุ่มไหนที่ออกจากช่องของเขาไป

ในตอนนี้มันเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะรักษากลุ่มดาวทั้งหมดไว้

“กลุ่มดาวทุกท่าน โปรดคอยสักครู่ พวกคุณต้องการที่จะได้เห็นการไลฟ์สดที่น่าสนใจที่สุดกันไหมหละครับ?”

เหล่ากลุ่มดาวทั้งหมดนั้นตอบตกลง

อารัชยิ้มกว้างออกมาและพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

“ในตอนนนี้ผมของนำเสนอ ‘ระบบลิฟต์’ ให้กลุ่มดาวทุกท่านได้รับชมกันครับ”

[เมโลดี้สีแดงแห่งโชคชะตา : อะไรนะ? ลิฟต์งั้นหรอ? นี้เขาเอาหัวไปโม่งเต้าหู้มารึป่าวเนี่ย?]

[ก่ออิฐเป็นบันได : หืมมม…! มีอะไรใหม่อีกแล้วงั้นหรอ?]

[โทรหาฉันสามครั้งก่อนฉันจะรับสาย : ก็ฟังดูน่าสนใจอยู่นะ! ฉันไม่เคยเห็นผู้ท้าชิงคนที่อื่นที่ใช้ระบบลิฟต์มาก่อนเลย!]

ปฏิกิริยาของเหล่ากลุ่มดาวได้กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง

ใช่แล้วหละ

ระบบลิฟต์

ระบบที่สามารถทำให้ผ่านไปได้สองด่านในการท้าทายเพียงครั้งเดียวมันเป็นเรื่องที่ได้รับการพิจารณาว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำสำเร็จเพราะว่าระดับความยากของมันเข้าขั้น ‘น่าสยดสยอง’ เลยหละ

สำหรับตัวอย่างก็ถ้าหากกว่าคุณใช้งานระบบลิฟต์ในที่ด่าน 10 ความยากที่ได้รับจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเนื่องจากมันเป็นการรวมตัวกันของด่านที่ 10 และด่านที่ 11

และแทนที่มันจะได้รับรางวัลพิเศษจากความยากระดับนี้ สิ่งที่คุณจะได้รับมากลับมีเพียงการที่คุณสามารถไปได้เร็วกว่าคนอื่น

เพราะอย่างนั้นใครมันจะไปใช้วิธีการแบบนี้กันหละ?

ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ

มันเป็นไปได้สำหรับอารัชในตอนนี้

เนื่องจากการที่เขาอยู่ในด่านที่ 10 มาเป็นเวลานานแล้วทำให้เขาได้ยกเลเวลและอุปกรณ์ได้สูงมากพอที่จะสามารถท้าทายที่ด่าน 12 และ ด่าน 13 แล้วในตอนนี้

{กำลังเปิดการใช้งานระบบลิฟต์}

{คุณต้องการที่จะข้ามสองด่านในครั้งเดียวใช่หรือไม่?}

“ใช่!”

{ระบบลิฟต์เปิดการใช้งาน}

{มุ่งหน้าสู่ส่วนสุดท้ายของด่าน}

ความรู้สึกเหมือนกับการที่ทิวทัศรอบข้างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว อารัชได้แสดงสีหน้าที่ขึงขังพร้อมจับไปที่ดาบยาวของเขาแน่น

การต่อสู้ที่แท้จริงจะเริ่มนับตั้งแต่บัดนี้

……………………………………………………..

{ประสบความสำเร็จในการเคลียร์ด่านที่ 10 และด่านที่ 11 ด้วยการใช้ระบบลิฟต์}

การใช้งานระบบลิฟต์นั้นเป็นเรื่องง่ายและสามารถที่จะสนุกไปกับมันได้มากกว่าที่อารัชได้คิดไว้

ในสายตาของคนอื่นมันดูเหมือนกับว่าเขาได้ใช้สติปัญญาอันชาญฉลาดและไหวพริบของตัวเขาเอง

เขาได้แสดงให้เห็นถึงการรวมกันของการใช้สกิลและไอเทมหลากหลายประเภทรวมไปถึงไอเดียที่แปลกใหม่ของการใช้งานระบบลิฟต์ที่ไม่มีเคยมีใครใช้งานมาก่อน

แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับบอสสองตัวในครั้งเดียวและการที่จะต้องล้มพวกมันลงอาจจะดูเหมือนกับว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้แต่อารัชก็ไม่เคยคิดที่จะถอยหลังกลับ

เขาไม่มีความวิตกกังวลเลยแม้ว่าจะได้เห็นอุกกาบาตมากมายตกลงมาจากท้องฟ้าก็ตาม

มันเป็นการเคลียร์ที่ไร้ข้อผิดพลาดและได้แสดงออกมาถึงผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ

หลังจากที่ล้มมอนสเตอร์ทั้งหมดและบอสทั้งสองตัวลงได้อารัชได้กัดฟันพร้อมกับกำลังมือของเขาแน่นแล้วหายใจเข้าลึกๆ

แล้วเขาก็ได้ตะโกนออกมา

“อ้า!!!!!”

ด้วยหัวใจที่กำลังเต้นรั่ว เขาคิดว่าตนเองคงจะไม่สามารถที่จะรู้สึกดีไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว

{การใช้งานระบบลิฟต์สำเร็จ! ด่านที่ 12 ได้เปิดออก}

{ได้รับรางวัลเพิ่มเติมสำหรับการเป็นผู้ท้าชิงคนแรกที่ประสบความสำเร็จจากการใช้งานระบบลิฟต์!}

ด้วยความสำเร็จจำนวนนับไม่ถ้วนนี้นั้นมาพร้อมกับเหรียญดวงดาวจำนวนมหาศาล

แต่ที่มากไปกว่านั้นเขากลับตื่นเต้นเนื่องจากการตอบสนองที่เป็นบวกของเหล่ากลุ่มดาวทั้งหลายแทน

[นักโทษนิรันดร์การมอบ 500 เหรียญดวงดาวเป็นการสนับสนุน]

[วัวที่วิ่งเหมือนกับม้า : เชดดด ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย!]

[หัวใจที่เร่าร้อนของฉันมอบ 2,000 เหรียญดวงดาวเป็นการสนับสนุน]

[โสมพันปี : ฉันขนลุกชู่เลย! เขาช่างเป็นนักรบที่เก่งกาจอะไรเช่นนี้!]

[พระจันทร์ที่ล่วงหล่นลงบนพื้นดินมอบ 1,500 เหรียญดวงดาวเป็นการสนับสนุน]

อารัชรู้สึกไร้คำพูดใดๆเมื่อมองไปที่ข้อความมากมายที่กำลังถล่มใส่เขา

ตัวเขาสั่นไปทั้งร่างกาย

‘อ้า…ใช่เลยมันต้องแบบนี้แหละ’

เขารู้สึกมีชีวิตชีวาจากการที่ได้รับความสนใจของเหล่ากลุ่มดาวทั้งหลาย

ใช่แล้ว การถอยหลังไปเล็กน้อยนั้นจะทำให้คนเราสามารถที่จะก้าวไปข้างหน้าได้ไกลขึ้นกว่าเดิม

แล้วเขาก็ได้รับรู้ในความจริงอีกอย่างหนึ่งทันทีว่า

‘ฉันจะต้องเป็นตัวเอกแน่นอน’

เป็นความลับที่แม้แต่เหล่ากลุ่มดาวก็ไม่รู้

ตัวตนที่รู้เกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้

เป็นตัวตนที่พิเศษ

{มุ่งหน้าไปยังด่านที่ 12 : รถไฟใต้ดินแห่งดวงดาว}

{โปรดเข้าสู่เซฟโซนเพื่อรับการฟื้นฟูจากความเสียหายและความเหนื่อยล้า}

หลังจากที่สัมผัสต่างๆของเขากลับคืนมา เขาได้มาถึงที่ด่าน 12

มันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สวยงาม

และมีรถไฟใต้ดินที่กำลังล่วงหล่นข้ามผ่านท้องฟ้านั้น

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขาได้กลับมาเป็นตัวหลักอีกครั้ง

นี้เป็นแผนการทั้งหมดที่เขา….

[เค้กข้าวและซุปเกี้ยวในวันปีใหม่ : มันสนุกมากเลย แสดงมันให้ฉันดูอีกครั้งหน่อยสิ]

[เค้กข้าวและซุปเกี้ยวในวันปีใหม่มอบ 50,000 เหรียญดวงดาวเป็นการสนับสนุน]

‘…หะ?’

50,000?

เขาสงสัยว่าเขาได้เห็นเลขศูนย์เกินมาหรือป่าวแต่ไม่ว่าจะมองยังไงมันจะยังคงเท่าเดิม

เป็นเช่นนั้นจริงๆมันเป็นเหรียญดวงดาวจำนวนมหาศาลที่มีทั้งสิ้น 50,000 ได้ถูกส่งมอบมาให้เขา

ไม่สำคัญว่ากลุ่มดาวเป็นตัวตนเช่นไร แต่เหรียญดวงดาวก็ยังเป็นพลังงานที่มอบอิทธิพลให้กับกลุ่มดาวดังนั้นพวกเขาไม่เคยที่จะให้มันออกไปจำนวนมากอย่างนี้ในครั้งเดียว

‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน…?’

ความสุขที่คงอยู่จนถึงเมื่อกี้นี้ได้เริ่มที่จะจางหายไปในตอนที่เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างแปลกๆ

‘แสดงในคุณดูอีกครั้งงั้นหรอ? จะบ้าหรือไง?’

ความรู้สึกวิตกกังวลได้พุ่งตรงไปรวมกันที่หน้าอกของเขาอย่างฉับพลันเขาพยายามที่จะพูดบางอย่างขึ้นมาแต่ข้อความอีกอันได้ปรากฏขึ้นมาก่อนที่เขาจะพูดมันออกไป

[เค้กข้าวและซุปเกี้ยวในวันปีใหม่ : ฉันส่งเงินมัดจำให้นายไปแล้ว คราวนี้มาลองแบบ 3 ด่านพร้อมกันเลยแล้วฉันจะให้อีก 200,000 เหรียญดวงดาวถ้านายทำสำเร็จ ตกลงไหม?]

ในทันทีที่ข้อความนี้ปรากฎขึ้น

ช่องแชทได้ระเบิดออกมา

เหล่ากลุ่มดาวอื่นๆได้บ้าคลั่งไปกับความตื่นเต้นนี้และเริ่มต้นการสนับสนุน

[ชายผู้มาพร้อมกับสายฟ้าสีทองมอบ 5,000 เหรียญดวงดาวเป็นการสนับสนุน]

[ชายผู้มาพร้อมกับสายฟ้าสีทอง : ฉันมัดจำด้วย! แล้วอีก 10,000 จะตามมาถ้าหากว่านายทำสำเร็จ!]

[หญิงสาวที่มีเล็บที่แหลมคมมอบ 3,000 เหรียญดวงดาวเป็นการสนับสนุน]

[นักสู้ที่ใช้หน้าท้องของเขามอบ 7,000 เหรียญดวงดาวเป็นการสนับสนุน]

[นักสู้ที่ใช้หน้าท้องของเขา : จิตวิญญาณของฉันกำลังลุกไหม้! ไม่มีอะไรที่จะน่าตื่นตาตื่นใจไปมากกว่าการท้าทายที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อีกแล้ว! เบรินนิ่ง!!!!]

[ชายที่ตายในท่ายืนมอบ 2,500 เหรียญดวงดาวเป็นการสนับสนุน]

เมื่อรวมกันแล้วมันเป็นเหรียญดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วน

กลุ่มดาวเหล่านี้ทั้งหมดนั้นเต็มไปด้วยความหวัง

พวกเขาต้องการความรู้สึกที่ตื่นเต้นแบบนั้นอีกครั้ง

การเผชิญหน้ากับภารกิจที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้อีกครั้ง

แต่ว่า…

‘ฉันจะตายนะสิ’

ถ้าเขาตกปากรับคำภารกิจนี้ไปหละก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

มันไม่มีทางที่เหล่ากลุ่มดาวทั้งหลายจะไม่เข้าใจในความจริงข้อนี้

แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังหวังว่าอารัชจะยอมรับการท้าทายครั้งนี้

“น-นี้…”

[ดวงตาแห่งดวงดาวมอบ 2,000 เหรียญดวงดาวเป็นการสนับสนุน]

“มันเป็นไปไม่ได้…”

[อัญมณีที่แปล่งประกายในความมืดมอบ 4,000 เหรียญดวงดาวเป็นสนับสนุน]

อารัชรู้เหตุผลของพวกเขาในทันที

‘เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนุก’

พึ่งจะตอนนี้เท่านั้นเองที่อารัชได้รู้ว่า

กลุ่มดาวทั้งหลายไม่ได้ชอบเขา

เขาเป็นเพียงแค่ ‘ของเล่น’ ของกลุ่มดาวพวกนี้เท่านั้น

และมันเป็นเรื่องน่าสนุกที่จะได้เฝ้ามองดูเขา

นี้เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมกลุ่มดาวพวกนี้ยังคงอยู่ที่ช่องของเขา

เพราะชอบเขางั้นหรอ?

มันน่าจะน้อยยิ่งกว่าการมองดูหนูแฮมสเตอร์ที่กำลังวิ่งอยู่ในวงล้อซะอีก

กลุ่มดาวพวกนี้มองต่ำลงไปยังสิ่งมีชีวิตที่กำลังดิ้นรนไปเรื่อยๆและพวกเขาทำเพียงโปรยเมล็ดทานตะวันลงไปเมื่อพวกเขาอารมณ์ดี

มันเป็นเพียงคุณค่าในระดับนั้น

ถ้าแฮมสเตอร์ของพวกเขาเกิดป่วยและตายลงไปมันอาจจะทำให้พวกเขารู้สึกเจ็บปวดแต่…

พวกเขาก็จะไปหาแฮมสเตอร์มาอีกตัวแทน

‘ผม…ไม่…’

มือของอารัชนั้นกำลังสั่นเทา

มันเป็นเพราะว่าดวงตาของกลุ่มดาวทั้งหมดกำลังกดดันลงมาที่เขา

[สายฝนที่โปรยลงมาตามซอกหินมองมาที่คุณด้วยความสนใจ]

[หอยทากที่หายไปมองมาที่คุณด้วยความสนใจ]

[ยากที่จะเหรียญดวงจันทร์มองมาที่คุณด้วยความสนใจ]

[หมาป่าสีขาวที่ร่ำร้องถึงชัยชนะมองมาที่คุณด้วยความสนใจ]

[ชายที่เดินบนขอบเหวมองมาที่คุณด้วยความสนใจ]

ตาย

ต้องตายอย่างแน่นอน

[เค้กข้าวและซุปเกี้ยวในวันปีใหม่ : นายไม่ต้องการที่จะทำมันงั้นหรอ?]

แต่แม้จะรู้ความจริงในเรื่องนั้น

“…ภารกิจนี้ ผมจะทำมัน”

เขาทำได้แต่ยอมรับมันอย่างไม่มีทางเลือก