บทที่ 180 อยากขโมยมันนะ..แต่ว่า 2 (2)

เอ็ดริช’ ลูกพี่ลูกน้องของเธอปรากฏตัวที่ทางเข้าโถงทางเดิน เธอเห็นรองหัวหน้าอัศวินวิ่งตามเขามาติดๆเช่นกัน เอ็ดริชนำใบหน้าที่ปูดบวมจากการถูกชกต่อยกระโดดเข้าร่วมวงต่อสู้ทันที

‘พวกเขาอยู่ที่นี่กันหมดแล้วสินะ’

คาร์ลกำลังเฝ้ามองสิ่งนี้อยู่บริเวณทางเข้าโถงทางเดินในสภาพล่องหน

~มนุษย์! เราจะลงมือกันเมื่อไหร่?~

เสียงเรียบเย็นระคนตื่นเต้นของราอนดังเข้ามาในหัวของคาร์ล อย่างที่คาดเอาไว้มังกรตัวนี้ไม่เคยพลาดโอกาสที่จะได้แก้แค้นอาร์ม คาร์ลค่อยๆรวบรวมเสียงเรียกของวายุใต้ฝ่าเท้าของตน

“พวกเจ้าเป็นใครกัน? เจ้านรกพวกนี้เป็นใครกันแน่?!”

เอดริชเหวี่ยงหมัดใส่เชวฮันทันทีในขณะที่ตะโกนก้องออกมาด้วยความโกรธและอารมณ์เสีย นั่นทำให้โกรนิก้าอาศัยจังหวะนี้บุกโจมตีเชวฮันเช่นกัน การร่วมมือโจมตีศัตรูทั้งช่วงบนและช่วงล่างของสิงโตทั้งสองนั้นเป็นไปอย่างธรรมชาติราวกับพวกเขาวางแผนการโจมตีมาก่อนล่วงหน้า

อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู้ของพวกเขาคือเชวฮัน

ควับ! ควับ!

กำปั้นและแส้ถูกป้องกันได้อย่างง่ายดาย แต่สิงโตทั้งสองไม่ยอมหยุดอยู่แค่นั้นเมื่อโกรนิก้าเล็งมีดสั้นไปที่หัวไหล่ของเชวฮันในขณะที่เท้าของเอ็ดริชพุ่งไปที่หัวเข่าของเชวฮัน

การโจมตีที่คล่องแคล่วและอาศัยจังหวะทีเผลอจึงเป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นได้ง่าย ทันใดนั้นเสียงเรียบเย็นและเป็นภาษาต่างอาณาจักรก็ดังขึ้น

“เล่นทีเผลออย่างนั้นหรือ?”

โกรนิก้าสะดุ้งโหยง

‘…เสียงใครกัน?’

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนเธอไม่สามารถคิดจนจบได้

ฟริ้วววววว~~~~~~

เสียงเหมือนลมห่าใหญ่พัดเข้ามาก่อนที่เธอจะกวาดสายตาไปมองรอบๆ

หมอกหนาทึบปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้มันเป็นหมอกสีแดงที่เริ่มขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ

“เจ้ากำลังมองหาอะไรอยู่?”

เสียงปริศนาที่จู่ๆก็ดังขึ้นทำให้มีดสั้นของเธอพลาดเป้าไป

เคร้ง!

มีดสั้นของเธอถูกสันมือที่ล้อมไปด้วยออร่าของเชวฮันปัดออกไปทันที

“อึ่ก!”

“เอ็ดริช!”

ชายชุดดำกำลังบีบคอของเอ็ดริช

“แค่ก..เจ..เจ้ากล้า..กล้าทำเช่นนี้กับราชาสิงโตใน..อนาคตได้อย่าง….แค่กๆๆ..ปล่อย!”

เอ็ดริชเริ่มดิ้นรนเพื่อออกจากเอื้อมมือของเชวฮันในขณะที่โกรนิก้าก็พยายามหาทางช่วยเอ็ดริชเช่นกันแต่เธอก็ต้องหยุดชะงักไปเสียก่อน

ฟริ้วววววว~~~~~~

เสียงลมไม่มีท่าทีจะหยุดลงง่ายๆ

มันกำลังเข้ามาใกล้ทุกที

มีบางอย่างที่กำลังคืบคลานเข้ามา

ความรู้สึกบางอย่างบอกให้เธอหันกลับไปมอง มันเป็นอย่างที่เธอรู้สึกจริงๆ มีอีกคนหนึ่งอยู่ในที่แห่งนี้ เจ้าของประโยคเมื่อครู่และยังเป็นสำเนียงภาษาต่างอาณาจักรอีกด้วย

บุคคลที่ถูกล้อมรอบด้วยหมอกทึบพุ่งตรงไปข้างหน้า ลมหมุนขนาดใหญ่ก็ออกมาจากเขาเช่นกัน หมอกและพิษซึมเข้าไปในลมหมุน ทั้งสีขาว สีน้ำเงิน สีแดงและสีดำผสมรวมกันกลายเป็นหมอกพิษหลากชนิด มันกำลังส่งเสียงปะทุออกมาจนดังลั่น

‘มันกำลังจะระเบิด’

นั่นคือสิ่งที่ผุดขึ้นในหัวของโกรนิก้าจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงคนที่บีบคอเอ็ดริชดังขึ้น

“ข้ายอมปล่อยเจ้าไปก็ได้”

ร่างของเอ็ดริชถูกผลักออกมาทันที

“หลบ!”

ทันทีที่เสียงของโกรนิก้าดังขึ้นลมหมุนก็ระเบิดออกมาในเวลาเดียวกัน

บู้ม!!!บู้ม!!!

ลมหมุนที่ผสมกับหมอกพิษระเบิดเข้าโจมตีสมาชิกของอาร์มอย่างรวดเร็ว แรงกระแทกที่เกิดขึ้นปะทะเข้ากับหน้าต่างจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ผนังบนโถงทางเดินเกิดรอยร้าวอย่างช้าๆ

“อึ่ก!”

ลมหมุนปะทะถูกร่างของเอ็ดริชทันที แม้ว่าเขาจะสามารถต้านทานพิษทุกชนิดได้แต่แรงกระแทกของลมก็แข็งแกร่งเช่นกันส่งผลให้ร่างของเขาล้มไปกองกับพื้นทันที

บู้ม!

อย่างไรก็ตามเขาสามารถรวบรวมกำลังที่มีอยู่ลุกขึ้นยืนได้อย่างรวดเร็ว

“ฮึ่ก!”

“โอ้ย!”

“อ๊ะ! ต..ตาข้า!!”

อัศวินและสมาชิกคนอื่นๆของอาร์มต่างตะโกนลั่นเมื่อถูกพิษเล่นงานแต่สิงโตทั้งสองไม่สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อรีบมุ่งหน้าไปยังห้องริมสุดที่อยู่ปลายทางของโถงทางเดินพอดี

คลิ๊ก!

พวกเขาได้ยินเสียงหมุนลูกบิดประตูดังขึ้น

“อั่ก..อ๊ากกก!!”

อัศวินที่เฝ้าอยู่หน้าห้องถูกพิษอัมพาตเล่นงานจนล้มไปกองกับพื้น

“อั่ก!”

เชวฮันเข้ามาขวางทางโกรนิก้าและเอ็ดริชไม่ให้ขยับตัวไปข้างหน้าได้อีก

โกรนิก้ามองเห็นชายที่เปิดประตูห้องซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของเชวฮัน

หมอกจางลงแล้วและเวทย์ล่องหนก็เริ่มคลายออกเมื่อร่างของชายผู้หนึ่งปรากฏขึ้นอย่างๆช้าโดยเริ่มจากปลายเท้าของเขา

ดวงตาภายใต้หน้ากาของชายผู้มาใหม่ส่งยิ้มเยาะให้กับสิงโตทั้งสอง

แอ๊ดดด!!

คาร์ลผลักประตูห้องเข้าไปทันที

คลิ๊ก! ชิ้ง!

ประตูห้องถูกปิดตามหลังทันทีและดาบของเชวฮันก็ขวางทางสิงโตทั้งสองไม่ให้ไล่ตามคาร์ลไปได้

“พวกเจ้าต้องผ่านด่านข้าไปก่อน”

น้ำเสียงของเชวฮันเต็มไปด้วยความร่าเริงเมื่อเริ่มส่งออร่าไปที่ดาบของตน นั่นหมายความว่าการต่อสู้อย่างจริงจังจะเริ่มขึ้นนับจากนี้เป็นต้นไป

“เมี้ยว!!”

“เมี้ยว!!”

จากนั้นสิงโตทั้งสองก็ได้ยินเสียงแมวร้องก่อนที่หมอกจะเริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้งภายในโถงทางเดินแห่งนี้

.

.

.

ความกังวลของคาร์ลไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอก

~มนุษย์…..?~

‘นี่มันแปลกมาก’

แม้แต่ราอนก็รู้สึกกังวลเช่นกัน

มีกล่องเล็กๆใบหนึ่งอยู่ในมือของคาร์ล มันเป็นกล่องที่สิงโตทั้งสองพยายามปกป้องมันและเป็นของชิ้นเดียวกับสิ่งที่พวกเขาพยายามลอบส่งให้กับดยุกเซคก้า คาร์ลไม่รู้ว่าตัวเองจะทำหรือรู้สึกอย่างไรดีเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในกล่องนี้

มันคือมงกุฎแต่นั่นยังไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา

~…..มนุษย์! ข้ารู้สึกถึงพลังของเจ้าจากมงกุฎชิ้นนี้!มันเป็นพลังที่ทำให้เจ้าดูแข็งแกร่งเท่ากรงเล็บของข้า! ใช่แล้ว! มันต้องเป็นพลังเดียวกันอย่างแน่นอน! มนุษย์?พวกนั้นเคยขโมยอะไรจากเจ้าไปหรือเปล่า? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ พวกมันก็เป็นคนที่ร้ายกาจยิ่งนัก!~

คาร์ลก้มมองมงกุฎสีขาวที่อยู่ในกล่องก่อนจะเอ่ยถามราอนขึ้นมา

“ราอน..เจ้าไม่คุ้นกับมันเลยเหรอ?”

~หืม?~

ราอนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความตกใจ มันตะโกนออกมาดังลั่นจนลืมที่จะพูดเข้าไปในหัวของคาร์ล

“หนองน้ำสีดำ!”

ใช่ ศพมังกรที่อยู่ในหนองน้ำสีดำ มงกุฎสีขาวชิ้นนี้อยู่บนหัวกะโหลกของศพนั่น

คาร์ลรับเอาพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณ‘รังสีเหนืออำนาจ’ซึ่งเป็นพลังที่ทำให้ผู้ครอบครองมีอำนาจและเจ้าเล่ห์เหนือผู้อื่นทันทีที่แตะมงกุฎสีขาวชิ้นนี้

ทันใดนั้นก็มีเสียงอื่นดังเข้ามาในหัวของคาร์ล มันไม่ใช่เสียงของพลังศิลา มันเป็นเสียงที่เขาพอจะคุ้นอยู่บ้างแต่เขาไม่เคยได้ยินมันเช่นนี้มาก่อน

แน่นอนว่าคาร์ลยังจำสิ่งที่เจ้าของเสียงนี้พูดเอาไว้ได้

‘ เจ้ารู้ไหม…ว่าวิธีที่ง่ายที่สุดในการกำจัดลมหายใจของศัตรูคืออะไร?’

‘ความกลัวคือคำตอบ’

‘ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆๆ….เจ้าพูดถูก..มันเป็นเรื่องโกหก..เจ้ารู้อยู่แล้วสินะ…’

‘ บางครั้ง..ความตรงไปตรงมาของเจ้าก็ช่วยชีวิตของเจ้าเอาไว้…ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆๆ’

มันเป็นเสียงของ ‘รังสีเหนืออำนาจ’ เจ้าของเสียงนี้พูดเป็นครั้งแรกหลังจากที่ผ่านมาเป็นระยะเวลานาน

– มงกุฎนั่นชอบเลือดมังกร –

จากนั้นก็เงียบหายไป พลังศิลาก็เงียบไปเช่นกัน

คาร์ลจึงหันไปมองราอน

“มีอะไรหรือเปล่า? เจ้ามนุษย์?”

คาร์ลจึงพูดขึ้นทันที

“เก็บมันไว้ที่เดิม”

“อะไรนะ?”

“ไม่สิ! ข้าจะปล่อยให้พวกมันใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ไม่ได้”

มังกรดำไม่เคยเห็นคาร์ลขมวดคิ้วมุ่นให้กับของราคาแพงเช่นนี้มาก่อน นี่เขาไม่พอใจกับมงกุฎที่ประดับไปด้วยอัญมณีเม็ดใหญ่และมีราคาแพงเช่นนี้อยู่หรือ?

คาร์ลยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดในขณะที่ราอนก็มองเขาด้วยความสงสัย

“ข้าควรจะทำลายมันดีหรือเปล่า?”

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องขโมยในสิ่งที่เขาไม่ชอบแม้จะเป็นของแพงขนาดไหนก็ตาม