207 นั่งที่โต๊ะเจรจาที่สนุกสนานและสนุกสนาน
“…………เป็น เช่นไร บ้าง?”
ไม่จำเป็นต้องถาม
หากมองดูใบหน้าหดหู่ของซิลเลน ไม่ว่าใครต่างก็รู้คำตอบ
ยังไงก็ตาม เจ้าชายลำดับที่หนึ่ง ลิวิเซลซึ่งรออยู่ที่หน้าสถานีสารวัตรทหารก็อดไม่ได้ที่จะถามแบบนั้น
“……….คำตอบคือ เธอเรียกร้องเงินห้าหมื่นล้านครัม เป็นเงินค่าชดเชยและรางวัลค่พ”
“……!”
ลิริวิเซลเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจกับคำตอบที่เหมือนกับต้องฝืนใจตอบกลับมา
บ้าบอ เรื่องนั้น แพงขนาดนั้นเป็นไปไม่ได้
“บ้าบออะไรกัน ตั้งใจขูดเลือดขูดเนื้อกันรึไง?”
เจ้าหญิงลำดับที่สาม แคลนอลล์แสดงความโกรธอย่างเปิดเผย แต่――
“จริงด้วยนะค๊า”
อาคาชิที่ใบหน้าไร้อารมณ์เหมือนหน้ากากโนห์พูดด้วยเสียงที่เย็นชา และเฉียบคมาวกับใบมีด
“เนียจังดูเหมือนโกรธมากเลยนะค๊า แม้ว่าพวกเราจะขอโทษแล้ว แต่ก็ไร้ความหมาย ลิวี่ซามะ คุณคิดถูกแล้วที่ไม่เข้าไป หากครั้งนี้ทุกอย่างแย่ลงกว่าเดิม จะดีกว่าถ้าคิดว่าจบแล้วได้เลยค๊า”
เมื่ออาคาชิได้ยินว่าเนีย・ลิสตันถูกจับ เธอก็รีบไปหาทันที โดยคิดว่าเธอคงยังไม่ได้โกรธขนาดนั้นจริง ๆ
ทว่า เธอก็แอบคิดว่านี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายเหมือนกัน
หากครั้งต่อไปที่สิ่งต่าง ๆ มีความซับซ้อนมากขึ้น เธอก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
――และจากนั้น หลังจากที่ได้ยินข่าวดีจากทางป้อม ก็กลับกลายเป็นความรู้สึกที่แย่เป็นอย่างมากแทน
“จบแล้ว ………หมายความว่ายังไง?”
“ซ้า? คิดว่าตอนที่มาเวเลียแห่งนี้ล่มสลายลงมันจะเป็นปัญหาไหมล่ะคะ”
“เด็กแค่คนเดียวแบบนั้น? จะทำอะไรให้ล่มสลายได้กัน?”
“――แคลนซามะ”
อิลก์・สโตน รองผู้บัญชาการภาคีนักรบจักรกลสุนัขปีศาจที่พึ่งกลับมาจากป้อมปราการทางทิศตะวันออกเพื่อนำรายงานที่ตกใจกลับมารายงาน ก็ได้พูดขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย
“เด็กคนนั้นเพียงลำพังกวาดมดนับพันตัวออกไปในพริบตา หม่อมฉันเห็นมันด้วยตาของตัวเอง กล้ายืนยันเลยพะยะค่ะ
ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นเพียงลูกศิษย์ของสาวใช้ที่อยู่ด้วยกัน……..เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า มีชาวต่างชาติสองคนที่มีพลังเทียบเท่ามดอย่างน้อยหนึ่งพันตัวอยู่ภายในประเทศพะยะค่ะ”
“เพราะอย่างงั้นแหละ…….ไม่มีทางที่เราจะทำเหมือนกันได้หากไม่มีทหารจักรกล!”
“นี่ไม่ใช่เรื่องโกหกหรอกนะพะยะค่ะ หม่อมฉันนำหินเวทมนตร์กลับมามากกว่าพันก้อนเพื่อเป็นหลักฐาน พระองค์เคยเห็นมาแล้วเช่นกัน――คงทราบดีว่าเป็นเช่นไรพะยะค่ะ”
อิลก์กอดอกโดยมีสีหน้าสงสัยไม่คลาย
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่พะยะค่ะ? ทำไมเด็กคนนั้นถึงถูกขังเดี่ยวกัน? มีเหตุผลอันใดกันที่ซิลซามะกับอาคาชิถึงต้องขอโทษด้วย? และห้าหมื่นล้านครัมที่ว่ามีหมายความว่าอะไรกันพะยะค่ะ?”
ไม่มีใครพูดอะไรให้กับคำถามที่สมเหตุสมผลเช่นนี้
อิลก์ที่กลับมาพร้อมรายงานหนึ่งฉบับถึงเหตุการณ์ของตอนเที่ยงที่น่าตกตะลึง
รายงาน และข้อเสนอแนะกลยุทธ์ในการกวาดล้างรังมดที่ควรดำเนินการทันที รองผู้บัญชาการมาด้วยตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างจะดำเนินการอย่างรวดเร็วถูกต้อง และเพื่อถ่ายทอดความจริงจังของสถานการณ์ได้อย่างเต็มที่
การกำจัดแมลงเป็นความปรารถนาอันยาวนานของมาเวเลีย
เขาแน่ใจว่าผู้บัญชาการลิวิเซลก็ต้องสนใจมากเช่นกัน
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานั้น เขาต้องการให้สาวใช้ที่มีพลังคุกคามนั้น และลูกศิษย์ของเธอไปด้วยกัน
ดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะเป็นลูกศิษย์ของสาวใช้ ดังนั้นคงจะดีมากหากสาวใช้ลงมือด้วย
ทว่าไม่สำคัญหรอกว่าเธอจะยังเป็นแค่เด็กหรือเปล่า เด็กพวกนั้นแค่คนเดียวก็สามารถกลายเป็นกำลังที่เพียงพอแล้ว ในกรณีนี้ไม่สำคัญว่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือ เราควรใช้ประโยชน์จากพวกเธอ
ยังไงก็ตาม ในตอนที่เขากำลังรายงานเรื่องนี้ให้ลิวิเซลทราบ พื้นที่โดยรอบกลับเกิดความวุ่นวายอย่างน่าประหลาด แคลนอลล์เข้ามารายงานตัวพร้อมกับเจ้าหญิงลำดับที่สี่ ซิลเลน ซึ่งปกติแทบไม่ยุ่งเกี่ยวกันเลย
แต่ว่า ก็ไม่มีใครตอบคำถาม
ลิวิเซลซึ่งเป็นผู้บัญชาการและเพื่อนสนิทที่ใกล้ชิดและไว้วางใจได้เสมอ ยังคงปิดปากด้วยสีหน้าจริงจัง
ประการแรกเป็นเรื่องแปลกที่ลูกสาวขุนนางซึ่งเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศถูกขังเดี่ยว และสถานการณ์ปัจจุบันที่สมาชิกของราชวงศ์มีส่วนเกี่ยวข้องก็ยิ่งแปลกเช่นกัน
เขารู้สึกตัวถึงความไม่เป็นธรรมชาตินี้อย่างที่คาด
“――พวกท่านทำบ้าอะไรลงไปกับเด็กพวกนั้นกันเช่นนั้นหรือพะยะค่ะ”
เป็นเวลาเช้าตรู่ที่สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างมาก
“――เนีย・ลิสตัน ออกมา”
ฉันคิดว่าได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ หยุดอยู่หน้าห้องขังของฉัน และเปิดกุญแจ
“………ออกมา จะนอนไปอีกนานแค่ไหนกัน รีบออกมาซะ”
“ตื่นอยู่แล้วล่ะ”
ฉันที่นอนอยู่บนเตียงแข็ง ๆ ลุกขึ้นนั่ง และมองไปที่ฮาเดนที่อยู่อีกฝากของลูกกรงเหล็ก
“ออกมาเร็ว――”
“ไม่ออกหรอกค่ะ ช่วยกลับไปที”
“……..ห๊ะ?”
ราวกับจะทำตามที่พูด ฉันล้มตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้ง
“คุณเป็นคนจับฉัน คนที่เอาฉันเข้ามาในนี้ก็คุณ และตอนนี้ก็ยังจะมาบอกให้ออกไป นั่นไม่เห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยเหรอคะ? ความเห็นแก่ตัวควรเป็นสิทธิพิเศษของเด็กไม่ใช่หรือคะ?”
“…………”
“ฉันว่าฉันบอกไปแล้วตอนที่สอบสวนใช่ไหมคะ? เมื่อไหร่ที่คุณอยากขออะไรสักอย่างจากใครสักคนน่ะ?”
“………..ดะ ได้โปรด ได้โปรดออกมาจากห้องขังด้วยเถอะครับ………….”
“ทำได้ดี”
ฉันถูกเรียกตามที่คาดไว้
ไม่มีประโยชน์ที่จะรังแกคนต่ำต้อยแบบนี้ตลอดไป รีบไปกันเลยดีกว่า
ที่ปล่อยฉัน………บางทีผีเสื้อกลางคืนอาจจะเคลื่อนไหวแล้ว?
ม๊า จะอะไรก็ได้แหละ
จากนี้ไปก็ถึงเวลาเจรจาที่สนุกสนานและสนุกสนาน
อย่างมากฉันก็แค่ขูดเลือดขูดเนื้อให้จนสุดเท่านั้นเอง
“เนียจัง”
ตอนที่ฉันออกมาจากสถานี อาคาชิก็กำลังรอยู่พร้อมกับรถม้าที่มีสัญลักษณ์ของมาเวเลียติดอยู่ และด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอยังอยู่ในเครื่องแบบ
“ขอโทษที่ให้รอ รออยู่ใช่ไหม?”
“ฉ๊านคิดว่านั่นน่าจะเป็นคำพูดของทางนี้มากกว่านะค๊า ……….อะโนซ้า ฉ๊านอยากจะขอให้คุณช่วยลงมืออย่างอ่อนโยนทีจะได้ไหมค๊า?”
“ฉันพยายามทำตัวใจดีตั้งแต่วันแรกที่มาถึงแล้วนะคะ แต่? เรื่องนั้นไม่ได้ขึ้นกับคุณจริงไหม? ก็เป็นแบบนั้นมาตลอด”
“เข๊าจ๊ายแล้ว เข้าจ๊นายแล้ว แต่ว่า”
“พอแล้ว ไปกันเถอะ มีใครรออยู่กันล่ะ? ราชา?”
“……..ใช่แล้วล๊า รีบขึ้นรถม้ากันดีกว่า?”
โอะโฮะๆๆ ราชาสินะ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้เจอกัน
“เน๊ ราชาของเมเวเลีย ยังไม่เข้าใจจุดยืนของตัวเองอีก? ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?”
“……”
“ถ้ามีความต้องการเจรจากับฉัน ทำไมไม่มาพบฉันเองล่ะคะ? ทำไมฉันถึงต้องไปหาด้วย? หลังจากที่ถูกดูหมิ่นมากมาย ล้อเลียน และทำให้ชีวิตตกอยู่ในอันตราย แล้วยังทำอีกเหรอ?”
“ได้โปรดเถะ เนียจัง………..”
……………จริง ๆ เลย
“เข้าใจแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะสร้างปัญหาให้คุณ ในปัจจุบันเป็นความผิดของฉันเอง”
ของแบบนี้ต้องพูดกับราชา หรือลิวิเซลโดยตรง ไม่มีประโยชน์ที่จะกล่าวโทษอาคาชิที่ถูกจับโยนเข้ามาอยู่ตรงกลางแทน
“แต่ ฉันไม่ชอบหน้าจริงจังของคุณ ฉันอยากให้คุณยิ้มเหมือนคุณขี้เล่นอยู่เสมอ
เมื่อพูดแบบนั้น เธอก็ฝืนยิ้มออกมา
“เดาว่าตอนนี้ยังหัวเราะไม่ได้ “
อืม
เห็นได้ชัดว่าอาคาชิเป็น ดูเหมือนเขาจะเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างถูกต้อง
――ใช่แล้ว ตอนนี้มาเวเลีย ใกล้ล่มสลายแล้ว
“ทันทีที่ฉันมาถึงปราสาท ฉันก็ถูกซิลเลย และ รองผู้บัญชากรอิลก์ที่กำลังรออยู่พาไปที่ห้องรับรอง
ข้างใน มีผู้เฒ่าที่มีร่างกายแข็งแรงและดูเข้มงวดอยู่ที่นั่น
ผู้ที่นั่งอย่างเด่นสง่าคือ ราชา และคนอื่นที่ยืนอยู่รอบ ๆ อาจจะเป็นขุนนางระดับสูง หรือผู้ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญล่ะมั้ง
แต่สิ่งที่รู้ได้จากที่เห็นคือ รูปลักษณ์ที่หรูหรากันเป็นอย่างมาก อาจจะยุติธรรมที่จะบอกว่าพวกเขาทั้งหมดล้วนแต่เป็นผู้หลักของมาเวเลีย
แม้ว่าฉันจะไม่รู้จักใครเลยก็ตาม
โอ้โอ้ แต่ละคนมองดูเด็กตัวเล็ก ๆ ด้วยความเกรี้ยวกราดอย่างไร้ความปราณี ถ้าไม่ใช่ฉันคงร้องไห้ไปแล้ว
“นั่งตรงนั้น”
ผู้เฒ่าคนหนึ่งพูดเช่นนั้น เป็นการสั่งให้นั่งเก้าอี้หน้าราชา
“ขออนุญาตนะคะ”
ซ๊าซ๊า สงสัยจังว่าพวกเขาจะเล่าเรื่องที่น่าสนใจประเภทไหนให้ฉันฟัง
――แต่ ม๊า สำหรับตอนนี้
“ขอพูดอะไรสักอย่างก่อนนะคะ”
ฉันหยุดพระราชาที่กำลังจะอ้าปากพูด แล้วหัวเราะ
“คุณตรงนั้นกับตาเฒ่านั้น ฉันไม่ชอบสายตาที่พวกคุณมองมาที่ฉัน ดังนั้นฉันขอเพิ่มเงินขึ้นอีก หนึ่งหมื่นล้านครัม”
“อะไร……. !?”
ห้องนี้ซึ่งเต็มไปด้วยความตึงเครียดตั้งแต่เริ่มแรก ก็มีบรรยากาศที่ไม่เป็นมิตรพัดผ่านอากาศเข้ามา
“――หากพวกคุณไม่ยอมรับ ฉันจะกลับทันที สู่อาณาจักรอาร์ตัวร์ ฉันมีสิทธิ์กลับบ้านได้ตลอดเวลานะคะ”
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณ คุณนิรนาม
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ