ตอนที่ 208 สันติภาพและสงคราม

ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi

208 สันติภาพและสงคราม

 

 

–มุมมองเอเกอร์–

「มันหนาวเร็วเมื่อการเก็บเกี่ยวจบ」

มันยังง่ายกว่าที่จะใช้ชีวิตอยู่ในที่ราบกลางเทียบกับฤดูหนาวที่โหดร้ายของสหพันธรัฐและความร้อนผิวไหม้ของจักรวรรดิ แต่หนาวคือหนาว

「อืม แต่มันรู้สึกว่ามันดีกว่ามากเมื่อเข้าในอ่างอุ่นๆด้วยกัน นั่นทำให้หนูจำได้คฤหาสน์ใหม่เกือบเสร็จแล้ว มันมีห้องน้ำใหญ่กว่าคฤหาสน์นี้ด้วยซ้ำ」

น้ำยังไหลตรงจากสะพานน้ำดังนั้นไม่มีความยากลำบากในการรวมน้ำจากบ่อ มันช่วยได้มากๆเมื่อห้องน้ำขนาดใหญ่กว่าด้วย

「โอ้ใช่ นี่เป็นของขวัญสำหรับหนู พี่รู้ว่าหนูบอกว่าไม่เอาแบบไม่ธรรมดา ดังนั้นมันไม่มีอัญมณีบนมัน แต่พี่คิดว่ามันยังเป็นงานฝีมือทอง ถือมั้ยถ้าพี่จะดูว่ามันดูกับหนูเป็นยังไง?」

ผมจับมือเธอและใส่แหวนบนนิ้วของเธอ

「อุมุ ความสง่างามของมันเหมาะสมกับหนูจริงๆ」

ผมกอดเธอและจูบไหล่และหลังเหงื่อออกของเธอ

「พี่มีไวน์ อยากดื่มสักนิดไหม?」

เพราะไม่มีการตอบ ผมเทแก้วเดียวสำหรับตัวผมเองและกลืนมันลงในพริบตา

「มันเกือบได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว…… อยากกินด้วยกันมั้ย?」

ผมถูกบอกว่าจานหลักวันนี้เป็นพาสต้ากับชีส

ผมพยายามเรียกออกไปหาเธอในวิธีอื่น แต่ผมไม่ได้คำตอบใดๆ

「บางทีพี่ทำมากเกินไป……」

นอนคว่ำหน้าข้างผมระหว่างหอบหายใจคือเลขาหญิงจากลิบาติส ดวงตาของเธอเปิด แต่มันไม่ได้ดูเหมือนเธอเห็นอะไรได้ตอนนี้

「ถ้าเธอไม่กินอะไรสักอย่างเร็วๆนี้ ร่างกายหนูจะไม่ไหว」

เมื่อคืนผมกระโจนใส่เธอเมื่อเธอเข้าห้องน้ำและหลายอย่างเกิดขึ้น

ระหว่างที่เธอต่อต้านตอนแรก เธอเริ่มครางและมีอารมณ์เมื่อประมาณยกที่สาม

มันทำให้ผมมีความสุขและสุดท้ายผมโอบกอดเธอตลอดทั้งคืน แต่นั่นอาจมากเกินไปสำหรับเธอ

ผมมีเซ็กส์กับเธอมามากกว่าครึ่งวันระหว่างฟังเธอละเมอหลังจากทั้งหมด

「ออุ…… ไม่ไหวแล้ว …… ได้โปรด ต้องการน้ำ……」

ในที่สุดผู้หญิงก็เปิดปากเธอเพื่อพูด แม้ว่ามันเป็นการร้องขอน้ำอันอ่อนแอ

「อ่ะนี่」

ผมจับเธอยกขึ้นและนำแก้วไปสู่ริมฝีปากของเธอ

มันดูเหมือนเธอไม่มีแม้แต่พลังงานเพื่อยกมือของเธอขึ้น

หน้าอกชุ่มเหงื่อเต็มด้วยรอยการจูบของผม…… และค่อนข้างใหญ่แล้วตอนนี้เมื่อผมมองมันซ้ำอีกที

หัวนมเธอเล็กจากการไม่โดนดูดมากเกินไปและมีสีค่อนข้างจาง

ขณะสำหรับส่วนล่าง ตูดของเธอมีน้ำมีเนื้อและมันไม่ได้ดูเหมือนถูกจับมาก กระนั้นมันสามารถกลืน 70% ของเจี๊ยวของผม

ลำแท่งผมแข็งเมื่อผมมองมันอีกครั้ง

ผมรู้สึกเงี่ยนอีกแล้ว

「ทำมันอีกนิดหน่อยได้มั้ย?」

「เออ๋!? ไม่เอาแล้ว…… หนูจะตายจริงๆ」

「พี่จะช้าๆและอ่อนโยน ดูสิมันเข้าไปข้างในแล้วนี่」

「คคคคคคุ…… บางอย่างหนาอีกแล้ว-……」

มดลลูกของเธอก็เป็นความเละเทะเปียกปอนจากน้ำหวานของเรา ผมแน่ใจว่าเราทำมันได้อย่างน้อยอีกหนึ่งครั้ง

 

 

หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น

「ขอโทษที่ช้า ฉันจะมุ่งหน้าไปห้องโถงกินอาหารตอนนี้」

「ค่ะ นายท่าน」

แม้บ้านผู้แแจ้งผมว่าอาหารพร้อมแล้วชำเลืองมองเตียง

เลขาผู้นอนอยู่ตรงนั้นอยู่ในสภาพย่ำแย่หนักกว่าเดิมก่อนหน้านี้…… เธอนอนหงายหลังหมดสติและขางของเธอแหกออก

「ฉันไม่คิดว่าเธอจะสามารถขยับได้สักพัก ทำอะไรบางอย่างให้เธอเมื่อเธอตื่นขึ้น」

「ตามประสงค์ อืม ให้หนูได้ทำความสะอาด」

ระหว่างเช็ดเหงื่อออกจากตัวผมและนำเสื้อผ้าใส่อีกครั้ง แม่บ้านมา

เธอทำผ้าเช็ดตัวไปจากมือผมและเช็ดร่างกายของผมอย่างระวัง

ผมคิดว่าผมทำเองได้ แม้ว่าการที่ถูกทำโดยมือนุ่มของผู้หญิงไม่ได้แย่

「ออุ่! เฮ้」

ผมรู้สึกถึงความเสียวเด้งขึ้นมาจากบริเวณหว่างขา

เธอกำลังใช้ปากแทนผ้าเพื่อเช็ดส่วนที่สำคัญ

เมื่อดูใกล้ๆ เธอเป็นหนึ่งในแม่บ้านผู้ผมโอบกอดพร้อมกับมาร์เซลีน

「นืออ—!!」

หลังจากใ้ปากเธอเพื่อเลียเหมือนขัดเจี๊ยวผมทั้งอัน เธอปิดฉากด้วยการดูดอย่างเข้มข้น ดึงน้ำเชื้อที่ค้างอยู่ในท่อปัสสาวะของผม

「ปุ่ฮ่าาา เยอะมาก…… เพราะอุปกรณ์นายท่านใหญ่ จำนวนของน้ำเชื้อที่อยู่ข้างในเกือบเท่าอะไรที่ชายปรกติน้ำแตก」

แม่บ้านกลืนมันทั้งหมด ไม่เสียเปล่าไปสักหยด…… แน่นอนว่าเธอยั่วผม ถ้าอย่างนั้นไม่ควรมีปัญหาถ้าผมถอดเสื้อผ้าเธอและซั่มเธอทันทีนี่ตอนนี้

「ดึงกางเกงในลงและยื่นก้นออกมา」

「ขอโทษที่ต้องพูด หนูทำอย่างนั้นไม่ได้ หนูไม่ได้ใส่กางเกงในใดๆเห็นมั้ย」

แม่บ้านผู้ซุกซนคนนี้ ผมจะทำให้เธอสลบ……

(เฮ้)

「โอ่ะว้า」  「กิ่ย้าาาาาาาา!!」

หัวเคซี่ปรากฏมากระทันหันผ่านประตู

โชคร้าย ที่แม้บ้านเป็นหนึ่งในคผู้เห็นเธอและเธอตกใจเมื่อเธอทำ

แม้ว่าอวัยวะเพศเธอเปิดเผยเต็มที่เพราะเธอไม่ได้ใส่กางเกงในใดๆ นี่ไม่ใช่อารมณ์มีเซ็กส์ที่ถูกต้อง

「……อย่ากวนเรา เคซี่」

อย่างน้อยเปิดประตูก่อนเข้ามาข้างใน

ถ้าเธอโผล่มากระทันหันผ่านประตูแบบนั้น ผมจะตกใจด้วย

「อาหารเย็นแล้ว หนูอยากจะกินเร็วๆ」

เธอทำเสียงจานกระทบโดยการตีถ้วยซุปด้วยช้อนและพองแก้ม

เธอไม่ควรยังมีชีวิตอีกแล้วเธอแต่ความยึดติดกับอาหารของเธอมากอยู่

เห็นว่าเธอไม่กินในบ้านหลังแรกที่เธออาศัยอยู่ แต่ตอนนี้เธอกินข้าวสามมื้อบวกขนมอย่างถูกต้อง และถ้าจังหวะเวลากินผิด เธอไปเพื่อตรวจดูห้องกินอาหารนับครั้งไม่ถ้วนเพราะดูว่าอาหารพร้อมหรือยัง

เพราะแม่บ้านทำครัวผู้ขี้ขลาดกลัวนั่นเกิดขึ้น เธอทำให้เป็นประเด็นว่ามีอาหารพร้อม ณ เวลาที่แม่นยำ

(ถ้าหนูไม่กินอย่างถูกต้อง หนูจะไม่มีแรงมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว)

พี่ไม่อยากได้ยินนั่นมาจากหนู หนูคือผี

และหยุดเคาะจานได้แล้ว มันไม่เป็นอะไรเพราะพี่เห็นหนูได้ แต่ถ้า คนผู้ไม่เห็นคะเห็นแค่จานลอยเท่านั้นและมันน่าจะทำให้พวกเธอกลัวสุดหัวใจ

「คืนนี้ มาเมื่อพี่อาบน้ำ พี่จะโอบกอดหนูจนกว่าหนูจะบ้า」

ผมช้อนหนูของแม่บ้านผู้ล้มและกระซิบสู่เธอเบาๆ

เธอพยักหน้าด้วยหน้าตาแดงเหมือนเป็นไข้

 

 

「หนูคิดว่าพี่จะยั้งตัวเองไว้อย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์」

「มันไม่ใช่ธรรมชาติของพี่ที่จะปล่อยผู้หญิงดีๆไว้ตามลำพัง」

ผมหลบคำวิจารณ์ของซีเลียระหว่างมีความสุขกับชาหลังอาหาร

「……เมื่อได้ยินพี่พูดนั่นต่อหน้าภรรยาหกคน จริงๆแล้วมันค่อนข้างสดชื่นและหนูโกรธนั่นไม่ได้」

นนน่าและคาร์ล่าถอนหายใจระหว่างยิ้มอย่างขมขื่น

ณ จุดนี้ ไม่มีผู้หญิงสักคนที่นี่เอะอะแล้วเมื่อผมนอกใจกับผู้หญิงคนอื่น

เพราะทั้งหมดการที่ผมนอนกับผู้หญิงนั้นปรกติเท่าหายใจ

「อย่ามาอวดคุณสมบัติกังวลแบบนั้นสิ!」

คนเดียวผู้โกรธเคืองคือไมล่า ผู้ให้ค่าวินัยและระเบียบ

อย่างอารมณ์บูดนักเลยและใช้เซเลสติน่าผู้ร่าเริงเป็นตัวอย่าง

ผมอุ้มสาวผู้เข้าหาผมด้วยรอยยิ้มส่องสว่าง

อย่างไรก็ตาม ตะวันดวงน้อยพูดบางอย่างไม่น่าเชื่อต่อมา

「หนูอยากให้พี่ชายโอบกอดหนูด้วย หนูอยากเป็นส้วมเนื้อ~」

「พระนางค่ะ! ไปเรียนคำพูดน่ารังเกียจเช่นนั้นมาจากไหน!?」

โมนิก้าตะโกนและรีมมา

เธอจะกระโดดข้ามโต๊ะยาวสองเมตรนี้หรือ?

「แม่บ้านพูดมัน พวกเธอพูดว่าราชวงศ์ชั้นสูงถูกโอบกอดโดยพี่ชายและกลายเป็น ‘ส้วมเนื้อ’ หนูก็เป็นราชวงศ์ด้วย ดังนั้นหนูก็จะกลายเป็ฯนั่น! พูดถึงแล้ว อะไรคือส้วมเนื้อเหรอ?」

เธอได้ยินเกี่ยวกับอะไรที่เกิดขึ้นกับมาร์เซลีน……

อย่ากังวล หลังจากอีกห้าปี พี่จะขี่หนูและเหวี่ยงสะโพกพี่ไม่ว่าหนูจะชอบมันหรือไม่

จนกว่าจะถึงตอนนั้น หนูอยู่อย่างไรก้เดียงสาได้

「ถ้าอย่าางนั้น ผลลัพเป็นยังไง?」

ลีโอโพลต์ที่ไม่ไร้เดียงสาแน่นอนมา

อะไรที่เขาหมายถึง ‘ผลลัพธ์’ ผมเพิ่ง

ตื่นขึ้นและกินเสร็จ

「ผมสงสัยถ้ามีข้อมูลใหม่รึเปล่า」

「จากข้อมูลส่วนตัวของฉัน ลิบาติสไม่ได้เชื่ออใจโกลโดเนียเลยสักนิด」

「แน่นอนว่าไม่ อาร์คแลนด์, เทรีย, มากราโด…… มันจะไม่ปรกติที่พวกเขาเชื่อใจประเทศที่ทำลายชาติเหล่านั้น」

「พูดถึงแล้ว อะไรที่พี่หมายถึงอะไรที่ข้อมูลส่วนตัว?」

「มันไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาโจมตีด้วยเจี๊ยวของเขาและให้เธอคายอะไรที่เธอรู้เหรอ?」

นนน่าและคาร์ล่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่แหล่งข้อมูลของผมคือ ความลับ

「ถ้าพวกเขาไม่เชื่อใจโกลโดเนีย ถ้าอย่างนั้นทำไมพวกเขาเข้าหาและปรึกษาอะไรๆสำคัญเช่นนี้?」

ซีเลียเอียกของเธอเธอ ท่านั้นเห็นแล้วอดใจไม่ไหว

อย่างที่ผมคิด ซีเลียนั้นยอดเยี่ยมที่สุด ให้ผมได้ถูตูดเธอ

「ผมเห็นอะไรที่พวกเขาคิดคร่าวๆ น่าจะมีสามอำนาจใหญ่สู้กันเองแทนที่จะเป็นสอง ควรมีเล่ห์กลบางอย่าง」

「ฉันจะปล่อยการตรวจจับโกหกให้กับนาย ถ้าพวกเขาพยายามหลอกเรา เราแค่ต้องเอาฉนะพวกเขาด้วยความคิด」

ผมไม่มีความแค้นกับลิบาติสและผมไม่มีเจตนาสู้พวกเขา แต่พวกเขาไม่ใช่มิตรของผมด้วยตรงๆเหมือนกัน

แต่เลขานั้นอร่อยดังนั้นผมจะชอบถ้าพวกเขาเป็นมิตร

ลีโอโพลต์ลดหัวอย่างเงียบๆ

ซีเลียพยักหน้าพร้อมด้วยสีหน้าจริงจัง แม้ว่าผู้หญิงอื่นที่เหลือหัวเราะคิกคัก

มือผมจับตูดเธออย่าอิสระดังนั้นมันค่อนข้างเป็นภาพที่ตลงแม้ว่าเธอมีสีหน้าจริงจังบนหน้าตาของเธอ

「ให้ตายเถอะ! หนูกำลังพูเกี่ยวกับบางอย่างจริงจัง」

「จากข้อมูลอีกอย่างอย่างจะแหล่งส่วนตัว ทูตนั้นที่ถูกเรียกว่าจูโน่ก็ไปที่เมืองหลวงโกลโดเนียด้วย เห็นว่า เขาคุยกับราชาและเคนเน็ธ แต่ไม่มีผลลัพธ์ที่มั่นคงนอกจากยืนยันความสัมพันธ์ฉันมิตร รายละเอียดถูกตัดสินโดยจูโน่เองดังนั้นฉันแน่ใจไม่ได้ แต่…… ทำไมเขามาหาฉัน?」

มันเพราะผมอยู่ใกล้หรือ?

「แน่นอนระยะทางเป็นหนึ่งในปัจจัย ลอร์ดศักดินาที่อยู่ไกลจากตรงกลางมีความรู้สึกว่าอิสระ ดังนั้นเขาอาจทำอย่างนั้นโดยไม่ได้กังวลมากมายว่าเมืองหลวงคิดอะไร? ชาติของเรามีระบบการเมืองค่อนข้างต่างจากพวกเขา ดังนั้นเขาอาจทำการค้นคว้ามาแล้ว รองรัฐมนตรีนี่อาจเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม」

มันหาอยากที่ลีโอโพลต์จะรับรู้ถึงบางคน

แง่มุมน่าสนใจเหล่านี้ของสถานการณ์ทำให้ผมยิ้มมุมปาก

「หรือเขาอาจคิดว่ามาทีมกับลอร์ดฮาร์ดเล็ตนั้นง่ายที่สุด? เพราะทั้งหมด ไม่มีข่าวลือเกี่ยวกับความฉลาดของเขาเลย」

「……」

แน่นอนว่าคนนี้กำลังล้อเล่นกับผมอยู่

วันหนึ่ง ผมจะทำให้คนนี้คุกเข่าคำนับต่อความฉลาดของผม

「นั่นทำให้ฉันนึกออก เกิดอะไรขึ้นกับอดอล์ฟ?」   

ทริสตันไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกันเพราะเขาออกเดินทาง

「มันดูเหมือนอดอล์ฟรู้สึกไม่ดีดังนั้นเขากลับไปที่ห้องของเขาก่อนเที่ยง」   

อืมเขาตื่นขึ้นเช้ามากๆ รับมืออะไรๆเหมือนแผนการแจกจ่ายน้ำทั่วทั้งเมืองจากสะพานน้ำ, ตรวจการปลูกผักสำหรับการเก็บเกี่ยวฤดูหนาวสำหรับดินแดนของเรา, และหลังจากนั้นทำการเจรจาอย่างเร่าร้นกับแคร์เกี่ยวกับการค้าขายกับลิบาติส

มากกว่านั้น เรารวมนักเรียนและมอบการสอนให้พวกเเขาก่อนที่ในที่สุดจะล้มไป

「เขาทำงานหนักเกินไป เขาสบายๆกว่านี้ได้」   

ลีโอโพลต์และซีเลียจ้องอย่างแปลกประหลาด

ทำไมพวกเธอมองดูผมแบบนั้น?

「ซึ่งหมายถึง เขาจะต้องการรักษา ฉันจะจัดหาโสเภณีสองหรือสาม-……」   

「ได้โปรดอย่าททำ หนูคิดว่ามันดีที่สุดที่จะแค่ให้เขานอน」   

ซีเลียแทรกผมอย่างไม่ปรกติ

「แต่การนอนกับผู้หญิงทำให้ความเหนื่อยพี่บินหายไป」   

「มันไร้ความหมายที่จะใช้มาตรฐานของลอร์ดฮาร์ดเลตต์เพ่อวัดมนุษย์」   

ผมกำลังจะตบรางวัลเขาที่บริการอย่างภักดีด้วย

ไม่มีคนมากผู้มาแทนเขาได้

โพลเต้นั้นมีทักษะมากกว่านักเรียนผู้กำลังฝึก แต่…… ผมจะคิดว่าเธอจะแพ้ในเหตุการณ์ที่เธอโต้แย้งกับแคร์

「หนูก็อยู่ที่นี่ด้วย!!」   

ซีเลียมีความรู้แต่เธอชอบสู้ขาดใจเมื่อเข้าหาคน ซึ่งมันทำให้ยากสำหรับคนอื่นๆ

ถ้าผมต้องพูด มันเพราะความคิดของเธอเอนเอียงไปทางฝั่งทหารของอะไรๆมากกว่า

ลีโอโพลต์นั้นไม่ต้องถามเลย

ไม่มีใครเทียบเขาได้เมื่อมันเป็นเรื่องทำให้คนอารมณ์เสีย

ในอนาคตอันใกล้ ผมจำเป็นต้องคิดวิธีช่วยอดอล์ฟ

「โอ้ใช่ อีกอย่างหนึ่งฉันคิดว่าาฉันจะได้รับการเชิญไปสู่เมืองหลวงของลิบาติสไม่นานนี้ ถ้าฉันจำไม่ผิด ชื่อของมันคือทอร์โทนท์」   

เพราะเคยผ่านชาติประชาธิปไตยนานมากแล้ว ผมจำไม่ได้ว่าดูทั่วเมืองหลวง ดังนั้นผมรอคอยมันเล็กน้อย

เมื่อผมพิงโซฟาและดื่มชาของผม ผมรู้สึกบางอย่างนุ่มๆข้างผม

ผมดูและเห็นหน้าอกนนน่ากำลังดันใส่ผม

「สำหรับการเดินทางไปข้างนอกนี้ อย่างเป็นธรรมชาติว่าหนู ภรรยาที่ถูกกฎหมาย จะไปด้วยกับพี่」   

「หนูก็อยากจะเดินทางกับเอเกอร์ด้วย! พี่ทิ้งหนูไว้ข้างหลังครั้งที่แล้ว」   

คาร์ล่าก็อยู่ที่เข่าของผม

มิตี้, มาเรีย, และแคทเธอรีนทั้งหมดมองดูผมเหมือนขอผมด้วยเหมือนกัน

พวกเธอพึมพำบางอย่างเกี่ยวกับการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์…… แค่ดังพอที่ให้ผมได้ยิน

「อืม หนูจะปกป้องคฤหาสน์นี้」   

เมลกอดคุและรุ

เธอกระซิบบางอย่างแต่ผมยังคงได้ยินโดยไม่ต้องมีหูดี

「เธอสองคนควรไปกับเขาและท้อง ถ้าเเธอไม่ทำมันเร็วๆนี้ มิตี้ซังจะแซงหน้าลูก ลูกทั้งสองคนเป็นลูกสาวของแม่ดังนั้นมันควรง่ายที่จะท้อง…… และเมื่อหนูทำมันในท่ามิชชันนารี รัดขาให้แน่นๆระหว่างช่วงเวลาสุดท้าย!」   

「หนูก็อยากไปด้วย…… ถ้าหนูได้เห็นอะไรๆต่างๆ หนูอาจเดินหน้ากับบทละครของหนู」   

「หนูไม่อยากจะถูกแยกกันจากนายท่านด้วยเหมือนกัน」   

「หนูอยากไปด้วย มันรู้สึกเหมือนตัวตนหนูจางลงและจางลงหลังๆ」   

โยกุริ, ลีอาห์, และมมิเรลอยากมาด้วย

มันดูิเหมือนนี่จะเป็นปัญหาใให้ญ

「ม-ไม่ใช่พี่จะถูกล้อมโดยผู้หญิงเหรอ? ฝ่ายคู่ต่อสู้จะคิดว่าพี่ไร้สาระ」   

ไมล่าขึ้นเสียงของเธอในความไม่เห็นด้วยแต่ลีโอโพลต์สนับสนุนผมอย่างคาดไม่ถึง

「ไม่ มันดีกว่าที่จะเดินไปทั่วพร้อมสาวมากมายและให้พวกเขาคิดว่าเขาเป็นคนโง่ ฝ่ายอื่นควรชวนลอร์ดฮาร์ดเลตต์เพื่อลองเชิงตั้งแต่แรก ที่จุดนี้ มันสะดวกมากกว่าที่จะให้พวกเขาคิดว่้าเขาเป็นสัตว์ป่าติดเซ็กส์ผู้ถูกควบคุมโดยความต้องการของท่อนล่าง」   

ผมสามารถเห็นเหตุผลหลังคำพูดของเขา แต่มันทำให้ผมรำคาญฉิบหาย

ไม่ว่าอย่างไรนี่จะะเป็นการการเดินทางเล็กๆในวันที่จะมาถึง

เมื่อทุกคนเอะอะ เลขาหญิงเดินมาอย่างไม่มั่นคง อะไรที่เราพูดเมื่อกี้เป็นความลับกับเธอ

「อออุ่…… อรุณสวัสดิ์」   

「อรุณสวัสดิ์ เธอรู้สึกดีขึ้นมั้ย?」   

นนน่าใส่หน้ากากเป็นเมียถูกกฎหมายอย่างเร็งและทักทางด้วยความสง่างามของเธอ

จริงๆแล้วมันทำให้เลขาเริ่มรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

นนน่ารู้เกี่ยวกับทุกอย่างแล้วและผมไม่คิดว่าเธอสนใจเกี่ยวกับมันมากเกินไป

「โฮ๊ะโฮ๊ะโฮ่ เธอใช้แรงกายไปค่อนข้างนิดหน่อย ไม่ใช่เหรอ สะโพกเธอรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?」   

ไม่ มันดูเหมือนเธอสนใจนิดหน่อย

อย่างคาด มันกระอักกระอ่วน ผมจะพาเธอเดินไปที่ทางเข้า

「ออุ…… ขอบคุณมากๆเลย」   

「อย่ากังวล เพราะทั้งหมดพี่เป็นคนที่เข้าหาเธอ」   

เลขาถูแหวนบนนิ้วของเธอและพึมพำบางอย่างขณะหน้าเธอแดง

「ตอนนี้ที่ความสัมพันธ์นั้นเป็นแบบ ‘นั้น’ เธอไม่จำเป็นต้องใช้คำให้เกียตรอีกแล้ว ได้โปรดเรียกพี่ดด้วยชื่อ」   

「ถ้าอย่างนั้นอย่าถือกันนะคะ…… เลขา…… มัน…… เอ่อ…… ฮ่าา ฮ่าา ฮ่าา」   

ตาผู้หญิงหรี่ลงในพริบตาเมื่อผมพยายามหลอกเธอ และอะไรต่อไปที่ผมได้รับรู้ คือการกระแทกเข้าแก้มของผม

อืม มันเป็นฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้นมันอาจไม่แย่ที่จะเดินด้วยหน้าที่สีเดียวกับใบไม้

 

 

 –มุมมองบุคคลที่สาม–

หนึ่งเดือนก่อน สหพันธรัฐ: ภูมิภาคทิศตะวันตก กลุ่มรุกรานกองทัพจักรวรรดิ

ฐาน

「น่าผู้นำเซพเนส กองทัพของนายพลรูเกอร์ได้อ้อมจากฝั่งในดินแดนสู่แถวป้องกันของศักตู เขาเพิ่มการโจมตีข้างกองทัพสหพันธรัฐ」   

แซพเนสยิ้มอย่างพอใมจระหว่างนั่งบนเก้าอี้หรูหราไม่ไม่สมเป็นสำหรับสนามรบ

「เรามีความท่วมเหนือกว่าในเรื่องของจำนวน ถ้าเราพยายามอ้อมและล้อมศัตรูแทนเข้าาจากข้างหน้า พวกเขาไม่มีทางหยุดเรา พวกเขาทำได้แค่ถอยทัพ」   

ตั้งแต่การปะทะใหญ่บนที่ราบทิศตะวันตก แซพเนสเปลี่ยนแผนอย่างสมบูรณ์และเลี่ยงการโจมตีซึ่งหน้ากับแถวป้องกันสหพันธรัฐ

กลยุทธ์ของเเขาเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวสูด้านข้างตลอด ซึ่งหมายถึงกองทัพสหพันธรัฐที่จำนวนด้อยกว่าไม่มีทางเลือกนอกจากจะถอยทัพ

แถวต่อสู้บางครั้งยืดออกไปแนวนอนเพื่อเลี่ยงการถูกล้อม และเมื่อนั่นเกิดขึ้น แซพเสจะแค่สั่งทาสทหารโจมตีแถวที่บางลงอย่างดุร้ายตรงๆและฝ่าแนวหน้า

「ฉันต้องขอบคุณเซกริต เราไมม่ได้หิวเพราะกองเรือของเธอ ฉันคิดว่าเราจะเสียสละทาสทหารมากขึ้นเพื่อลดจำนวนปากที่ต้องป้อน」   

「กองเรือหัวหน้าผู้บัญชาการเซกริตและหน่วยลงพื้นจะจับจังหวะโตมตีกับตอนเราเดินหน้าเพื่อยึดเมืองท่า ตอนนี้ไม่มีปัญหากับเสบียง」   

「ถูกต้องที่สุด ไม่ต้องพูดถึงว่าผนึกเส้นทางทะเลหมายถึงสหพันธรัฐจะต้องพึ่งพารถเกวียนเพื่อเติมเสบียงอย่างเดียว」   

สหพันธรัฐอาจจำนวนน้อยกว่า แต่พวกเขายังมีใกล้กับทหาร 1 ล้านคนทีร่เคลื่อนทัพ

การต้องขนส่งอาหารและน้ำรายวันจะกลายเป็นภาระมหาศาล

「แม้ว่าพวกเเขาน่าจะหยุดถอยกลับ」   

มันพูดได้ว่ากองทัพจักรวรรดิที่นำโดยแซพเนสเดินหน้าไปอย่างมั่นคง แต่พวกเขาไม่ได้จุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ระหว่าทางที่นี่จากที่ราบทิศตะวันตก

ถ้ากองทัพสหพันธรัฐตัดสัมพันธ์กับหมู่บ้านทำนาและเมืองเล็กกว่า พวกเขาก็ถอยโดยไม่ลังเลได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม มีเมืองใหญ่และป้อมปราการเรียงลายอยู่ตามข้างแม่น้ำเทียรี่เหนือ

มันไม่เรียบง่ายที่จะทิ้งดินแดนมีค่าไป

「มันกำลังจะได้เวลาแล้ว…… พวกเขาอาจมาแล้วตอนนี้」   

ดั่งยืนยันคำพูดเหล่านั้น สามารถได้ยินผู้ส่งสาส์นตะโกน

สาส์นด่วนจากนายพลเซอร์เรส! มีการโจมตีหนักจากหน่วยศักตรูที่เน้นไปทางทหารม้า เขาร้องขอกำลังเสริมจากกองทัพหลัก!

เจ้าหน้าที่ระดับสูงเดินไปทั่วในท่าทางรีบๆ แต่รอยยิ้มบนหน้าแซพเนสไม่ได้หายไป

 

 

การต่อสู้บนที่ราบฮาร์โก

「กองทัพศัตรูไม่ได้ดูเหมือนระวังตตตัว ถ้าเราจะทำมัน ตอนนี้คือเวลา」   

บนที่ราบฮาร์โกที่รู้สึกลมของทะเลได้ ผู้บัญชาการเบรอฟและทหารม้าของสหพันธรัฐ 15 000 คนซ่อนข้างหลังเนินเขาบางแห่งในบิเวณ

「มีหมูจักรวรรดิเหล่านั้นอยู่มากเท่าไหร่?」   

「ทหารทาส 20 000 คนและ 60 000 คนจากกองทัพหลักข้างหลังเขา」   

ศัตรูมีจำนวนมากกว่าเขามากกว่าห้าเท่า กระนั้นเบรอฟยิ้มอย่างไร้ความกลัว

「ได้เลย มาทำมันเถอะ รอจนกว่าพวกเขาเข้าใกล้เนินเขา เราจะใช้แรงส่งจากการวิ่งลงเขาด้วย」   

「ในท้ายที่สุด ทั้งหมดที่เราทำเท่าที่ผ่านมาคือถอยทัพ…… ผู้บัญชาการกัลเชนโก้คิดอะไร?」   

「……」   

เบรอฟไม่ได้ปฏิเสธหรือเห็นด้วยกับคำพูดเหล่าลูกน้องของเขา

เมื่อมองดูภาพใหญ่กว่า มันเป็นททางเลือกที่ฉลาดกว่าถูกล้อม

อย่างไรก็ตาม มันช่วยไม่ได้ที่ทหารที่กำลังสู่อยู่ในพื้นที่และกัปตันเห็นว่ามันเป็นการเคลื่อนไหวที่ขึ้ขลาด

อะไรที่พวกเขาต้องการคือชัยชนะอย่างแรกและมากที่สุด ไม่ว่าแผนจะเป็นอะไร

「มันไม่สำคัญว่านายเห็นจุดผิดในแผนท่านผู้นำกัลเช็นโก้ ทั้งหมดที่เราต้องทำคือทำลายศัตรูตรงหน้าเรา มาแสดงความแข็งแกร่งให้พวกหมูจักรวรรดินั่นเห็นเถอะ」   

「「「โอออ้!」」」   

เหล่าทหารทำให้ม้าของพวกเขาสงบและทำให้แน่ใจว่าไม่มีพวกเมันสักตัวร้องออกมาขณะซ่อนอยู่หลังเนินเขา

พวกเขามีการฝึกมากขนาดนั้นเพื่อสามารถทำได้

เมื่อแนวหน้าจักรวรรดิเข้าหาเนินเขา เบรอฟตะโกนดังที่สุดเท่าที่เขาทำได้และมีเสียงทรัมเป็ตมากหลังจากนั้น

「บุกกกกกกกกกกกกก–!!」   

ทหารม้า 10 000 คนขึ้นเขาอย่างดุร้ายในแถวเดียว

เกือกม้ามากมายเหยียบย่ำเนินเขาเขียว เปลี่ยนต้นไม้ี่ยังเขียวจากร่องรอยฤดูร้อนที่ยังเหลือสู่สีน้ำตาล

「ศัตรูโจมตี—!!! ส่งพลหอกออกไป—!!」   

ผู้บัญชากรกองทัพจักรวรรดิตะโกนอย่างสิ้นหวัง แต่ไม่สามารถทำมันได้ทันเวลาเนื่องจากระยะใกล้และความไม่ระวังของพวกเขา

ทหาราม้าของเบรอฟใช้แรงส่งจากการวิ่งลงเนินเขาและบุกตรงสู่กองทัพจักรวรรด ยังอยู่ที่ขบวนแถวเดินทัพ

「เบี่ยงการโจมตีข้างหน้าด้วยเกือกม้า! ฟันศัตรูทางฝั่งขวาให้ตาย!」   

ทุกคนชักดาบยาวเบาที่ทำเฉพาะสู้บนหลังม้า

「สร้างขบวนแถวใหม่! สร้างกำแพงด้วยหอ-…… กิ่ย้าา!」   

ทหารม้าเดินหน้าต่อไปในการวิ่งเต็มตีโดยไม่ลังเล ปิดระยะกองทัพหลักของจักรวรรดิระหว่างตีทหารททาสในแนวหน้า

「แถวพลหอก เตรียมพร้อม!」   

อย่างไรก็ตาม กองทัพหักของจักรวรรดิไม่วิตกกังวลอย่างที่คาด

ขณะทหารทาสถูกตีแตกพ่ย ทหารกองทัพหลักจัดแถวการต่อสู้และตั้งกำแพงหอก

「ทำมันเหมือนที่นายฝึกมา」   

「แสดงให้พวกมันเห็นถึงพลังของเรา」   

ทหารม้าสหพันธรัฐไม่ได้หวั่นไหวแม้ว่าหลังจากเห็นแถวหอกหนาแน่น

พวกเขาเก็บดาบและเปลี่ยนเป็นปืนธูที่ใส่ลูกแล้วระหว่างพุ่งเข้าตีบนม้า

ปืนธนูเหล่านี้เล็กกว่าปรกกติ เน้นกับการถือง่ายมากกว่าระยะและพลัง

「ยิง!」   

ลูกดอกบินทั้งหมดทีเดียวและพลหอกล้มตามๆกันทีละคน

ขบวนแถวที่ตีไม่เข้าเริ่มแตกที่รอยเชื่อมของมัน

「บุกเข้าไป!」   

หลังจากปล่อยลูกดอกบนปืนธนูของพวกเขา ทหารม้าทิ้งอาวุธและใส่ดาบใหม่ขณะพุ่งเข้าตีเข้าไปข้างใน

จักรวรรดิไม่มีเวลาพอเพื่อจัดขบวนแถวใหม่

ทหารม้าไม่มากมายถูกแทงโดยหอกและหล่นลงสู่พื้นดิน แต่ไกลจากฝ่าแถวป้องกัน

「อย่าแตกแถว! เอออ้ ทำอะอะไรก็ได้! แค่สู้ สู้จนกว่านายตาย」   

คำสั่งจากผู้บัญชาการกองทัพจักรวรรดิเริ่มเป็นการตะตะโกนไร้ความหมาย

แถวการต่อสู้แตก ระเบียบทั้งหมดหายไป และทหารตกไปสู้สภาพตื่นตกใจ

ผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นจากจักรวรรดิฝ่ายเดียว

「เอออ้ นายทำอะไรอยู่!? ก่อนออื่น รวมกลุ่มใหม่ที่นี่และส่งผู้สงสาส์นร้องขอกำลังเสริมจากกองทัพหลัก」   

หนึ่งในทหารปรากฏขึ้นหลังรอจนเหนื่อย แต่งกายไปด้วยเสื้อผ้าที่ยอดเยี่ยมต่างจากหน่วยอื่นรอบๆเขา คนนั้นคือนายพลเซอร์เรส ผู้บัญชาการผู้รวมกองทัพให้เป็นหนึ่ง

「ใจเย็น! พวกเขาไม่มีกองกำลังใหญ่ เราหยุดพวกเขาได้ตราบใดที่เราส้รางแถวใหม่ เมื่อพวกเขาหยุด……」   

การคำรามสงแห่งสงครามสะท้อนก่อนเซอร์เรสพูดจบได้

จำนวนของทหารม้าภายใต้เบรอฟมีทั้งหมด 15 000 คน แบ่งสู่ 10 000 คนที่เข้าร่วมการโจมตีไม่นานมานี้และ 5000 คนที่ทำการอ้อมรอบเนินเขา

「พ-พวกเขาอ้อมด้านข้างของเรา! นายพล ขอคำสั่งครับ!!」   

มันเริ่มด้วยการซุ่มโจมตีกระทันหัน แบะเมื่อกองทัพเพิ่งกำลังจะจัดระเบียบขบวนแถวไหม อีกการโจมตีมาจากด้านข้าง

นี่ควรเป็นสถานการณ์ที่ก่อให้กองทัพแตกทั้งหมดแล้ว

「นี่โชคร้ายสำหรับเรา! เราต้องถอยทัพอย่างช้าๆในขยวนแถวกล่องระหว่ารอกำลังเสริมมาถึง!」   

เซอร์เรสพยายามสนับสนุนกองทัพที่กำลังแตกโดยการขึ้นเสีนง

อย่างไรก็ตาม ร่างแต่งตัวไม่ธรรมดาผู้บัญชาการดูเหมือนผู้กล้าและยืนเด่นเกินไป

「ถ้าเราถอยทัพไปที่ทะเล เราก็ได้การสนับสนุนจากกองเรือ…… กุ่กก่ะ!」   

เสียงคมของบางอย่างทำการกระแทกสามารถถูกได้ยิน

ทหารม้าหนึ่งคนจากกองทัพสหพันธรัฐ ซึ่งมาไกลถึงฐานผ่านมาและตัดหัวเซอร์เรสออก

「นายพล ท่านผู้นำ–!!」  「นายพลเซอร์เรสถูกฆ่า!」

「มันทั้งหมดจบแล้ว วิ่งหนนนนนี—!!」   

การต่อสู้จบแล้ว ณ จุดนี้

อะไรที่จะตามมาจะเป็นการเปลี่ยนจากการต่อสู้เป็นการวิ่งไล่ และจากนั้นสังหารหมู่ฝ่ายเดียว

 

 

ในทะเล เรือธงกองเรื่อจักรวรรดิ: เลวีอาธาน

กองเรือจักรวรรดิที่นำโดยเซกริตมุ่งหน้าไปเหนือบนทะเลว่างเปล่า บนเลวีอาธาน เรือธงของกองเรือนั้น คือห้องผู้บังคับการกองเรอ ห้องที่เตรียมสำหรับเธอซึ่งใช้ใช้พื้นที่ไปจำนวนมากแล้วของในเรือที่พื้นที่มีจำกักด ทำให้มันเทียบไม่ได้กับห้องกัปตันปรกติ

ขนาดของเลวีอาธานก็ไม่อยู่ในสามัญสำนึกด้วย

ด้วยความยาวเกิน 100 ม. เรือมโหฬารทำตัวเองอยู่แยกกับในฐานะเรือที่ใหญ่ทที่สุดในกองเรืออจักรวรรดิอื่น

นอกจากตัวกระแทกที่เฉพาะสำหรับเรือ มีปืนใหญ่เล็กและใหญ่เรียงกันอยู่ในดาดฟ้าเรือหลายชั้น

เกราะเรือและการป้องกันต่างๆนาๆนั้นและแม้แต่ที่ระดับน้ำตื้น แลละคือเรือประเภทใหญ่สุดที่ไม่มีใครเทียบ ไม่มีใครคัดค้านที่จะเรียกมันว่าป้อมปราการบนทะเล

เรือดั่งสัตว์ประหลาดนี่ที่ผู้หญิงอยู่บนเรือนั้นเพิ่งอาละวาดและส่งเรือห้าลำสู้พื้นทะเลในศึกทางน้ำก่อนหน้า

「ท่านผู้นำเซกริต เมืองซิวเบิลปฏิเสธคำแนะนำยอมแแพ้」   

「เข้าใจแล้ว」   

สีหน้าซีกริตยังคงไม่เปลี่ยนขณะเธอตอบเหมือนหุ่นยนต์

ผู้ส่งสาส์นเลี่ยงสายตาอย่างอึดอัด

ต้นเหตุของสีหน้าของเขาเป็นชายหนุ่มที่ยองลงบนพื้นที่เท้าของเธอ เลียผู้หญิงผิวเข้มจากต้นขาสู่อวัยวะเพศของเธอ

「ท่านผู้นำ…… ท่านผู้นำที่รักของผม……」   

ซิกริตมองลงที่ชายผู้พูดเบาๆระหว่างทำการเล้าโลมต่อ

จากนั้นเธอง้างเท้าและเตะหน้าผู้ชายโดยไม่ลังเล

「อั่กกก」   

ชายกระเด็นไปหัวฟาดกำแพงด้วยความแข็งแกร่งจำนวนที่จินตนาการไม่ได้จากร่างกายผอมเพรียวของเธอ และจากนั้นเขาล้มลงไปบนพื้นหัวทิ่ม

「แกไม่มีตาหรือหูเหรอ? ปล่อยฉันไปได้แล้วไอ้โง่」   

ผู้ชาย ผู้หัวเลือดไหลไม่ได้แม้แต่ชำเลืองซีกริตและรีไปบนดานฟ้าหลังจากใส่แจ็คเก็ต

ขณะผู้หญิงไต่บันได เธอบอกลูกน้องเธออย่างสบายๆแต่ห้วนๆ

「ฉันไม่ต้องการเขาเหมือนกัน โยนเขาไปในทะเล」   

「รับทราบ ท่านผู้นำ」   

 

 

เหล่าลูกน้องผู้หญิงรวมกันบนดาดฟ้าและมองเมองซิวเบิลอย่างตั้งใใจ

พวกเขาทั้งหมดกำลังรอการตัดสินใจของเธอโดยไม่ต้องสงสัย

「ถ้าพวกเขาไม่ยอมแพ้ ถ้าอย่างนั้นเผามันทั้งหมดลง ตราบใดทที่ท่าเรือไม่ถูกแตะต้อง เราขนส่งเสบียงได้」   

「พวกเขามีปืนใหญ่หลายกระบอกเรียงกันอยู่ที่ท่าเรือ มันดูเหมือนพวกเขามีเจตนาสู้กับเรา」   

ซีกริตจ้องชายผู้พูดเรื่องที่ชัดเจนด้วยดวงตาเป็นเอกลักษณ์ขของเธอเหล่านั้น

ไหล่ผู้ชายสั่นไหวและเขาหดตัวในความกลัว

มันจะไม่เป็นอะไรถ้าเราใช้เต่าเหมือนเคยๆ

เรือที่ดูเชื่องช้าผ่านข้างเลวีอาธาน

เรือแบนเหมือนเต่าไม่มีใบเรือและเคลื่องที่อย่างไม่น่าดึงดูดจเหมือนมันใช้พายเพื่อดิ้นๆไป

มันตรงกันข้ามอย่างยิ่งใหญ่กับรูปลักษณ์ที่เกก็บงานมาดีขนาดยักษ์ของป้อมปราการในท้องทะเล เลวีอาธาน

「พวกเขาไม่น่าดูเหมือนอย่างเคย」   

「หน้าตาไม่สำคัญถ้าพวกเขาฆ่าศัตรู พวกเขามีประโยชน์มากกว่าพวกโง่ไร้ความสามารถ」   

เมื่อเซกริตจ้องเหล่าลูกน้องผู้พยายามทำให้ห้วงอารมณ์ดีขึ้น ฟันของเขาเริ่มสั่นกระทบกัน

ทุกคนรู้ว่าาเธอไม่ได้มีความรักกับไม่ว่าลูกน้องคนไหนๆมากและมันแค่ใช้การพลาดที่เดียวเท่านั้นเพื่อโดนแขวนคอในดาดฟ้าเรือ

เรือเต่าที่แหวกว่ายไปข้างหน้าอย่างช้าๆไม่มีปืนใหญ่อยู่ด้านข้างท้องเรือเหมือนเรือออื่นในกองเรือ

แม้พูดนั่น ไม่มีพื้นที่เข้าถึงได้ข้างในเรือดังนั้นมันถูกใช้เป็นเรือขนส่งไม่ได้ด้วยเหมือนกัน

คุณสมบัติเดียวที่เรือมีคือปืนใหญ่ที่สูงเด่นตั้งอยู่ตรงกลางเรือ

ปืนใหญ่กระบอกเดียวนั้นขึ่อยู่บนยานที่ใหญ่มากกว่าอาวุธหลักของเลวีอาธาน

เรือระดมยิงเข้าหาเมืองซิวเบิลและโบกธงแดง

การเตรียมการเสร็จแล้ว

「เป้าาหมายคือปืนใหญ่เหล่านั้น กวาดพวกมันทิ้ง」   

ณ คำบัญชาการของเซกริต เสียงเหมือนสายฟ้าฟาดสั่นอากาศ

ลูกปืนใหญ่บินสูงในอากาศแต่ไม่ได้ทำการกระแทกทันที

หลังจากเวลาเพียงพอที่จะหายใจลึกๆหลายครั้ง ฝุ่นควันมากมายถูเห็นได้มาจากเมือง

การล้างของอาคารและหอคอยถูกเห็นได้ชัดกับคนเหล่านั้นในน้ำจากระยะไกลออกไปสมควรด้วย

ไม่นานนักหลังจากนั้น เพลิงจากออะไรที่ปรากฎเป็นไฟจากการทำลายล้างอันยิ่งใหญ่และควันดำเริ่มมตกแต่งฉาก

「โออ้ ช่างเป็นพลังที่น่ากลัว!」  「อย่างที่คาดกับเรือที่ถูกออกแบบโดยท่านผู้นำเซกริต!」   

หน้าผู้หญิงไม่ผ่อนจากการเยินยอของเหล่าลูกน้อง

「ไม่ว่าไอ้โง่คนไหนก็ระดมยิงเมืองกว้างเช่นนั้น ฉันสั่งให้นายเล็กปืนใหญ่ไปบนท่าเรือ ถ้าพวกเขายิงไม่โดยในอีกสามลูก เรียกกัปตันออกมาที่นี่」   

ซีกริตเมินความเงียบของรอบ้างเธอและมองดูเมืองที่ไม่นานก็จะถูกทำลายด้วยดวงตาเย็นยะเยือก

「เมืองสหพันธรัฐทั้งหมดควรถูกเผานั่นคือทั้งหมดที่ฉันสนใจ」   

แม้วาอากาศสงบ แรง จนไม่มีใครได้ยินการพูดเบาๆจากผู้หญิง

การป้องกันของเมืองนั้นถูกทำลายอย่างเร็วและปืนใหญ่ที่ตั้งอยู่บนท่าเรือถูกทำลายอย่างรวดเร็วจากการยิงระเบิดข้างนอกระยะยิงของพวกเขา

เมื่อเห็นนั่น กองเรือประชิดดระหยะและปล่อยการโจมตีไร้ปรานีของกองทัพ สนับสนุนโดยการระดมยิงด้วยเรือใกล้กับ 100 ลำ ทำให้ซิวเบิลถูกลดไปสูี่ความว่างเปล่าไปด้วยกันกับพลเมือง

 

 

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูใบไม้ร่วง

สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ เพื่อนของราชาแห่งอเลส

พลเมือง: 162,000  เมืองหลัก – ราเฟน: 24,000 ลินต์บลูม: 4000

 ครอบครัว: นนน่า (นนน่าผู้งดงาม), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย), เมล (ภรรยาน้อย), มิตี้ (ภรรยาน้อย), มาเรีย (ภรรยาน้อย), แคทเธอรีน (ภรรยาน้อย), คุ (คนรัก), รุ (คนรัก), มิเรล (อยู่), ลีอาห์ (คนรัก), เคซี่ (ผีหิว), ริต้า (หัวหน้าแม่บ้าน), โยกุริ (นักแต่งบทละคร), ปีปี้ (คนรัก), อลิส (สาวน้อยเวทมนตร์), มาร์เซลีน (คนรัก), ลูกสาว – สเตฟานี่ (คนรัก), บริดเจ็ต (คนรัก), เฟลิซี่ (คนรัก), เซบาสเตียน (พ่อบ้าน), โดโรเธีย (คนรัก ในเมืองหลวง), เมลิสซ่า (คนรัก ไปเมืองหลวง), อัลม่า (ไปเมืองหลวง)

ลูก: ซู, มิว, เอคาเทรีน่า, อมาต้า, อนาสตาเซีย (ลูกสาว); แอนโตนิโอ, คลอดด์, กิลบาร์ด, ไรเนอร์, บาร์โตโลม (ลูกชาย); โรส (ลูกสาวบุญธรรม)

ลูกน้อง: ซีเลีย (ผู้ช่วย), กิโด้ (หน่วยติดตามคุ้มกัน), ครอล ( ), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการ ), รูบี้, ไมล่า (เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย), โพลเต้ (ผู้จัดการฝึกหัด), เกรเทล (เรียนรู้กิจการภายใน), ลีโอโพลต์ (เจ้าหน้าที่ระดับสูง), อดอล์ฟ (ทำงานหนักเกินไป), ทริสตัน (เดินทางทำธุระระยะยาว), แคลร์ & ลอรี่ (แม้ค้าอย่างเป็นทางการ), ชวอร์ซ (ม้าลามก), ลิเลียน (ดาราหญิง)   

กองทัพ: 5500 คน

ทหารราบ: 3000, ทหารม้า: 1000, พลธนู: 1000, ทหารม้าธนู: 500

ปืนใหญ่: 19, ปืนใหญ่มาก: 10

สำรอง: 3000

หน่วยรักษาความปลอดภัย: 150

สินทรัพย์ 10 880 ทอง (แหวน -20) (เพิ่มบุคลากรหน่วยรักษาควาปลอดดภัย -100)

คู่นอน: 223, เด็กผู้เกิดแล้ว: 48

 

 

สหพันธรัฐ ปะทะ จักรวรรดิ – เทียบกองกำลังทหาร (บุคลากรจะเพิ่มขึ้นอยู่กับการเกณฑ์)

สหพันธรัฐโอลก้า

ความแข็งแกร่งกองทัพ – ปัจจุบัน: 900 000 เคลื่อนพลเต็มรูปแบบ: 2 650 000 เสียไป: 350 000 พลเมืองที่เป็นเหยื่อ: 200 000

จักรวรรดิการ์แลนด?

ความแข็งแกร่งกองทัพ – ปัจจุบัน: 2 700 000 เคลื่อนพลเต็มกำลัง: 3 100 000 สูญเสีย: 400 000 (ไม่รวมทหารทาส)

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu