บทที่ 52 ถอดออกเดี๋ยวนี้

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

ปณิดาแม้ไม่พอใจ แต่ไม่ได้พูดอะไร

ฐิติกานต์มองไปยังชุดที่ณัฐณิชาเพิ่งเปลี่ยนไปด้วยอาการเหม่อลอย แววตาค่อนข้างสับสน ผู้ชายสูงส่งคนนั้น……

ตนติดตามเขามาห้าปีแล้ว ห้าปีมานี้ไม่ว่าเรื่องอะไรก็เป็นเธอที่คอยดูแล แม้แต่การซื้อเสื้อผ้าหรือส่งอาหารก็เป็นเลขาอย่างเธอที่ดูแลให้ เธอคิดเสมอว่าตัวเองจะทำไปตลอด

แต่ณัฐณิชาคนนี้กลับโผล่มา!

เธอส่งอาหารให้ท่านประธานทุกวันก็ว่าแย่แล้ว ไม่อยากเชื่อว่ายังไปเดินห้างฯ ช้อปปิ้งกับท่านประธานอีก!

ความริษยาในจิตใจกัดกินแผดเผาเธออย่างบ้าคลั่งราวกับไฟบรรลัยกัลป์ แต่ฐิติกานต์ลืมไป ว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน การทำเรื่องแบบนี้มันปกติมาก ฐิติกานต์ส่งสายตาให้ปณิดา ปณิดาพยักหน้าทันที และแอบย่องออกไป

ณัฐณิชามองชุดสีฟ้าครามในมือตัวเอง รู้สึกว่ามันเจิดจ้ามาก ชุดที่หรูหราแบบนี้…ต้องแพงมากแค่ไหนกันนะ

มือขาวแขวนชุดไว้ เธอถอดเสื้อผ้าออก และสวมใส่ชุดอย่างระมัดระวัง

ขณะที่รูดซิป กลับพบว่า…เหมือนซิปจะเสีย?

“เลขาฐิติกานต์ เลขาฐิติกานต์ คุณอยู่ข้างนอกหรือเปล่า”

ณัฐณิชาตะโกนสองครั้ง แต่ข้างนอกไม่มีใครตอบ เธอเห็นเสื้อชีฟองสีขาวตัวเล็กอยู่ในห้องลองเสื้อ คงมีคนลืมทิ้งไว้ที่นี่ จึงใช้เสื้อตัวเล็กมาคลุมไหล่ตัวเอง แล้วเดินถือกระโปรงออกไป “เลขาฐิติกานต์ ซิปชุดนี้เหมือนว่าจะ…… ธราเทพ คุณมาได้ยังไง”

ณัฐณิชาที่กำลังหอบกระโปรง เพิ่งพูดจบก็เห็นธราเทพกำลังเดินเข้าประตูมา สีหน้าของเขาค่อนข้างแย่ ผู้ช่วยนรินทร์ที่ตามหลังธราเทพมาข้างหลังเมื่อเห็นเธอก็เผยสีหน้าประหลาดใจมากขึ้นมาทันที

ณัฐณิชามองไปยังทั้งสองอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ธราเทพย่างสามขุมไปหาเธอ สีหน้าแย่ถึงที่สุด “ใครให้คุณแตะต้องชุดนี้”

“ฮะ? ฉัน……”

“ถอดออก!” เส้นเลือดบนหน้าผากธราเทพเต้นตุบๆ แทบจะอดกลั้นอะไรบางอย่างอยู่ นัยน์ตาเขากำลังลุกไหม้ ณัฐณิชาเห็นธราเทพเป็นแบบนี้ครั้งแรก เธอกำลังจะอธิบาย ตัวของเธอก็ถูกธราเทพผลักเข้าไปในห้องลองเสื้อเสียก่อน “ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ทันที ถอดออกมา!!”

ณัฐณิชาชะงักไปครู่หนึ่ง ตัวของเธอถูกธราเทพผลักเข้าไปแล้ว คนไม่น้อยที่อยู่แถวนั้นต่างส่งสายตาประหลาดใจ แผ่นหลังของณัฐณิชากระแทกเข้าใส่ผนังห้องลองชุด จนน้ำตาแห่งความเจ็บปวดต้องร่วงหล่น

“ณัฐณิชา คุณคิดว่าตัวเองเป็นภรรยาของผมจริงๆ เหรอถึงได้กล้าแตะต้องสิ่งของทุกอย่าง”

ธราเทพพูดน้ำเสียงเย็นเยียบ

ดวงตาของเขาพ่นเปลวไฟ ดูเหมือนจะโกรธมาก การเคลื่อนไหวของมือก็ไม่ได้หยุด อันดับแรกคือถอดเสื้อคลุมตัวเล็กออกจากไหล่ของเธอ จากนั้นก็ยื่นมือไปเพื่อจะถอดชุดบนตัวเธอ ผิวขาวดั่งหยกเปลือยเปล่าสู้อากาศ ณัฐณิชาได้สติ จึงผลักเขาออกทันที

“ธราเทพ! คุณเชื่อไหมว่าฉันจะฟ้องคุณข้อหาอนาจาร!”

ณัฐณิชาเหมือนกระต่ายน้อยที่หวาดกลัว ถลึงตาจ้องดุดันใส่ธราเทพ

เธอเป็นคน เป็นคน!

ไม่ใช่สิ่งของที่ให้ใครมารังแกก็ได้!

“ผม……”

“ฉันถอดเองได้” ณัฐณิชาสูดหายใจเข้าลึก ขนตาสั่นเล็กน้อยอย่างสะเทือนใจ

ท่าทางของธราเทพน่ากลัวมาก และที่ยิ่งทำให้ณัฐณิชาเสียใจก็คือทัศนคติของเขา ในเวลานี้เธอรู้สึกแต่ความอับอายเหลือคณา ที่แท้ทุกอย่างที่ผ่านมาเป็นเท็จ เธอไร้เดียงสาเกินไป……