บทที่4ตอนที่15

เมื่อคาบเรียนเลิกเสียงระฆังดังขึ้นทุกคนต่างลุกออกจากที่นั่ง แม้ว่าระฆังจะยังคงดังอยู่แต่หลายๆคนก็เริ่มกลับบ้านกันแล้ว

ผมและมาร์เองก็ไปที่ทางเดินพร้อมกับแบกกระเป๋าไปด้วย

「นี่โนโซมุวันนี้ทำไรดี?」

「…………ทำอะไรยังงั้นเหรอ?」

「หลังเลิกเรียนจะเอาไง ถ้าไม่รังเกียจไปฝึกที่เขตนอกเมืองไหม?พวกไอริสเองก็จะไปด้วยไปมะ?」

「……อืม……」

มาร์ชวนผม แต่ว่าสิ่งที่ผมทำลงไปเมื่อคืนยังคงอยู่ในหัวผม ผมเลยค่อนข้างลังเลนิดหน่อย

ความจริงที่ว่าเคนมันทำอะไรลงไปบ้าง

หมอนั่นระเบิดความเกลียดชังที่มีต่อผมและความรักที่มีต่อลิซ่ามากเกินไปจากนั้นก็ปลอมตัวเป็น “ผม”

หลังจากนั้นผมก็ต้องทุกข์ทรมานเพราะสิ่งที่เคนทำไว้

เช่นเดียวกับความฝันสีเลือดที่เห็นเมื่อเช้านี้ พื้นดินต่างย้อมไปด้วยเลือดสีแดงฉาด และเครื่องในรวมทั้งอวัยวะของเหล่าสัตว์อสูรจำนวนมากที่ผมพรากชีวิตพวกมันไปเมื่อวาน มันยังคงฝังอยู่ในใจ

「เอ๊ะ!!」

และ”หมอนั่น”ก็พยายามจะบอกว่าผมน่ะเหมือนกับ “เขา”มันทำให้ผมยิ่งรู้สึกไม่สบายใจเข้าไปใหญ่ความขยะแขยงของคราบเลือดและกลิ่นเหม็นเน่าพยายามผลักดันให้ผม อ้วกออกมาแต่ผมก็กลั้นมันเอาไว้

「……โนโซมุไหวเปล่าเนี่ย? แปลกๆตั้งแต่เช้าแล้วนะ」

มาร์พูดด้วยท่าทางกังวล แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปและพยายามจะทำตัวตามปกติ และบอกปฏิเสธมาร์ว่าไม่เป็นไร ทันใดนั้นผมก็เห็นร่างของมันผู้นั้นตรงหน้าผม

「แล้วก็เคน สถานที่และเวลานัดพบล่ะ?」

「เจอกันที่สวนชูโอเวลาประมาณ 10 โมงเช้าเป็นไง?」

สิ่งที่ผมเห็นคือลิซ่าและเคนที่เดินคู่กัน

บางทีเธออาจจะสัญญากับเคนว่าจะไปเดทในวันหยุดพรุ่งนี้ เธอยิ้มอย่างมีความสุขและเคนเองก็ยิ้มอยู่ข้างๆเธอ

ตอนที่ผมเห็นมัน เปลวไฟที่สุมอยู่ในอกคู่ในมันก็เริ่มโหมกระหน่ำอีกครั้ง

ผมพยายามอดทนต่อตัวเองที่กำลังโกรธจัดด้วยการกำหมัดแน่นๆ แต่เปลวไฟที่เคยลุกโชนมันพยายามกลืนกินตัวตนของผมในชั่วพริบตาและพยายามระเบิดอารมณ์ออกไป

พวกเขาที่สังเกตเห็นผมก็พยายามแสดงสีหน้าที่ไร้อารมณ์ออกมา พยายามหลีกหน้าผม

「ชิ!!!」

สีหน้าของลิซ่าที่เห็นผมก็แข็งทื่อทันที เธอจ้องมองมาทางนี้ด้วยความเกลียดชัง แต่สำหรับผมตอนนี้มันไม่มีอะไรมากกว่า การที่จะทำให้ผมโกรธมากขึ้นไปอีก ผมพยายามระงับความโกรธนี่อย่างสุดชีวิต

ถึงกระนั้นผมก็ยังกัดฟันแน่นเพื่อไม่ให้ระเบิดความโกรธดั่งเช่นเมื่อวาน

เล็บที่จิกกัดเข้าไปในมืออย่างแน่นหนาและกัดเลือดเนื้อของผม ความเจ็บปวดทำให้เกิดเลือดเล็กๆน้อยๆบนฝ่ามือของผมที่กำลังทนกับความสิ้นหวัง

แต่ว่าเลือดนั่นเคนก็เห็นเข้า

(อึดอัดมาก!!)

…………ราวกับกำลังร่ำไห้。

เคนมันทำท่าทางร่ำไห้ภายด้านหลังของลิซ่า

การแสดงออกทางสีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไป แต่สายตาของเขาเหมือนกับที่ล้อเลียนผมเมื่อวาน

「!!!」

ทันทีที่เห็นมัน ความรู้สึกที่กำลังถูกซ่อมแซมอยู่ภายในก็พังทลายลง

คิ้วตั้ง เลิกคิ้วพร้อมๆกัน แก้มฉีกจนเห็นเขี้ยว

สายตาเกลียดชังของลิซ่ายังคงส่งตรงมาไม่หยุด และสีหน้าของลิซ่าก็เปลี่ยนไปเมื่อเห็นใบหน้าอันโกรธแค้นของผม

ผมพยายามที่จะควบคุมมันเอาไว้จนถึงที่สุด……。

「อาาา……」

ภาพสุดท้ายของเมื่อวานที่เห็นก็คือคอของไซคลอปส์ที่หลุดออกจากบ่าในวินาทีสุดท้าย

ตัวตนที่น่ารังเกียจนั่นมันกำลังจะกลับมาอีกครั้ง ผมพยายามอดกลั้นอย่างเต็มที่ และผมก็ต้องรีบละสายตาเพื่อไม่ให้บุคลิกด้านนั้นมันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง จนต้องหันหลังกลับ

「อะ เฮ้ยโนโซมุ!!」

「ขอโทษนะมาร์ แต่ว่าผมมีธุระนิดหน่อย……」

ผมเมินเสียงของมาร์และเริ่มเดินออกไป

แววตาของ “หมอนั่น”มันผุดขึ้นในใจผมอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากผมอยู่ที่นี่ต่อไป ผมต้องออกห่างจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

ขาที่ควรจะเดินอย่างปกติกลับเร็วขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและก่อนที่จะรู้ตัวก็ออกวิ่งเต็มกำลังแล้ว

ผมเลิกที่จะระงับความโกรธเอาไว้ ไม่อยากได้ยินอะไรอีกแล้ว และวิ่งต่อไปราวกับจะสลัดความรู้สึกเหล่านั้นให้หลุดลง

◇◆◇

ขณะที่ผมออกวิ่งต่อไป ก็กลับเข้ามาในป่าอีกครั้ง

พระอาทิตย์ที่ส่องแสงบนท้องฟ้ากำลังจะตกดินในหนึ่งชั่วโมง ท้องฟ้าจะกลายเป็นสีแดงสดยามพระอาทิตย์ตกดิน

เมื่อผมมาถึงที่นี่ ผมก็หอบหายใจอยู่พักหนึ่งและเมื่อควบคุมลมหายใจได้ ความเกลียดชังในตัวผมเองก็เริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

ผมพยายามทำตัวให้เหมือนปกติ แต่ก็ทำไม่ได้เลย

ต้องขอโทษมาร์และคนอื่นๆแต่พูดตามตรงตอนนี้ผมไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร และผมกลัวมากที่จะต้องอยู่กับทุกคนในสภาพเช่นนี้

ถึงกระนั้น ช่วงเวลาของวันก็สงบสติลงได้บ้าง

รู้อยู่แล้วละผมกำลังหนีความจริงอีกแล้ว นอกจากนี้ “หมอนั่น”ก็เป็นคนใจร้อนมากๆด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ผมต้องมีสติให้มากที่สุด ดังนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังกระท่อมของชิโนะที่ๆผมใช้ชีวิตอยู่อย่างยาวนานในอาร์คาซัม……。

「?มันแปลกๆนะ……」

สภาพของป่ามันแปลกไป ไม่มีร่องรอยของสัตว์อสูรเลย

สัตว์ธรรมดาก็ไม่เห็น

กระต่าย หนู นก มากมายหลายชนิด แม้จะแตกต่างกันออกไปแต่ตอนนี้ในป่ามันแปลกมากๆ ตามปกติจะรู้สึกถึงพวกมันได้บ้างแต่ตอนนี้สัมผัสไม่ได้เลย

「…………」

ประสบการณ์ที่สั่งสมมากำลังบอกว่าป่าเปลี่ยนแปลงไป จิตสำนึกตามธรรมชาติจะเตือนสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อตันเอง หัวใจของผมเต้นรัวเล็กน้อยเพื่อให้เตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ตลอดเวลา และเลือดเองก็ไหลเวียนอยู่ทั่วร่าง

เสียงถูไถของกิ่งไม้ปลิวไสวไปตามสายลมและเสียงอื่นๆนอกจากเสียงหัวใจของผม

ได้ยินอะไรบางอย่าง

「ชิ………。…………」

「…………งั้น…………、ข้างหลัง…………………」

จากนั้นก็ได้ยินเสียงของคนหลายคนผสมปนเปกันไป และก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน อย่างไรก็ตามผมไม่รู้ว่าพวกนั้นกำลังพูดว่าอะไร อยู่ไกลแค่ไหน

ผมไม่รู้ว่านี่มันเป็นสิ่งที่ทำให้ป่าผิดแปลกไปหรือเปล่า แต่ผมเองก็ชักดาบออกมาและเริ่มตามเสียงไป

「มิมุ……! ทางซ้าย…………หวาาา! มันล่อมา……!」

「บางที………! รุ……สนับสนุน…………………」

「อย่าพูดบ้าๆ……。มียารักษา………………」

หลังจากเดินมาได้สักพัก เสียงก็เริ่มดังขึ้นและแสงที่ส่องผ่านช่องว่างระหว่างต้นไม้ก็ค่อยๆมีมากขึ้น

ในเวลาเดียวกันก็เริ่มได้ยินเนื้อหาของการสนทนา แม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่เห็นได้ชัดว่ากำลังสู้กับสัตว์อสูรอยู่

เมื่อเดินต่อไปก็พบว่าต้นไม้รกรานถูกตัดออกและยิ่งไปกว่านั้นมันกลายเป็นพื้นที่เปิด

ผมซ่อนร่างกายตัวเองท่ามกลางพุ่มไม้ในเขตนั้น

「ผู้หญิงคนนั้นมัน…………」

ที่ตรงนั้นมีนักเรียนของสถาบันโซลมินาติสามคนกำลังต่อสู้กับก็อบลินสายพันธุ์ย่อย สิบตัว และในมือพวกมันต่างถืออาวุธ เช่น มีด ดาบ และกระบองเก่าๆ

ก็อบลินเป็นเผ่าพันธุ์กึ่งมนุษย์ที่พบเห็นได้ทั่วทวีป แต่พวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่ถูกจัดอยู่ในเผ่าเดียวกับเหล่าสัตว์อสูร เนื่องจากมีสติปัญญาต่ำและโจมตีมนุษย์ตามใจชอบ

สิ่งที่ดึงดูดสายตาของผมก็คือนักเรียนสามคนที่กำลังสู้อยู่ ชายหนุ่มตัวเล็กกำลังร่ายเวทย์ สาวน้อยเผ่าแมวป่าที่กำลังสู้กับก็อบลิน และสาวเอลฟ์ที่กำลังยิงธนูอยู่

「ซีน่า・จูเรียล……」

คนที่รักษาแผลให้ผมเมื่อวานนี้ แต่เขาก็โกรธมากเพราะสิ่งที่เธอพูดใส่กับผมจนเผลอปล่อยจิตสังหารออกไป

ทั้งสามคนกำลังเอาชนะก็อบลินทีละตัวด้วยการเคลื่อนไหวเป็นทีม

ในที่สุดทั้งสามก็จัดการก็อบลินจนหมด เนื่องจากผมเกือบจะเข้าไปช่วยทำให้พุ่มไม้มันสั่นเล็กน้อย

วินาทีนั้นเองก็มีลำแสงผ่านหน้าผมไป

◇◆◇

「จบกันเพียงเท่านี้ละ!」

มิมุรุใช้มีดฟันใส่เหล่าก็อบลินตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่และแทงมันลงไป

ซีน่ามองไปรอบๆเพื่อเช็คดูว่ามีก็อบลินเหลืออยู่ไหม แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีเหลือแล้ว

「หมดแล้วล่ะ ทอม แล้วรวบรวมของมาพอรึยัง?」

「อืม เดี๋ยวจะรีบไปเก็บนะ」

ทอมหยิบกระเป๋าสะพายไหล่

พวกเขาเก็บรวบรวมวัตถุดิบเสร็จแล้วและพบกับพวกก็อบลินระหว่างทางกลับเมือง

นั่นคือสิ่งที่”ฉันเจอ”

ไม่นานก่อนจะเกิดเรื่อง เมื่อสามคนกำลังรวบรวมวัตถุดิบและกำลังเดินมาถึงที่โล่งตรงนี้ ก็อบลินสิบตัวก็โผล่ออกมาจากพุ่มไม้

ในตอนแรกทั้งสามคิดว่าถูกซุ่มโจมตีแต่เป็นพวกก็อบลินเองที่ตกตะลึงกับการปรากฏตัวของทั้งสามอย่างกระทันหัน และหลังจากที่จ้องกันอยู่นานมันก็เริ่มโจมตี

แน่นอนสามคนที่โดนโจมตีก็ต้องสู้กลับ เป็นผลให้ก็อบลินทั้งหมดถูกจัดการ

「แต่ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่โจมตีเรา และดูเหมือนไม่ได้กำลังล่าเหยื่อเลย……」

ในขณะนั้นก็ได้ยินเสียงดังนิดหน่อย ซีน่าหยิบลูกธนูและยิงออกไปด้วยความรวดเร็วทางพุ่มไม้

ลูกธนูหายไปในพุ่มไม้ แต่เธอก็หันธนูไปยังจุดเดิมอีกครั้ง

「……ออกมาซะ ฉันรู้นะว่ามีคนอยู่ตรงนั้น」

หลังจากที่เธอส่งเสียงเช่นนั้น ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ แต่ไม่นานนัก โนโซมุ ก็ปรากฏตัวขึ้น

「……นาย!!」

ซีน่าที่ยืนยันภาพตรงหน้าก็ทำหน้าเกร็งทันที เสียงที่ฉันพูดออกไปก็ดูรุนแรงมากๆ

เป็นเรื่องจริงที่ว่าเธอค่อนข้างมีความสันพันธ์อันแสนละเอียดอ่อนกับเขา และฉันก็คิดถึงเรื่องเมื่อวาน แต่อารมณ์ของเธอก็ดิ่งลงเพราะเขาเข้าป่าด้วยตัวคนเดียว

「……เอ่ออ……หวัดดี……」

ในทางกลับกันโนโซมุมองมาทางนี้ด้วยท่าทีเขินอายเพราะเรื่องเมื่อคืนกับเมื่อเช้านี้

◇◆◇

「อืมมมมมม。งั้นนายก็คือ โนโซมุ・เบลาตี้~~。ก็เห็นอยู่หรอกนะเมื่อเช้า แต่เมื่อเช้าใบหน้าดูแย่มากเลยนะ~~」

「มิมุรุเองก็สบายดีสินะครับ……」

「…………………」

มิมุรุจ้องมองโนโซมุและทอมเองก็ได้แต่นิ่งเงียบ ซีน่ายืนกอดอกและจ้องมองโนโซมุ

เธอไม่พูดเพราะถ้าพูดเมื่อไรได้เทศยาวแน่ๆ เมื่อเธอพยายามจะพูดก็นึกถึงเรื่องเมื่อวาน

「…………ใบหน้าดูแย่มากเลยนะครับ」

โนโซมุกังวลเกี่ยวกับซีน่าแต่เธอก็พยายามหลบตา

「โนโซมุคุง……จะว่ายังไงดีล่ะ เข้าป่ามาคนเดียวเหรอ?」

「อืม ก็บางทีละนะ………」

「………………………………………………………」

ทอมถามโนโซมุแต่โนโซมุกังวลเกี่ยวกับซีน่ามากกว่าและตอบแบบคลุมเครือ

เมื่อโนโซมุเหลือบมองใบหน้าของเธอ ก็ดูท่าทางโกรธมาก

「อีกอย่างนะมีเรื่องจะถามหน่อย~~。ทำอะไรลงไปกับเจ้าหญิงเทพธิดาทมิฬงั้นเหรอ!」

「ก็บอกแล้วไงว่าอย่าน่ะ มิมุรุ」

มิมุรุพยายามถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างผมกับไอริสโดยไม่สนใจอารมณ์ของซีน่าเลย แต่ทอมเองก็ได้แต่ยอมแพ้กับท่าทางของเธอ

「อืมมมมมม~~! ก็อยากรู้น่ะสิทำไมเจ้าหญิงที่แสนสูงส่งดันมาสนใจผู้ชายต่ำต้อยเช่นนี้น่ะ~~。เน่!เดทกันอยู่รึเปล่าน่ะ!?」

「……เปล่าหรอก ไม่ได้เดทกันหรอกครับ…………」

「อืมมมม~~จริงเหรอ~~?แล้ว!!「มิมุรุ ถ้าเธอยังมัวแต่ทำตัวโง่ๆอยู่แบบนี้ฉันกลับแล้วนะ」อืออ~โอกาสดีก็จริง แต่น่าเบื่อจังเลยน้า~~」

อันที่จริงโนโซมุไม่ได้คบกับไอริส แต่ซีน่าเองก็ดุมิมุรุที่พยายามตื้อ อาจเป็นเพราะเธอไม่พอใจกับคำตอบของโนโซมุ

มิมุรุทำท่าทางไม่พอใจ แต่บรรยากาศก็บอกว่ายอมแพ้แล้วจ้า ซีน่าเองก็หยิบลูกธนูและถือคันธนูด้วยความตึงเครียด

「นั่นก็อีกเรื่องหนึ่งแต่ว่าจิตวิญญาณในป่ามันแปลกไป。……ดูท่าทางน่ากลัวมาก……ต้องรีบออกจากที่นี่โดยทันที」

ใบหน้าของทอมตึงเครียดขึ้นมาทันทีและบรรยากาศขี้เล่นนั่นก็เปลี่ยนมาเป็นโหมดจริงจัง

เธอบอกว่าไม่มีร่องรอยของสัตว์อยู่เลย เนื่องจากเธอเป็นเอลฟ์จึงตอบสนองกับจิตวิญญาณในป่าได้ โนโซมุเองก็สังเกตได้ว่าป่ามันแปลกไป

เมื่อโนโซมุพยายามตัดสินใจจะกลับ โนโซมุรู้สึกประทับใจเล็กน้อยกับความรู้สึกที่ถูกปิดกั้นนี่

「อั่ก!!!!!」

ร่างกายเปลี่ยนเป็นท่าทีต่อสู้ในทันทีด้วยความรู้สึกแห่งความตายที่ใกล้เข้ามา กล้ามเนื้อตึงแน่นและหัวใจเต้นรัว เลือดกำลังไหลเวียนไปทั่วร่าง

โนโซมุมองดูพุ่มไม้ตรงป่า ผมรู้สึกได้ว่าแรงกดดันมหาศาลมาจากทางนั้น

ซีน่าและเพื่อนๆเองก็รู้สึกได้เช่นกัน พวกเขาก็ต่างมองมาทางที่โนโซมุจับจ้อง

ในที่สุดสัตว์อสูรตัวร้ายก็โผล่มาจากพุ่มไม้

อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดา แน่นอนมันมีสี่ขาเหมือนสัตว์เดรัจฉาน และรูปร่างหน้าตาของมันคล้ายกับหมาป่า แต่ขนาดมันใหญ่อย่างเห็นได้ชัด ความยาวของลำตัวใหญ่กว่าผู้ใหญ่ทั้งตัวและความสูงก็สูงเท่าๆกับหน้าอกของโนโซมุเลยด้วย

นอกจากนี้ยังมีสติปัญญา

เหนือสิ่งอื่นใดร่างกายมันถูกปกคลุมไปด้วยตะกอนสีดำและควันดำก็พวกพุ่งขึ้นพร้อมกับเสียง

ไม่มีม่านตามีเพียงดวงตาสีแดงที่จ้องมาทางนี้เท่านั้น

มันเป็นสัตว์อสูรที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างน้อยโนโซมุก็ไม่เคยเห็นมันในป่าแถวนี้เลย และไม่เคยเห็นมันในหนังสือด้วย

「อะไรกัน……หมอนี่มัน?……」

「อาาาาาาา…………」

「ชิ…………」

「อุหวาาาาา…………」

มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปากโนโซมุและซีน่าที่กำลังส่งเสียงคราง เหงื่อเย็นๆไหลออกจากใบหน้าของมิมุรุและทอมก็ก้นจั้มเบ้า

สัตว์อสูรร้ายสีดำ

เห็นได้ชัดว่าโนโซมุค่อนข้างไม่พอใจเพราะไม่มีข้อมูลของศัตรูเลย

「บรู้วววววววววววววววววววววววววววว!!!!」

มันแผดเสียงคำราม ต้นไม้โดยรอบพริ้วไหวราวกับหวาดกลัว

วินาทีถัดมาตัวมันตั้งสติชั่วครู่ และก็พุ่งเข้าหาพวกโนโซมุราวกับว่าสถานการณ์พลิกกลับ