บทที่ 193 แก้ไม่ได้

บทที่ 193 แก้ไม่ได้

ตลาดวัตถุดิบยาในฉู่โจว

ฉินซานเฉียงกับหลี่เซียวลี่มาที่นี่เพื่อซื้อวัตถุดิบยา แต่จู่ ๆ เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากอวี้ชิงเหอ เขาค่อนข้างทำตัวไม่ถูก แต่พวกเขาเป็นเพื่อนกัน เขาจึงจำใจต้องรับโทรศัพท์ของอีกฝ่าย

ทว่าผู้โทรมากลับกลายเป็นบอดี้การ์ดของอวี้ชิงเหอแทนที่จะเป็นตัวอวี้ชิงเหอเอง

หลังจากวางสาย สีหน้าของฉินซานเฉียงก็แปลกไป

“เกิดอะไรขึ้น?” หลี่เซียวลี่ถามด้วยความสงสัย

“อวี้ชิงเหอประสบอุบัติเหตุ บอดี้การ์ดของเขาขอให้ผมไปหาเขาเดี๋ยวนี้” ฉินซานเฉียงยิ้มอย่างขมขื่น

“เกิดอะไรขึ้นอีกแล้ว?”

“เขาพาบอดี้การ์ดสองคนไปแก้แค้นนายน้อยจากภูเขาชางหลางคนนั้น แต่กลับโดนอีกฝ่ายจัดการ ตอนนี้เขาหัวเราะไม่หยุดเลย มันเลวร้ายมาก”

“หัวเราะ?”

“สงสัยว่าจะเป็นนายน้อยคนนั้นที่แทงจุดฝังเข็ม ทำให้อวี้ชิงเหอหัวเราะไม่หยุด” ฉินซานเฉียงเป็นชายชรานักเก็บสมุนไพร เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับแพทย์แผนจีนมาบ้าง

“ใช้เข็มเงินแทงจุดหัวเราะนี่เป็นวิธีการที่ทรงพลังมาก เราไปดูกันเถอะ” หลี่เซียวลี่เริ่มสนใจ

ในไม่ช้า พวกเขาก็ไปถึงลานจอดรถและเห็นอวี้ชิงเหอซึ่งกำลังหัวเราะอยู่

พวกเขารู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมากับชะตากรรมของอวี้ชิงเหอ

“ผมเดาถูกจริง ๆ ด้วย นายน้อยหัวรุนแรงคนนั้นไม่เพียงแต่รู้จักวัตถุดิบยามากมาย แต่ยังรู้ทักษะทางการแพทย์ด้วย!” ฉินซานเฉียงยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัว จากนั้นเขาก็มองไปที่สายตาของอวี้ชิงเหอ ซึ่งแสดงออกว่าต้องการความช่วยเหลือ

แม้ว่าเขาจะปวดหัว แต่เขาก็พอจะนึกอะไรบางอย่างออก “วันนี้ผมได้พบกับคนรู้จักด้านการแพทย์แผนจีน เขาเป็นแพทย์แผนจีนที่เก่งมาก ดูเหมือนว่าเขาจะสอบผ่านระดับแพทย์หมิงได้สี่หรือห้าปีแล้ว เขาอาจมีวิธีช่วยแก้จุดฝังเข็มให้คุณก็ได้”

“ระดับแพทย์หมิง? ใคร?” หลี่เซียวลี่ถามด้วยความประหลาดใจ

“จ้าวไป่ฉวน” ฉินซานเฉียงกล่าว

หลี่เซียวลี่ดูประหลาดใจ เขาเคยได้ยินชื่อของจ้าวไป่ฉวนและรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นหมอจีนเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในเมืองเจิ้ง และแม้แต่ในสมาคมแพทย์แผนจีน คนผู้นี้ก็มีชื่อเสียงมาก

ยี่สิบนาทีต่อมา

ฉินซานเฉียงก็ติดต่อจ้าวไป่ฉวน และพาอวี้ชิงเหอไปที่ร้านขายยาโบราณในพื้นที่ A ของตลาดยา เขาได้พบกับจ้าวไป่ฉวน ชายชราผมสีเงิน และโจวไฉ่เซีย เจ้าของร้านยา

“นี่…ถูกแทงจุดหัวเราะมางั้นเหรอ?” จ้าวไป่ฉวนมองดูอาการของอวี้ชิงเหอ และถามด้วยความประหลาดใจ

“คงจะเป็นแบบนั้น! อีกฝ่ายใช้เข็มเงินแทงเขาตั้งหลายครั้ง” ฉินซานเฉียงกล่าว

“เฮ้อ คนรุ่นใหม่สมัยนี้ทำไมชอบหาเรื่องใส่ตัวนัก? ไม่อย่างนั้นจะถูกคนอื่นใช้วิธีนี้ใส่ได้ยังไง?” จ้าวไป่ฉวนส่ายหัว จับข้อมือของอวี้ชิงเหอเพื่อสัมผัสชีพจรของอีกฝ่ายพลางพูดว่า “ผมน่าจะแก้ไขให้ได้ แต่ในอนาคต อย่าได้ไปยั่วยุผู้ฝึกยุทธ์แพทย์จีนโบราณอีก มันไม่ต่างจากการรนหาที่ตาย”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ พวกเขาต่างตกตะลึง

ผู้ฝึกยุทธ์แพทย์จีนโบราณ?

พวกเขาคือนักสู้ที่ฝึกฝนพลังปราณใช่ไหม? แถมยังเชี่ยวชาญทักษะทางการแพทย์อีกด้วย?

หนึ่งนาทีต่อมา สีหน้าของจ้าวไป่ฉวนก็เปลี่ยนไป

สามนาทีต่อมา เขายิ้มอย่างช่วยไม่ได้และส่ายหัว

เขาปล่อยข้อมือของอวี้ชิงเหอและยิ้มอย่างขมขื่น “หนึ่งเข็มแทงจุดฝังเข็มสามจุด แต่ละเข็มกระตุ้นจุดฝังเข็มอย่างแม่นยำ อีกทั้งยังฉีดพลังปราณเข้าไปอีก ผมแก้ไม่ได้ ไม่สิ นับประสาอะไรกับตัวผมตอนนี้ ต่อให้ผมสำเร็จระดับหมอวิญญาณแล้ว การจะแก้ไขมันก็คงต้องใช้ความพยายามอย่างมากถึงจะสำเร็จ”

“แก้ไม่ได้เหรอ?” ฉินซานเฉียงแสดงท่าทางตกตะลึง

ส่วนโจวไฉ่เซียเจ้าของร้านยาผู้รอบรู้ก็แสดงท่าทางเหลือเชื่อ

เธออายุมากกว่า 40 ปีแล้ว และทำธุรกิจยามา 20 ปี จ้าวไป่ฉวนเป็นเพื่อนของเธอในนาม แต่อันที่จริงเขาเป็นกึ่งอาจารย์ของเธอ ดังนั้นเธอจึงรู้ว่าจ้าวไป่ฉวนเก่งแค่ไหนในด้านการแพทย์แผนจีน

แต่ตอนนี้เขากลับแก้ไขไม่ได้?

ใครในโลกนี้กันที่สามารถใช้วิชาฝังเข็มได้ร้ายกาจขนาดนี้?

“แก้ไม่ได้จริง ๆ” จ้าวไป่ฉวนพูดอย่างหมดหนทาง

“แล้วไง? เขาจะหัวเราะตลอดไป?” ฉินซานเฉียงถามอย่างโง่งม

“เขาจะไม่หัวเราะตลอดไป อีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเขาแต่…” จ้าวไป่ฉวนเหลือบมองอวี้ชิงเหออีกครั้ง

“แต่อะไร?”

ผู้คนรอบข้างแสดงความอยากรู้อยากเห็น

“เขาจะหัวเราะประมาณสองชั่วโมง และหลังจากหัวเราะ เขาจะร้องไห้ตลอดเวลา อย่างน้อยสองชั่วโมง” จ้าวไป่ฉวนถอนหายใจแล้วพูดต่อ “ถ้าเป็นแค่นั้นคงจะดี แต่นี่เขาไปยั่วยุใครเข้าก็ไม่รู้ จนอีกฝ่ายตั้งใจที่จะทรมานเขาให้สาหัส ดังนั้นหลังจากที่เขาร้องไห้ เขาจะเกิดอาการคันทั่วร่างกาย และจากนั้นความเจ็บปวดที่ทนไม่ได้จะปะทุขึ้น รสชาติของความรู้สึกแบบนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย และมันกินเวลาอย่างน้อยสองชั่วโมง…”

“นี่…” ฉินซานเฉียงตกตะลึง

“ใช่ นั่นคือสิ่งที่ชายแซ่โจวพูด…” บอดี้การ์ดที่อยู่ใกล้เคียงพูดขึ้นมา

“โจว? ผู้ฝึกยุทธ์แพทย์จีนโบราณคนนั้นคือใครนะ?” จ้าวไป่ฉวนถามอย่างสงสัย

“โจวอี้!”

“โจวอี้คือใคร?” จ้าวไป่ฉวนไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน

“เขามากจากหมู่บ้านโจวเมี่ยวบนภูเขาชางหลาง และเป็นชายหนุ่มที่พวกเราผู้เก็บสมุนไพรกลัวที่สุด” ฉินซานเฉียงอธิบาย

“ภูเขาชางหลาง?”

จ้าวไป่ฉวนตกตะลึง จากนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขายืนขึ้นทันทีและมองไปที่อวี้ชิงเหอก่อนจะชี้ไปที่ประตู “ออกไปเดี๋ยวนี้! ฉินซานเฉียง คุณก็ออกไปด้วย! และนับจากนี้พวกคุณไม่ได้รับอนุญาตให้ก้าวเข้ามาในร้านยานี้!”

บ้าอะไรเนี่ย?

ฉินซานเฉียงและหลี่เซียวลี่มองหน้ากัน

แม้แต่บอดี้การ์ดสองคนและอวี้ชิงเหอที่หัวเราะอย่างหนักก็ยังสงสัย

พวกเขาสังเกตว่าจ้าวไป่ฉวนดูหวาดกลัวเมื่อได้ยินชื่อภูเขาชางหลาง?

“อย่าเพิ่งรีบไล่กันสิ! อธิบายมาก่อนว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่ ถึงเราจะกลับไป แต่คุณก็ควรอธิบายให้เราฟังก่อน” ฉินซานเฉียงถามอย่างหมดหนทาง

“อธิบายผายลมอะไรล่ะ! ถึงผมจะแก้ให้ได้ ผมก็ไม่กล้าทำ! จะให้ผมล่วงเกินพวกเขางั้นเหรอ… เหอะ ไม่มีทาง! ผมยังอยากทำงานด้านการแพทย์แผนจีนอยู่นะ! ไป! ออกไป อย่ามาใกล้อีก!” จ้าวไป่ฉวนดุด่าด้วยความโกรธ

“…”

ทันใดนั้น! ชายสองคนก็เดินเข้ามาในร้านยา

“เถ้าแก่ พวกเรามาซื้อสมุนไพร ออกมาต้อนรับแขกหน่อย” เสียงพูดนี้ดังขึ้น มันดึงดูดความสนใจของทุกคนทันที

นั่นมันเขานี่นา!?

ร่างกายของอวี้ชิงเหอสั่นสะท้าน เขาเซจนแทบล้มลงไปกองกับพื้น และแม้ว่าบอดี้การ์ดทั้งสองจะกลัว แต่พวกเขาก็ยังยืนบังเจ้านายของตัวเอง

ส่วนสีหน้าของฉินซานเฉียงเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาอยากจะหนีไปในทันที

เขากลัว!

เพราะเขารู้ว่าโจวอี้ลงโทษอวี้ชิงเหอไปแล้ว แต่เขาก็ยังพาอวี้ชิงเหอมาหาจ้าวไป่ฉวนเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งการกระทำแบบนี้มันไม่ต่างอะไรกับการขัดใจอันธพาลน้อยคนนี้!

ตรงกันข้ามหลี่เซียวลี่ เขารู้สึกตลกเมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติของผู้คนรอบตัว

“หืม? คุณมาที่นี่ทำไมอีก? คุณไม่ได้ซื้อยาในร้านของฉันมานานแล้ว ตอนนี้คุณยัง…” โจวไฉ่เซียพูดด้วยความขุ่นเคืองเมื่อเห็นโจวอี้และซุนเหมาไฉ

ทว่าเสียงของเธอค่อย ๆ ลดลง เมื่อเธอสังเกตเห็นความผิดปกติของฉินซานเฉียงและคนอื่น ๆ

ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้น แม้แต่จ้าวไป่ฉวนยังสังเกตเห็นอาการแปลก ๆ ของคนอื่นด้วย เขาไม่รู้จักโจวอี้ แต่เขารู้จักซุนเหมาไฉชายชรานักเก็บสมุนไพร

“เฒ่าซุน ได้ยินมาว่าคุณกว้านซื้อวัตถุดิบทางการแพทย์จำนวนมากในตลาดจินหลิงเมื่อไม่กี่วันก่อน ทำไมคุณยังต้องการที่จะซื้ออีกล่ะ?” จ้าวไป่ฉวนถามอย่างสงสัย

“ผมไม่ได้จะซื้อ แต่เป็นเขาต่างหาก!” ซุนเหมาไฉชี้ไปที่โจวอี้