บนก้อนเมฆ บัดนี้เสวียนตูกล่าวชี้แจงสั้นๆ ว่า “มีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จริงๆ เมื่อข้าค้นพบเสี้ยวอักขระเต๋าเมื่อครู่นี้ ข้าก็ไล่ตามมันไป แต่ด้วยความช่วยเหลือของจอมปราชญ์ผู้หนึ่งที่อยู่เบื้องหลัง ข้าจึงทำได้เพียงอาศัยพลังของแผนภาพไท่จี๋เพื่อทำให้เขาหวาดกลัวเท่านั้น…”
ในขณะนั้น นักพรตเต๋าชราที่อยู่ข้างๆ เขาก็ขมวดคิ้วและถอนหายใจออกมาเบาๆ
เมื่อเทียบกับเสวียนตูแล้ว เขาแต่งตัวเรียบง่ายและมีท่าทีนุ่มนวลอ่อนโยน
นักพรตเต๋าชราสวมเครื่องแต่งกายพิเศษเฉพาะตัวของเขา มีเสื้อคลุมเต๋า ห่วงเต๋า รองเท้าเต๋า และแส้หางม้าในมือของเขา แต่เขาหาได้เหมือนเครื่องแต่งกายไม่ เขานับเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโลกทีเดียว
อย่างไรก็ตาม นักพรตเต๋าชราผู้นี้สุภาพต่อเสวียนตูมาก ขณะกล่าวเขาก็ยิ้มและโน้มกายไปข้างหน้าเล็กน้อย
จากนั้นนักพรตเต๋าชราก็เอ่ยถามขึ้นอีกครั้งว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านคิดว่าเราควรทำอย่างไรต่อไป”
“ศิษย์พี่ว่า พวกเราควรไปที่สำนักตู้เซียนเพื่อจัดการปัญหาก่อน!”
เสวียนตูยิ้มแล้วกล่าวว่า “หากเจ้าไปที่นั่นในภายหลัง บางทีพวกเขาอาจจะจัดการกับศัตรูของพวกเขาแล้ว และจะไม่มีอะไรมากสำหรับเจ้าซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งสำนักจักต้องทำ เมื่อเจ้าจัดการเรื่องสำนักตู้เซียนแล้ว อย่าลืมนำศพของผู้บำเพ็ญจากเกาะเต่าทองกลับมาที่นี่ด้วย เราต้องเดินทางไปที่เกาะเต่าทองอีกครั้งในภายหลัง”
ศพ…
“โอ้” นักพรตเต๋าชราถอนหายใจออกมา เขาเข้าใจและมีสีหน้าละอายใจขณะกล่าวออกมาว่า “ครั้งนี้ ข้าต้องทำให้ท่านลำบากแล้ว ศิษย์พี่ใหญ่ ข้าประมาทเกินไปจริงๆ”
เมื่อเห็นเช่นนั้น เสวียนตูจึงโบกมือแล้วให้กำลังใจพลางเร่งเร้าต่อไป
“เฮ้ แค่เรื่องเล็กน้อย เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น สหายเต๋า พวกเรารีบไปกันเถิด! ในเมื่อพวกเราอยู่ในสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินนี้ ก็ย่อมต้องรับกรรม และพวกเรายังจำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในอนาคต”
“ข้าจะปฏิบัติตามคำชี้แนะของศิษย์พี่ใหญ่ขอรับ”
นักพรตเต๋าชราผู้นี้ แท้ที่จริงแล้ว คือ ตู้เอ้อร์เจินเหรินแห่งภูเขาคุนหลุน เขาโค้งคำนับให้เสวียนตูอีกครั้ง
จากนั้นเขาก็ไม่กล้ารอช้าอีกต่อไป และรีบเร่งใช้คาถาเฉียนคุนของเขาทันทีก่อนที่ร่างของเขาจะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
และหลังจากเดินทางไปไม่ถึงหนึ่งหมื่นลี้ ด้วยการขับเคลื่อนเมฆสะเทิ้นขึ้นลงไปมา ตู้เอ้อร์เจินเหรินก็มาถึงท้องฟ้าเหนือสำนักตู้เซียนแล้ว
เขาก้มศีรษะมองลงมาไป แล้วเขาเห็นธารแสงไหลวนรอบยอดหลักเบื้องล่าง ทั้งยังมีลำแสงสีเลือดเจิดจ้าเต็มไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
และทันทีที่เห็นเช่นนั้น ตู้เอ้อร์เจินเหรินก็เดือดดาลจัดขึ้นมาทันที!
ในขณะนี้สัตว์เทพกิเลนที่เขาเคยช่วยชีวิตเอาไว้และทิ้งไว้ที่นี่ในสมัยโบราณเกือบจะมีอาการกำเริบจากอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
ในเวลานี้ ในที่สุดหนึ่งในบรรดาศิษย์ในนามของตู้เอ้อร์เจินเหรินก็กลายเป็นผู้บำเพ็ญในขอบเขตเซียนจิน บัดนี้ในที่สุด ตู้เอ้อร์เจินเหรินก็สามารถอวดผู้บำเพ็ญคนอื่นๆ แห่งภูเขาคุนหลุนได้ แต่กระนั้น ศิษย์รักของเขากลับถูกคนสองคนปิดล้อมและได้รับบาดเจ็บ!
ทันใดนั้น ตู้เอ้อร์เจินเหรินเหวี่ยงแส้หางม้าของเขาและแผ่พุ่งพลังแรงกดดันของเขาออกไปที่สำนักตู้เซียน
จากนั้นเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึก และเปิดใช้เคล็ดวิชา ‘ขับเคลื่อนลมปราณคู่’ ชั่วเวลานั้น ปลายจมูกของเขาพลันสั่นพะเยิบขณะพ่นลมหายใจดังสนั่น!
ที่ด้านล่างของเขา เซียนจินทั้งสามซึ่งล้วนเป็นเซียนจินเหว่ยทั้งหมดต่างก็กระอักเลือดออกมาหลังจากได้ยินเสียงดังกระหึ่มจนปราณวิญญาณของพวกเขาแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ…
แน่นอนว่า เซียนจินผู้ยิ่งใหญ่แห่งบรรพกาลย่อมทรงพลังพิเศษเหนือสามัญ!
จู่ๆ ดวงตาของหลี่ฉางโซ่วสว่างวาบขึ้นกะทันหันขณะที่เขากำลังแอบเฝ้าสังเกตสถานการณ์ในสำนักตู้เซียน และด้วยความช่วยเหลืออย่างลับๆ ของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่กำลังทำการเก็บกวาดความสะอาดสถานที่ต่อสู้ที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งหมื่นลี้
อา…ในที่สุด ผู้สนับสนุนที่ทรงพลังยิ่งใหญ่ของข้ามาถึงแล้ว!
และเมื่อได้รับแรงสนับสนุน ทันใดนั้น เพียงขยับความคิด เขาก็ปิดค่ายกลชั้นในของยอดเขาหยกน้อยและเปิดเพียงค่ายกลภายนอกหอโอสถเอาไว้เท่านั้น
ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ ‘สวรรค์’ หมายเลขสอง และหมายเลขแปดก็ฟื้นคืนสภาพแล้วเปลี่ยนกลับไปเป็นกระดาษที่ประตูภูเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นพลังเซียนของพวกมันก็กลายเป็นพลังวิญญาณและสลายไป
หลังจากทำเช่นนั้นแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็สงบจิตใจของเขาทันทีราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
บัดนี้ ที่ด้านล่างของค่ายกลเคลื่อนย้ายเส้นชีพจรปฐพีที่ซึ่งบรรดาศิษย์ของสำนักตู้เซียนกำลังหลบซ่อนตัวอยู่…
ในช่วงเวลานั้น คนห้าคนที่มึนงงนั้นก็ล้มลงนอนสลบไปกับพื้นบนทางลาดข้างหุบเขาแล้ว
ในขณะนั้นปีศาจเผิงก็ล้มนอนหลับใหลอยู่บนพื้นและส่งเสียงกรนดังลั่น และทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนจะหยุดนิ่งอย่างกะทันหันในทันทีที่โหย่วฉินเสวียนหย่าขว้างยาพิษออกไป
บัดนั้น โหย่วฉินเสวียนหย่ากำลังนอนอยู่บนพื้นพร้อมด้วยกระบี่บินที่อยู่รอบๆ นางในขณะที่หลิงเอ๋อร์นอนอยู่ข้างๆ โหย่วฉินเสวียนหย่าราวกับสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส…
นางฟุบหน้าเข้าไปในหญ้าอย่างจริงจัง
มันช่วยไม่ได้ เพราะหลี่ฉางโซ่วได้ทำการฟื้นฟูสภาพ ‘สถานที่เกิดเหตุ’ อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
ในขณะนั้น ‘หลี่ฉางโซ่ว’ ที่หมดสติซึ่งกำลังนอนอยู่แทบเท้าของหลิงเอ๋อร์ก็ค่อยๆ จมลงสู่พื้นและกลายเป็นตุ๊กตากระดาษ
และโดยปราศจากเสียง ปิ่นหยกบนศีรษะของหลิงเอ๋อร์ก็แตกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจู่ๆ ร่างของหลี่ฉางโซ่วก็ปรากฏขึ้นข้างๆ หลิงเอ๋อร์ จากนั้นเขาก็รีบเก็บตุ๊กตากระดาษที่อยู่ในดินอย่างรวดเร็วก่อนจะนอนลงอีกครั้ง แล้วแสร้งทำหลับตาเป็นลมหมดสติไป
ในเวลานั้น เขากำลังพยายามนึกถึงกระบวนการทั้งหมดว่าเขาพลาดอะไรไปบ้างหรือไม่
หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ หากเขาคาดการณ์ได้ถูกต้อง มันย่อมจะมีความลึกลับที่ยังไม่กระจ่างจำนวนหนึ่งปรากฏขึ้นในสำนักตู้เซียน
ในระหว่างการสู้รบที่สำนักตู้เซียนนี้ มี ‘ผู้กล้า’ สองสามคนที่เสียสละตัวเองและปกป้องเหล่านักพรตเต๋ามนุษย์ …
ในระหว่างการต่อสู้เพื่อปกป้องศิษย์ของสำนักตู้เซียน ยังมีนักพรตเต๋าชราที่เป็นเซียนเทียน และนักพรตเต๋าชราอีกคนหนึ่งซึ่งได้ฆ่านักพรตเต๋าชราคนนั้นก่อนที่เขาจะจากไปอย่างสงบ
มีอันตรายที่ซ่อนอยู่เพียงอย่างเดียวก็คือ ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนอาจพอคาดเดาบางอย่างได้
และอันตรายอีกประการหนึ่งก็คือ โหย่วฉินเสวียนหย่ารู้มากเกินไป
ต่อจากนี้ไป ข้ายังต้องคุยในเรื่องชีวิตและปรัชญากับผู้อาวุโสว่านหลินหยุนและศิษย์น้องหญิงจอมพิษ
ในขณะนี้ หลี่ฉางโซ่วอารมณ์ดีมากจริงๆ
ไม่ใช่เพราะเขาฆ่าเซียนเทียนเฒ่าผู้นั้นและได้รับกระบี่ที่อยู่ในระดับสมบัติวิญญาณและไข่มุกขจัดพิษอันล้ำค่า
ไม่ใช่เพราะเขาสนับสนุน สำนักตู้เซียน ซึ่งเกือบจะพังทลาย เขาแค่พยายามทำให้ดีที่สุดเท่านั้น เพราะเขาพบว่า สำนักตู้เซียนมีผู้ก่อตั้งที่ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ
นั่นไม่ใช่เสียงคำรามดังสนั่นของพลังเวทที่นายพลเฮงฮาใช้ในช่วงข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพใช่หรือไม่
ดูเหมือนว่า ตู้เอ้อร์เจินเหรินจะเป็นท่านอาจารย์ของนายพลเฮงฮาหรืออะไรทำนองนั้น
หลังจากภัยพิบัติครั้งใหญ่ สำนักตู้เซียนก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นส่วนหนึ่งของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินและสามารถเผยแผ่คำสอนมรดกแห่งเต๋าได้ ไม่ว่าเหล่าศิษย์ของสำนักตู้เซียนจะไร้ความสามารถหรือเต๋าของพวกเขาจะอ่อนแอเพียงใดในอนาคต แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นศิษย์ที่แท้จริงของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน
และบัดนี้พวกเขาก็มีรากฐานที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างกะทันหัน
น่าเสียดายที่ครั้งนี้เราไม่สามารถร้องไห้เรียกปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูในตำนานมาได้ หากเสวียนตูซึ่งเป็นหัวหน้าศิษย์ของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินมาปรากฏกายด้วยเอง ก็ย่อมจะได้ผลดีกว่าแน่นอน
บางที สำนักตู้เซียนจะสามารถย้ายจากดินแดนเทวะบูรพาไปยังดินแดนเทวะมัชฌิมาได้…
แต่ในครั้งนี้ข้าก็อาจตกเป็นเป้าหมายของผู้บำเพ็ญเหวินได้
และด้วยเหตุผลบางอย่าง ความปีติยินดีในหัวใจของหลี่ฉางโซ่วก็พลันหายไปทันทีเมื่อเขารู้สึกได้ถึงวิกฤตร้ายแรงปรากฏขึ้น
เขาจะหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้าหมายของสำนักบำเพ็ญเต๋าประจิมได้อย่างไร
เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น หลี่ฉางโซ่วก็อดจะนึกถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งบนชายฝั่งทะเลทักษิณไม่ได้ ซึ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความกังวล