ตอนที่ 6
บางทีผมอยากจะซีเรียสและอาละวาด ผมตัดสินใจ ดังนั้นผมออกจากบ้านรู้สึกตื่นเต้น
ผมคิดว่าผมแข็งแกร่งแต่พูดตามตรง, ผมไม่รู้ว่าผมแข็งแกร่งขนาดไหน
ผมไม่เคยมีประสบการณ์ใช้พลังเต็มที่ในท้ายที่สุด
คิดเกี่ยวกับมันแล้ว, มันเป็นครั้งแรกที่ผมหาเรื่อง เซ็นไปที่ผมซัดเมื่อวานเป็นผมหาเรื่องในบางความหมาย แต่พวกเขาเป็นเหตุสำหรับการสู้
「ชั้นจะถูกเกลียดขี้หน้าอีกแล้ว」
ผมพึมพำขณะที่ผมเดินบนถนนที่ไปโรงเรียน
ผมอาละวาด สั้นๆ, ผมเตรียมตัวจะมีปัญหา เมื่อมันมีปัญหา, มันจะมีคนกลัวผม โดยเฉพาะนักเรียนสาวที่มองผมด้วย ‘สายตาแบบนั้น’
‘สายตาแบบนั้น’ ใช่แล้ว, พวกเขามองผมเหมือนผมเป็นสัตว์ประหลาด
ผู้คนจะระวังคนที่ไม่ปรกติ, มันมีสัตว์ประหลาดที่ถูกขับไล่
แม้ผมจะใช้ชีวิตโดยซ่อนความสามารถ, รอบข้างรู้สึกว่าผมไม่ปรกติ
ยังไงซะ, ผมไม่เชี่ยวชาญในการซ่อนมันเมื่อผมเป็นเด็ก และเหตุอื่นเป็นเพราะผมมองผู้หญิงด้วยสายตาที่แดงก่ำ
เหตุผลใหญ่ที่สุดคือผมสามารถเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น
มองแบบเอ็กซ์เรย์ เป็นพลังที่มองผ่านสิ่งกีดขวาง
แม้ว่าชุดจะปิดบังร่างกายคนหนึ่ง ผมสามารถมองทะลุชุดของผู้หญิงและเห็นร่างเปลือยพวกเขา แต่, มันไม่ใช่แค่ชุดที่ผมมองทะลุ
กำแพง, ประตู, เพดาน, พื้นและสิ่งกีดขวางทั้งหมด ถ้าคุณนำพวกนั้นออกไป, สิ่งที่ปรกติจะไม่เห็น สามารถมองเห็น
ยกตัวอย่างเช่น, สมมุตว่าบางคนทำยางลบตกอีกฝั่งหนึ่งของกำแพง ผมได้เห็นมันและผมพูดอย่างไม่ทันคิด 「พูดถึงแล้ว, นายทำยางลบตกใช่มั้ย」กับคนที่ทำยางลบตก ผมนั่งเก้าอี้อยู่ตลอดเวลาดังนั้นผมไม่ควรจะเห็นมัน
เพระมันดูเหมือนเหตุการแต่ละวันปรกติขีดจำกัดว่าอะไรปรกติสำหรับผมและผิดปรกติสำหรับคนอื่นได้คลุมเครือ
มันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ชีวิตประจำวันของมันเห็นอีกฝากของกำแพง ถ้าพวกเขารู้มัน, เขาจะทำเหมือนผมเป็นสัตว์ประหลาด
จากนั้นวันหนึ่งที่ผมสังเกตุว่าผมผิดปรกติ
สิ่งกีดขวางได้สร้างขึ้นผมมองทะลุกำแพง, ประตู, เพดาน และพื้น ดินสอ, และยางลบที่อยู่ในกล่อง, แปรงสีฟันและแก้วได้ถูกมองทะลุ ผมใช้ชีวิตอย่างง่ายดายจากนั้นผมสังเกตุว่าผมผิดปรกติ
พื้นได้หายไปเมื่อพื้นถูกมองทะลุ ปรกติ, ผมคงไม่สามารถเดินได้ แต่ผมรู้สึกถึงพื้นดินอย่างชัดเจน
ควรมีบางอย่างอยู่ที่นั่น แต่การรับรู้ของผมขัดแย้งกัน
จังหวะที่ผมสังเกต, ผมเข้าใจว่าพลังของผมเป็นสิ่งอันตราย
พลังของผมไม่ใช่บางสิ่งที่ได้รับมา ผมไม่มีความทรงจำก่อนจะจำความได้ แต่ผมเชื่อว่านี่คือความสามารถที่ได้มาตอนเกิด
ความสามารถตั้งแต่เกิด มันเป็นบางอย่างที่เหมือนกับสัมผัสทั้งห้าของมนุษย์
มนุษย์มีห้านิ้วบนมือขวาและห้าบนซ้าย เขายังมีห้านิ้วบนเท้าขวาและซ้าย
แม้มนุษย์จะขยับ 20 นิ้วได้โดยรวม, มันไม่มีคนคิดว่านั่นมันมหัศจรรย์
ไม่ใช่แค่นิ้ว แต่ยังทิวทัศน์ที่เห็นด้วยตา เสียงที่ได้ยินด้วยหู กลิ่นที่ได้ดมด้วยจมูก, และรสชาติที่ได้รับในปาก ข้อมูลที่ได้รับมันมหาศาล มนุษย์รับข้อมูลมหาศาลในเวลาเดียวกันเดี๋ยวนั้น มันมหัศจรรย์มาก แต่มนุษย์ไม่คิดอย่างนั้น เพระทั้งหมด, มันเป็นอะไรที่เกิดมากับตัว ทุกคนมีความสามารถเป็นธรรมดา นั่นทำไมไม่มีใครตะลึง
แต่มันไม่ใช่ว่าพวกเขาทำทุกอย่างในเวลาเดียวกันได้แต่ต้น
ทุกคนไม่มีความทรงจำเมื่อเป็นเด็ก เด็กไม่สามารถพูด ไม่สามารถเดิน เมื่อพวกเขาจะขยับนิ้ว, นิ้วทั้งห้าขยับพร้อมกับ สั้นๆก็คือ, มันใช้ความสามารถไม่ได้
เด็กใช้เวลาเพื่อเรียนรู้ความสามารถนั้นอย่างมั่นคง มันชินกับมัน มันคุ้นเคยกับมัน เมื่อทำแบบนั้น มันสามารถควบคุมความสามารถได้โดยเร็ว
มันเหมือนกันกับมองแบบเอ็กซ์เรย์ของผม
ผมไม่มีความทรงจำกับมันแต่ผมมั่นใจว่าผมใช้มองแบบเอ็กซ์เรย์ตั้งแต่แรก มันน่าจะยากถ้าผมไม่สามารถรับความสามารถของผมได้ แต่ผมใช้เวลานานและความสามารถได้เรียนมาอย่างมั่นคง
นั่นทำไมผมดูทะลุสิ่งต่างๆเหมือนแค่มันควรจะเป็น และผมเข้าใจว่าโลกและความรับรู้ของผมขัดแย้งกัน ผมสามารถใช้ชีวิตปรกติได้
มองทะลุพื้น, ผมสามารถเห็นว่ามนุษเดินลงบันได
ดูผ่านเพดาน, ผมสามารถมองเห็นใต้กระโปรงของสาวดังนั้นผมใช้ชีวิตปรกติมาก
ดูผ่านประตู, แม้ว่าผมมองผ่านอีกฝั่งของประตู, ผมเปิดประตูอย่างปรกติและเดินผ่านมา
พูดถึงว่านานแค่ไหนกว่าผมจะรู้ว่าผมไม่ปรกติ, มันใช้เวลามาก เพราะนั่น, ทุกคนรอบข้างผมได้หายไป
มันเป็นบางอย่างเล็กๆ แต่ความสามารถผมสามารถได้ข้อมูลที่ไม่ควรจะรู้ได้อย่างง่ายดาย ผมคิดว่ามันคือเหตุผลของความสามารถผม และมันเป็นความสามารถที่น่ากลัวจริงๆ
ผมต้องไม่ใช้พลังผมทั้งหมด ถ้าผมใช้ทั้งหมด, พวกเขาจะเกิดความกลัว ผมได้เกลี้ยกล่อมตัวเองและใช้ชีวิตมาー
「มันเป็นโอกาศดีที่จะได้เห็นว่าชั้นแข็งแกร่งแค่ไหน」
มันไม่แย่ที่จะเข้าใจความแข็งแกร่งของตัวเองและผมไม่ใช่ตัวผมคนเก่าอีกต่อไปแล้ว
「ยังไงซะ, มันจะไปได้ดี」
ปรกติ, เหมือนมนุษย์, ผมจะกำจัดศัตรูโดยใช้ความสามารถของผม มนุษย์สามารถเคลื่อนไหวเท้าและมือของพวกเขา, นั่นทำไมผมถึงสามารถใช้ความสามารถนี้
มากกว่านั้น, ผมสามารถใส่ข้อจำกัดไปบนความสามารถนี้ได้
ถ้าเป็นผมตอนนี้ผมทำมันได้แน่
มากกว่านั้น, ผมไม่ถือแม้ผมจะถูกทำเป็นเหมือนสัตว์ประหลาด เพราะผมมีในสิ่งทีมี
มาถึงประตูโรงเรียน, อาซาฮินะยืนอยู่ตรงประตูโรงเรียน
「ซูซูฮาระ-คุง!」
อาซาฮินะมองไปรอบๆอย่างกระสับกระส่ายและเธอวิ่งอย่างรีบเมื่อเธอเห็นผม หน้าเธอซีดจนมันดูเหมือนมันไม่มีเลือดเลย
「ยูกะ! ยูกะอยู่ในอันตราย」
「อ๋า?」
อาซาฮินะนำมือผมไประหว่างที่ตะโกนจากนั่นเธอวิ่งระหว่างที่ดึงมือผม
「ฮ-เฮ้」
「แค่ตามชั้นมา!」
ผมพยายามจะคิดว่าอะไรเกิดขึ้น แต่อาซาฮินะไม่เหมือนอยากจะฟังผมและเราออกจากโรงเรียน
ผมไม่อยากสาย
อาซาฮินะที่วิ่งอย่างสุดกำลังและหยุดที่หน้าประตูของบ้านที่มีชื่อโทโมเอะอยู่บนป้าย
อาซาฮินะผู้ที่เหงื่อออกมากและหายใตลำบากมองผมโดยไร้ความสงบ เธอไม่พูดอะไรและดึงมือผมไปที่ประตูจากนั้นเธอกดอินเตอร์โฟน
พวกเราถูกเชิญโดยบางคนที่ดูเหมือนแม่และเราเข้าไปที่บ้าน
คนที่เป็นเหมือนแม่ยูกะดูเหมือนจะอดนอน, มีรอยช้ำใต้ตาที่น่าตกใจ
อาซาฮินะพูดกับคนที่ดูเหมือนแม่จากนั้นเธอดึงผมไปที่ชั้นสอง
「เธอแทบจะไม่ได้กลับบ้าน ไม่, มันไม่ใช่กลับ, แต่ชั้นว่าเธอแทบจะไม่ถูกส่งกลับ」
อาซาฮินะเดินขึ้นไปบนบันได้, จากนั้นพึมพำระหว่างที่กัดฟัน
แทบจะไม่ได้กลับ สั้นๆเธอได้อยู่ในสถานการณ์ที่ถูกกักขังโดยผู้ชายที่ข่มขืนเธอ
ต้องดีแน่ ผมก็อยากจะกระทำชำเราอาซาฮินะยันเหนื่อยด้วย
「เธอกลับมาเมื่อวาน เธอกลับมา จากนั้นเธอติดต่อชั้นเมื่อเช้านี้ ชั้นขอโทษ, เธอขอโทษระหว่างร้องไห้」
มาถึงชั้นสอง, อาซาฮินะพูดระหว่างที่เดินบนทางเดิน ตาเธอแดงก่ำอย่างชัดเจน
อาซาฮินะเดินลงไปที่ทางเดินระหว่างที่ดึงมือผมและจากนั้นเธอหยุดข้างหน้าประตู
「นี่ห้องยูกะー」
「หุบปากซักแปป」
ผมหุบปากอาซาฮินะ, ผมมอง “อีกฝั่งของประตู” ผมเห็น
「ไม่จำเป็นที่ชั้นต้องฟัง ชั้นจะไปโรงเรียน ชั้นไม่อยากสาย」
「ด-เดี๋ยว」
「ทำไมนายไม่ทำที่นายอยากทำ? ทีหลังล่ะ」
ผมพยาจะปลดที่อาซาฮินะจับและเดินที่ทางเดิน
「นายมันตัวร้ายจริงๆ! ชั้นนึกว่านายต่างออกไป」
เธอตะโกนในความเศร้า แต่ผมลงจากบันไดโดยไม่สนใจเธอ
อีกฝั่งของประตู: เธอกอดเข่าตัวเองในเตียงข้างบนชุดนอน, ยูกะคลุมตัวเองด้วยผ้าห่มและสั่น
ตาขวาเธอบวมระดับหนึ่งและมีรอยช้ำที่แก้มและริมฝีปากเธอ
เมื่อผมมองทะลุประตู, ผมไม่สามารถมองทะลุข้างในได้ อย่างไรก็ตาม, ผมเข้าใจได้แม้ไม่มีสิ่งนั้น เธอได้ถูกตีอย่างหนัก, เตะอย่างหนักและข่มขืนอย่างหนัก
บางทีเซ็นไปอาจจะกระทืบเธอเพื่อระบาย
「อาซาฮินะนี่ช่างโง่」
ผมพึมพำระหว่างที่มองไปบนบ้าน ผมหยุดที่ประตูของบ้านยูกะ
เธอพยายามจะโชว์ผมถึงสภาพของยูกะและให้ผมรู้สึกกับมัน, แต่คุณไม่สามารถให้ผู้หญิงสภาพนั้นแนะนำตัวกับผู้ชายได้ มันน่ากลัวในทางตรงกันข้าม
ยังไงก็ตาม, *เห้อ*, เธอเป็นของใช้แล้วแต่ตอนนี้เป็นของชำรุด
「มา ทีนี้」
มันไม่มีปัญหาแม้ผมจะไม่มีข้อมูล
「เซ็นไปที่ชั้นซัดเมื่อวานเป็นคนนุ่มนวล」
นั่นทำไมเมื่อโคไฮ*ถามพวกเขาจากใจ, เขาจะพ่นทุกอย่างออกมา
TLN* รุ่นน้อง
ผมเริ่มเดินไปที่โรงเรียนระหว่างที่ยิ้มจากหูถึงหู
อาซาฮินะอยู่ที่บ้านยูกะนั่นเหรอ? เธอไม่มาโรงเรียนแม้แต่ตอนพักเที่ยง
มันไม่มีปัญหาแม้อาซาฮินะจะไม่อยู่ที่นี่ หรือ, มันสะดวกที่อาซาฮินะไม่อยู่ที่นี่
เลือดได้พุ่งเข้าไปที่หัวของอาซาฮินะเช้านี้ ทั้งหมดนี่เธออยู่ในสภาพที่จะถูกใช้จากเซ็นไปได้ เมื่อมันเป็นเรื่องขึ้นมา เธอจะเป็นแค่สิ่งกีดขวาง
หลังจากพูดแบบนั้น, ผมไปเพื่อพบกับเซ็นไปที่ผมซัด
นักเรียนปีสองมีตราโรงเรียนอยู่ที่เสื้อของพวกเขา นั่นทำไมนักเรียนปีสองอยู่ที่ชั้นบนของโรงเรียน ดังนั้นผมเดินบนทางเดินอย่างไร้เดียงสา
หลังจากเดินบนทางเดินซักพัก, ผมเจอนักเรียนที่มีผ้าปิดแผลอยู่บนหน้า
ถ้าพูดให้ถูก, หน้าที่ถูกกระทืบมาหนักหน่วง ผมเจอเขาอย่างง่ายดาย ต้องขอบคุณสิ่งนั้น
「เซ็นไปปป」
ผมชูสองมือขึ้นพร้อมรอยยิ้มจากนั้นวิ่งไปหาเซ็นไป
「อื๋น?」
เซ็นไปมองมาทางผมด้วยอารมณ์ที่เสียแต่เมื่อเขาเห็นหน้าผม, หน้าเขาซีดทันที
「ชั้นกำลังมองหาเซ็นไปเลยー!」
「น-นายคือ!」
ตาของเซ็นไปเบิกกว้างและกำลังจะร้องแต่เมื่อมีนักเรียนรายล้อมอยู่, เซ็นไปสามารถทนมันได้ แต่เขาสั่นด้วยความกลัว
คนที่โดนซัดและคนที่ซัดพวกเขา, ความคิดแบบนั้นหายไปเมื่อโดนซัดฝ่ายเดียว เพราะมันถูกทำโดยฝ่ายเดียว, ผมเดาว่าพวกเขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดผม
แบบนั้น พวกเขาจะชอบเรียกพวกแต่เซ็นไปแค่สั่นต่อโดยไม่คิดแม้แต่จะเรียกพวก
มันไม่ใช่เป็นไปไม่ได้แต่แค่พวกเค้าทำไม่ได้
เพราถถ้าเขาเรียกพวก มันจะถูกพวกรู้ว่าพวกเขาโดนซัด พวกเขาจะรู้ว่าพวกเขาโดนซัดฝ่ายเดียว
สำหรับพวกเขาที่กร่างไปทั่วและทำเหมือนนักเลง, มันเป็นเรื่องน่าอายที่โดยซัดโดยโคไฮ ถ้ามันถูกรู้, มันเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะถูกตัดจากการเป็นนักเลง
「เซ็นไป! ชั้นแค่อยากจะถามบางอย่าง, มีเวลามั้ยครับ!」
ดูผมด้วยสาตาที่สั่น, เซ็นไปตรงหน้าผมหนีระหว่างที่ถอยอย่างช้าๆในความสั่นเทา, ขณะที่โคไฮถามด้วยใจในน้ำเสียงที่เชื่อฟังและสุภาพ
「ห-หุบปาก…」
เซ็นไปที่กำลังจะร้องไห้แสดงความดื้อดึง อย่างที่คาดกับพวกนักเลง ความดื้อรั้นของพวกเขานั้นผิดปรกติ
「อยากโดนซัดอีกเหรอ? หึ้ห์」
ผมกดดันเซ็นไปที่ดื้อรั้นและยิ้มจากหูถึงหู
「ฮฮิ้」
และเมื่อผมจับคอเสื้อของเซ็นไปและดึงเขาขึ้น, เซ็นไปร้องแบบเสียงหาย
「ใครคือคนที่ทำนั่นกับยูกะ? นายเหรอ? พูด หรือไม่อย่างนั้นชั้นจะซัดนายเหมือนเมื่อวานนะ? ชั้นจะทำต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นของนายด้วย」
「อะ, อู…」
ผมส่งเสียงขณะที่ผมถามเซ็นไประหว่างที่จับคอเสื้อของเขาและเซ็นไป ได้ซีดเป็นผีขณะที่ส่งเสียงครางระหว่างที่สั่น รอบข้างได้เริ่มส่งเสียง พวกเขาไม่ได้ยินว่าผมพูดอะไร แต่รอบข้างตอบสนองสถานการณ์ที่โคไฮจับขอเสื้อเซ็นไปและยกเขา
「เฮ้นายปีหนึ่งใช่มั้ย? นายทำอะไรน่ะ!」
หันกลับไปเมื่อผมได้ยินเสียง, มีนักเรียนทรงของตัว ดูแข็งแรงหันมาทางนี้
พลังการต่อสู้ประมาณ15-18 ผมคิดว่า เขาน่าจะเป็นคลับกีฬา, มากไปกว่านั้น กีฬาต่อสู้ กล้ามเนื้อที่พัฒนาแล้วของเขาได้ถูกปกคลุมด้วยชั้นไขมันที่บางมาก ผมคิดว่าน่าจะเป็นคลับยูโด เขาค่อนข้างแข็งแกร่ง ปลาใหญ่ออกมาทันทีเลย? แต่ยูโดเหรอ? นี่มันค่อนข้างมีปัญหา
「นั่นไม่ใช่คนที่มีค่า ถ้านายหาคนเล่นด้วย มาเล่นกับชั้นนี่」
เซ็นไปที่ทรงดีมาตรงหน้าผมและผมจ้องเซ็นไปที่ผมซัด, จากนั้นเขาพูดระหว่างที่แตะไหล่ผม
ผมคิดว่าเขาจะบ่นแต่ดูเหมือนเซ็นไปที่ทรงดีจะห่วงผม
นี่มันอะไร? แม้ว่าผมจะอยากให้มันเป็นเหตุการที่ผมหาเรื่องเป็นเรื่องใหญ่
「เค้าเป็นคนที่ใช้จำนวนเล่นกับเหยื่อ แต่ไม่ต้องห่วง พลังแค่อยู่ในจำนวน เค้าเป็นคนอ่อนแอปรกติที่ร้องไห้ให้ตัวเองหลับ」
มือของเซ็นไปที่ทรงดีขยับไปรอบๆไหล่ผมและจับมัน จากนั้นเขาพยังกน้าระหว่างที่พูดกับตัวเอง
「แต่ยังไงก็ตาม! ถ้าเธอเริ่มเล่นยูโด, มันเป็นไปได้แม้จะสู้กับจำนวน! นายเป็นปีหนึ่งที่กล้า! นายมีพรสวรรค์ในยูโด! มา, เข้าร่วมยูโดกับชั้นและเล็งไประดับชาติด้วยกันเถอะ!」
เซ็นไปที่ทรงดีผู้ที่จับไหล่ผมส่งเสียงที่ลึกที่สามารถทำแก้วแตกได้
คนนี้แค่อยากจะชวนคนเข้าคลับยูโด
โอ้, พูดถึงมันมีหนึ่งทีเมื่อผมเข้าโรงเรียน, ผูชายในชุดยูโดที่ยืนอยู่ข้างประตูโรงเรียนและชวนนักเรียนหน้าใหม่ ตะโกนอย่างโง่ๆว่า 「นายมีพรสวรรค์ในยูโด!」, เป็นคนนนั้นเหรอ
สมาชิกไม่พอหรือไง?
「ผ-ผมจะคิดเกี่ยวกับมัน」
「อุมุ! คิดให้ดีเกี่ยวกับมัน! แต่ชั้นมั่นใจว่านายจะไปอยู่ที่รั้วของคลับยูโด! ชั้นรู้! ฮ่าาฮ่าฮ่าฮ่า!」
ฟังคำพูดผมเสร็จ, เซ็นไปที่ทรงดีหัวเราะอย่างเป็นจังหวะขณะที่จับไหล่ผม
「งั้น งั้น, ด้วยนั่น…」
เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว, เขาตัดสินใจจะหนีทันทีเพราะเขารู้ว่ามันจะเป็นปัญหาในความหมายบางอย่าง
「มาหาชั้นถ้านายมีปัญหา」
เขาวิ่งไปโดยเร็วแต่เสียงที่กล้าหาญดังมาจากข้างหลัง
ยูโดนั้นแย่ ยูโดเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของผม มากกว่านั้น, เซ็นไปที่ทรงดีค่อนข้างแข็งแกร่ง
มันถูกพูดถึงบ่อยว่านุ่มนวลและอ่อนแอ ยูโดมันเกี่ยวกับการสู้โดยใช้พลังของศัตรู มันสวนกลับ กับความเข้ากันที่แย่ที่สุดกับผม ยังไงก็ตาม, ยูโดได้พิเศษในระยะประชิดแม้จะสามารถอ่านความเคลื่อนไหวล่วงหน้าได้ มันไม่สำคัญถ้าถูกจับ มากกว่านั้น คุณจะแพ้ถ้าคุณสู้ไม่ไหวเพราะพวกเค้ามีสกิลจับบนพื้น
ความสามารถของผมแสดงพลังได้มหาศาลขึ้นอยู่กับการใช้งาน แต่มันไม่ได้ดีไปซะหมด
ถ้าผมรู้ว่าศัตรูเป็นยูโดก่อนหน้า, ผมสามารถปรับรูปแบบการต่อสู้ได้แต่จุดจบจะไม่เปลี่ยนถ้าผมโดนจับ โดยเฉพาะท่าจับล็อกไม่ใช่เรื่องตลกเลย คุณจะร่วงทันทีถ้าหมดสติ นั่นทำไมเทคนิคการล็อกถึงอึนตราย ความเจ็บปวดเฉียบพลันจากการล็อกก็ไม่ใช่เรื่องตลกด้วย
ถ้าผมเรียนยูโดงั้นมันก็ไม่มีปัญหา แต่ผมไม่ใช่คนที่คิดอย่างไร้เดียงสา นั่นทำไมมันถึงยากที่จะเข้าร่วมคลับที่เป็นการออกกำลังกาย
หลังโรงเรียนเลิก, ผมเสร็จการเตรียมกลับบ้านและออกจากโรงเรียน
เมื่อผมเดินกลับบ้าน, ผมสังเกตว่าถูกตามโดยบางคน
เมื่อผมมองกลับไปมันไม่มีใครถ้ามองปรกติ
แต่มันมีคนซ่อนอยู่ในเสาไฟฟ้าและกำแพง นักเรียนชายบางคนที่ใส่ชุดโรงเรียนเรา ผมยังเห็นเซ็นไปสองคนที่ผมซัดเมื่อวาน
ผมคิดว่ายูโดเซ็นไปได้ขวางเราแต่มันดูเหมือนว่าผมตกพวกเขาได้ตามเวลาในบางวิธี
ทั้งสองคนจากเมือวานไม่ควรอยากเปิดเผยว่าเขาถูกซัดโดยปีหนึ่งอย่างผม แต่ผมเดินดุ่มไปชั้นเรียนปีสองดังนั้นผมโดนกล่าวหาแน่ งั้นมันไม่มีทางเลือกนอกจากขยี้ผมด้วยบางวิธี แม้ว่าเขาจะทำตัวเองอับอาย มันไม่มีทางเลือกนอกจากจะขอคนอื่นและขยี้ผม
พวกเขาถูกล่อออกมาโดยไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริงของผม
ผมยิ้มจากหูถึงหู เดินจากถนนโรงเรียนไปสู่พื้นที่ที่ไม่มีคน
ผมจะสอนเซ็นไป ถึงความน่ากลัวของการเห็นอะไรที่ไม่สามารถเห็นได้
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอท https://discord.gg/dru8M3ZY
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน