บทที่ 176 แกมองอะไร!
“ท่านได้รู้จักเขาแน่!” ฉู่ฮวนเจา เอ่ยขึ้นด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย มันนานมากแล้วที่เธอไม่ได้แกล้งพี่สาวของเธอแบบนี้ เธอรู้สึกมีความสุขมากที่แผนของเธอนับได้ว่าสำเร็จไปเกินครึ่ง!
“ฮึ่ม! ความรู้พวกนี้มันไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรมากนักในท้ายที่สุด!” ฉินว่านหรู พูดขึ้น เสียงดัง “ท้ายที่สุดแล้ว ระดับการบ่มเพาะต่างหากที่สำคัญที่สุดในโลกนี้ ของพวกนี้จะไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงเมื่อพวกเจ้าเผชิญกับผู้ที่มีความแข็งแกร่งเหนือกว่า ดังนั้นอย่าไปลุ่มหลงอะไรกับความรู้พวกนี้ให้มันมากกว่าการบ่มเพาะของพวกเจ้าเอง”
“ชูเหยียน เป็นเรื่องดีที่เจ้าช่วยดูแลกิจการของตระกูลตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่กิจการของตระกูลล้วนมีความสำคัญเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความก้าวหน้าในด้านการบ่มเพาะของตัว เจ้าเอง” ฉู่จงเทียน เอ่ยขึ้นเสริม
ฉู่ชูเหยียน ตอบด้วยรอยยิ้มว่า “วางใจเถอะท่านพ่อ ข้ารู้ลำดับความสำคัญของทุกสิ่ง เป็นอย่างดี”
ฉู่จงเทียน พยักหน้าด้วยความโล่งใจ “ดีแล้ว เจ้ามีความเป็นผู้ใหญ่มาโดยตลอดแม้อายุของเจ้าจะไม่มากนัก เจ้าไม่เคยทำให้พ่อกับแม่ของเจ้าต้องเป็นกังวลเลยจริง ๆ”
ฉินว่านหรู จ้องไปที่ ฉู่ฮวนเจา และพูดขึ้นเสริม “ฮวนเจา ดูพี่สาวของเจ้าเอาไว้ แล้วเอาแบบพี่ของเจ้าบ้าง ไม่ใช่วัน ๆ เอาแต่เล่นสนุกและสร้างเรื่องอย่างไม่หยุดหย่อน”
รอยยิ้มบนใบหน้าของ ฉู่ฮวนเจา ชะงักค้างไปทันที
ถ้าพวกท่านจะชมพี่สาวของข้าก็ชมไปสิ ทำไมท่านต้องมาวกด่าข้าด้วยแบบนี้!
ในขณะเดียวกัน ในที่สุด ซูอัน ก็รู้แล้วว่าเหตุใด ฉู่ฮวนเจา จึงดื้อรั้นมากมาตลอด ที่แท้นาง ก็โดนพ่อแม่กดดันโดยการเปรียบเทียบกับ ฉู่ชูเหยียน ที่โดดเด่นเหนือใครอย่างไม่เป็นธรรมเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ในมีชะตากรรมเดียวกับ ฉู่ฮวนเจา คงจะรู้สึกแย่กับเรื่องแบบนี้จนอยากจะร้องไห้แน่ ๆ
สรุปแล้วดูเหมือนว่า ฉู่จงเทียน และ ฉินว่านหรู ดูไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ในเรื่องการเลี้ยงดูลูก ๆของพวกเขา
เฮ้อ…น่าเศร้าแทนนางจริง ๆ ที่ต้องมีชีวิตที่ทุกข์ทนแบบนี้ เอาเป็นว่านับจากนี้ข้าจะพยายามดูแลนางให้มากขึ้นก็แล้วกัน
“เจ้าด้วย ซูอัน!” ทันทีที่ตำหนิลูกสาวคนเล็กของตัวเองเสร็จ ฉินว่านหรู หันกลับมาจ้องเขม็งที่ ซูอัน เป็นรายต่อไป เมื่อนางหวนนึกถึงปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ ซูอัน เข้าร่วมตระกูล ของนาง มันทำให้ความโกรธของนางพุ่งกระฉูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าสีหน้าของ ซูอัน ตอนนี้มันดู ผ่อนคลายราวกับว่าไม่มีปัญหาหนักอกใด ๆ เลย
เจ้าลอยหน้าลอยตาสบาย ๆ ได้ยังไง? เจ้าแย่กว่า ฮวนเจา ซะอีก!
ซูอัน รู้สึกอึ้งทันที เขาไม่คิดเลยว่าจู่ ๆ ฉินว่านหรู จะหันมาเล่นงานเขาแบบนี้?
ในขณะเดียวกัน ฉู่ฮวนเจา รู้สึกโล่งใจไปหลายระดับเมื่อเห็นว่าตอนนี้ ซูอัน มาแบ่งความกดดันของนางไปบ้าง ดูเหมือนว่าต่อไปนี้ชีวิตของข้าคงจะปลอดโปร่งขึ้นอีกหน่อยเมื่อมีพี่เขยของข้าอยู่ด้วย!
“รับทราบ ข้าจะเชื่อฟังคำสอนของท่านแม่ยาย!” ซูอัน ตอบกลับอย่างว่าง่าย เขาเข้าใจดี อยู่แล้วว่าที่นี่ ฉินว่านหรู ใหญ่ที่สุดในคฤหาสน์นี้ ดังนั้นถ้าเขาสามารถหลีกเลี่ยงได้เขาจะไม่ยั่วยุแม่ยายของเขาคนนี้เด็ดขาด
“ชิ ข้าไม่พูดกับเจ้าแล้วดีกว่า!” เมื่อครู่ ฉินว่านหรู มีความคิดจะบอกให้ ซูอัน ขยันหาความรู้ให้มากขึ้น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถบ่มเพาะได้ แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถช่วยกิจการของตระกูลได้หากมีความรู้อะไรบ้างเพื่อแบ่งเบาภาระของ ฉู่ชูเหยียน อย่างน้อยที่สุด ฉู่ชูเหยียน จะได้มีเวลาไปบ่มเพาะมากขึ้นซึ่งพรสวรรค์ของนางจะได้ไม่สูญเปล่า
และในตอนนั้นเองจู่ ๆ นางก็นึกขึ้นได้ถึงความตั้งใจของ ฉู่ชูเหยียน ว่าสาเหตุใดที่เลือก ซูอัน มาเป็นเขยของตระกูล ดังนั้นนางจึงล้มเลิกความคิดนี้ของนางไป
จากนั้นเมื่อ ฉินว่านหรู ไม่มีอะไรจะพูดกับ ซูอัน สายตาของนางจึงวกกลับมาหา ฉู่ฮวนเจา แทนซึ่งเหมาะสมที่สุดที่ในอนาคตจะมาช่วยกิจการของตระกูล เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฉินว่านหรู จึงเริ่ม จ้ำจี้จำไชกับลูกสาวคนเล็กของนางเหมือนเดิม
ฉู่ฮวนเจา ตกตะลึง ทำไมจู่ ๆ ท่านถึงหันกลับเล่นงานข้า! ให้ข้าได้กินข้าวอย่างสงบไม่ได้หรือไงท่านแม่!
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ซูอันก็กลับมาที่ห้องเพื่อดูคะแนนความโกรธที่เขาได้รับไม่ว่าจะเป็น งานประลองระหว่างตระกูล หรือ มิติลับหยกจรัสที่กำลังจะเปิดในไม่ช้าซึ่งอาจมีดอกบัวเร้นลักษณ์ ซ่อนอยู่ เรื่องพวกนี้จะคลี่คลายได้ทั้งหมดหากเขามีความแข็งแกร่งเพียงพอ
ไม่มีใครรู้ได้ว่าตระกูลหยวนกำลังวางแผนอะไรสำหรับ งานประลองระหว่างตระกูล ในอีกสองวันข้างหน้า
แม้ว่า หยวนเหวินตง จะสู้ เพ่ยเหมียนหมานไม่ได้เลย แต่ หยวนเหวินคง ก็ยังคงเป็น ผู้บ่มเพาะระดับ 5 ที่แท้จริง หากฝั่งตรงข้ามมีไพ่ลับอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สามารถยอมแพ้ ได้ทันการละก็…
ไม่หรอกอย่างน้อย ๆ ข้าไม่ตายแน่เพราะข้ามีตระกูลฉู่ อยู่คอยปกป้อง
แต่ว่ามันอาจจะเป็นไปได้ที่ ฝั่งตรงข้ามจะแสร้งพลั้งมือตัดแขนหรือขาของเขาออกไปสักข้าง
…
เขาเคยอ่านนิยายมากมายในชีวิตก่อนหน้านี้ ซึ่งโดยปกติไอ้พวกลูกหลานของตระกูลใหญ่ ๆ ทั้งหลายมันมักจะเป็นพวกที่น่ารังเกียจที่สุด
ถึงแม้ว่า ฉู่ชูเหยียน สัญญาว่าจะปกป้องเขา แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะหวังพึ่งคนอื่นได้อย่าง หมดใจ ฉะนั้นการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งเอาไว้ก่อนย่อมเป็นทางเลือกที่สุดที่สุดอย่างแท้จริง
เมื่อเปิดคีย์บอร์ดขึ้นมา ตอนนี้เขามีคะแนนความโกรธอยู่ที่ 88,018 แต้มซึ่งส่วนใหญ่มาจากฝูงชนในตอนที่อาจารย์ใหญ่เจียงลั่วฝู ประกาศว่าเขาจะรับช่วงต่อ หยางเว่ย เป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ของสถาบันจันทร์กระจ่าง
ชายหนุ่ม ค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้เขายืนยันความคิดก่อนหน้านี้ได้แล้วว่าวิธีการหาคะแนนความโกรธที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็คือการยั่วยุฝูงชนกลุ่มใหญ่พร้อม ๆ กัน
ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกว่าสถาบันจันทร์กระจ่างมันเล็กเกินไปสำหรับเขาซะแล้ว ซูอันอดคิดไม่ได้ว่าสักวันหนึ่งเขาจะไปยืนอยู่ต่อหน้าผู้คนนับล้านและรีดคะแนนความโกรธออกจากพวกคนเหล่านั้น!
แค่คิดถึงคะแนนที่จะหลั่งไหลเข้ามาจากผู้คนนับล้านเขาก็รู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่!
จากนั้นตามธรรมเนียมเดิม ซูอัน เริ่มต้นด้วยการล้างมือล้างหน้าก่อนที่จะเริ่มสุ่มรางวัล
ตามที่คาดไว้ ครั้งแรกที่สุ่ม ‘ขอบคุณที่ร่วมสนุก!’
อย่างไรก็ตาม ซูอัน รู้สึกชินกับมันมากแล้วดังนั้นเขาจึงกดสุ่มต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิด อะไรมาก
ขอบคุณที่ร่วมสนุก… ผลไม้พลังชี่… ขอบคุณที่ร่วมสนุก… ขอบคุณที่ร่วมสนุก… ผลไม้พลังชี่… แกมองอะไร?… ขอบคุณที่ร่วมสนุก… ผลไม้พลังชี่…
ซูอัน เริ่มรู้สึกว่าการสุ่มรางวัลจำนวนมาก ๆ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก ถ้าวันหนึ่งเขามีคะแนนหลักล้านแต้ม เขาไม่ต้องกดจนมือหักเลยรึไง?
เอ๊ะ? เดี๋ยวนะ? เมื่อกี้มันมีคำแปลก ๆ แทรกมาอยู่ไม่ใช่หรือในระบบ?
ซูอัน รีบกวาดสายตาดูบันทึกในระบบสุ่มของรางวัลทันทีและทันใดนั้นเขาก็พบว่าเขาเพิ่งได้ทักษะใหม่!
ตอนแรกเขายังรู้สึกง่วงและเบื่อหน่ายเล็กน้อย แต่ร่างกายของเขาตื่นตัวทันทีเมื่อเห็นว่าได้รับทักษะใหม่! ต้องรู้ว่าทักษะสองสามอันล่าสุดที่เขาได้รับมานั้นมีประโยชน์มาก ดังนั้นเขา อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าทักษะใหม่นี้จะเป็นอย่างไร
เขาเห็นว่าตัวอักษร ‘N’ ของคีย์บอร์ดสว่างขึ้น เขาแตะที่มัน และเขาเห็นคำสามคำ : แกมองอะไร?
ซูอัน ตกตะลึง ไอ้คีย์บอร์ดเวรนี่มันล้อเลียนข้างั้นหรือ?
เขากดตัวอักษร ‘N’ อีกครั้ง แต่สามคำเดิมยังคงปรากฏบนหน้าจอ ราวกับกำลังปั่นประสาทของเขา
“อะไรของมันวะ? ข้ากำลังมองแกไงไอ้โง่!” ซูอันคำรามด้วยความโกรธ
ติ้ง~
ราวกับว่าเขาได้ปฏิบัติครบตามเงื่อนไขบางอย่างแล้ว ข้อความอีกหลายบรรทัดปรากฏขึ้นบนหน้าจอทันที“ขอแสดงความยินดีท่านได้รับทักษะ: แกมองอะไร!”
ผลของทักษะ: ว่ากันว่านี่เป็นวลีต้องห้ามในบางภูมิภาค เมื่อใช้แล้วจะเกิดโศกนาฏกรรมนองเลือด เมื่อใดก็ตามที่ท่านใช้ทักษะนี้ เป้าหมายจะตอบโต้กลับท่านเป็นประโยคที่ท่านกำหนดไว้ทันที
ซูอัน กะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความสับสน แค่นี้หรือ? ไม่มีอะไรอีกแล้ว?
ด้วยความไม่เชื่อ ซูอัน เพ่งสายตาอ่านดูอีกรอบว่ามีคำซ่อนอยู่ในตัวพิมพ์เล็กหรืออะไรบางอย่างอีกหรือไม่ แต่ท้ายที่สุดมันก็ไม่มีอะไรอื่นอีก!
ทักษะบ้า ๆ นี่มันอะไรกัน! มันมีประโยชน์ตรงไหนที่จะให้อีกฝ่ายตอบคำถามบ้า ๆ แบบนี้กลับมา!