Househusband-wannabe Boy and Idol Girl Ep 2.3
ผมได้อาศัยอยุ่กับ โอโตซากิ เรย์ มาประมาณ 9-10 วันแล้ว
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกโล่งใจคือเรย์ไม่ได้อยู่ที่บ้านทุกวัน
บางครั้งผู้จัดการจะมารับเธอไปทำงาน และในวันนั้น ผมก็ต้องทำข้าวกล่องสำหรับมื้อเช้าให้เธอ
ทุกครั้งที่เธอทำงานไปทำงาน เหมือนเธอจะคิดว่าทำให้ผมไม่พอใจ แต่ผมไม่บ่นอะไรเพราะผมเข้าใจความแตกต่างระหว่างตอนที่ทำงานกับชีวิตส่วนตัว
“รินทาโร่คุง ฉันมีความคิดดีๆล่ะค่ะ” (เรย์)
จู่ๆ เรย์ก็เรียผม ตอนที่ผมกำลังล้างจานตอนกินอาหารเย็น
สิ่งหนึ่งที่ผมรู้ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เรารู้จักกันคือสิ่งที่เธอเรียกว่า “ความคิดดีๆ” ของเธอมันมักจะเป็นปัญหาสำหรับผมแน่ๆ
ผมวางจานลงและนั่งลงข้างๆ เธอ ถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกไม่ดีกับมันก็ตาม
“ถ้าเธอพูดไร้สาระ ผมจะนำของที่ไม่ชอบไปทำอาหารให้กินพรุ้งนี้นะ” (รินทาโร่)
“น่าเสียดายจังที่ฉันไม่มีอาหารที่ไม่ชอบเลยค่ะ” (เรย์)
“อืม เข้าใจแล้ว–แล้วเธออยากจะเสนออะไรละ” (รินทาโร่)
“ฉันมาที่นี่เพื่อกินอาหารที่นี่ทุกวันมันค่อนข้างจะลำบาก งั้นเราเช่าบ้านใหม่เป็นคู่แล้วอยุ่ด้วยกัน เป็นความคิดที่ดีเลยใช่ไหมละคะ” (เรย์)
“เธอคิดไอเดียบ้าๆ ขึ้นมาจริงๆสินะ” (รินทาโร่)
“ทำไมล่ะ มันมีประสิทธิภาพมากเลยนะค่ะ” (เรย์)
…แน่นอนว่ามีประสิทธิภาพดี แต่แค่ประสิทธิภาพดีไม่ใช่สิ่งเดียวที่สามารถพูดกี่ยวกับเรื่องนี้ได้
อย่างแรกเลยปกติเวลาส่วนตัวผมก็น้อยอยุ่แล้ว แต่ถ้ามาอยุ่ด้วยกันแบบจริงจังผมคงไม่มีเวลาส่วนตัวเลยแน่ๆ
“เธออยู่กับพ่อแม่ใช่ไหม ถ้าไม่ได้บอกว่าจะมาอยุ่กับผม ผมว่าเธอคงออกมาอยุ่คนเดียวได้ แต่คนรอบข้างจะอนุญาตให้ทำแบบนั้นเหรอ?” (รินทาโร่)
“ฉันค่อนข้างไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนั้นนะคะ” (เรย์)
“เราจะพักเรื่องนี้ไว้ก่อน ถ้ามีอะไรไม่สะดวกค่อยเอากลับมาคิดนะ” (รินทาโร่)
“…..ฉันเข้าใจแล้วค่ะ” (เรย์)
“โอเค ดีมาก” (รินทาโร่)
แม้ว่าจะเป็นการดูหมิ่นนายจ้างเล็กน้อย แต่ เรย์ สั่งให้ผมปฏิบัติต่อเธอในฐานะเพื่อน
“ได้เวลานอนแล้ว พรุ่งนี้มีเรียนพละตั้งแต่คาบแรกนะ” (รินทาโร่)
“อืม เข้าใจแล้วค่ะ” (เรย์)
เรย์ลุกขึ้นและเดินไปที่ห้องนอน
ผมดึงข้างล้างโซฟาออกมาแล้วเปลี่ยนเป็นเตียง
เดิมทีผมจะใช้ห้องนอน แต่ตอนนี้ผมบังคับให้เธอใช้เตียง ตอนแรกเรย์พยายามจะให้ผมใช้เตียง แต่ผมปฏิเสธไป ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยให้เธอใช้โซฟา เราก็เลยทะเลาะกันยาว ในที่สุดเราก็ได้ปข้อตกลง: เรย์จะใช้เตียง ส่วนผมจะใช้เตียงโซฟาเบดที่เธอซื้อมา
โซฟาตัวนี้ไม่ได้อยู่ในบ้านของผมตั้งแต่แรก
ผมยังคงทึ่งในความมั่งคั่งของไอดอลชื่อดัง
โซฟาเบดตัวนี้มีคุณภาพดีมาก ไม่ใช่สิ่งที่นักเรียนมัธยมปลายธรรมดาๆจะสามารถพูดว่า “จะซื้อ” ออกมากันได้ง่ายๆ
[โซฟาเบด คือ โซฟาที่ดึงส่วนล่างให้กลายเป็นที่านอนได้]
(แต่ผมไม่อิจฉาเธอเลย)
ผมมองไปยังห้องนอนที่เธอน่าจะหลับอยู่และคิดถึงเรื่องพวกนี้
ตารางงานที่แน่นหนาและการซ้อมอย่างหนัก สภาพแวดล้อมที่ห้ามความล้มเหลว และการใส่ร้ายป้ายสีบนโซเชียลมีเดีย
มันยังคงไม่มีเรื่องอไรมาก เพราะ มิลสตาร์ ไม่ได้สร้างปัญหาใดๆ แต่ถึงแบบนั้น ผมเคยเห็นคนที่ไม่ชอบพวกเธอใช้คำพุดโป้ปดมาใส่ร้ายพวกเธอหลายครั้ง
หวังว่าการทำอาหารของผม จะช่วยให้ เรย์ คลายเครียดได้บ้าง
ตอน 6 โมงเช้า
ผมตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นด้วยโซฟาเบดคุณภาพดี และเริ่มทำอาหารเช้าตามปกติ แต่ผมไม่ทำอาหารที่ปรุงยากเกินไป ผมแน่ใจว่ามีข้าวเหลือจากเมื่อวาน และทอดไข่ดาวและเบคอนด้วยพริกไทยและเกลือนิดน้อย ผมวางสลัดไว้ข้าง ในสลัดส่วนใหญ่เป็นผักกาด ซึ่งซื้อมาเพราะว่าผมไม่ต้องกังวลกับค่าอาหารและกาแฟ ผมชงโดยใช้น้ำตาลและนมค่อนข้างมากให้เธอ
“เรย์ อาหารเช้าพร้อมแล้วนะ…….เรย์?” (รินทาโร่)
เธอไม่ยอมตื่นอีกแล้ว
เธอไม่ค่อยตื่นเอง และผมมักต้องในห้องนอนเพื่อเข้าไปปลุกเธอให้ตื่น
“เรย์ ผมเข้าไปแล้วนะ” (รินทาโร่)
ผมบอกให้รู้ก่อนและเปิดประตูห้องนอน
ตามที่คาดไว้ เรย์กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง
แต่รูปลักษณ์ของเธอนี่แหละที่เป็นปัญหา
อาจเป็นเพราะช่วงนี้อากาศอุ่นขึ้น เธอจึงไม่ได้ห่มผ้าห่มไว้ นั่นไม่ใช่ปัญหาเดียว เสื้อยืดที่เธอสวมเป็นชุดนอนที่เขียนว่า “ฉันไม่อยากทำงาน” ถูกเอามาใส่ เสื้อยืดนี้เป็นของผม
โธ่— เพราะเสื้อยืดถกขึ้้นอยู่ ส่วนล่างของ ”หน้าอก” จึงมองเห็นได้อย่างชัดเจน
มันค่อนข้างเป็นพิษต่อดวงตาสะจริง
[ ผู้แปล : พิษ หรือ อาหารตากันแน่นะ ]
(ใหญ่……ไม่สินี่เธอนอนไม่ใส่ชุดชั้นในหรอ)
ความคิดชั่วร้ายเกือบจะผุดขึ้นมาในหัว แต่ผมก๋ระงับมันไว้ด้วยเหตุผล
ไม่ว่าผมจะยืนกรานว่ามันเป็นงานมากแค่ไหน มันก็ยากมากที่จะหยุดสัญชาตญาณของผู้ชาย
ผมสงบสติอารมณ์แล้วหันไปหาเรย์อีกครั้ง
“เฮ้ ตื่นได้แล้ว กินข้าวได้แล้วนะ” (รินทาโร่)
“อืม……” (เรย์)
เรย์ดิ้นไปมา
ตอนที่เธอทำแบบนั้น เสื้อยืดที่เดิมถกขึ้น เกือบจะถกขึ้นไปอีก ผมจึงรีบจับผ้าห่มโยนใส่ไป
“หืม รินทาโร่ ……?” (เรย์)
“ตื่นแล้วเหรอ รีบไปล้างหน้า” (รินทาโร่)
“……โอเค” (เรย์)
เรย์ลุกขึ้นจากทีนอนอย่างช้าๆ และมุ่งหน้าไปยังห้องน้ำ รูปร่างหน้าตาของเธอไม่เรียบร้อยจนทำให้ผมสงสัยว่าเธอเป็นไอดอลชั้นนำจริงๆหรือเปล่านะ
――อืม ผมเดาว่ามันคงจะยากเกินไปที่จะขอให้เธอทำตัวเรียบร้อยตลอดเวลา
บางทีเธออาจจะตื่นขึ้น เมื่อเธอไปล้างหน้า สีหน้าของเธอก็กลับไปเป็นปกติ เธอนั่งลงบนโซฟากับผม และหลังจากพูดว่า ”อิทาดาคิมัส” และเธอก็เริ่มกินข้าวเช้า
“อืม ไข่แดงต้มสุกแล้ว…….” (เรย์)
“เธอบอกว่าชอบแบบนี้นิ กาแฟผมก็ใส่น้ำตาลและนมไปเยอะนะ ส่วนสลัด เลือกใส่น้ำสลัดตามใจชอบได้เลย”
“ฉันดีใจที่นายทำแบบที่ฉันชอบให้นะคะ” (เรย์)
“ผมดีใจนะที่รู้ว่าเธอชอบอะไร เพราะผมจะได้ปรับมันในทันที” (รินทาโร่)
ขอบคุณความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมาของเธอ มันทำให้ผมไม่รู้สึกเครียดเวลาทำอาหาร อันที่จริง ดูเหมือนว่าเธอจะสนุกกับการกินมาก มันทำให้ผมรู้สึกว่ามันคุ้มค่ามากเวลาที่ทำ
“เธอ เอากล่องข้าวกลางวันไปรึยัง” (รินทาโร่)
“เอามาแล้วค่ะ” (เรย์)
“ผมจะล็อคประตู ออกไปก่อนเลย” (รินทาโร่)
“โอเคคะ ไว้เจอกันที่โรงเรียนนะ รินทาโร่คุง” (เรย์)
เรย์เปลี่ยนชุดและเดินออกจากประตูไป
แน่นอนว่าเธอกับผมไม่ไปโรงเรียนด้วยกัน
โดยปกติ 5 นาทีหลังจากที่ เรย์ ออกไป ผมก็ออกไปและมุ่งหน้าไปที่สถานี พอไปถึงสถานีก็ไปกับเธอบ้างไม่ไปบ้างเพื่อไม่ให้ผิดปกติ มันคงเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับเราที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นถ้าเรายืนใกล้กันและไม่พูดคุยกัน
(ผมเคยชินกับชีวิตนี้แล้ว ……)
ผมล็อคประตูและเดินไปตามทางปกติไปยังสถานี
ผมเดินผ่านประตูสถานีไปยังชานชาลาและมองหาเรย์
ทันใดนั้น ผมเห็นเธอถูกขอลายเซ็นจากกลุ่มเด็กชายและเด็กหญิงที่ดูเหมือนนักเรียนมัธยมต้น
แม้ว่าใบหน้าส่วนใหญ่ของเธอจะถูกปิดบังด้วยแว่นตาและหน้ากาก แต่ดูเหมือนว่าหากพบเธอทุกวัน จำนวนคนที่จำเธอได้จะเพิ่มขึ้น
ทันทีที่พวกเขาจากไป เพื่อนร่วมชั้นหญิงคนหนึ่งก็ยืนอยู่ข้างเรย์
เมื่อผมจำได้ เธอเป็นสมาชิกชมรมกรีฑา ถ้าเธอมีฝึกตอนเช้า เธอจะขึ้นรถไฟก่อนหน้านี้
วันนี้ดูเหมือนเธอไม่มีช่วงซ้อม ดังนั้นเธอกับเรย์จะได้ไปโรงเรียนด้วยกัน
ค่อยโล่งใจหน่อยที่ไม่ต้องไปพร้อมกับเธอ