บทที่ 219 โรงงานเฟอร์นิเจอร์

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

บทที่ 219 โรงงานเฟอร์นิเจอร์

บทที่ 219 โรงงานเฟอร์นิเจอร์

ทันทีที่รถของอู๋ฝานจอด เจ้าหย้าหนานก็ขอให้คนงานที่เพิ่งเรียกกลับมาทำงานต่อ พวกเขาเข้ามาช่วยขนย้ายสินค้าลงจากรถบรรทุก ไม้เหล่านี้จำเป็นจะต้องผ่านกระบวนการของที่นี่เสียก่อน จึงจะสามารถจัดส่งไปยังโรงงานเฟอร์นิเจอร์เพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตต่อไปได้

“เถ้าแก่ เส้นสายที่คุณมีน่ากลัวเกินไปแล้ว ทำไมถึงจัดการได้รวดเร็วขนาดนี้?” เจ้าหย้าหนานยืนมองการขนย้ายไม้ลงจากรถบรรทุก ขณะเดียวกันก็เผยสีหน้าท่าทางประหลาดใจออกมา

ทั้งหมดนี้คือไม้ที่เธอต้องการใช้งาน แน่นอนว่ามันค่อนข้างหายาก

“ผมรับปากเอาไว้แล้ว ย่อมไม่ผิดคำพูดครับ” อู๋ฝานยิ้มรับ “อีกอย่าง คุณเรียกชื่อผมก็ได้นะครับ พวกเราทั้งสองต่างก็ทำงานแบบพึ่งพากัน ผมไม่ใช่เถ้าแก่ของคุณ พวกเราถือเป็นหุ้นส่วนทางการค้ากันครับ”

“ลองตรวจสอบไม้เหล่านี้ดูอีกทีนะครับ ถ้าหากไม่มีข้อบกพร่อง ก็ถือว่าวัสดุที่ได้มาตรงตามมาตรฐานดี แต่หากมีข้อผิดพลาดอะไรก็แจ้งผมได้ ผมจะหาชุดใหม่มาเปลี่ยนให้ครับ” อู๋ฝานกล่าว

ที่ด้านหลังภูเขาหมู่บ้านเร้นลับยังมีไม้อีกมากให้ใช้งาน เมื่อวานเขาเพียงเดินสุ่มหาไปเรื่อย ๆ ก็บังเอิญพบมันเข้า ตราบใดที่ชื่อตรงกับรายการที่ต้องการ ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจว่าตัววัสดุเป็นอย่างไร

“ไม้พวกนี้ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้นค่ะ ดีกว่าไม้ที่ฉันซื้อหามาก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ!” แม้ว่าเจ้าหย้าหนานจะอยู่ในวงการนี้มาไม่นาน แต่ความสามารถวิเคราะห์เนื้อไม้ของเธอนั้นใช้ได้ ถึงจะไม่ดีเท่ากับระดับผู้อาวุโส แต่เธอก็อยู่กับมันมาตั้งแต่เด็ก นอกจากนั้นพอต้องมารับผิดชอบงานที่นี่ เธอก็ตั้งใจศึกษาเรื่องนี้มาโดยตลอดจึงพอมีความสามารถในการจำแนกเกรดวัสดุอยู่บ้าง เพียงประเมินด้วยตาก็ทราบได้ว่า คุณภาพไม้ที่นำมาส่งครั้งนี้ดียิ่งกว่าที่เธอซื้อหามาครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด

“ตรงตามเงื่อนไขก็โอเคแล้วครับ” อู๋ฝานตอบรับ

การขนย้ายไม้ลงจากรถขนส่งก่อให้เกิดเสียงดัง ไม่แปลกหากมันจะดึงดูดความสนใจของเถ้าแก่หลิวที่อยู่ข้างเคียงได้ เมื่อเขาพบว่าอู๋ฝานที่สามารถนำไม้ทั้งหมดมาได้ในหนึ่งวัน ในใจก็ทั้งทึ่งและตื่นตระหนกไปพร้อม ๆ กัน

เครือข่ายเส้นสายของอู๋ฝานกว้างขวางยิ่งกว่าสองพ่อลูกตระกูลเจ้าเสียอีก หากว่าครั้งนี้อีกฝ่ายได้รับอนุญาตให้ตั้งหลักที่นี่ อย่าพูดถึงความสัมพันธ์แบบร้านใกล้เคียงเลย อีกฝ่ายอาจเริ่มจากยึดกิจการข้างเคียงก็ได้

อย่างไรเสีย ระยะห่างระหว่างทั้งสองร้านก็แทบไม่มี หากว่ากิจการของอู๋ฝานดำเนินไปได้ด้วยดี ถึงตอนนั้นร้านของเถ้าแก่หลิวย่อมได้รับผลกระทบแน่ ๆ

“ไม่ได้แล้ว จะปล่อยให้มันมาลงหลักปักฐานที่นี่ไม่ได้เด็ดขาด!” เถ้าแก่หลิวครุ่นคิดกับตนเองอยู่ในใจ “ตราบใดที่พวกมันไม่สามารถทำรายการสั่งซื้อให้สำเร็จได้ตามนัดหมายก็จะต้องเสียเงินอีกหลายสิบล้าน นอกเหนือจากค่าชดเชย ถึงตอนนั้นสภาพการลงทุนของพวกมันคงไม่มีทางฟื้นกลับคืนมาได้อีก ความเสียหายครั้งนี้เกินกว่าที่จะแบกรับไหว!”

ความคิดในหัวของเถ้าแก่หลิวปรากฏขึ้นอย่างแน่วแน่

“เหมือนเขาจะค่อนข้างให้ความสนใจพวกเราไม่น้อยเลยทีเดียว” อู๋ฝานตระหนักได้ถึงสายตาร้อนแรงที่เถ้าแก่หลิวมองมา

“เขาคงภาวนาให้คุณหาไม้มาส่งฉันไม่ทันเวลา ถ้าเป็นแบบนั้นคำสั่งซื้อที่รับเอาไว้ก็ไม่มีทางทำสำเร็จ และเขาก็จะได้ชมเรื่องตลก ๆ” เจ้าหย้าหนานแค่นเสียงเย็นชา

เธอไม่เคยมองเถ้าแก่หลิวในแง่ดีแม้สักครั้ง

“คุณต้องระวังเรื่องโรงงานเฟอร์นิเจอร์ให้มากขึ้น จะปล่อยให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีกไม่ได้นะครับ” อู๋ฝานย้ำคำ

“ค่ะ ฉันทราบดี” เจ้าหย้าหนานทราบเหตุผลที่อีกฝ่ายย้ำเตือนหนักหนา เธอเองก็หวังให้คำสั่งซื้อครั้งนี้สำเร็จไปได้ด้วยดีเช่นกัน เพียงแต่หากเกิดปัญหาขึ้นกับโรงงานเฟอร์นิเจอร์อีก ความหวังที่จะทำรายการสั่งซื้อให้สำเร็จของเธอคงจบสิ้น และนั่นจะเป็นการฉุดอู๋ฝานดิ่งลงเหวไปด้วย

แม้ว่าเจ้าหย้าหนานจะรับปากอย่างดี แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ได้วางใจ เขารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนมีความสามารถ แต่เธอยังมีประสบการณ์น้อย เรื่องเจ้าเล่ห์เพทุบาย หากเทียบกับจิ้งจอกเฒ่าอย่างเถ้าแก่หลิวแล้ว เจ้าหย้าหนานถือว่าตื้นเขินนัก มากไปกว่านั้นศัตรูก็ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดตลอด บางทีคงกำลังรอจังหวะที่เธอประมาทอยู่

คิดได้ดังนั้น อู๋ฝานจึงบอกกับเจ้าหย้าหนาน “ที่นี่ไม่น่าเหลืออะไรให้จัดการแล้วครับ ดังนั้นพาผมไปที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ก่อนแล้วกัน”

“ได้ค่ะ” เธอตอบรับโดยไม่ลังเล

เมื่อวานเจ้าหย้าหนานขายทั้งโรงไม้และโรงงานเฟอร์นิเจอร์ให้กับอู๋ฝานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นโรงงานเฟอร์นิเจอร์จึงถือว่าเป็นของเขา หากเจ้าของต้องการไปเยี่ยมชม เธอจะปฏิเสธได้อย่างไร

ทั้งคู่ใช้รถเดินทางไปยังโรงงานเฟอร์นิเจอร์ สถานที่ทั้งสองไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก

ที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ มีคนงานกำลังเก็บกวาดขยะ ด้านในอู๋ฝานยังเห็นร่องรอยของเพลิงที่เคยลุกไหม้ ดูเหมือนไฟไหม้ครั้งก่อนจะรุนแรงกว่าที่เขาคาดคิด

“คนงานที่นี่ถูกเรียกตัวกลับมาทำงานหมดแล้วค่ะ และเพื่อให้งานของเราเสร็จทัน ฉันจึงจ้างคนอีกกลุ่มหนึ่งมาด้วย หากงานที่โรงงานไม้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ทางด้านนี้ก็พร้อมเริ่มงานทันทีค่ะ” เจ้าหย้าหนานตอบรับ “ตอนนี้คุณเป็นเถ้าแก่ของที่นี่ หากคิดว่ามีคนงานมากเกินไป พวกเราสามารถคัดออกได้นะคะ ฉันเองก็คิดว่าหลังจากจัดการคำสั่งซื้อรอบนี้เสร็จคงต้องให้ลาออกกันไปจำนวนหนึ่งค่ะ”

“ลดคนเหรอครับ?” อู๋ฝานส่ายศีรษะ “ไม่เลยครับ เราจะไม่ลดคนอย่างแน่นอน พวกเราจะต้องรับสมัครคนเพิ่มด้วยซ้ำครับ ผมต้องการขยายตลาดโรงงานเฟอร์นิเจอร์ให้กว้างขึ้น แค่คนงานที่เห็นตรงนี้คิดว่ายังไม่พอครับ”

ทรัพยากรไม้ที่อู๋ฝานมีในครอบครองนั้นมากมายมหาศาล อีกทั้งตัวเขาก็ได้เรียนรู้วิชาผลิตเฟอร์นิเจอร์จากหัวหน้าหมู่บ้านแล้วด้วย เงื่อนไขทั้งสองครบถ้วนขนาดนี้ การขยายโรงงานเฟอร์นิเจอร์ให้ใหญ่ขึ้นมีแต่จะเป็นไปได้!

“ขยายเหรอคะ?” คำพูดของอู๋ฝาน เป็นเหตุให้เจ้าหย้าหนานถึงกับชะงัก “อู๋ฝาน คุณอาจไม่ทราบว่าในแวดวงผลิตเฟอร์นิเจอร์มีการแข่งขันทางการค้ารุนแรงขนาดไหน ยิ่งช่วงไม่กี่ปีมานี้ยิ่งดุเดือดค่ะ ปัจจุบันการหาโรงงานเฟอร์นิเจอร์ที่ทำตามคำสั่งส่วนตัวเป็นเรื่องง่ายมาก พวกเขาคาดหวังงานฝีมือที่ประณีตขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าฝีมือของพวกเราที่นี่จะไม่เลว แต่ก็ยังห่างชั้นจากยอดฝีมือตัวจริงอยู่ค่ะ ลำพังการที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์จะรักษาตลาดขนาดนี้เอาไว้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หากเราขยายตลาดให้กว้างขึ้น ฉันเกรงว่าผลที่ตามมาจะร้ายแรงพอสมควร”

เจ้าหย้าหนานไม่ทราบสถานการณ์ของอู๋ฝาน พอเห็นเขากระหายที่จะขยับขยายตลาด เธอจึงคิดว่าเขาเป็นเพียงคนหนุ่มไฟแรง อู๋ฝานเพิ่งเข้ามาในวงการนี้และคงต้องการเร่งสร้างชื่อเสียง เธอกังวลว่าเขาจะหุนหันพลันแล่นจนเกินไป

“พวกเราจะรับทำงานปรับแต่งส่วนตัวตามคำสั่งของลูกค้าด้วยครับ” อู๋ฝานตอบ “ส่วนเรื่องช่างฝีมือที่ยังไม่เชี่ยวชาญ ผมสอนพวกเขาได้ครับ”

“คุณ?” เจ้าหย้าหนานไม่คาดคิดว่าอู๋ฝานจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา เธอมองไปที่อีกฝ่ายด้วยความสงสัย

“ครับ? ไม่เชื่อผมงั้นสิ?” อู๋ฝานยิ้ม “คุณอาจไม่ทราบ แต่เรื่องการทำเฟอร์นิเจอร์เนี่ยผมค่อนข้างเชี่ยวชาญเลยทีเดียว การปรับแต่งเฟอร์นิเจอร์ตามสั่งไม่ใช่ปัญหาแม้แต่น้อยครับ”

ทักษะการทำเฟอร์นิเจอร์ของอู๋ฝานก้าวหน้าอย่างมาก พรของจี้หยกกระเรียนขาวทำให้เขาสำเร็จการศึกษาระดับมาสเตอร์เลยทีเดียว ดังนั้นการที่ชายหนุ่มพูดว่าตนเองเป็นช่างฝีมือทำเฟอร์นิเจอร์ระดับมาสเตอร์จึงไม่ใช่การคุยโวหรือโอ้อวด

เพียงแต่ เจ้าหย้าหนานไม่เชื่อ

เธอพอมีความเข้าใจในแวดวงนี้อยู่บ้าง บรรดาช่างทำเฟอร์นิเจอร์ฝีมือระดับมาสเตอร์ทั้งหลาย ส่วนใหญ่ต่างก็เป็นคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการยาวนานหลายสิบปี แต่ละคนเรียกได้ว่าเป็นสมบัติแห่งวงการ หากว่าโรงงานเฟอร์นิเจอร์หาช่างฝีมือระดับนั้นได้สักคนหนึ่ง ย่อมสามารถหาเงินมาได้อย่างไม่ขาดสาย เรียกได้ว่าไม่มีทางขาดทุน เพียงแต่ช่างเฟอร์นิเจอร์ฝีมือระดับมาสเตอร์มีจำนวนน้อยและหาได้ยาก

ช่างฝีมือทำเฟอร์นิเจอร์ระดับมาสเตอร์อายุยี่สิบกว่างั้นหรือ?

เจ้าหย้าหนานไม่เคยได้พบมาก่อน และไม่เคยได้ยินว่ามีอยู่ด้วยซ้ำ

อู๋ฝานเป็นช่างฝีมือทำเฟอร์นิเจอร์ระดับมาสเตอร์จริงหรือ?

เธอไม่คิดจะซื้อความเชื่อนี้

“เป็นอะไรครับ? ไม่เชื่อจริง ๆ สินะ?”​อู๋ฝานเห็นว่าเจ้าหย้าหนานยังไม่เชื่อ จึงระบายยิ้ม “ไว้ไม้ที่ผ่านกระบวนการมาถึงเมื่อไหร่ ผมจะแสดงฝีมือให้รับชมก็แล้วกันครับ”