บทที่ 214-2 สิ่งประดิษฐ์ที่ไร้ความหมาย (2)

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

บทที่ 214 สิ่งประดิษฐ์ที่ไร้ความหมาย (2)

พานเซี่ยงเหนียนมอบหมายให้ไป๋เยี่ยรับหน้าที่ขึ้นไปรายงาน ซึ่งเดิมทีไป๋เยี่ยก็อยากจะอภิปรายถึงการปรับเปลี่ยนวิธีการล้างแผลบริเวณทวารหนักอยู่แล้ว ไหนจะยังต้องเปิดตัวสเปรย์ลิโดเคนรุ่นใหม่อย่าง ‘ฉีดปุ๊บหายปั๊บ’ และโฟมปิดแผลรุ่นใหม่อีก

ทว่าดูจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว การที่ญี่ปุ่นเปิดตัวหุ่นยนต์ผ่าตัดซากุระอาจจะทำให้การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของเขาเทียบชั้นกับอีกฝั่งไม่ได้

เพราะฉะนั้น ไป๋เยี่ยจึงตัดสินใจเปลี่ยนความคิดเล็กน้อย โดยเพิ่มการอภิปรายแนวคิดของเขาเพิ่มลงไปด้วย

สิ่งที่ไป๋เยี่ยคิดไม่มีอะไรมาก ก็แค่ต้องการขัดขาไม่ให้พวกญี่ปุ่นได้ขายผลิตภัณฑ์ของเขาเท่านั้นเอง!

อยากผ่าตัดกันนักไม่ใช่เหรอ

ได้สิ เดี๋ยวผมจะพิสูจน์ให้เห็นเองว่าหุ่นยนต์ของพวกคุณน่ะมันกระจอกงอกง่อยแค่ไหน ด้วยเหตุผลต่อไปนี้!

เริ่มจากประการแรก เราจะป้องกันโรคภายในลำไส้ได้โดยการปรับสภาพแวดล้อมภายในลำไส้ให้อยู่ในสภาวะสมดุล

ประการที่สอง หากเกิดโรคขึ้น เราก็จะรักษาโรคนั้นได้โดยง่าย ไหนๆ การใช้หุ่นยนต์ผ่าตัดก็ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานนัก

แต่ถึงกระนั้น วิธีการล้างแผลก็มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการซ่อมแซมสภาพแวดล้อมภายในลำไส้ คุณจะเลือกใช้เวลาไปกับเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้ง หรือจะเลือกวิธีการรักษาที่ช่วยให้หายขาดจากโรคได้ล่ะ

ตัวอย่างเช่น การผ่าตัดริดสีดวงทวารพีพีเอช ถือเป็นการผ่าตัดสมัยใหม่ที่ดำเนินการคล้ายการใช้หุ่นยนต์ผ่าตัด ทว่าการผ่าตัดโดยวิธีนี้ก็มีข้อเสีย คือ มีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นริดสีดวงได้ใหม่ ซึ่งมักเกิดขึ้นอีกครั้งภายในระยะเวลาสิบหกเดือน

ดังนั้นแนวคิดของไป๋เยี่ยจึงมุ่งไปที่การรักษาโรคโดยแก้ไขตั้งแต่ต้นตอ นี่คือจุดประสงค์หลักในการรักษาโรคของเขา ไม่ใช่แค่เห็นฝีโผล่ออกมา แล้วไงล่ะ! ก็เฉือนๆ มันทิ้งไปให้จบเรื่องแค่นั้น!

ไม่ว่าจะสรรหาวิธีผ่าตัดตุ่มฝีเหล่านั้นอย่างไร ก็ไม่อาจป้องกันให้มันงอกขึ้นมาใหม่ได้艾琳小說

สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้ตุ่มฝีพวกนี้งอกขึ้นมาได้อีก นี่แหละจุดประสงค์หลัก!

ไป๋เยี่ยคิดได้ดังนั้น ก็ลงมือค้นคว้าข้อมูลต่อ พร้อมกับเตรียมการสำหรับการรายงานในวันพรุ่งนี้

เวลาช่างกระชั้นชิดเสียจนไป๋เยี่ยอยากจะแบ่งเวลาหนึ่งวันนี้ออกเป็นหนึ่งปี

ไป๋เยี่ยต้องขึ้นรายงานประมาณสี่โมงเย็นของวันพรุ่งนี้ เขาตั้งใจจะไม่นอน เมื่อรู้สึกเหนื่อยก็แค่หยิบขวดเครื่องดื่ม ‘ม่ายต้ง’ และ ‘กระทิงแดง‘ จากระบบขึ้นมาดื่มเท่านั้น

เช้าวันต่อมา พานเซี่ยงเหนียนตื่นขึ้นมาจัดการตนเองแต่เช้า ก่อนจะนัดกันไปกินอาหารเช้ากับหลี่มู่หยางและคนอื่นๆ ทว่าจู่ๆ ก็พลันนึกขึ้นได้ว่าไป๋เยี่ยยังไม่มา จึงไปเคาะเรียกไป๋เยี่ยที่ห้อง

เช้านี้มีการสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการจากหลายๆ ประเทศในแถบเอเชีย ซึ่งไป๋เยี่ยไม่ได้ตั้งใจจะมาเข้าร่วมอยู่แล้ว เพราะเขาต้องเตรียมตัวขึ้นรายงานในช่วงบ่าย จึงปฏิเสธการเข้าร่วมไป

พานเซี่ยงเหนียนกลับคิดว่าไป๋เยี่ยไม่มาเข้าร่วมการสัมมนาเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้บีบบังคับไป๋เยี่ย

ทว่าเวลาผ่านเลยไปจนกระทั่งบ่ายสามโมงแล้วก็ยังไร้วี่แววของไป๋เยี่ย ทำเอาพานเซี่ยงเหนียนเริ่มกังวลขึ้นมาเล็กน้อย

ใกล้จะต้องขึ้นรายงานแล้ว เขายังไม่โผล่มาอีกเหรอ นี่เขามัวตื่นกลัวอะไรอยู่

พานเซี่ยงเหนียนต่อสายหาไป๋เยี่ยด้วยความร้อนรนอยู่หลายครั้ง ทว่าไป๋เยี่ยกลับไม่รับสายเลย ทำให้จู่ๆ พานเซี่ยงเหนียนก็กระวนกระวายไปด้วย

ผู้กล่าวรายงานคนแรกของภูมิภาคเอเชียคือตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็คือคาวาโนะ ชินจินั่นเอง

หุ่นยนต์ซากุระถูกพัฒนาขึ้นโดยอาศัยความร่วมมือจากบริษัทเอดะและโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยโตเกียว คาวาโนะ ชินจิมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนกทวารหนักของบริษัทเอดะและเป็นตัวแทนจากโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยโตเกียว สิ่งที่พวกเขาต้องการนำเสนอในการประชุมประจำปีครั้งนี้ก็คือนวัตกรรมหุ่นยนต์ผ่าตัดบริเวณทวารหนักสุดล้ำยุค ‘ซากุระ’

เทียบกับการบรรยายในที่ประชุมเมื่อวานแล้ว การรายงานในวันนี้ดูจะมีความเป็นกันเองมากกว่า ทุกคนพูดคุยและถามคำถามกันได้อย่างเสรี

คาวาโนะ ชินจิยืนอยู่บนโพเดียมพร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ ผมจะนำเสนอข้อมูลบางส่วนให้ทุกท่านได้รับชมครับ โปรดดูที่หน้าจอนะครับ”

“ตั้งแต่ปีสองพันสิบหกจนถึงปีสองพันสิบเจ็ด แผนกทวารหนักของโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยโตเกียวรับเคสผู้ป่วยในทั้งสิ้นสองหมื่นรายและเคสผู้ป่วยนอกอีกเก้าหมื่นราย ทางเราได้ผ่าตัดบริเวณทวารหนักไปมากกว่าสี่หมื่นครั้ง โดยมีการผ่าตัดเฉลี่ยวันละหนึ่งร้อยครั้ง สมมติว่าศัลยแพทย์หนึ่งคนจะทำการผ่าตัดหนึ่งครั้งต้องใช้เวลาสามสิบนาที ดังนั้นการผ่าตัดหนึ่งร้อยครั้งก็ต้องใช้ศัลยแพทย์ทั้งสิ้นสิบคน ซึ่งต้องทำการผ่าตัดต่อเนื่องวันละสามร้อยนาที บวกกับเวลาเตรียมการผ่าตัดก็อาจใช้เวลาถึงหกร้อยนาทีหรือสิบชั่วโมงนั่นเอง ช่างเป็นตัวเลขที่น่าสะพรึงจริงๆ นะครับว่าไหม ยิ่งไปกว่านั้น ศัลยแพทย์แต่ละคนก็คงดำเนินการผ่าตัดด้วยตนเองไม่ได้ ยังต้องมีผู้ช่วยอีก…”

“กำลังของศัลยแพทย์ล้วนมีขีดจำกัด เป็นไปไม่ได้เลยที่จะปฏิบัติงานที่มีความตึงเครียดสูงได้เป็นเวลานาน พวกเขาจะบรรลุจุดนั้นได้อย่างไรกัน”

“แต่เพราะว่าพวกเราได้ติดตั้งหุ่นยนต์ซากุระไว้ในแผนกทวารหนักจำนวนสิบตัว ซึ่งใช้เวลาติดตั้งระบบเพียงสิบนาทีและเวลาผ่าตัดอีกยี่สิบนาที…พวกเราลดระยะเวลาการผ่าตัดลงไปได้เยอะมาก ทั้งยังลดความตึงเครียดในการทำงานของแพทย์ลง และยังรับประกันถึงความแม่นยำในการผ่าตัดได้อีกด้วย…”

คาวาโนะ ชินจิเอ่ยวาจาอย่างฉะฉานอยู่พักหนึ่งแล้วจึงสรุปผล “การเปิดตัวของ ‘ซากุระ’ หุ่นยนต์ผ่าตัดบริเวณทวารหนักนี้จะช่วยยกระดับการรักษาโรคบริเวณทวารหนักได้อย่างแน่นอนครับ! มันจะช่วยลดแรงกดดันให้กับแพทย์ ทำให้แพทย์มีเวลามากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนชีวิตคนจริงๆ!”

คาวาโนะ ชินจิกล่าวจบก็โค้งตัวลง “มีคำถามเพิ่มเติมไหมครับ”

ทันทีที่เขาพูดจบก็มีเสียงปรบมือดังเกรียวกราวดังขึ้นอย่างอบอุ่น เพราะว่าข้อมูลที่เขาได้นำเสนอนั้นฟังดูสมเหตุสมผลและเป็นที่ยอมรับ หุ่นยนต์ผ่าตัดนี้ถือเป็นผลงานแห่งความก้าวหน้าชิ้นเอกที่แท้จริง หากไม่มีอันใดผิดพลาด นี่ก็คงเป็นผลงานชนะเลิศแห่งการประชุมประจำปีครั้งนี้อย่างแน่นอน!

ทว่าพานเซี่ยงเหนียนกลับไม่ได้ตั้งใจฟังการรายงานเลยแม้แต่น้อย เขาได้แต่เฝ้ารอการมาถึงของไป๋เยี่ยอย่างใจจดใจจ่อ ทั้งที่เพิ่งจะต่อสายหาไป๋เยี่ย อีกฝ่ายก็ตอบมาว่าอยู่ระหว่างทาง แต่ทำไมตอนนี้เขายังไม่โผล่มาแม้แต่เงา

อีกไม่ถึงยี่สิบนาทีก็จะถึงคิวของเขาแล้ว แต่เจ้าเด็กนั่นก็ยังไม่โผล่หัวมา น่าหงุดหงิดชะมัด! กลับไปคงต้องสั่งสอนบทเรียนให้เขาสักหน่อยแล้ว พานเซี่ยงเหนียนคิดเช่นนั้นก็อดเดินขึ้นไปลากคอไป๋เยี่ยลงมาจากชั้นบนไม่ได้

การประชุมจัดอยู่ที่ชั้นสองของโรงแรม ส่วนไป๋เยี่ยยังคงอยู่ที่ชั้นเก้า!

ระหว่างที่ผู้คนกำลังปรบมือเปล่งเสียงสรรเสริญคาวาโนะ ชินจิอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงที่ไม่สมควรจะดังขึ้นในเวลานี้เปล่งออกมา

“ผมมีคำถาม!”

ทันทีที่พานเซี่ยงเหนียนได้ยินน้ำเสียงอันคุ้นเคยนี้ เขาก็พลันรู้สึกดีใจไปด้วย ในที่สุดเจ้าเด็กนั่นก็มาซะที!

แต่เมื่อพานเซี่ยงเหนียนได้ฟังสิ่งที่ไป๋เยี่ยพูด เขาก็นิ่วหน้าทันที คิดจะทำบ้าอะไรอีก!

ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น คนอื่นๆ ก็พากันแหงนหน้ามองหาต้นเสียง ทันใดนั้นคาวาโนะ ชินจิก็มีท่าทีตื่นตระหนก ไหงเป็นหมอนี่อีกแล้ว! เขาคิดจะทำอะไรอีกเนี่ย