บทที่ 91: ปีศาจ!
“ พี่ชาย เราไปคุยกันข้างนอกดีกว่านะ” ชายหนุ่มจับแขนของหวังเต็งและดูกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก
“ เออ ว่าแต่อะไรอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมที่คุณถืออยู่กัน?”
เขาอดไม่ได้ที่จะถามเมื่อเห็นกล่องบรรจุอาวุธที่อยู่ด้านหลังหวังเต็ง
“ โอ้ นี่คือกล่องพัสดุ คุณต้องการดูของที่อยู่ข้างในไหมล่ะ?” หวังเต็งถามอย่างใจเย็น
“ ไม่ไม่” ชายหนุ่มส่ายหัวอย่างเมามัน
เขาดึงหวังเต็งไปที่มุมๆหนึ่งแล้วหยิบเงินสองสามร้อยดอลลาร์ออกจากกระเป๋าของเขา “ พี่ชาย การวิ่งส่งของไปมาตอนกลางคืนคงจะเหนื่อยมากสินะ มันถึงได้ทําให้คุณเบลอและคิดว่าฉันถามคุณ”
หวังเต็งลูบธนบัตรร้อยดอลลาร์ในมือและแกล้งทําเป็นคนรักเงิน เขาพยักหน้าและพูดว่า “ ฉันคิดว่าฉันคงจะเบลอจริงๆนั่นแหละ”
“ ใช่ ฉันไม่ได้ถามอะไรคุณสักหน่อย และคุณก็ไม่ได้ตอบอะไรฉันด้วย แบบนี้สิถึงจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข” ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างพอใจ
“ ฉันเข้าไปได้หรือยัง” หวังเต็งถาม
“ ไปเถอะ ไปเถอะ” ชายหนุ่มโบกมือให้ จากนั้นเขาก็ถามอีกครั้งว่า “ อ๋อใช่ คุณรู้หรือไม่ว่าเจ้านายของเราอาศัยอยู่ที่ไหน”
“ ไม่ ฉันไม่รู้” หวังเต็งส่ายหัว
“ เขาอาศัยอยู่ที่ ไม่เป็นไร ฉันจะพาคุณไปที่นั่นเอง” ชายหนุ่มดูกังวลเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงหันหลังกลับและล็อกประตู จากนั้นเขาก็พาหวังเต็งไปที่สํานักงานใหญ่ด้วยตัวเอง
มันเป็นช่วงดึกแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครเดินไปรอบๆสถานที่ ชายหนุ่มเป็นผู้นํา และในไม่ช้า พวกเขาก็มาถึงนอกประตู
“ เจ้านายของเราอาศัยอยู่ที่นี่ จําไว้นะว่าฉันไม่ได้ถามอะไรเลย” ชายหนุ่มยังคงรู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้นเขาจึงเตือนหวังเต็งอีกครั้งราวกับเป็นแม่ที่รู้จี้
“ อย่ากังวล เจ้านายของคุณจะไม่รู้อะไรเลย” หวังเต็งแสดงออกอย่างลึกลับและพยักหน้า
ก๊อก ก๊อก ก๊อก !
ในที่สุดชายหนุ่มก็เคาะประตู และเสียงก็ดังออกมาจากภายในห้อง “ มันคือใคร?”
“ เจ้านาย ฉันเอง หวู่น้อย มีของมาส่งให้คุณน่ะ”
“ หวู่น้อย? อ๋อ คนเฝ้าประตูน่ะหรอ? มันคืออะไร?”
เสียงข้างในเริ่มสงสัย เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้และหยุดลงที่หน้าประตู
ประตูกําลังจะเปิดออก
อย่างไรก็ตาม จู่ๆมันก็
บูมมม!
พลังมหาศาลพุ่งออกมาจากข้างใน ประตูแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และร่างที่ถือมีดอยู่ก็พุ่งออกไป
หวังเต็งตกใจเล็กน้อย แต่เขาตอบสนองทันเวลา
เขาเปิดใช้งานอักษรรูนบนโลงศพบรรจุอาวุธของเขา
มั่ว!
ดาบพุ่งออกมาและตกลงมาที่มือของหวังเต็ง เขาหันกลับมาและสกัดการโจมตีที่เล็งมาที่เขา
เครั้ง!
ประกายไฟกระจายไปทุกที่
ทั้งสองแยกจากกันในทันที ชายที่บินออกมาจากห้องจ้องไปที่หวังเต็ง “ ใครส่งแกมา?”
อีกด้านหนึ่ง ชายหนุ่มที่ชื่อหวู่น้อยก็ตกใจเป็นอย่างมาก เขามองคนทั้งสองอย่างงุนงง เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อส่ง “ฉันรักไม้ขีดไฟ” หรอกหรอ?
คุณกําลังทําอะไรกัน?
กล่องสี่เหลี่ยมนี้ไม่ใช่กล่องพัสดุหรอ? ทําไมถึงมีอาวุธข้างในนั้นกัน?
คุณรังแกฉันเพราะฉันเรียนไม่เก่งหรอ?
หวู่น้อยอยากจะร้องไห้ในตอนนี้เขาได้กลายเป็นทารกน้อยขี้สงสัยที่มีคําถามนับพันในใจของเขา
“ ไอ้โง่ กล้าดียังไงที่ปล่อยให้คนนอกเข้ามาง่ายๆแบบนี้ ฉันจะจัดการแกแน่ในภายหลัง” ชายร่างกํายําตะโกนใส่หวู่น้อย และทําให้หวู่น้อยคอตกด้วยความกลัว
ฉันตายแน่!
ฉันโดนเจ้านายโกรธแล้ว ฉันควรจะทําอย่างไรดี? ช่วยฉันด้วย!
ในเวลาเดียวกัน มันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากหลายทิศทาง สมาชิกคนอื่นๆของกลุ่มกําปั้นเหล็กกําลังรีบเข้ามา
ภายในไม่กี่วินาที สถานที่แห่งนี้ก็เต็มไปด้วยผู้คน
“ ฉันไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าหัวหน้าของกลุ่มกําปั้นเหล็กจะเป็นศิษย์นักสู้ชั้นยอด” หวังเต็งกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“ ถ้าฉันไม่มีความสามารถ งั้นฉันจะนั่งในตําแหน่งนี้ได้ยังไงล่ะ?”
“ แกเองก็ทําให้ฉันประหลาดใจเช่นกัน แกอายุยังน้อย แต่แกก็แข็งแกร่งมาก แกน่าจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า แต่น่าเสียดาย วันนี้แกจะต้องตายที่นี่”
หัวหน้าของกลุ่มกําปั้นเหล็กคเริ่มส่ายศีรษะด้วยความสงสาร
เขามองไปที่หวังเต็งและต้องการที่จะจับสัญญาณของความกลัวหรือความตื่นตระหนกบนใบหน้าของหวังเต็ง แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีอะไร
ในสถานการณ์เช่นนี้ ชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามเขายังคงมีท่าที่สงบเสงี่ยม มันไม่มีความไม่สบายใจในสายตาของเขา
“ เด็กของแกอยู่ที่นี่ทั้งหมดแล้วใช่ไหม?” หวังเต็งถามด้วยน้ําเสียงที่นุ่มนวล
หัวหน้าของกลุ่มกําปั้นเหล็กสามารถสัมผัสได้ถึงการดูถูกด้วยน้ําเสียงที่ไม่ใส่ใจของเขา เขาโกรธจนยิ้มออกมา “ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะสับแกเละเป็นกองเนื้อ”
จากนั้นใบหน้าของเขาก็เย็นชาและการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป
“ ฆ่ามัน!”
สมาชิกกลุ่มต่างรุมเข้าหาหวังเต็ง พวกเขาทั้งหมดถืออาวุธอยู่ในมือ และทุบลงไปบนร่างของหวังเต็ง
บูมมม!
การจ้องมองของหวังเต็งเย็นชาขึ้นเมื่อพลังภายในร่างกายของเขาระเบิดออกมา มันกระจายไปรอบๆตัวเขาราวกับคลื่นกระแทก และไล่ผู้คนที่พุ่งเข้าใส่ให้ถอยออกไป
หวังเต็งถือดาบในมือของเขาและพุ่งเข้าใส่ฝูงชน
ในขณะนี้ หัวใจของเขาก็เย็นเฉียบและแข็งกระด้างเป็นพิเศษ การเหวี่ยงดาบของเขาหนึ่งครั้งหมายถึงการคร่าชีวิตคนไปหนึ่งคน ทุกหมัดที่เขาชกทําให้กระดูกของคู่ต่อสู้หัก เลือดกระเซ็นไปทั่วทุกหนทุกแห่ง และฉากนั้นก็ช่างน่าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง
เขาไม่ได้ต้องการฆ่าใคร แต่เนื่องจากพวกมันต้องการที่จะฆ่าเขา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะฆ่าพวกมันอย่างสนุกสนาน
เขาจะฆ่าพวกมันจนกว่าพวกมันจะกลัวเขา!
“ นักสู้!”
หัวหน้าของกลุ่มกําปั้นเหล็กตกตะลึงด้วยความประหลาดใจ เสียงของเขาสั่นขณะที่เขาตะโกนด้วยความหวาดกลัว เขาดูราวกับคนที่เห็นผี
ในที่สุดสมาชิกคนอื่นๆในกลุ่มก็รู้แล้วว่าพวกเขากําลังเผชิญหน้าอยู่กับคู่ต่อสู้แบบไหน และนั่นก็ทําให้พวกเขาหน้าซีดด้วยความตกใจ
“ วิ่ง!”
“ เขาเป็นนักสู้ เราไม่สามารถเอาชนะเขาได้”
* บัดซบ ใครมันไปท้าทายนักสู้มากัน”
ในท้ายที่สุด บางคนก็เริ่มหลบหนีด้วยความโกลาหล พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเผชิญหน้ากับหวังเต็ง
อย่างไรก็ตามหวังเต็งก็ยังคงพัวพันอยู่กับการฆ่า เขาเป็นเหมือนหมีพิโรธที่พุ่งเข้าใส่ฝูงหมาป่า เขาไม่สนใจว่าเขาฆ่าใคร
และไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน เสียงกรีดร้องของความเจ็บปวดก็จะดังขึ้นที่นั่น
ในอีกด้านหนึ่ง หัวหน้าของกลุ่มกําปั้นเหล็กก็รู้ว่าเขาไม่สามารถเอาชนะหวังเต็งได้ ดังนั้นเขาจึงพยายามวิ่งหนีท่ามกลางความโกลาหล
หวังเต็งเหยียบลงบนพื้นและร่างกายของเขาก็พุ่งขึ้นไปในอากาศเหมือนกัลลูกกระสุนปืนใหญ่ เขาลอยลงต่อหน้าหัวหน้าของกลุ่มกําปั้นเหล็กและเหวี่ยงดาบใส่มัน
“ ตาย!”
หัวหน้าของกลุ่มกําปั้นเหล็กตื่นตระหนก เขายกมีดขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตี
ในชั่วพริบตาต่อมา พลังอันมหาศาลที่หนักเท่าภูเขาก็ได้ซัดลงมาใส่เขา และทําให้มีดของเขาแตก
ปัก!
เขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก หัวหน้าของกลุ่มกําปั้นเหล็กไม่สามารถควบคุมร่างกายของเขาได้และก้าวถอยหลังไป เขาต้องถอยไปถึงเจ็ดก้าวกว่าจะสามารถตั้งหลักได้
หวังเต็งยังคงแสดงความมีเมตตาในครั้งนี้
“ ใครเป็นคนสั่งให้แกจับหวังเฉินกั่ว?” หวังเต็งถาม
« หวังเฉิงกั๋ว?”
ในที่สุดหัวหน้าของกลุ่มกําปั้นเหล็กก็เข้าใจที่มาของภัยพิบัติในครั้งนี้ จากนั้นเขาก็รีบพูดอย่างเกรงกลัวว่า “ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะมาจากเมืองหลวงเซีย หัวหน้ากลุ่ม เองก็เป็นนักสู้ด้วย ดังนั้นฉันจึงไม่มีความสามารถในการต้านทาน และนั่นเป็นเหตุผลที่ฉันต้องจับตัวหวังเฉิงกั่วมา”
“ เมืองหลวงเซีย? นักสู้?” หวังเต็งเหล่ตามอง
“ ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย” หัวหน้ากลุ่มกําปั้นเหล็กขอร้อง
“ เห้อ!” หวังเต็งถอนหายใจ “ ฉันก็อยากจะไว้ชีวิตแกอยู่หรอกนะ แต่ใจฉันสั่งมาว่ะ”
วินาทีถัดมา พลังฟอร์สธาตุไฟก็พุ่งออกมา เปลวเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวได้กลืนกินหัวหน้ากลุ่มกําปั้นเหล็ก
“ ไม่!”
หัวหน้ากลุ่มกําปั้นเหล็กตะโกนด้วยความกลัว แต่ในไม่ช้า เสียงตะโกนของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวด
“ อา. โปรดแสดงความเมตตาด้วย!”
การแสดงออกของหวังเต็งยังคงเย็นชาและไม่แยแส เขาไม่ได้แสดงอารมณ์บนใบหน้าของเขา ในขณะที่เขาเฝ้าดูมันถูกไฟกลืนกิน
ในเวลานี้ ความไร้หัวใจของเขาก็ได้แสดงออกมาอย่างโจ๋งครึ่ม
เขาไม่เคยอ่อนข้อต่อศัตรูของเขา
“ เจ้านาย… ตายแล้ว”
เมื่อสมาชิกกลุ่มเห็นภาพนี้ความหนาวเย็นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของพวกเขา
หวังเต็งหันกลับมาและมองไปรอบๆฝูงชน ในชั่วพริบตา เขาก็พุ่งเข้าใส่ระหว่างพวกมันและเริ่มสังหารหมู่
ซึ่งต้องตีให้ตาย!
“ อ้า รีบวิ่งหนีเร็ว! ไอ้นี่มันบ้าไปแล้ว เขาต้องการที่จะฆ่าพวกเราทุกคน” ใครบางคนร้องคร่ําครวญ เสียงที่น่าสะพรึงกลัวดังก้องไปทั่วสํานักงานใหญ่ของกลุ่มกําปั้นเหล็ก
“ ปีศาจ ไอ้นี่มันปีศาจ!”
“ อย่าฆ่าฉันอย่าฆ่าฉัน ฉันเพิ่งเข้าร่วมกลุ่มเอง ฉันยังไม่เคยฆ่าใครเลยนะ”
“ ปีศาจ แกจะต้องตกนรกไม่ช้าก็เร็ว เราจะรอแกอยู่ด้านล่าง…”
ในขณะนี้หวังเต็งก็ได้กลายเป็นปีศาจและทําลายร้างทุกอย่างที่ขวางหน้า เขาจะฆ่าใครก็ตามที่เป็นภัยคุกคามต่อครอบครัวของเขา
ปกติแล้วเขาก็เป็นคนที่สามารถหัวเราะเยาะเย้ยและถากถาวบ้านได้ แต่เขาจะไม่ใจอ่อนแบบ นั้นในเวลานี้!
เพื่อให้ตระกูลของฉันได้อยู่ภายใต้ดวงตะวัน ฉันก็จะไม่รังเกียจแม้จะต้อง…. ตกนรก!