บทที่ 40 ดูแลเฉินฮวนฮวน

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

“อาสาม อาก็มาเหรอ! ดูเหมือนว่า อาก็เป็นห่วงเฉินฮวนฮวนมากเหมือนกันนะ!”

เฟิงเฉินเหยี่ยนยืนตัวตรง และขยิบตาให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกล ก่อนจะกล่าวหยอกล้อ

ใบหน้าของเฟิงหานชวนเรียบนิ่งอย่างมาก เขาสาวเท้าเดินไปหาเฉินฮวนฮวนที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้ และเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้น”

ใบหน้าของเฉินฮวนฮวนแดงก่ำ เพราะการมาของเฟิงหานชวน ทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเฟิงหานชวน

  

ยิ่งเฟิงเฉินเหยี่ยนยังอยู่ตรงนี้ด้วยแล้ว

  

เรื่องที่เธอและเฟิงหานชวนเคยทำผุดขึ้นมาในหัวของเธอทันที ตอนนี้เฟิงเฉินเหยี่ยนอยู่ตรงหน้าเธอ เธอจึงรู้สึกหวาดผวา

“ฉันเล่าเหตุการณ์ให้นายฟังทางโทรศัพท์แล้วไม่ใช่เหรอ” หรงจิ่นซิวตบบ่าเฟิงหานชวน และกล่าวว่า “ไม่มีอะไรร้ายแรง ก็แค่มีไข้สูงกับรอยฟกช้ำเล็กน้อยตามร่างกายเท่านั้นเอง”

ใบหน้าของเฟิงหานชวนเรียบนิ่งยิ่งกว่าเดิม คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน ก่อนจะถามสียงทุ้มต่ำ “นายตรวจร่างกายให้เธอแล้วเหรอ”

  

หลังจากถามประโยคนี้ เฟิงเฉินเหยี่ยนและเฉินฮวนฮวนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามต่างก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ

เฉินฮวนฮวนไม่คิดว่าเฟิงหานชวนจะถามตรงขนาดนี้ ราวกับเธอเป็นผู้หญิงของเขา น้ำเสียงของเขาทำให้เธอวางตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที

อาการตกใจของเฟิงหานชวนแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ เขามองออกว่าอาสามของเขาเอาใจใส่เฉินฮวนฮวน

ในเวลาเพียงไม่กี่วัน รวดเร็วขนาดนี้เชียว ตอนนี้นายท่านคงดีใจจนบ้าไปแล้วล่ะ!

“ฉัน…แน่นอนฉันไม่ได้ตรวจ” หรงจิ่นซิวจงใจลากเสียงยาว มุมปากของเขายกขึ้น ก่อนจะกล่าวว่า “พยาบาลเป็นคนตรวจ”

เมื่อได้ฟังประโยคนี้ เฉินฮวนฮวนก็โล่งใจอย่างบอกไม่ถูก

แม้ว่าหรงจิ่นซิวจะเป็นหมอ ไม่ว่าจะเป็นหมอผู้ชายหรือหมอผู้หญิง พวกเขาต่างก็เป็นหมอ ในสายตาของหมอทุกคนล้วนเป็นคนไข้

ทว่ากล่าวกันตามตรง หมอผู้ชายก็คือผู้ชาย ถ้าหรงจิ่นซิวตรวจร่างกายของเธอจริงๆ เธอคงเคอะเขินจนวางตัวไม่ถูก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหรงจิ่นซิว เฟิงเฉินเหยี่ยนและเฟิงหานชวน พวกเขาต่างก็สนิทสนมกันมาก

  

“นายมาพาเธอมาโรงพยาบาลได้ยังไง เกิดอะไรขึ้นกันแน่” เฟิงหานชวนเอ่ยถามต่อด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง

  

ตอนเขาคุยโทรศัพท์ เขารู้แค่ว่าเฉินฮวนฮวนอยู่โรงพยาบาลแล้ว เขายังไม่ได้ถามอะไรมากนักก็รีบตรงมาที่นี่เลย

“เรื่องนี้ฉันเล่าให้อาเหยี่ยนฟังแล้ว ให้อาเหยี่ยนเล่าอีกรอบแล้วกันนะ” หรงจิ่นซิวโยนประเด็นร้อนนี้ให้เฟิงเฉินเหยี่ยน

  

เห็นได้ว่าเฟิงหานชวนให้ความสำคัญกับเฉินฮวนฮวนมาก ทว่ากล่าวกันตามตรง ตอนนี้เฉินฮวนฮวนเป็น หลานสะใภ้ ของเขา!

หรงจิ่นซิวดันกรอบแว่นขึ้น แววตาของเขาทอประกายวูบหนึ่ง ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างสองคนนี้แน่นอน

“เรื่องมันเป็นแบบนี้ พี่จิ่นซิวไปตรวจอาการคุณครูคนหนึ่งที่บ้าน ระหว่างทางกลับบ้าน บังเอิญเห็นเหตุการณ์ตบตีกัน เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งถูกตบตี เหมือนภรรยาของอา…ไม่ใช่สิ เหมือนเฉินฮวนฮวนภรรยาของผม เขาก็เลยเป็นฮีโร่ช่วยเหลือสาวงาม!” เฟิงเฉินเหยี่ยนเล่ามาอย่างยืดยาว

เฉินฮวนฮวนมองผู้ชายสามคนคุยเรื่องของเธออย่างงงงวย ไม่ว่าจะนั่งหรือนอน เธอก็รู้สึกอึดอัดวางตัวไม่ถูก หัวสมองของเธอยังคงรู้สึกมึนงง

  

“ฉันขอนอนก่อนนะคะ” เธอหดตัวเข้าไปในผ้าห่ม ไม่ว่าพวกเขาจะคุยอะไรกันต่อ เธอแค่อยากพักเสียหน่อย

  

เธอเหนื่อยเหลือเกิน

  

เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนเช่นนี้ เฟิงหานชวนขมวดคิ้วเข้าหากัน และส่งสายตาไปหาเฟิงเฉินเหยี่ยน ก่อนจะกล่าวเสียงต่ำ “ออกไปพูดข้างนอก”

ดังนั้น ชายหนุ่มทั้งสามจึงออกมาจากห้องพักผู้ป่วย

ไม่นานภายในห้องพักผู้ป่วยก็สงบลง

  

หัวของเฉินฮวนฮวนรู้สึกหนักอึ้ง สติเลื่อนลอย ไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง

ด้านนอกห้องพักผู้ป่วยตรงระเบียงทางเดิน หลังจากเฟิงหานชวนฟังเฟิงเฉินเหยี่ยนเล่าจบ เขาก็เหลือบมองเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยผ่านกระจกประตูโดยไม่รู้ตัว

“อาสาม คืนนี้ผมมีนัด ให้อาดูแลเฉินฮวนฮวนได้ใช่ไหม” เฟิงเฉินเหยี่ยนลอบยิ้ม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นถามเฟิงหานชวนอย่างวางมาดจริงจัง

เฟิงหานชวนขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปมลึก และถามขึ้นว่า “นายจะไปมั่วที่ไหนอีก”

  

“ผม ผมไม่ได้ไปมั่วนะ!” เฟิงเฉินเหยี่ยนกล่าวด้วยสีหน้าน้อยใจ “ผมปาร์ตี้กับเพื่อนไม่กี่คนเอง”

  

“ช่วงนี้มีคนมุ่งเป้ามาที่ตระกูลเฟิง ออกไปกับคนที่ไว้ใจได้ล่ะ อย่าไปดื่มนอกบ้านง่ายๆ” ใบหน้าของเฟิงหานชวนฉายแววจริงจัง

ปกติเฟิงหานชวนไม่ได้สนใจเขามากนัก วันนี้ออกจะแปลกไปเสียหน่อย เฟิงเฉินเหยี่ยนเอ่ยถามด้วยความสงสัย “อาสาม เกิดเรื่องอะไรกับอาใช่ไหม”

  

“จำที่ฉันพูดไว้!” เฟิงหานชวนไม่ได้กล่าวอะไรมากนัก เขาเพียงตวาดขึ้นเสียงดัง

เฟิงเฉินเหยี่ยนชะงักไปทันที ก่อนจะพยักหน้าซ้ำๆ “เข้าใจแล้วครับ”

  

ในบ้านของตระกูลเฟิง สองคนที่เขากลัวที่สุด คนแรกคือนายท่าน อีกคนหนึ่งก็คืออาสามของเขาเฟิงหานชวน

  

“ไปเถอะ” เฟิงหานชวนเหลือบมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก

  

เมื่อได้ยินสองคำนี้ ดวงตาของเฟิงเฉินเหยี่ยนพลันทอประกายขึ้นมา เขารีบคว้าแขนของเฟินหานชวนเอาไว้ และถามขึ้นว่า “อาสาม อายอมดูแลเฉินฮวนฮวนแล้วเหรอ”

“ดูแลเฉินฮวนฮวน? เธออยู่ที่นี่ไม่มีพยาบาลดูแลหรือไง” เฟิงหานชวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา

  

“แต่ว่า เธอยังมีไข้สูงนะ! ผมไม่วางใจ ถ้ามีคนในครอบครัวอยู่ต้องดีกว่า ผมก็วางใจได้หน่อย!” เฟิงเฉินเหยี่ยนดึงแขนของเฟิงหานชวน และยิ้มจนตาหยีใส่เขาอย่างออดอ้อน

เฟิงหานชวนไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยเฟิงเฉินเหยี่ยนไป ทว่าใบหน้าของเขากลับอึมครึมยิ่งขึ้น เขาหันกลับไป และมองเฟิงเฉินเหยี่ยนอย่างไม่วางตา ก่อนจะถามขึ้นว่า “ฉันไม่เคยเห็นนายใส่ใจผู้หญิงคนไหนขนาดนี้เลย นายชอบเธอเหรอ”

  

“หะ?” เฟิงเฉินเหยี่ยนไม่คิดว่าอาสามของเขาจะถามประโยคนี้ขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เขารีบส่ายหน้า และเอ่ยตอบ “อาสาม ฮวนฮวนเป็นอาสะใภ้ของผมนะ ผมจะชอบเธอได้ยังไงล่ะ อีกอย่าง ถ้าคุณปู่รู้ว่าพวกเราทำแบบนี้กับฮวนฮวน คุณปู่ต้องโกรธแน่”

  

“รอนายท่านกลับมา ไม่นานผู้หญิงคนนี้ก็ออกไปจากบ้านของตระกูลเฟิงแล้ว” ดวงตาลึกล้ำเย็นชาของเฟิงหานชวนฉายแววเย็นเยือก

 

ดูเหมือนว่า เขาไม่มีหัวจิตหัวใจเลยสักนิด

บรรยากาศเย็นเยือกทำให้เฟิงเฉินเหยี่ยนตัวสั่นเทา เขาเกาศีรษะ และถามด้วยความแคลงใจ “คุณปู่ชอบฮวนฮวน ท่านไม่ยอมให้เธอไปหรอก อาสามเกลียดเธอมากเลยเหรอ ผมคิดว่าฮวนฮวนดีมากเลยนะ!”

  

“เรื่องที่ไม่เข้าใจ ก็อย่ารีบด่วนสรุป” เฟิงหานชวนเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะกล่าวอย่างเรียบเฉย

  

“พูดแบบนี้ อาสามกับฮวนฮวนเข้าใจกันอย่างลึกซึ้งแล้วเหรอ” เฟิงเฉินเหยี่ยนอ้าปากค้างทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เร็วขนาดนี้เลยเหรอ นี่ขับจรวดหรือเปล่า

  

“มีนัดไม่ใช่หรือไง ยังไม่รีบไปอีก” เฟิงหานชวนเอ่ยเสียงดุ

เมื่อเห็นว่าสีหน้าของอาสามพลันเปลี่ยนไป เฟิงเฉินเหยี่ยนก็ไม่กล้าถามอย่างละเอียด เขาจึงวิ่งหายไปอย่างรวดเร็วราวกับหมอกควัน

  

เฟิงหานชวนกำลังจะก้าวไปข้างหน้า ทว่าด้านหลังเขากลับมีเสียงหัวเราะทุ้มต่ำของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมา

  

เขาหันกลับมา พบว่าเป็นหรงจิ่นซิวยังยืนอยู่ที่นี่ จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “นายไปแล้วไปใช่เหรอ”

“ฉันไม่ได้ไปไหน ฉันแค่ไม่ได้พูดอะไรเท่านั้นเอง” หรงจิ่นซิวก้าวไปด้านหน้า และตบไหล่เฟิงหานชวน ก่อนจะหัวเราะเสียงต่ำ “เหล่าเฟิง ตอนนี้นายแพ้แล้ว”

  

“พูดเหลวไหล” เฟิงหานชวนกล่าวปฏิเสธ

  

“งั้นเรามารอดูกัน” หรงจิ่นซิวกลั้นรอยยิ้มของเขาเอาไว้ ก่อนจะเดินไปข้างหน้าพร้อมกับกล่าวว่า “ฉันไปก่อนนะ”

  

เฟิงหานชวนมองด้านหลังของหรงจิ่นซิวที่เดินจากไป ดวงตาทั้งสองยิ่งฉายแววลึกล้ำขึ้น เขาแสดงออกว่าเป็นห่วงเฉินฮวนฮวน ชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอ