213 และกลับกันเถอะ
ฉันเดินไปที่อีกห้องหนึ่ง เพราะอาคาชิเรียกหา ที่นั่นมีกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่อยู่บนโต๊ะ
“――กระเป๋าเดินทางของเนียจัง นี่คือทั้งหมดที่ฉ๊านสามารถนำกลับมาให้ได้ค๊า……..ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ เน๊”
นี่คือสิ่งที่ได้ยิน
ในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ได้ไปคุยกับกัดดัมที่สมาคมการค้า อาคาชิก็นำสิ่งของและเงินที่พวกเราสูญเสียไปกลับคืนมาให้
“ฉันแน่ใจว่าของที่หายไปมีมากกว่านี้มากเลยนะคะ”
เดิมทีฉันก็ไม่มีของใช้ส่วนตัวมากนักอยู่แล้ว แต่ริโนกิสนำสิ่งต่าง ๆ ติดตัวมามากมาย แล้วก็มีของหลายอย่างที่พวกเราซื้อเพิ่มที่มาเวเลีย และอาจจะมีของใช้ส่วนตัวของพวกเด็ก ๆ ด้วย
จริง ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายนัก แต่ก็แน่ใจต้องมีเยอะมากเกินกว่าที่จะใส่ลงในกระเป๋าเดินทางใบเดียวได้
“ก็ใช่อยู่ล่ะค๊า………สำหรับเงิน ก็ถูกใช้ไปมากกว่าครึ่งแล้ว ในเรื่องนั้นรัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้เองค๊า ดูเหมือนว่าเสื้อผ้าที่ตัดเย็บอย่างดีทั้งหมดจะถูกขายให้กับร้านเสื้อผ้ามือสอง นอกจากนี้ชุดชั้นในที่คุณไม่รู้ว่าใครแตะต้องไปบ้างแล้ว ก็คงไม่อยากใส่อีกแล้วใช่ไหมล๊าค๊า?”
หืม? ฉันไม่สนใจหรอก แต่………อ้า หมายความว่าทิ้งไปทั้งหมดแล้วสินะ
“ยังไงก็ตาม ฉ๊านพยายามรวบรวมทุกอย่างที่สามารถกู้คืนได้แล้ว แต่มีหลายอย่างที่ไม่รู้ว่ามันไปอยู่ที่ไหนแล้วเหมือนกันค๊า……….”
…….ฟุมุ
“ม๊า งั้นก็ช่วยไม่ได้ มีอะไรที่สำคัญกว่านี้อีกไหมคะ”
และ ฉันเปิดกระเป๋าเดินทาง
เสื้อผ้าที่คุ้นเคยพับเก็บอย่างเรียบร้อยและของชิ้นเล็ก ๆ หนังสือเรียนโรงเรียนทหารจักรกล ……….อื~ม ดูเหมือนจะไม่ถูกแตะต้องทำอะไรเลยสิน๊า………..
“………..กำลังมองหาอะไรเหรอค๊า?”
“――สูตรอาหาร สูตรอาหารที่เอาติดตัวมาจากอาร์ตัวร์น่ะ”
นั่นไม่ใช่แค่สูตรอาหารเท่านั้น
ริโนกิสผู้ชื่นชอบเมจิกวิชั่นได้เฝ้าชมรายการ และจดบันทึกสูตรอาหารต่าง ๆ มากมายใน「ทำอาหารกับเจ้าหญิง」ที่นำแสดงโดยฮิลเดโทร่าอย่างระมัดระวัง ในระหว่างที่ฉันไม่อยู่
เนื้อหาคือ แต่ละครั้งฮิลเดโทราจะทำอาหารเองหลังจากได้รับการสอนอาหารหนึ่งจานโดยเชฟชื่อดังในอาร์ตัวร์
พูดอีกอย่าง พวกเขากำลังแนะนำการทำอาหารแบบมืออาชีพที่เชฟจ่ายให้
และบันทึกสูตรอาหารที่ริโนกิสคอยติดตามอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ออกอากาศครั้งแรกนั้น ก็กองซ้อนจนหนามาก
มันอัดแน่นไปด้วยเนื้อหา และหนายิ่งกว่าหนังสือแย่ ๆ ที่มีแต่น้ำ
หากถามว่ามีมากเท่าไหร่ เธอก็อวดอย่างภาคภูมิเลยว่าถ้ามีเล่มนี้ เธอจะสามารถนำเสนอเมนูอาหารที่ไม่ซ้ำกันเลยได้เป็นเวลาหนึ่งปี
หลังจากมาที่มาเวเลียแล้ว ริโนกิสก็เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการทำอาหาร
ฉันเองก็ตั้งตารออาหารที่เธอทำจริง ๆ ――อาหารที่ฮิลเดโทร่าเอามาทำดูน่าอร่อยอยู่เสมอ ทำให้ฉันกังวลมากจริง ๆ
สูตรอาหารนั่น ไม่มี
ไม่มีเลย ไม่มีแม้แต่แผ่นเดียว
“สูตรอาหารสินะคะ………เป็นสิ่งสำคัญมากสิเน๊ หากมีสิ่งนั้น ก็จะสามารถเข้าใจถึงความอุดมสมบูรณ์ของอาหาร ความเข้มแข็งของประเทศ และความมั่งคั่งของอาหารจากนิสัยการกินของอาร์ตัวร์ได้เลยสิเน๊”
เปล่า ฉันไม่ได้คิดอะไรยาก ๆ แบบนั้น
แค่มีอาหารที่ฉันอยากกินอยู่อีกหลายอย่าง
“เข้าใจแล้วค๊า ตอนนี้อาจจะไปอยู่ในมือเชฟสักคน ฉ๊านจะสั่งให้มองหาให้เองค๊า”
ฝากด้วยน่ะ
สถานการณ์อาหาร และของว่างของฉัน ขึ้นอยู่กับผลงานของอาคาชินับจากนี้แล้ว ฝากด้วยนะ!
นั่นเป็นเหตุผล――ที่หลังจากนั้นฉันก็เรียกหาริโนกิสกับพวกเด็ก ๆ ที่กำลังดูเอกสารคฤหาสน์ที่พวกเรากำลังจะไปอาศัย และตัดสินใจคืนสิ่งของในกระเป๋าเดินทางให้แต่ละคน
ผ่านไปไม่กี่วัน
ฉันเริ่มได้รับสูตรอาหารกลับมากทุกวัน บางครั้งไม่กี่สูตร บางครั้งก็หลายสิบสูตร
ดูเหมือนจะถูกมอบให้กับร้านอาหารและพ่อครัวในมาเวเลีย และได้รับการดูแลอย่างเอาใจใส่อย่างน่าประหลาดใจเลยล่ะ
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าสูตรอาหารเหล่านี้จะเป็นของต่างประเทศมากแค่ไหนก็ตาม ก็ยังมีความเคารพกันในระดับหนึ่งในระหว่างสหายคนทำงานที่เป็นเชฟด้วยกัน
“คุณหนูค่ะ”
เรื่องในคืนหนึ่ง
ในขณะที่ฉันต่อสู้อย่างกล้าหาญกับศัตรูที่น่ารังเกียจและทรงพลังที่เรียกว่า การบ้าน ที่ไม่สามารถหลบหนีได้แม้ว่าฉันจะเปลี่ยนประเทศก็ตาม ริโนกิสกิสก็เข้ามาคุยด้วย
“ดิฉันคิดว่าคฤหาสน์หลังก่อนหน้านี้ดีที่สุดแล้วค่ะ ทั้งในด้านขนาด ทำเล และสภาพแวดล้อมโดยรอบ”
การเลือกคฤหาสน์หลังต่อไปที่จะไปอยู่ ยังไม่ได้รับการตัดสินใจ
เนื่องจากผู้บริหารสมาคมกัดดัมมีความกระตือรือร้นมากจนแนะนำให้เรารู้จักกับอสังหาริมทรัพย์มากมาย
ก่อนหน้านี้เขาเพียงแต่แนะนำอสังหาริมทรัพย์ด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่ตอนนี้เขาพยายามจะดูแลทุกอย่างในราคาที่ต่อรองได้ เป็นการบริการที่สุดโต่งจริง ๆ เป็นความสุดโต่งที่ตรงไปตรงมาเหลือเกินจนฉันยังตกใจ
――ยังไงก็ตาม ม๊า อาจเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่กันเขาออกจากบัญชีลงโทษ
จากนี้ไป ฉันจะขอบคุณมากหากเขาสามารถตอบฉันด้วยท่าทีที่ใจดีและสุภาพเหมือนก่อน
ม๊า เรื่องนั้นช่างไปก่อน
“นั่นสิ ฉันเองก็ชอบที่นั่นเหมือนกัน
มันเงียบสงบในเขตชานเมืองของชนชั้นสูง ไม่ค่อยมีคนผ่านไปมา และขนาดก็กำลังพอดีสำหรับพวกเด็ก ๆ ที่จะดูแลในฐานะคนรับใช้
แล้วยังค่อนข้างใกล้กับตลาด ดังนั้นการซื้อของจึงเป็นเรื่องง่าย
ถึงจะไกลจากโรงเรียนทหารจักรกลนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ลำบากขนาดนั้น ถ้าวิ่งก็พริบตาเดียว
ที่เหลือ ฉันไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนัก เรื่องคฤหาสน์และบริเวณนั้นใหญ่หรือเล็กเกินไป ฉันกังวลกับสภาพแวดล้อมโดยรอบมากกว่า ดังนั้นฉันจึงไม่ได้สนใจ
“ดูเหมือนเด็ก ๆ เองก็คุ้นเคยกับคฤหาสน์หลังนั้น พวกเขาบอกว่าอยากกลับไปถ้าเป็นไปได้ค่ะ”
ลองมาคิด ๆ ดูแล้ว พวกเด็ก ๆ ใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานกว่าพวกฉันเสียอีก ถ้านับจากตอนที่พวกเขาอาศัยอยู่ที่นั่นอย่างผิดกฎหมาย
ฉันนึกว่าพวกเขาจะทีความทรงจำแย่ ๆ เกี่ยวกับที่นั่นมากมาย………แต่ถ้าพวกเขาเป็นคนพูดแบบนั้นเอง ฉันคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป
“จะรอจนกว่าจะซ่อมเสร็จดีไหมคะ?”
“แบบนั้นจะไม่นานไปหรอกเหรอ?”
เพราะยังไงก็พังลงไปประมาณครึ่งหนึ่ง
“แต่ว่า ที่อื่น ๆ คุณสมบัติออกจะมากเกินไปค่ะ”
ใช่ หากว่าใหญ่มากเกินไป ก็จะไม่สามารถดูแลได้
แต่ถ้าเล็กเกินไป ก็จะเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต
ถ้ามีทางเลือก ฉันก็อยากจะเลือกทรัพย์สินที่เหมาะสมที่สุด
……..และแทนที่จะเลือกทรัพย์สินอื่น ฉันอยากได้คฤหาสน์หลังนั้นมากกว่า
“เข้าใจแล้ว ฉันจะไปที่สมาคมการค้าพรุ่งนี้ และจะคุยด้วยสักหน่อย”
อนึ่ง ในความเป็นจริง ยังมีความร้อนแรงจากการกลับมาพร้อมชัยชนะของเหล่านักบินหลงเหลืออยู่
ทั่วทั้งเมืองหลวงทั้งหมดยังคงสนุกสนาน บางคนดื่มกันระหว่างวัน และฉันได้ยินเสียงตะโกน 「ไชโย」 และ 「ทหารจักรกลเก่งที่สุด」 จากที่ไหนสักแห่ง
ท่ามกลางสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด
“คฤหาสน์นั่นหรือขอรับ……..”
ฉันไปที่สมาคมการค้าในระหว่างทางกลับจากโรงเรียนโดยเดินผ่านถนนสายหลักที่ผู้คนพลุกพล่าน ฉันบอกกับผู้บริหารสมาคมการค้า กัดดัม กับ ริเพียว เกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์นี้
เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในคฤหาสน์หลังเดิมอีกต่อไปแล้วสินะ
“จริง ๆ แล้ว ทางเรายังไม่ได้เริ่มงานซ่อมแซมเลยด้วยซ้ำขอรับ”
“เอ๊ะ? เป็นอย่างงั้นเหรอ?”
“ขอรับ อาคารเกือบครึ่งหนึ่งพังทลายลงมา จึงมีการประเมินว่าการสร้างใหม่อาจถูกกว่าการซ่อมแซม ดูเหมือนว่าเจ้าของเดิมเองก็กำลังมีปัญหาในการตัดสินใจเช่นกันขอรับ”
…………
สร้างใหม่ถูกกว่าซ่อมด้วยสินะ
“แต่การซ่อมก็เร็วกว่าการสร้างใหม่ใช่ไหม?”
“ก็ใช่ แหละขอรับ หากว่าเรามีกำลังคนมากพอ การซ่อมแซมจะสามารถเสร็จสิ้นได้ภายในหนึ่งถึงสองเดือน ส่วนถ้าพูดถึงการสร้างใหม่ จากการประเมินก็อย่างน้อยสามเดือนขอรับ”
อุมุ ดีล่ะ
“บอกอีกฝ่ายให้ทีว่า ฉันจะจ่ายให้เอง ดังนั้นได้โปรดซ่อมแซมในทันทีด้วย และฉันต้องการให้อนุญาตให้ฉันสามารถเช่าต่อไปได้ด้วย”
“โอยะ แน่ใจแล้วเหรอขอรับ?”
“ใช่”
ก็เป็นการดีที่จะพูดเช่นนั้น แต่ในแง่หนึ่ง ส่วนหนึ่งเป็นความรับผิดชอบของฉันเองด้วย ถึงจะแค่นิดหน่อยแหละน๊า
“เข้าใจแล้วขอรับ เช่นนั้นจะรีบแจ้งให้บ้านเช่าของทางนั้นทราบโดยเร็วขอรับ”
ห้าวันต่อมา
ฉันได้รับแจ้งว่า การซ่อมแซมใกล้เสร็จสิ้นแล้ว หากเสร็จเมื่อไหร่ก็สามารถเข้าไปอยู่ได้เลย
“เอ๊ะ? ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ?”
เมื่อฉันกลับจากโรงเรียน ก็ได้รับจดหมายจากสมาคมการค้า
เนื้อหาประมาณว่า「การเตรียมคฤหาสน์พร้อมแล้ว คุณสามารถเข้าไปได้ตลอดเวลา」
“เร็วมากเน๊……..จำได้ว่าคุยกันไม่ถึงสัปดาร์เลยใช่ไหนคะ เน๊ะ?”
หลังจากได้ยินเนื้อหาของจดหมาย ริโนกิสที่กำลังดูแลชุดเครื่องแบบของฉันก็พูดแบบนั้น――
“――ขออธิบายนะค๊า!”
หืม?
อาคาชิที่กลับมาพร้อมกับฉัน ชูนิ้วชี้ขึ้นในแบบที่ฉันไม่ค่อยเข้าใจ
“เหล่านักบินทุกคนที่ได้ร่วมต่อสู้เคียงข้างกับเนียจังเป็นผู้ให้ความร่วมมือไงล๊า เนียจังกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักบินล๊า”
เหล่านักบิน?
“ไม่ใช่ว่าพวกนักบินก็โดนฉันเป่าไปเหมือนกับพวกแมลงไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่หรอกจ๊า เหล่านักบินถือว่านี่เป็นการต่อสู้ร่วมกันล๊า”
…………
ม๊า ถ้าอย่างงั้นฉันก็ไม่รังเกียจหรอกนะ
“ริโนกิส ไปดูคฤหาสน์กันเถอะ ถ้าเป็นไปได้ ก็ย้ายกลับเข้าไปภายในวันนี้เลย”
“ค่ะ”
ด้วยเหตุนี้ พวกเรากำลังจะกลับไปที่คฤหาสน์นั้นอีกครั้ง
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณคุณนิรนาม กสิกรไทย X-2186
ขอบคุณคุณCHA***AI KIMN
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ไร้สาระ
เมื่อคืนสงสัยคนแปลจะหมักมาได้ที่แล้ว ตอนเข้าห้องว่าจะนอนเหยียดขาสักแป๊บก่อนอาบน้ำแปลนิยาย
กลายเป็นวูบไปตั้งแต่สี่ทุ่ม รู้ตัวอีกทีแปดโมงเช้า ถ้าไม่นับนอนขี้เกียจเอง ถือเป็นการวูบที่นานที่สุดแล้ว
โชคยังดีที่วูบบนเตียง ถ้าวูบในห้องน้ำ โชคดีคงแค่นอนเปลือย โชคร้ายคงได้กินน้ำแดง ฮา