บทที่ 200 ระบุตัวตน
บทที่ 200 ระบุตัวตน
โจวอี้และซุนเหมาไฉเดินปะปนไปกับฝูงชน และหายไปจากบริเวณแผงลอยอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสลัดการตามของชายหนุ่มคนนั้นได้สำเร็จ
ในฝูงชน
กั๋วเสี่ยวเทียนโมโหมาก กว่าเขาจะหาตัวคนที่ซื้อ ‘หญ้าเสวียนหมิง’ ได้นั้นช่างยากลำบากเหลือเกิน แต่เมื่อครู่นี้อีกฝ่ายรู้สึกตัวว่าเขากำลังจับตามอง และสลัดเขาหลุดด้วยการใช้ประโยชน์จากฝูงชนจำนวนมาก
ควรทำยังไงดี?
ปู่จะมาถึงที่นี่อยู่แล้ว ถ้ารู้ว่าคลาดกับอีกฝ่ายไป ปู่คงโมโหจนด่าเขาแน่ ๆ
กั๋วเสี่ยวเทียนกัดฟันและมองไปข้างหน้าตามทิศทางที่โจวอี้หายไป
เขาคิดว่าตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ออกไปจากตลาดวัตถุดิบยา ก็มีแนวโน้มว่าจะต้องไปที่งานประมูลในตอนเที่ยงนี้ ตอนนี้คลาดสายตาแต่จะต้องเจอตัวแน่ในงานประมูล
บริเวณเขตร้านค้า
ซุนเหมาไฉรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ โจวอี้ถึงได้รีบออกจากพื้นที่แผงลอย แถมยังดูเหมือนกำลังซ่อนตัวจากใครบางคนอยู่ อีกฝ่ายเดินเร็วมากจนเขาเกือบตามไม่ทัน
“นายน้อยโจว เกิดอะไรขึ้น?”
“มีคนกำลังตามเรา สงสัยว่าผมคงพลาดเผยพิรุธออกไปและถูกพบตัวเข้าให้” โจวอี้กระซิบ
“มีใครกล้าปล้นคุณด้วยเหรอ?”
“ผมไม่ใช่คนดังหรอก แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่คนจะไม่รู้จักตัวตนของผมและต้องการปล้นอะไรบางอย่างไปจากผม”
“ก็จริง” ซุนเหมาไฉพยักหน้า
แม้ว่าเขาจะรู้จักโจวอี้เช่นเดียวกับนักเก็บสมุนไพรหลายคน แต่โจวอี้เพิ่งออกมาสู่โลกภายนอกได้ไม่นาน ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงไม่รู้จักนายน้อยแห่งภูเขาชางหลางคนนี้
“เราจะไปที่ไหนกันต่อ?”
“เดินดูร้านขายยาแถวนี้ก่อนก็แล้วกัน จากนั้นตอนเที่ยงค่อยไปร่วมงานประมูล” โจวอี้ตอบ
“นายน้อยโจว ผลไม้หลิงหลงพวกนั้นคุณซื้อมาตั้งเยอะแยะ ทำไมคุณไม่แบ่งออกไปขายบ้าง? ผมมั่นใจว่าราคาประมูลจะต้องสูงมากแน่”
ประมูล?
โจวอี้คิดอยู่ครู่หนึ่งและคิดว่าคำแนะนำของซุนเหมาไฉนั้นน่าสนใจ
เขาซื้อผลไม้หลิงหลงมามากกว่าสิบผล ถ้านำออกไปประมูลสักสามผล เขาก็ยังเหลืออีกตั้งสิบผล!
นอกจากนี้ แม้ว่ารากไม้หงส์ทองนิลจะล้ำค่าแต่ก็ไม่มีประโยชน์สำหรับเขามากเท่าไหร่ ยาเม็ดที่เขาต้องการหลอมในอนาคตอันใกล้นี้ไม่จำเป็นต้องใช้รากไม้หงส์ทองนิลเป็นส่วนผสม
แทนที่จะเก็บไว้ นำไปประมูลทำเงินให้กับตัวเองน่าจะดี จะได้มีเงินซื้อวัตถุดิบยาล้ำค่าที่เขาต้องการ
อีกอย่าง!
เขาต้องซื้อแมงมุมผีเสื้อด้วย!
อาจารย์ให้เงินมาร้อยล้านหยวน และเขามีติดตัวยี่สิบล้านหยวน แต่ราคาของแมงมุมผีเสื้อต้องสูงมากแน่นอน ถ้าแมงมุมผีเสื้อมีในงานประมูล และราคาของมันสูงกว่าจำนวนเงินที่มีตอนนี้ก็คงจะแย่
“ลงทะเบียนประมูลตอนนี้มันจะสายไปไหม” โจวอี้ถาม
“ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะสายเกินไป แต่ถ้าคุณแสดงตัวตนของคุณ ผู้จัดจะต้องยอมรับอย่างแน่นอน” ซุนเหมาไฉยิ้ม
“ผู้จัดคือใคร”
“สมาคมแพทย์แผนจีนฮัวเซีย”
“ผมไม่เคยรู้จักกับพวกเขา คุณพาผมไปก็แล้วกัน!”
“ได้!”
ในไม่ช้า ทั้งสองคนก็ปรากฏตัวที่หน้าอาคารสี่ชั้นทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของตลาดยา
ตอนนี้บริเวณใกล้เคียงของอาคารทั้งหมด นอกจากตำรวจหลายสิบนายที่รักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว ยังมีชายร่างกำยำในชุดสูทอีกหลายสิบคนที่ยืนปิดล้อมอาคาร ถ้าจะเข้าออกต้องแสดงใบรับรองอะไรสักอย่างที่โจวอี้เองก็ไม่มี
โจวอี้และซุนเหมาไฉจึงถูกขวางไว้
คนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเป็นชายร่างใหญ่
“กรุณาแสดงใบอนุญาต…”
“ไม่มี!” โจวอี้กล่าว
“งั้นตอนนี้คุณก็ไม่สามารถเข้าไปได้ถ้าไม่มีเอกสาร กรุณากลับไป” ชายร่างกำยำกล่าวอย่างเย็นชา
“เรามาที่นี่เพื่อลงทะเบียนวัตถุดิบยาในการประมูล คุณช่วยแจ้งผู้รับผิดชอบได้ไหม” ซุนเหมาไฉพูดแทน
“การลงทะเบียนวัตถุดิบยาสิ้นสุดลงแล้ว”
“ช่วยติดต่อให้เราที แค่แจ้งว่าศิษย์สำนักโอสถโจวอี้ต้องการพบประธานสมาคมแพทย์แผนจีนฮัวเซีย เขาจะออกมาพบกับเราเมื่อพวกเขาได้ยินชื่อนายน้อยโจว”
“ก็ได้!”
ชายร่างกำยำมองไปที่โจวอี้สองสามครั้ง และในที่สุดก็พยักหน้า
เขาไม่รู้ว่าสำนักโอสถคืออะไร และเขาไม่เคยได้ยินชื่อของโจวอี้ แต่เนื่องจากอีกฝ่ายพูดเช่นนั้น เขาก็เต็มใจที่จะลองดู เพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอล่วงเกินคนที่ไม่สมควร ส่วนรองประธานจะเต็มใจที่จะพบอีกฝ่ายหรือไม่นั้นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา
ภายในอาคารสี่ชั้น
หนานกงหลู่กำลังดูสมุนไพรต่าง ๆ และผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรสี่คนที่อยู่ข้างหน้าเขาก็กำลังจัดเตรียมวัตถุดิบยาทั้งหมดให้พร้อมสำหรับการประมูล
เขาอารมณ์ดีเพราะมีผู้ค้าจำนวนมากยินดีที่จะส่งของมาประมูลในปีนี้ จำนวนของวัตถุดิบยาที่จะประมูลในปีนี้มีมากกว่าร้อยรายการ และแต่ละรายการก็ล้ำค่ามาก
ก๊อก ก๊อก
ประตูถูกเคาะ และชายร่างใหญ่ที่เป็นคนเคาะก็เดินเข้ามา
“มีอะไร?” หนานกงหลู่เงยหน้าขึ้นถาม
“รองประธานครับ มีคนต้องการลงทะเบียนวัตถุดิบยาในการประมูล พวกเขาให้ผมเข้ามาแจ้งให้คุณทราบ” ชายร่างกำยำกล่าว
“ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าหมดเวลาลงทะเบียนแล้ว และจะไม่รับลงทะเบียนจากใครอีกแล้ว” หนานกงหลู่พูดอย่างหงุดหงิด
“แต่อีกฝ่ายบอกว่าตราบใดที่คุณได้ยินชื่อของเขา คุณจะต้องตกลงแน่นอน”
“โฮ่ โฮ่ ไหนบอกมาทีว่าเป็นใคร หน้าใหญ่จังนะที่กล้าพูดแบบนี้!” หนานกงหลู่หัวเราะเยาะ
“ศิษย์สำนักโอสถ โจวอี้”
“โจวอี้? ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน” หนานกงหลู่เบ้ปาก
แต่ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็แข็งค้าง
และในเวลาเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรทั้งสี่ก็มีสีหน้าตกตะลึง
“นายพูดว่าอะไรนะ? ศิษย์สำนักโอสถ? เขาเป็นศิษย์สำนักโอสถ?” หนานกงหลู่รีบถามย้ำ
“นั่นคือสิ่งที่พวกเขาพูด” ชายร่างกำยำพยักหน้า
“ศิษย์ของสำนักโอสถ? เร็วเข้า พวกนายรีบออกไปกับฉันเพื่อพบพวกเขาเดี๋ยวนี้!” หนานกงหลู่ กล่าวอย่างเร่งรีบ
ทันใดนั้นทั้งห้าคนก็รีบออกจากห้อง
หนานกงหลู่ ในฐานะรองประธานของสมาคมแพทย์แผนจีนฮัวเซีย ปีนี้เขาอายุ 60 ปีแล้ว แต่ความเร็วในการวิ่งของเขาไม่ได้ช้าลงเลย เมื่อเขาเห็นโจวอี้และซุนเหมาไฉที่รออยู่ข้างนอก เขาก็รีบวิ่งไปด้านหน้าและถามว่า “ใครเป็นศิษย์สำนักโอสถ?”
“ผมชื่อโจวอี้ และอาจารย์ของผมแซ่ฉู่” โจวอี้ประสานมือของเขาและเอ่ยตอบ
“ฉู่?… ฉู่เทียนฮุ่ย เหล่าฉู่?” หนานกงหลู่ถามกลับด้วยสีหน้าตกตะลึง
“ใช่!” โจวอี้พยักหน้า
หนานกงหลู่ถูมือของเขาและพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ส…สวัสดีน้องโจว! ผมคือหนานกงหลู่ รองประธานของสมาคมแพทย์แผนจีนฮัวเซีย รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับลูกศิษย์ของเหล่าฉู่เข้าร่วมนิทรรศการวัตถุดิบยาของเรา พูดตามตรง ผมไม่เห็นคนของสำนักโอสถมานานกว่ายี่สิบปีแล้ว แล้วก็กว่ายี่สิบปีแล้วที่ผมได้พบอาจารย์ของน้องโจวอี้ครั้งล่าสุด เหล่าฉู่สบายดีไหม”
“ยังแข็งแรงดี” โจวอี้ยิ้มและพยักหน้า
“ดี ดี ดี!” หนานกงหลู่มีความสุขมากและพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “น้องโจวและคนนี้… เอ่อ โปรดเข้ามาข้างในก่อนจะดีกว่า ไป ไป ไปกันเถอะ”
“ครับ!”
เมื่อทั้งสองเข้าไปในอาคาร โจวอี้ก็ทักทายหนานกงหลู่และผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรทั้งสี่อยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงเปลี่ยนหัวข้อไปที่การประมูลวัตถุดิบยา
“ผู้อาวุโสหนานกงหลู่ และผู้อาวุโสทั้งสี่คน ผมต้องการลงทะเบียนวัตถุดิบยาสองชนิดในงานประมูล ไม่ทราบว่าตอนนี้ยังทันไหม”
“ฮ่าฮ่า ได้เลยไม่มีปัญหา! ว่าแต่น้องโจวจะเอาอะไรมาประมูลล่ะ?” หนานกงหลู่ถามด้วยสีหน้าเป็นมิตรสุด ๆ
“รากไม้หงส์ทองนิล และผลไม้หลิงหลงสามลูก” โจวอี้พูดพลางหยิบของออกมา
หนานกงหลู่และผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรทั้งสี่มองหน้ากัน
รากไม้หงส์ทองนิล?
สมุนไพรล้ำค่า!
แล้วยังมีผลไม้หลิงหลงซึ่งติดหนึ่งในสิบอันดับผลไม้ศักดิ์สิทธิ์!
เอาของที่ยอดเยี่ยมแบบนี้มาประมูลได้… สมแล้วที่เป็นศิษย์สำนักโอสถ!