บทที่ 179 ซื้อทั้งหมด

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 179 ซื้อทั้งหมด

“ประธานถัง สวัสดีครับ”

เฉินเสวียลี่ลุกขึ้นยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยปากพูดอย่างเออออห่อหมก

แต่ทว่า ถังเสี่ยวเยว่ไม่หันมามองเฉินเสวียลี่เลย

ความสนใจของเธอมุ่งไปที่ตัวของมู่เซิ่ง รวมถึง ใช้หางตามองไปที่เจียงหว่านที่ยืนอยู่ข้างๆมู่เซิ่งด้วย

นี่คือครั้งแรกที่ถังเสี่ยวเยว่ยืนอยู่ตรงหน้ามู่เซิ่ง เมื่อเทียบกับเจียงหว่าน ก็ต้องยอมรับว่า ใบหน้าของเจียงหว่านสวยไร้ที่ติ ไม่มีข้อบกพร่องใดๆเลยแม้แต่น้อย เธอสวยอย่างสมบูรณ์แบบ

“ประธานถัง? คุณคือเจ้าของสปาหรงเหม่ย ถังเสี่ยวเยว่เหรอ?”

ในเวลานี้ จ้าวเหมยเหมยเพิ่งรู้ตัว มิน่าล่ะเฉินเสวียลี่ถึงได้ให้ความเคารพขนาดนี้ ที่แท้ ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอ ก็คือคนใหญ่คนโตแบบนี้นี่เอง

“ฉันเอง” ถังเสี่ยวเยว่พยักหน้าเบาๆ

“ประธานถัง คุณกับเฉินเสวียลี่สนิทกันมากไหม?” จ้าวหลินถือโอกาสลุกขึ้นมา เดินไปถามข้างๆถังเสี่ยวเยว่ ก่อนหน้านี้ก็ได้ยินจ้าวเหมยเหมยโอ้อวดว่าสนิทกับถังเสี่ยวเยว่มากๆ ตอนนี้มีโอกาสเปิดโปงแล้ว เธอก็ไม่ปล่อยไปแน่

“เฉินเสวียลี่? ฉันไม่รู้จักเขา” ถังเสี่ยวเยว่กล่าว

ได้ยินคำนี้ เฉินเสวียลี่หน้าแดง เรื่องน่าอายแบบนี้คิดไม่ถึงว่าจะถูกพูดออกมาต่อหน้าผู้คน ทำให้ภายในใจของเขารู้สึกแย่เหมือนการทานอึ

แต่เขาก็ไม่กล้าโต้ตอบ เพราะว่า เขาไม่มีสิทธิ์เป็นเพื่อนของถังเสี่ยวเยว่เลยด้วยซ้ำ

“ฮ่าฮ่าฮ่า จริงเหรอ?” จ้าวหลินพูดและหัวเราะอย่างมีความสุข สบายอกสบายใจเป็นอย่างยิ่ง

“แต่ว่า เฉินเสวียลี่คนนี้เขาบอกว่ารู้จักคุณ แถมยังบอกอีกว่าสามารถเรียกประธานถังมาได้ด้วย ให้มู่เซิ่งได้เห็น หรือว่าฉันจำผิด?”

จริงๆ?”

แม่งเอ๊ย!

เฉินเสวียลี่ได้ยินประโยคนี้ เกือบจะอดไม่ได้ที่จะตบหน้าจ้าวหลิน

เธอถามถังเสี่ยวเย่วเช่นนี้ เพื่อบีบให้ตัวเองจนมุม!

“งั้นเหรอ?” ถังเสี่ยวเยว่เหลือบมองอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า: “คุณน้าคะ ฉันสามารถยืนยันได้ ว่าฉันไม่รู้จักเฉินเสวียลี่คนนี้เลย ถ้ามีใคร กล้าใช้ชื่อฉันมาแอบอ้างที่หลอกลวงต้มตุ๋น ฉันไม่มีทางยอมให้เขามีจุดจบที่สวยงามแน่”

เสียงของถังเสี่ยวเยว่เย็นชามาก ความหมายของคำเตือนในคำพูดของเธอ ก็เปิดเผยอย่างเต็มที่

เฉินเสวียลี่หน้าซีดเผือดอย่างกับกระดาษ

ถูกถังเสี่ยวเยว่จดจำไว้แล้ว?

ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริงๆ เขาคิดล่วงหน้าได้เลย ว่าต่อไปการดำเนินงานของบริษัทในอำเภอซานเซี่ยง จะต้องยากมากๆ เพราะขอเพียงแค่หลังจากที่ปล่อยประโยคนี้ออกไป ก็จะมีผู้คนนับไม่ถ้วนจะมาเล่นงานที่บริษัทของเขา

ส่วนโครงการสาขาของสปาหรงเหม่ยล่ะ?

ตอนนี้มีผู้รับผิดชอบโทรศัพท์เข้ามา บอกยกเลิกสัญญาแล้ว!

“ประธานถัง ขอโทษครับ ผมไม่ได้ใช้ชื่อคุณหลอกใคร เป็นเพราะผมไม่เจียมตัว บอกกับคนนอกว่ารู้จักกับคุณเท่านั้น หวังว่าคุณจะปล่อยผมในครั้งนี้” เฉินเสวียลี่ก้มหน้า กล่าวอย่างอ้อนวอนอย่างยิ่ง

“เอาฉันไปโม้ คุณคู่ควรแล้วเหรอ?” ถังเสี่ยวเยว่พูดอย่างเย็นชา

คำพูดของเธอ เท่ากับการถูศักดิ์ศรีของเฉินเสวียลี่ลงบนพื้น แต่ทว่า เฉินเสวยี่ลี่ไม่กล้าที่จะไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย ทำได้เพียงพยักหน้าไม่หยุด หวังเพียงแค่ให้ประธานถังปล่อยเขาไปเท่านั้น

ในเวลานี้ เขาอดไม่ได้ที่อยากจะบอกว่าไม่รู้จักตระกูลจ้าว

แม้ว่าถงเสว่เหมยจะสวยมากก็ตาม แต่เขาก็ไม่อาจ เสียอนาคตเพียงเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งได้

“ประธานถัง ขอโทษ ท่านพูดถูก ผมไม่คู่ควรที่จะเป็นเพื่อนท่านเลยด้วยซ้ำ นี่คือสิ่งที่คุณป้าผมคุยโวเอาไว้ ผมจะให้เธอขอโทษคุณตอนนี้แหละ” พูดจบ เฉินเสวียลี่เดินมาตรงหน้าจ้าวเหมยเหมย แล้วพูดว่า: “จ้าวเหมยเหมย คุณยังไม่ขอโทษอีก?”

ถ้าจ้าวหลินไม่อยู่ ครั้งแรกที่พบถังเสี่ยวเยว่ จ้าวเหมยเหมยก็ขอโทษแล้ว

แต่ในเหตุการณ์ตอนนี้ เธอขอโทษ เท่ากับว่าทำให้จ้าวหลินเยาะเย้ยเธอไม่ใช่หรือ?

จ้าวเหมยเหมยเสียหน้าไม่ได้ พูดอย่างคอเป็นเอ็นว่า: “เฉินเสวียลี่ คุณเป็นลูกเขยฉันนะ หรือจะทำให้ฉันอับอายขายหน้า?”

อับอายขายหน้า?

เฉินเสวียลี่รู้สึกเพียงแค่น่าขำ ถึงป่านนี้แล้ว ผู้หญิงคนนี้ คิดไม่ถึงว่ายังคงสนใจเรื่องเกียรติอยู่?

ถ้าหากไม่ใช่เธอ ตนจะตกต่ำถึงเพียงนี้ได้อย่างไร!

“จ้าวเหมยเหมย ถ้าคุณไม่ยินดี งั้นตอนนี้ผมก็จะหย่ากับลูกสาวคุณ!” เฉินเสวียลี่กัดฟันและพูดขู่

จ้าวเหมยเหมยเมื่อได้ยินคำนี้ ก็ตื่นตระหนกทันที

ลูกสาวของเธอกว่าจะตกลูกเขยรวยมาได้มันไม่ง่ายเลย ชีวิตในชาตินี้ ก็ต้องพึ่งพาเฉินเสวียลี่ ถ้าทั้งคู่เลิกกันเพราะเรื่องนี้ ชีวิตที่ดีในอนาคตข้างหน้าก็คงต้องจบแล้ว

เธอไม่มีทางให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่

ดังนั้นเธอจึงกัดฟัน เดินไปตรงหน้าถังเสี่ยวเยว่ แล้วพูดว่า: “ประธานถัง ขอโทษค่ะ ฉันทำเพื่อรักษาหน้า จึงคุยโวโอ้อวดว่ารู้จักกับคุณ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันก็ว่าแล้วว่าแกคุยโวโอ้อวด ลูกเขยของฉันต่างหากที่รู้จักประธานถัง” จ้าวหลินเห็นฉากนี้ ก็หัวเราะยกใหญ่

ความดุร้ายส่องประกายในตาของจ้าวเหมยเหมย เธอกัดฟัน แล้วสาบานในใจว่า จะต้องให้จ้าวหลินได้เห็นดีกัน!

ถังเสี่ยวเยว่เหลือบมองมู่เซิ่ง เห็นมู่เซิ่งพยักหน้าเบาๆ เธอจึงเอ่ยปากพูดต่อ: “พอแล้ว ไสหัวไปเถอะ ต่อไปก็อย่ามาดูถูกคนอื่น”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของถังเสี่ยวเยว่ เฉินเสวียลี่ก็รีบพยักหน้า รู้สึกเพียงแค่ว่าออร่านั้น ทำให้ขาของตนนั้นอ่อนลงแล้ว

และอีกด้านหนึ่ง

หน้าเคาน์เตอร์กุชชี่ เกาเสียงก็กลับไปหามู่เซิ่งอีกครั้งเพื่อขอโทษ “คุณมู่ ขอโทษครับ คุณภาพของพนักงานในร้านของเรา ทำให้ท่านได้รับความไม่เป็นธรรมแล้ว ผมนายเกาต้องขอโทษท่านด้วยความจริงใจ และ ต่อไปเมื่อท่านมาร้านเรา ใช้บริการฟรีตลอดไป ในขณะเดียวกันพวกเราก็จะไล่พนักงานทุกคนที่มีคุณภาพต่ำออกจากร้านด้วย”

แม้ว่าเกาเสียงไม่ได้พูดออกมาว่าใคร แต่ผู้คนตรงนั้น ต่างก็รู้ว่าหมายถึงหลี่ฟางฟาง

หลี่ฟางฟางตกใจจนหน้าซีด

“ผู้จัดการเกาคะ” เธออาลัยอาวรณ์ที่จะออกจากตำแหน่งนี้ เถียงด้วยความไม่เต็มใจว่า: “ผู้จัดการคะ เห็นๆอยู่ว่าเป็นเรื่องของลูกค้าสองคนนี้ ฉันก็แค่จัดการปัญหาไปตามปกติ ทำไมต้องไล่ฉันออกด้วยคะ?”

เพี้ยะ!

เกาเสียงไม่พูดไม่จา ตอบสนองเพียงแค่ตบหน้าเธอไปครั้งหนึ่ง!

“ร้านกุชชี่ของเรามีวัตถุประสงค์อะไร? ลูกค้าคือพระเจ้า! แม้ว่าจะเป็นคนขอทานเข้ามา คุณก็ต้องต้อนรับด้วยความกระตือรือร้น คุณดูถูกชาวบ้านเขาแบบนี้ คู่ควรกับการเป็นพนักงานขายในร้านของเราแล้วเหรอ? ยังไม่รีบเก็บของแล้วไสหัวไปอีก!”

“ผู้จัดการคะ ฉันผิดไปแล้ว”

หลี่ฟางฟางกุมใบหน้า และร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

มู่เซิ่งมองเรื่องทั้งหมดด้วยสายตาเย็นชา

จุดจบในวันนี้ของจ้าวเหมยเหมยกับหลี่ฟางฟาง เป็นการหาเรื่องใส่ตัวของพวกเขาเอง ต่อให้ร้องไห้แล้วใบหน้าดูสวยแค่ไหน มู่เซิ่งก็ไม่มีความเห็นใจเลยสักนิด

“คุณมู่ครับ ท่านว่า……” เกาเสียงหันหลังต่อ แล้วต้อนรับมู่เซิ่ง

“ผู้จัดการเกา คุณไล่พนักงานออก นั่นมันก็เป็นเรื่องของคุณ แต่ในเมื่อผมจะมาดูเสื้อผ้า แน่นอนว่าไม่ได้มาหาเรื่องงี่เง่า ดังนั้น ผมจะซื้อเสื้อผ้าทั้งหมดของที่นี่”

มู่เซิ่งลุกขึ้นมาจากโซฟาแล้วยิ้ม หยิบบัตรธนาคารออกมา

“คุณมู่ นี่ จะได้ยังไงกันล่ะ……” เกาเสียงโบกมือ

หลี่ฟางฟางก็ตกตะลึง ไอ้หมอนี่ คิดไม่ถึงว่าจะเอาเงินมาซื้อเสื้อผ้าทุกตัวในร้านเนี่ยนะ?

จ้าวเหมยเหมย เฉินเสวียลี่ ถงเสว่เหมย แม้กระทั่งจ้าวหลินก็ตกตะลึง พวกเขาถึงขั้นสงสัยว่าตัวเองฟังผิดหรือเปล่า คิดไม่ถึงว่ามู่เซิ่งบอกว่า จะซื้อเสื้อผ้าทุกตัวในร้าน?

เสื้อผ้าในร้านนี้ มีอย่างน้อย 200-300 ชิ้น และราคาทุกตัวก็มีตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสน ซื้อทั้งหมดงั้นเหรอ? อย่างน้อยๆก็เกือบๆ สิบล้านเชียว

สิบล้านเหรอ?

หลี่ฟางฟางถึงขั้นไม่กล้าจินตนาการ นี่คือจำนวนที่มหาศาลมากๆ

“แน่นอน เสื้อผ้าสองสามตัวนี้ผมไม่ซื้อหรอก เพราะว่า พวกมันสกปรกเกินไป” มู่เซิ่งชี้ไปที่เสื้อผ้าที่จ้าวเหมยเหมยหยิบขึ้นมาจากพื้น มองไปที่สูทผู้ชายที่ถูกดึงกระดุมออก