ภายใต้​การ​จับจ้อง​ของ​ผู้​ทรงอำนาจ​มากมาย​ ​สาวใช้​ผู้​นั้น​หวาดกลัว​จน​ตัวสั่น​ตอบคำถาม​อย่าง​อึก​ๆ​ ​อัก​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เป็น​ ​เป็น​เรือน​ของ​คุณหนู​หวัง​จาก​ตระกูล​เดิม​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เจ้าค่ะ​”

จ่าง​กง​จู่​ได้ยิน​แล้ว​ยิ้มน้อย​ๆ​ ​หันกลับ​ไป​มอง​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ ​ทว่า​เอ่ย​กับ​สตรีทุ​กค​นที​่​อยู่​ข้าง​กาย​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​เช่นนั้น​พวกเรา​ไปดู​สักหน่อย​ก็แล้วกัน​”

เหล่า​สตรีที​่​อยู่​ข้าง​กาย​นาง​ต่าง​มองหน้า​กัน​ ​แต่​มีส​ตรี​ไหวพริบดี​กว่า​ใคร​เพื่อน​รีบ​กล่าว​รับคำ​ของ​นาง​ด้วย​รอยยิ้ม​แย้ม​ว่า​ ​“​จริง​ด้วย​ ​จริง​ด้วย​!​ ​พวกเรา​ควร​ไปดู​สักหน่อย​ ​นี่​ก็​เข้า​ฤดูหนาว​แล้ว​ ​แต่​ทาง​ด้าน​โน้น​ยัง​ดู​เขียวชอุ่ม​ ​ยัง​มีด​อก​ไม้​สีสัน​สดใส​ให้​เห็น​อยู่​รางๆ​ ​ทิวทัศน์​ต้อง​งดงาม​มาก​เป็นแน่​ ​ต้อง​ไปดู​สักหน่อย​ถึง​จะ​ถูก​”

ถ้อยคำ​นี้​ช่างกล​่าว​ได้​สวยงาม​ยิ่งนัก

ด้วย​ท่าทาง​ของ​พวก​นาง​นี้​ ​ทุกคน​ล้วน​กระจ่างแจ้ง​แก่​ใจดี​ว่า​ไป​เพื่อ​ทำ​สิ่งใด​ ​แต่​เมื่อมี​คน​ช่วย​ปกปิด​ความ​น่าละอาย​นี้​ด้วย​การ​ยก​ผ้า​ที่​เรียกว่า​ ​‘​ไป​ชม​ทิวทัศน์​’​ ​ขึ้น​มาบัง​ ​การกระทำ​ของ​พวก​นาง​จึง​ดู​น่าเชื่อถือ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​เมื่อ​ทาง​สะดวก​แล้ว​ ​ทุกคน​ก็​กลายเป็น​ผู้​ทรงคุณ​ธรรม​ที่​มีเหตุมีผล

จ่าง​กง​จู่​มอง​คนพูด​ครั้งหนึ่ง​ ​ที่แท้​ก็​เป็น​นาย​หญิง​เจ็ด​จวน​ชิง​ผิง​โหว​นี่เอง

นาง​อด​ทอดถอนใจ​อยู่​ใน​ใจ​ไม่ได้​ ​คน​จวน​ชิง​ผิง​โหว​ล้วน​ค่อนข้าง​ ​‘​ซื่อตรง​’​ ​ด้วยเหตุนี้​ทุกคน​จึง​ไม่​ค่อย​อยาก​สุงสิง​กับ​สตรี​ของ​พวกเขา​สัก​เท่าไร​นัก​ ​สตรี​ของ​พวกเขา​เอง​ก็​ไม่​ค่อย​ออก​ไป​เข้าสังคม​สัก​เท่าไร​เหมือนกัน​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​มี​คน​อีก​ประเภท​อย่าง​นาย​หญิง​เจ็ด​อยู่​ด้วย​ผู้​หนึ่ง

เห็นได้ชัด​ว่า​ควร​ให้กำเนิด​บุตรชาย​หลาย​ๆ​ ​คน​เข้า​ไว้​ดีกว่า​ ​อย่างไร​ต้อง​มี​คน​เผ็ด​จัดจ้าน​ออกมา​สัก​คน​อย่างแน่นอน

จ่าง​กง​จู่​คิด​ ​รู้สึก​ว่า​ต้อง​ให้​เฉินลั​่​วรั​บอนุ​ภรรยา​หลาย​ๆ​ ​คน​ ​ให้กำเนิด​บุตร​หลาย​คน​สักหน่อย​ถึง​จะ​ดี

นาง​คิด​อะไร​ไป​เรื่อยเปื่อย​ ​สั่งการ​สาวใช้​ผู้​นั้น​ว่า​ ​“​ไม่​อนุญาต​ให้​ไป​แจ้ง​ล่วงหน้า​”​ ​จากนั้น​ถึง​กล่าว​กับ​คน​ด้านหลัง​ว่า​ ​“​พวกเรา​ไป​กัน​เถอะ​!​”

ทุกคน​ต่าง​เดินตาม​หลัง​จ่าง​กง​จู่​ไป​อย่าง​ยิ้มแย้ม

เจิ​้​นกั​๋​วก​งกับ​หย่ง​เฉิง​โหว​ย่อม​ไม่​อาจ​ตาม​ไป​ด้วย​ ​แต่​เจิ​้​นกั​๋​วก​งก​ลับ​ไม่ได้​เลี่ยง​ออก​ไป​ ​ยังคง​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ไม่​ขยับ​ ​คล้าย​กำลัง​รอ​จ่าง​กง​จู่​และ​คนอื่นๆ​ ​กลับมา​แจ้ง​ข่าว

จ่าง​กง​จู่​ลอบ​แสยะ​ยิ้ม​ ​นึกถึง​สาวใช้​คนที​่​ปิดปาก​ซือ​จู​ผู้​นั้น​ขึ้น​มา​อย่างกะทันหัน​ ​เหลียว​กลับ​ไป​มอง​ครั้งหนึ่ง​ ​สาวใช้​ผู้​นั้น​ยัง​ควบคุมตัว​ซือ​จู​เอาไว้​อยู่

คิ้ว​เรียว​ของ​นาง​ยกขึ้น​เล็กน้อย​ ​เอื้อน​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​คุณหนู​ซือ​ ​ในเมื่อ​เจ้า​เป็น​คน​เจอ​ตัว​คน​ ​เจ้า​ก็ตาม​พวก​ข้า​ไป​ด้วย​ก็แล้วกัน​”

ซือ​จู​หน้ามืด​ครึ้ม​เหลือ​จะ​กล่าว

จับ​หัวขโมย​ต้อง​มี​หลักฐาน​ ​จับ​คน​คบชู้​ต้อง​จับได้​คาหนังคาเขา​ทั้งคู่​ ​พวก​นาง​เสียงดัง​เอิกเกริก​ขนาด​นี้​ ​ต่อให้​มี​อะไร​จริง​ ​ก็​ถูก​จัดการ​สิ้นซาก​ไป​หมด​แล้ว

นี่​จ่าง​กง​จู่​กำลัง​ช่วย​อำพราง​สถานการณ์​ให้​เฉินลั​่​วอ​ยู่​ ​ยัง​ต้องการ​ใช้​นาง​เป็น​เครื่องบูชา​ยัญ​ด้วย

หาก​จ่าง​กง​จู่​คง​คิด​ว่านา​งก​ลัว​ ​เช่นนั้น​ก็​คิดผิด​แล้ว​!

นาง​ไม่​ปิดบัง​ความรู้สึก​ดูแคลน​ของ​ตัวเอง​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​ยืด​หน้าอก​เชิด​คอตั้ง​ตรง​ ​จัด​จอน​ผม​ที่​ยุ่งเหยิง​ให้​เรียบร้อย​ ​สะบัด​มือ​ชิงโฉ​วอ​อก​แล้ว​เดิน​เข้าไป​หา

ชิงโฉว​เดิน​ก้มหน้า​ตามหลัง​ซือ​จู​ไป

จ่าง​กง​จู่​ลอบ​พิจารณา

ไม่จำเป็น​ต้อง​พูดถึง​ความเฉลียวฉลาด​มีไหวพริบ​ของ​สาวใช้​ผู้​นั้น​ ​ตน​ส่งสัญญาณ​บอกเป็นนัย​ไป​ชัดเจน​ขนาด​นั้นแล​้ว​ ​นาง​ก็​ยัง​ไม่​ฉวยโอกาส​หนี​ไป​แจ้ง​ข่าว​คุณหนู​หวัง​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​มั่นใจ​ว่า​คุณหนู​หวังมี​แผน​รับมือ​แล้ว​ ​ก็​ต้อง​เป็น​เพราะ​มั่นใจ​ว่า​เฉินลั​่ว​ไม่อยู่​ที่​สวน​ร่ม​หลิว

ไม่ว่า​จะ​เป็น​อย่าง​แรก​หรือ​อย่าง​หลัง​ ​นาง​ก็​ถอนใจ​ยาว​ออกมา​อย่าง​โล่งอก​ครั้งหนึ่ง

คน​ทั้ง​กลุ่ม​เดิน​ไป​ที่​สวน​ร่ม​หลิว

มีส​ตรี​ที่​ติดตาม​มาด​้ว​ยก​้า​วอ​อก​ไป​เคาะ​ประตู

ไป๋​กั่ว​เป็น​คน​มา​เปิด​ประตู

นาง​เชิญ​ทุกคน​เข้าไป​ด้วย​ความประหลาดใจ

ต้นไม้ใบหญ้า​ใน​ลานบ้าน​หลัก​เขียวชอุ่ม​ ​แม้น​เป็นช่วง​กลาง​ฤดูหนาว​แล้ว​ ​กลับ​ยัง​ดูเหมือน​ฤดูร้อน​ ​บน​หลังคา​ของ​ทางเดิน​แขวน​กรงนก​เอาไว้​เจ็ด​ถึง​แปด​กรง​ ​มีนก​ขมิ้น​ ​นกแก้ว​ ​และ​นก​ขุนทอง​…​กำลัง​ร้อง​เจื้อยแจ้ว​รับ​แสงอาทิตย์​อบอุ่น​ใน​ฤดูหนาว​ ​สาวใช้​เด็ก​หลาย​คนที​่​ยัง​เกล้าผม​แกละ​อยู่​สวม​ชุด​เพ่ย​จื่อ​ผ้าไหม​หังโจว​สีชมพู​ขอบ​เขียว​ ​ใน​มือ​ของ​พวก​นาง​บ้าง​ยก​จาน​ผลไม้​บ้าง​ถือ​กระเช้า​ดอกไม้​เอาไว้​ ​เดิน​อยู่​ใน​บ้าน​อย่างเบามือ​เบา​เท้า​ ​มีเสียง​ออดอ้อน​น่ารัก​ของ​เด็กสาว​ดัง​มา​ให้​ได้ยิน​จาก​อีก​ฝั่ง​ของ​ห้องโถง​หลัก​ที่​กั้น​ด้วย​ฉาก​กั้น​กระจก​หลาก​สี

“​มัน​หวาน​นี้​เผา​นาน​เกินไป​ ​เปลือก​ของ​มันติด​เนื้อ​หมด​แล้ว​ ​กิน​ไม่ได้​แล้ว​กระมัง​!​”

“​ตาย​แล้ว​ ​นี่​ผู้ใด​มา​ฝัง​ถั่ว​เอาไว้​ ​ไม่​ล้าง​ให้​สะอาด​ ​กระเด็น​ใส่​ตัว​ข้า​หมด​แล้ว​ ​ข้า​เพิ่ง​เปลี่ยน​กระโปรง​ตัวใหม่​มา​ ​ไหม้​เป็น​รอย​ไป​แล้ว​ ​ต้อง​เอา​ไม่​ออก​แล้ว​เป็นแน่​”

“​เวลา​คั่ว​ถั่ว​เอา​อะไร​มาปิด​ไว้​ไม่ได้​หรือ​ ​กระเด็น​ไป​ทั่วทุก​ที่แล้ว​ ​หรือว่า​พวกเรา​คั่ว​เกาลัด​แทน​ดี​หรือไม่​”

จ่าง​กง​จู่​ตกใจ​เล็กน้อย

นี่​คือ​วัน​ปกติ​ใน​ฤดูหนาว​ของ​เด็กสาว​ที่​เติบโต​มากั​บการ​เลี้ยงดู​อย่าง​เอาอกเอาใจ​หรือ

ตอน​นาง​เป็น​เด็ก​ ​เสด็จ​แม่​ก็​ไม่อยู่​แล้ว​ ​นาง​อาศัย​อยู่​กับ​เจียง​ไท่​เฟย​ใน​ตำหนัก​จง​ชุ่ย​อัน​โดดเดี่ยว​และ​ห่างไกล​ ​ถึง​เจียง​ไท่​เฟย​จะ​เป็น​คนดี​มาก​ ​แต่​นาง​ก็​เป็น​เพียง​คน​ตัวเล็ก​ๆ​ ​คน​หนึ่ง​ ​เป็น​นางสนม​ที่​ไม่ได้​รับ​ความ​โปรดปราน​ ​ตัวเอง​จะ​ทำ​สิ่งใด​ก็​ต้อง​คอย​ดู​สายตา​ของ​ผู้อื่น​ ​ไหน​เลย​จะ​กล้า​ให้​นาง​วิ่ง​ไป​ทั่ว​ได้

ตำหนัก​จง​ชุ่ย​เงียบสงบ​ไร้​สรรพ​เสียง​ตลอดทั้ง​วัน

ใน​ฤดูหนาว​อัน​ยาวนาน​ ​ภาพ​เหตุการณ์​ที่นาง​เห็น​บ่อย​ที่สุด​คือ​เหล่า​นางกำนัล​นั่ง​รับ​แดด​อยู่​หน้าบาน​ประตู​พลาง​ทำงาน​เย็บ​ปัก​ไป​ด้วย

วันทั​้ง​วัน​ไม่มี​เสียงดัง​เลย

การก​ระ​โดด​โลดเต้น​ส่งเสียง​ดัง​เหมือน​ฤดูใบไม้ผลิ​เช่นนี้​ ​นาง​ไม่เคย​ประสบ​พบ​เจอ​มาก​่อน

ถ้า​ยาม​ปกติ​เรือน​ของ​หวัง​ซีก​็​เป็น​เช่นนี้​…​นาง​ก็​พอ​จะเข้า​ใจ​แล้ว​ว่า​เหตุใด​เฉินลั​่ว​ถึง​ชอบ​วิ่ง​มาหา​นาง​ที่นี่

หาง​ตา​และ​หัว​คิ้ว​ของ​จ่าง​กง​จู่​แต้ม​รอยยิ้ม​เอาไว้​เล็กน้อย​อย่าง​ห้าม​ไม่อยู่​

เงียบสงบ​ขนาด​นี้​ ​เฉินลั​่ว​ไม่มีทาง​อยู่​ที่นี่​อย่างแน่นอน

หาก​บรรยากาศ​สงบ​นี้​ยัง​เป็น​สิ่ง​ที่หวัง​ซีส​ร้าง​ขึ้น​มา​ ​เช่นนั้น​หวัง​ซีท​่า​นนี​้​ก็​เรียก​ได้​ว่า​มีพรสวรรค์​จริงๆ​ ​แล้ว

นาง​ยั้ง​ตัวเอง​เอาไว้​ถึง​ไม่ได้​เลิก​คิ้ว​ขึ้น

หวัง​ซี​เห็น​จ่าง​กง​จู่​พา​คน​หนึ่ง​กลุ่ม​ใหญ่​เข้ามา​ก็​เผย​ความประหลาดใจ​ออกมา​อย่าง​ยาก​จะ​ปิดบัง​ ​รีบ​ก้าว​ออก​ไป​ทำความเคารพ​จ่าง​กง​จู่​ ​กล่าวว่า​ ​“​นี่​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​หรือ​เจ้า​คะ​”

ตอนที่​จ่าง​กง​จู่​เดิน​เข้ามา​ ​ฉัง​เคอ​ที่นั่ง​อยู่​ข้าง​เตาไฟ​กับ​หวัง​ซีก​็​ลุกขึ้น​มาด​้วย​ความตกใจ​ ​ก้าว​ออกมา​ทำความเคารพ​ทุกคน

จ่าง​กง​จู่​จึง​มอง​ซือ​จู​ครั้งหนึ่ง​ด้วย​อาการ​คล้าย​ยิ้ม​คล้าย​ไม่​ยิ้ม​ ​กล่าวว่า​ ​“​พวก​ข้า​เดิน​มาถึง​ที่นี่​ ​เห็น​ทิวทัศน์​ของ​ที่นี่​งดงาม​นัก​ ​เป็น​หน้าหนาว​ที่​เหมือน​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​จึง​ตั้งใจ​เข้ามา​ดู​สักหน่อย​ ​ไม่​เสียแรง​ที่​คุณหนู​หวัง​มาจาก​ครอบครัว​คหบดี​ร่ำรวย​ของ​สู่​จง​”

ขณะที่​นาง​กล่าว​ ​ก็​มอง​ดอก​ดารารัตน์​ใน​ห้อง​ที่​ใช้​เชือก​แดง​ผูก​เอาไว้​ไป​ด้วย​ ​แล้วก็​มอง​ผล​ส้ม​จี๊ด​สีเหลือง​ทองที​่​แผ่​กิ่งก้าน​อุดมสมบูรณ์​อยู่​ตรง​มุม​ห้อง​ไป​ด้วย​ ​กล่าวว่า​ ​“​นี่​คง​เป็นฝี​มือ​คนสวน​จาก​สู่​จง​ของ​พวก​เจ้า​?​ ​ข้า​จำได้​ว่า​ดอก​ดารารัตน์​กับ​ส้ม​จี๊ด​ของ​คน​ปลูก​ดอกไม้​ที่​เฟิง​ไถ​ของ​จิง​เฉิง​ยัง​ไม่​ออกดอกออกผล​เร็ว​ขนาด​นี้​”

หวัง​ซี​ตอบ​อย่าง​ยิ้มแย้ม​ว่า​ ​“​เป็นฝี​มือ​คนสวน​ของ​พวก​ข้า​จริงๆ​ ​เจ้าค่ะ​ ​ไม่ใช่​แค่​ดอก​ดารารัตน์​เท่านั้น​ที่​บาน​แล้ว​ ​ส้ม​จี๊ด​ก็​ให้ผล​แล้ว​เช่นกัน​ ​ดอก​ล่า​เหมย​กับ​ดอก​ซาน​ฉา​เอง​ก็​ถึง​เวลา​ย้าย​มาป​ลูก​ใน​กระถาง​แล้ว​เหมือนกัน​ ​ท่าน​อยาก​ดูหรือ​ไม่​ ​ที่นี่​ข้า​ยัง​มีด​อก​ล่า​เหมย​กับ​ดอก​ซาน​ฉา​อยู่​ด้วย​สอง​สาม​กระถาง​เจ้าค่ะ​”

จ่าง​กง​จู่​ตอบ​ว่า​ ​“​ได้​”​ ​ยิ้ม​ๆ

หวัง​ซีพา​สตรี​หนึ่ง​กลุ่ม​เดิน​ชม​รอบ​ๆ​ ​ลานบ้าน​ของ​นาง​ไป​หนึ่ง​รอบ​โดย​มี​ฉัง​เคอ​ไปเป็นเพื่อน​ด้วย​ ​มี​เพียง​ห้อง​ชั้นใน​ ​ที่​ให้​พวก​นาง​ดู​เพียง​แวบ​หนึ่ง​เท่านั้น

หยก​มรกต​รูป​ราชสีห์​หมุน​ลูก​กลม​ที่​ใช้​เป็น​ลูกตุ้ม​ถ่วง​ปลาย​ผ้าม่าน​ ​แจกัน​หรู่​เหยา​เก่าแก่​สีเขียว​อ่อน​ที่​ใช้​ปัก​ดอก​ท้อ​ ​จาน​แก้ว​ทรง​ใบบัว​ที่​ใช้​วาง​ส้ม​หัตถ์​พระพุทธเจ้า​ ​และ​ฉาก​กั้น​ลาย​เซียน​หญิง​โปรย​บุปผา​ที่​ปัก​ด้วย​วิธีการ​ปัก​ตามแบบฉบับ​ของ​ซู​โจว​ทั้งสอง​ด้าน​ต่าง​ดู​เรียบง่าย​ไม่มี​อะไร​แปลก​พิสดาร​ ​ทว่า​เผย​ความหรูหรา​มีรส​นิยม​ออกมา​ให้​เห็น​ทั่วทุก​จุด

จ่าง​กง​จู่​ลอบ​พยักหน้า

คุณหนู​หวัง​ท่าน​นี้​มีรส​นิยม​ที่​โดดเด่น​น่าประทับใจ​จริงๆ​ ​ไม่​แปลกที่​ถึงแม้​คุณหนู​หกปั​๋​วจะ​ไม่​ชอบ​นาง​ ​แต่​หาก​จะ​ซื้อของ​อะไร​ก็​ต้อง​เชิญ​คุณหนู​หวัง​ท่าน​นี้​ไปดู​ให้

ยิ่งไปกว่านั้น​เห็นได้ชัด​ว่า​คุณหนู​หวัง​ท่าน​นี้​รู้​เจตนา​ของ​นาง​อยู่​แล้ว​ ​จึง​เปิด​ประตู​กว้าง​ปล่อย​ให้​พวก​นาง​เยี่ยมชม​ ​ดู​ว่า​ทีนี้​ใคร​จะ​กล่าวหา​นาง​ว่า​ทำผิด​อะไร​ได้​อีก

มีรส​นิยม​ ​มี​ปฏิภาณ​ไหวพริบ​ ​เหลือ​แค่​ดู​ว่านา​งมี​แบบแผน​และ​วิสัยทัศน์​หรือไม่​เท่านั้น​แล้ว

จ่าง​กง​จู่​คิด​แล้วก็​อด​เม้มปาก​ยิ้ม​ไม่ได้

มิได้​จะ​สู่ขอ​ไป​เป็น​ภรรยา​เอก​ของ​หลิน​หลาง​เสียหน่อย​ ​จะ​คิด​เรื่อง​พวก​นี้​ไป​เพื่อ​อัน​ใด

แม้น​จะ​กล่าว​เช่นนี้​ ​แต่​ใน​ใจ​ของ​นาง​ยังคง​มีความรู้สึก​เสียดาย​ลอย​ออกมา​จางๆ​ ​รู้สึก​ว่า​หาก​เด็กสาว​ผู้​นี้​ไม่ได้​มา​เจอ​หลิน​หลาง​ของ​พวกเขา​ ​การ​ที่นาง​ได้​เป็น​นาย​หญิง​ดูแล​บ้าน​ก็​ไม่เลว​เหมือนกัน​ ​แต่​ถ้า​เด็กสาว​เช่นนี้​ตกไป​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​ผู้อื่น​ ​นาง​ก็​รู้สึก​เสียดาย​เล็กน้อย​อีก​เหมือนกัน

ขณะที่​จ่าง​กง​จู่​ขบคิด​อยู่​นั้น​ ​ก็​นึกถึง​ขนม​ของ​หวัง​ซีที​่​ช่วงนี้​ค่อนข้าง​มีชื่อเสียง​ใน​จิง​เฉิง​ขึ้น​มา​ ​จึง​อยู่​ดื่ม​น้ำชา​และ​กิน​ขนม​ไป​หลาย​ชิ้น​ ​กระทั่ง​นาย​หญิง​รอง​เร่ง​มาถึง​ด้วย​ความร้อน​ใจ​เพื่อ​เชิญ​จ่าง​กง​จู่​ไป​นั่ง​ที่​งานเลี้ยง​ ​จ่างก​จู่​ถึง​ได้​พาส​ตรี​ทั้ง​กลุ่ม​เดิน​จากไป

หวัง​ซี​ถอนหายใจ​อย่าง​โล่งอก

นาย​หญิง​รอง​กลับ​ริษยา​จน​ตาร​้อน​ไป​หมด​ ​กล่าว​ด้วย​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​ทว่า​ข้างใน​ไม่​ยิ้ม​ว่า​ ​“​ข้า​ก็​ว่า​ ​ทั้งที่​เป็น​ฤดูหนาว​แต่​ดอกไม้​ใบ​หญ้า​ใน​เรือน​คุณหนู​หวัง​กลับ​ปลูก​เอาไว้​อย่าง​สวยสด​งดงาม​ ​ที่แท้​ก็​อยาก​ให้​คน​สูงศักดิ์​มาชื่น​ชม​นี่เอง​”

ถ้อยคำ​นี้​มีที​่​มาที​่​ไป

นอกจาก​คน​จาก​ตระกูล​เดิม​ของ​นาง​จะ​มา​เด็ด​ดอกไม้​โดย​ไม่ได้​รับเชิญ​แล้ว​ ​ยัง​เสนอ​ความคิด​ให้​นาย​หญิง​รอง​ด้วยว่า​ ​“​เป็นช่วง​ที่​ดอกไม้​ของ​เฟิง​ไถ​ราคาแพง​ที่สุด​ ​แขก​มา​เยือน​ก็​มาก​ ​แทนที่จะ​ใช้​เงิน​จำนวนมาก​ขนาด​นั้น​ ​มิสู​้​ไป​ยืม​ดอกไม้​ของ​คุณหนู​หวัง​มาสัก​สอง​สาม​กระถาง​ ​ข้า​เห็น​กล้วยไม้​ที่​เรือน​นาง​บาน​ได้​งาม​นัก​ ​ยัง​มี​กล้วยไม้​กะ​เรกะ​ร่อน​นิล​หายาก​อีกด้วย​”

นาย​หญิง​รอง​หา​ได้เสีย​ดาย​เงินทอง​ ​แต่​ฤดูกาล​นี้​ ​ต่อให้​มีเงิน​ก็​หา​ซื้อ​ดอกไม้​หายาก​อย่าง​กล้วยไม้​กะ​เรกะ​ร่อน​นิล​ไม่ได้

นาง​รู้ดี​ว่า​หวัง​ซี​ไม่​อยาก​เจอ​นาง​ ​แต่​เพื่อให้​มีหน้ามีตา​ใน​งานแต่ง​ของ​บุตรชาย​แล้ว​ ​ยังคง​ทำ​หน้าหนา​มา​ขอยืม​จาก​หวัง​ซี

หวัง​ซี​ไม่ยอม​พบ​นาง​ ​หวังห​มัว​มัว​ขวาง​นาง​อยู่​หน้า​ประตู​เพียงลำพัง​ ​ยัง​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ตระกูล​พวก​ข้า​ไม่​ต่าง​จาก​บ้านเดิม​ของ​นาย​หญิง​รอง​ ​ต่าง​ทำการค้า​เหมือนกัน​ ​อย่าง​อื่น​ไม่​อาจ​กล่าว​ได้​ ​แต่​สหาย​ที่อยู่​ใน​แวดวง​นี้​พอ​มีบ​้าง​สอง​สาม​คน​ ​หาก​ท่าน​อยาก​สั่งจอง​กล้วยไม้​กะ​เรกะ​ร่อน​นิล​ ​ข้า​เป็น​สะพาน​เชื่อม​ให้ท่าน​สัก​คน​หนึ่ง​เป็น​อย่างไร​”

นาย​หญิง​รอง​ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน​ ​สั่ง​กล้วยไม้​กะ​เรกะ​ร่อน​นิล​มาส​อง​กระถาง​จริงๆ​ ​ตั้งใจ​จะ​วาง​ไว้​ใน​ห้องโถง​ใหญ่​ของ​คุณชาย​สาม​ฉัง

ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​คน​ปลูก​ดอกไม้​ผู้​นั้น​กลับ​ต้องการ​เก็บเงิน​จาก​นาง​กระถาง​ละ​สาม​ร้อย​ตำลึง

ตอนนั้น​นาง​กระโดด​ตัว​โหยง​ขึ้น​มา

คน​ปลูก​ดอกไม้​ผู้​นั้น​กลับ​กล่าวว่า​ ​“​หาก​มา​จอง​ก่อนหน้านี้​หนึ่ง​เดือน​ ​ราคา​แปดสิบ​ตำลึง​ก็ได้​แล้ว​ ​แต่​ตอนนี้​ ​ดอกไม้​พวก​นี้​ล้วน​ต้อง​ส่ง​เข้า​วัง​หลวง​ ​ข้า​ให้ท่าน​ไป​แล้ว​ ​ก็​ต้องหา​วิธี​ไป​เอา​มาทด​แทน​จาก​ที่อื่น​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​เห็นแก่หน้า​ของ​หลง​จู๊​ใหญ่​ตระกูล​หวัง​ ​ข้า​คง​ไม่​รับ​งาน​ครั้งนี้​แล้ว​”

ทำเอา​นาง​ลำบากใจ​ไป​หมด​ ​อีกทั้ง​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​คน​หัวเราะเยาะ​ที่​บุตรชาย​แต่งงาน​ทั้งที​แต่​ก็​ไม่ยอม​ทำ​เพื่อ​เป็นเกียรติ​ให้​บุตรชาย​ ​ก็​เลย​จำต้อง​กัดฟัน​ซื้อ​กลับมา

สิ่ง​ที่นาง​ไม่รู้​ก็​คือ​ ​เงิน​ที่นาง​จ่าย​ออก​ไป​ ​ภายหลัง​คน​ปลูก​ดอกไม้​ผู้​นั้น​นำ​เงิน​ห้า​ร้อย​ตำลึง​ที่​เป็น​ส่วนเกิน​ไป​ส่ง​ให้​หลง​จู๊​ใหญ่​ ​ยัง​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​คน​ปลูก​ดอกไม้​บ้าน​ใด​ไม่​เผื่อ​ดอกไม้​เอาไว้​สัก​สอง​สาม​กระถาง​เอาไว้​ให้​คนที​่​ไม่​อาจ​ทำให้​ขุ่นเคือง​ใจ​บ้าง​”

หลง​จู๊​ใหญ่​นำ​เงิน​ดังกล่าว​ส่ง​มา​ให้​หวัง​ซี​อีกที

หวัง​ซี​มีความสุข​ยิ่งนัก​ ​นาง​โบกมือ​ ​มอบ​เงิน​ห้า​ร้อย​ตำลึง​ให้​หวังห​มัว​มัว​ทั้งหมด​ ​ยัง​กล่าว​ด้วยว่า​ ​“​เจ้า​ลอง​ไปหา​ดู​ให้​ทั่ว​เสีย​ตั้งแต่​ตอนนี้​ ​ข้า​ให้​สำหรับ​ซื้อ​บ้าน​ที่​จิง​เฉิง​ให้​พี่ชาย​ร่วม​น้ำนม​ ​อนาคต​ถึงคราว​เขา​แต่งงาน​ก็​ไม่ต้อง​กลัว​แล้ว​”

หวังห​มัว​มัว​ซาบซึ้ง​อยู่​ใน​ใจ​ ​นำ​เงิน​ดังกล่าว​ไป​เลี้ยง​อาหาร​และ​สุรา​พวก​สาวใช้​เล็ก​ใหญ่​ ​ป้า​รับใช้​และ​บ่าว​ชาย​ทั้งหลาย​ของ​หวัง​ซีด​้วย

หงโฉว​เจ้าสาว​ใช้​ผู้​นี้​ชื่นชอบ​การ​สร้าง​ความวุ่นวาย​ยิ่งนัก​ ​กล่าวว่า​ ​“​สวม​อาภรณ์​งดงาม​เดิน​ยามค่ำคืน​จะ​ไป​มีความหมาย​อะไร​ ​ต้อง​ทำให้​ผู้อื่น​รู้​ด้วย​ถึง​จะ​ใช้การได้​”

ก่อน​เดินทาง​มาที​่​นี่​หวังห​มัว​มัว​ยัง​กลัว​ว่า​จะ​ทำ​อะไร​ให้​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ไม่พอใจ​ ​บัดนี้​กลับ​มอง​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​เป็น​เหมือนกับ​พยัคฆ์​กระดาษ​ ​หยิบ​เงิน​ห้าสิบ​ตำลึง​ให้​หงโฉว​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​เอา​ไป​ซื้อ​ลูกกวาด​ให้​พวกเขา​กิน​”

หงโฉ​วรับ​เงิน​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​จงใจ​ซื้อ​ลูกกวาด​ไป​เลี้ยง​คนสนิท​ของ​นาย​หญิง​รอง

เพียงแต่ว่า​ช่วงเวลา​ดังกล่าว​สั้น​เกินไป​ ​อีกทั้ง​นาย​หญิง​รอง​ก็​วุ่น​กับ​งานแต่ง​ของ​คุณชาย​สาม​ฉัง​ ​เรื่อง​นี้​จึง​ยัง​ลือ​ไป​ไม่​ถึง​หู​ของ​นาง

ตอนนี้​นาง​มาก​่​อก​วน​หวัง​ซี​อีกแล้ว​ ​หงโฉว​คิด​ว่าวั​นนี​้​ตน​ออก​ไปรับ​ความ​โดดเด่น​มามาก​พอแล้ว​ ​หาก​ถูก​ผู้คน​หมายหัว​คง​ไม่ดี​ ​กำลัง​ลังเล​ว่า​ควรจะ​เหน็บแนม​นาย​หญิง​รอง​สัก​สอง​สาม​ประโยค​ดี​หรือไม่​นั้น​ ​ไป๋​กั่ว​ก็​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​อย่าง​ไม่​เกรงใจ​ขึ้น​ก่อน​ว่า​ ​“​ขอบคุณ​นาย​หญิง​รอง​สำหรับ​คำชม​เจ้าค่ะ​ ​หาไม่​จะ​ลือ​กันได​้​อย่างไร​ว่า​ท่าน​มีสาย​ตาดี​ยิ่ง​”​

นาย​หญิง​รอง​เอง​ก็​เคย​คิด​หาประโยชน์​จาก​สวน​ร่ม​หลิว​เช่นกัน

ประโยค​ดังกล่าว​กระแทก​เข้าใส่​นาง​อย่าง​จัง​ ​พูด​อะไร​ไม่​ออก​ไป​ครึ่ง​ค่อนวัน

ไป๋​กั่ว​ถือโอกาส​ส่ง​แขก​ ​ยัง​ปิดประตู​ใส่​หน้านา​งอย​่าง​ไม่​ไว้หน้า​แม้แต่​นิดเดียว​อีกด้วย​ ​เกือบจะ​กระแทก​โดน​จมูก​ของ​นาง​ไป​แล้ว

………………………………………………………………….