บทที่ 184 นายน้อย ท่านนี่มัน…. 3 (2)
“นายน้อยอันโตนิโอ”
คาร์ลเอ่ยเรียกอันโตนิโอก่อนจะหันหลังกลับมา เมื่อคนทั้งคู่สบตากันคาร์ลจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
“คนพวกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?”
อันโตนิโอที่กำลังก้าวเข้ามาให้ห้องหยุดชะงักไปทันที เขาจ้องไปที่คาร์ลซึ่งกำลังเอ่ยถามเขาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าอันโตนิโอไม่เข้าใจคำถามของตน
“คนที่ถูกลักพาตัวมาเป็นอย่างไรบ้าง?”
“…ข้าไม่คิดว่าท่านจะถามอะไรแบบนี้”
“ท่านว่าอะไรนะ?”
คาร์ลมองอันโตนิโอด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าเขากำลังพึมพำบางอย่างอยู่ นั่นทำให้อันโตนิโอแอบถอนหายใจและหันกลับไปปิดประตูห้องให้สนิท
“เราช่วยเหลือพวกเขาทั้งหมดแล้ว”
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็โล่งใจ”
อันโตนิโอเห็นว่าคาร์ลกำลังยิ้มก่อนจะเปลี่ยนสีหน้ากลับไปเป็นปกติเช่นเดิม นั่นทำให้อันโตนิโอรู้สึกแปลกๆ
การที่เขาเอ่ยถามว่ากลุ่มคนเหล่านั้นเป็นอย่างไรบ้างถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งเพื่อทำให้ตระกูลกิลล์ตายใจอย่างนั้นหรือ?
หรือว่าแท้จริงแล้วเขารู้สึกกังวลจริงๆ?
‘ข้าจะรู้ได้จากบทสนทนาของเราในคืนนี้’
ทุกๆอย่างจะถูกเปิดเผยจากสิ่งที่คาร์ลเอ่ยถามเขาหรือต้องการเรียกร้องจากเขาในครั้งนี้
อันโตนิโอมีหลายสิ่งที่ต้องจัดการในตอนนี้แต่เขาก็ไม่สามารถปล่อยผ่านการพูดคุยกับคาร์ลไปได้เช่นกัน เขาค่อยๆทรุดตัวลงนั่งบนโซฝาฝั่งตรงข้ามกับคาร์ล
อย่างไรก็ตามคาร์ลไม่ได้นั่งลงตามเขา
“ข้าคิดว่าท่านคงยุ่งมาก..ดังนั้นข้าจะทำให้ทุกอย่างจบโดยเร็วที่สุด”
คาร์ลไม่ต้องการที่จะทำให้การสนทนาในครั้งนี้ยืดยาวโดยใช่เหตุ
“อย่างที่ข้าเคยบอกท่านไปว่าข้าไม่เก่งเรื่องอ้อมค้อมนัก..ถ้าเช่นนั้นข้าขอเขาเรื่องเลยแล้วกัน”
“ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าท่านต้องการจะพูดอะไร”
‘เขาจะเรียกร้องอะไรจากข้า?’
อันโตนิโอเอนหลังพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลายแต่หลังจากนั้นตัวเขาก็แข็งทื่อทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่คาร์ลทำ
คาร์ลหยิบเอกสารบางอย่างออกจากกระเป๋าและวางมันไว้บนโต๊ะทันที
ปึ่ก!
มันเป็นเอกสารที่ค่อนข้างหนาทีเดียว
‘หรือว่ามันคือเงื่อนไขที่เขาต้องการ?’
คาร์ลเริ่มเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอันโตนิโอตกอยู่ในภวังค์ของตนเอง
“นี่คือข้อมูลที่ตระกูลเชยร์ซี่ว่าจ้างกลุ่มนักฆ่าให้ลักพาตัวเด็กๆเมื่อครั้งอดีต”
ใบหน้าของอันโตนิโอเครียดขึ้นทันที
ไม่ได้มีแค่การค้าทาสเท่านั้นเพราะมันยังมีมากกว่านั้น!
คาร์ล เฮนิตัสถือไพ่สองใบไว้ในกำมือของตนและอันโตนิโอก็เพิ่งค้นพบไพ่ใบที่สองนี้ เขาเห็นรอยยิ้มเย็นที่คาร์ลส่งมาให้
“ข้าไม่ได้เปิดโปงเรื่องนี้ต่อหน้าชาวอาณาเขตกิลล์..มีเพียงข้าเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้”
อันโตนิโอยกมือขึ้นลูบหน้าอย่างเหนื่อยล้า วันนี้เขาเจอแต่เรื่องหนักๆจนทำให้ร่างกายเขาแทบหมดแรง
“…ข้าเองก็ไม่ถนัดเรื่องอ้อมไปมาเช่นกันและตอนนี้ข้าก็ไม่มีเวลามากนัก”
อันโตนิโอต้องการให้คาร์ลเอ่ยความต้องการออกมาเสียที
“ท่านต้องการอะไร?”
ปึ่ก!
อย่างไรก็ตามคาร์ลกลับวางเอกสารอีกปึกลงบนโต๊ะแทนที่จะตอบคำถามของเขา อันโตนิโอก้มมองเอกสารเหล่านั้นทันที
“นี่คือข้อมูลของสมาคมการค้าที่ตระกูลเชรย์ซี่ขายทาสให้”
‘อึก’
อันโตนิโอถึงกลับกลืนน้ำลายอึกใหญ่
เขารู้ดีว่าชื่อเสียงของคาร์ลในฐานะผู้มีคุณธรรมไม่ใช่เรื่องเล่นๆแต่ดูท่าแล้วคาร์ลจะมีความรอบคอบมากกว่าที่เขาคิดไว้ คาร์ลมีข้อมูลที่แม้แต่ตระกูลกิลล์ก็ยังไม่เคยรู้มาก่อนจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ในวันนี้ขึ้น อันโตนิโอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากถูกคาร์ลจับลากไปรอบๆเช่นนี้
อันโตนิโอแทบลมจับเมื่อได้ยินประโยคต่อไปจากคาร์ล
“สมาคมค้าทาสมาจากจักรวรรดิ”
อันโตนิโอหลับตาลงอย่างอ่อนแรง
‘..พวกบ้าเอ้ย! เลว! เลวที่สุด!’
เขาอดไม่ได้ที่จะกร่นด่าบารอนเชรย์ซี่ในใจ
ไม่เพียงแต่ทำให้ประชาชนในอาณาเขตของเขากลายเป็นทาสเท่านั้นแต่พวกเขายังกล้าขายให้กับพ่อค้าทาสในจักรวรรดิอีกงั้นหรือ?! มันเป็นการยากที่จะให้คนอีกอาณาจักรหนึ่งเดินทางไปยังอีกอาณาจักรหนึ่งได้แต่พวกเขากลับสามารถลักลอบทำได้อย่างไม่นึกเกรงกลัวใดๆ
สิ่งนี้จะส่งผลเสียต่อตระกูลกิลล์หากเรื่องนี้แพร่ออกไป
อันโตนิโอรู้สึกขอบคุณคาร์ลที่นำข้อมูลพวกนี้มาให้เขาก่อนแต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกหายใจไม่ออกเป็นเพราะจุดอ่อนของเขาอยู่ในกำมือของคาร์ล
‘อันโตนิโอ..ขุนนางทั้งหลายต่างยินดีที่จะแทงข้างหลังกันได้ทุกเมื่อเพื่อสนองต่อความโลภของตนเอง..นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าเองก็ต้องรู้วิธีควงดาบเช่นกัน’
เขายังจำคำพูดของย่าตนได้
ตอนนี้ดาบที่ย่าเขาเคยพูดเอาไว้กำลังจ่ออยู่ที่คอของเขา
เขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน
“นายน้อยอันนิโอ”
อันโตนิโอค่อยๆลืมตาของตนขึ้นก่อนจะหันไปมองคาร์ล
“โปรดป้องกันประตูทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ให้ดี”
‘อะไรนะ?’
ประโยคที่ไม่คาดคิดออกมาจากปากคาร์ล ทำให้อันโตนิโอไม่สามารถละสายตาออกจากคาร์ลได้
“ช่วยทำเช่นนั้นเพื่อไม่ให้สมาคมการค้าจากจักรวรรดิเข้ามาทำสิ่งชั่วร้ายในอาณาจักรของเราได้อีกต่อไป”
นั่นคือสิ่งที่คาร์ลต้องการจากตระกูลกิลล์
“แม้แต่หนูสักตัวก็อย่าให้เล็ดลอดเข้ามา”
คาร์ลต้องการให้อันโตนิโอป้องกันชายแดนอย่างแข็งขันเพื่อไม่ให้จักรวรรดิฉวยโอกาสบุกเข้าโจมตีอาณาจักรโรมันในขณะที่สงครามทางเหนือกำลังเริ่มขึ้น
“ในฐานะผู้รักษาเขตชายแดน..ข้าขอให้ตระกูลกิลล์รักษาประตูทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ให้ปลอดภัย”
อันโตนิโอรู้สึกถึงมือที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่ในขณะที่สายตาก็ไม่คลาดไปจากคาร์ล
“นั่นคือสิ่งที่ข้าต้องการจากท่าน”
คำร้องขอจากคาร์ลคือการให้ตระกูลกิลล์ทำหน้าที่ของตนให้หนักขึ้น อันโตนิโอเผลอกลืนน้ำลายเข้าไปอึกใหญ่
ทั้งหมดที่คาร์ลต้องการคือให้เขาทำหน้าที่ของขุนนางอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตามอันโตนิโอรู้สึกว่าคำพูดเหล่านี้กระทบใจเขาอย่างแรง
เขาไม่เคยเห็นขุนนางคนไหนปรารถนาสิ่งเหล่านี้มาก่อน
ขี้เหล้า ขยะไร้ค่า คนโลภ มีอีกหลายคำที่ผุดขึ้นมาในใจของเขาแต่เขาก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่เขาคิดกับคาร์ลนั้นผิดทั้งหมด
คนผู้นี้ดูห่างไกลจากคำเหล่านั้น เขาไม่ต้องการแสวงหาอำนาจหรือความโลภใดๆ
เขาไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำเป็นขุนนางที่ดี
“…นายน้อยคาร์ล—”
“และอีกอย่าง”
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบคาร์ลก็เอ่ยขัดขึ้นมา
“หากเมื่อใดที่อาณาจักรของเราต้องการ…”
มีอีกอย่างที่องค์ชายรัชทายาทต้องการ
“ท่านก็แค่เปิดประตูให้กับเรา”
จักรวรรดิอาจไม่ยืนข้างพันธมิตรทั้งสามอาณาจักรและหนึ่งเผ่าสัตว์อสูรไปตลอด
“นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ”
คาร์ลเงียบทันทีที่พูดจบ
คุณธรรมอันสูงส่ง!
ประโยคนี้ลอยเข้ามาในหัวของอันโตนิโอ เขาคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้คือ‘ขุนนางที่แท้จริง’
อันโตนิโอผู้ต้องการเป็นขุนนางที่แท้จริงเผลอกำหมัดของตนแน่นขึ้น