บทที่ 170 การแสดง

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

“ง่ายอะไรกันล่ะ เรื่องนี้……”

“เรื่องนี้ก็เอาตามนี้แหละ ไปเถอะภรรยา!”นิรุตติ์ไม่ให้โอกาสวารุณีพูดจบเลย ก็ดึงแขนของเธอ ออกไปจากห้องรับรอง

“รถของฉัน!”วารุณีเดินไป ก็หันไปมองรถด้วย

นิรุตติ์ยิ้มที่มุมปาก“รถหนีไปไหนไม่ได้หรอก เดี๋ยวค่อยกลับมาเซ็นสัญญา”

พูดจบ เขาก็ปล่อยเธอ แล้วอุ้มอารัณขึ้นมาจากบนโซฟา

“ปล่อยผม”อารัณเตะขาไปมา ดิ้นจะลงมาให้ได้

นิรุตติ์กลับกอดเขาไว้แน่น แล้วยังตีก้นของเขา“ไอ้หนู นิ่งๆหน่อย ตอนนี้หนูเป็นลูกชายของฉันนะ”

“หม่ามี๊?”ได้ยินคำนี้ อารัณก็ตาโตขึ้นมาเหมือนไม่เชื่อ มองวารุณีที่อยู่ข้างๆ

วารุณีถูขมับไปมา กำลังจะพูด

นิรุตติ์กลับอุ้มอารัณออกไปนอกร้าน

“นี่!”วารุณีตะลึง ตามออกไปทันที

ทางที่ไปห้องอาหารของโรงแรม สุดท้ายวารุณีก็ยอมประนีประนอม รับปากว่าจะช่วยนิรุตติ์รับมือกับการนัดบอด

พอถึงโรงแรม นิรุตติ์ลงจากรถก่อน ไปเจอคู่นัดบอดที่โรงแรม ให้วารุณีกับอารัณอยู่บนรถก่อน รอตอนที่เขาส่งข้อความมา พวกเขาค่อยไป

รอไปได้ครึ่งชั่วโมง โทรศัพท์วารุณีก็สั่น ได้รับข้อความของนิรุตติ์

“ลูกชาย เตรียมพร้อมหรือยัง?”วารุณีอ่านข้อความเสร็จก็เก็บโทรศัพท์ มองไปที่อารัณที่อยู่ข้างๆ

อารัณพยักหน้าเล็กๆ“เตรียมพร้อมแล้วครับหม่ามี๊”

“โอเค งั้นพวกเราไปกันเถอะ รีบจัดการให้เสร็จแล้วกลับไป”วารุณีเปิดประตูรถ อุ้มเด็กชายลงจากรถไปที่พื้น จากนั้นปิดประตู จูงมือของเด็กชายเข้าไปในโรงแรม

พอเข้าไป เธอก็แน่ใจกับเส้นทางก่อน จากนั้นจึงเดินไปที่ลิฟต์

มาถึงชั้นที่มีห้องส่วนตัว วารุณีก็หาห้องส่วนตัวของนิรุตติ์เจอ สูดหายใจลึกๆ แล้วผลักประตูเข้าไป

ขณะที่เธอเข้าไป ประตูห้องส่วนตัวตรงข้ามก็เปิดพอดี ชายหนุ่มชุดสูทรองเท้าหนังกลุ่มหนึ่งออกมาจากด้านใน และชายหนุ่มที่อยู่หน้าสุดก็ตาเป็นประกาย

“ประธาน ที่เพิ่งเข้าไปเมื่อกี๊ เหมือนจะเป็นคุณวารุณีเลยนะครับ?”มารุตมองห้องส่วนตัวตรงข้าม เตือนเบาๆ

นัทธีเงยคางขึ้นเล็กน้อย“เธอนั่นแหละ”

“ทำไมเธอถึงอยู่นี่?แล้วยังพาลูกมาด้วย?”มารุตดันแว่นด้วยความสงสัย

สายตานัทธีหม่นลงเล็กน้อย ไม่พูด

มารุตลังเลแป๊บหนึ่ง“หรือว่า ผมไปถามในที่โรงแรมดี ดูว่าในห้องส่วนตัวมีใครอยู่?”

“แล้วแต่คุณ”ริมฝีปากบางๆของนัทธีขยับ ทิ้งสามคำนี้ออกมาอย่างนิ่งๆ แล้วพากลุ่มคนออกไป เหลือแต่มารุตที่ยืนอยู่ที่เดิม

มารุตมองแผ่นหลังของกลุ่มคน เบะปากเล็กน้อย ในใจแอบพูดว่าประธานใส่ใจมาก คนที่คุณวารุณีพาลูกมาเจอ แต่ใบหน้ากลับทำเป็นไม่แคร์

ไม่เหนื่อยเหรอ?

ส่ายหน้าอย่างทำอะไรไม่ได้ มารุตหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาเบอร์โรงแรม

ในห้องส่วนตัว ตอนที่วารุณีเข้าไป การแสดงออกที่ใบหน้าก็กลายเป็นโกรธสุดๆ ตะโกนไปว่า“นิรุตติ์ นี่คุณทำอะไรที่นี่?”

นิรุตติ์หันหน้าเข้ากับประตูห้องส่วนตัวพอดี ตอนที่เห็นเธอเปลี่ยนสีหน้ากะทันหัน ก็ประหลาดใจกับการแสดงของเธอ จากนั้นแป๊บเดียวก็ตกใจที่เธอตะโกน

ที่ตกใจเหมือนกันก็คือ ผู้หญิงที่สวมชุดเซ็กซี่ตรงข้ามเธอ

หญิงสาวหันหน้าไปอย่างไม่พอใจ เผยให้เห็นการแต่งหน้าจัดบนใบหน้า จนมองรูปร่างหน้าตาเดิมไม่ออก มองวารุณีอย่างไม่พอใจ“คุณเป็นใครน่ะ?”

วารุณีไม่สนใจเธอ ดึงอารัณเข้าไปด้วยความโมโห จากนั้นปล่อยมือของอารัณ ถือกระเป๋าขึ้นมาทุบใส่ตัวนิรุตติ์“ดีจังเลยนะนิรุตติ์ จู่ๆก็กล้าออกมากินข้าวกับผู้หญิงคนอื่นลับหลังฉัน!”

นิรุตติ์รู้สึกถึงความเจ็บที่เข้ามาบนร่างกาย ยกมือขึ้นบังหน้าไป ก็ทำท่าสำนึกผิดไปด้วย ขอร้องไปมาว่า“ที่รักผมผิดไปแล้ว ผิดไปแล้วจริงๆ อย่าตีเลยนะ!”

ผู้หญิงคนนี้ ลงมือได้แรงมาก!

จะต้องแก้แค้นบัญชีกับเขาในร้าน4Sเมื่อกี๊แน่

อารัณก็ตกใจกับพฤติกรรมรุนแรงของหม่ามี๊ตัวเอง แต่เห็นที่นิรุตติ์เอาแต่หลบ ก็ปิดปากแล้วหัวเราะขึ้นมา

วารุณีตีไปสิบกว่าทีติดๆ ความหดหู่ในใจนั้น ในที่สุดก็หายไป สบายใจขึ้นมาเยอะ เธอเอากระเป๋าวางลง ชี้ผู้หญิงที่อยู่ตรงข้าม ถามนิรุตติ์อย่างเย็นชา“พูดมา เธอเป็นใคร!”

นิรุตติ์ยังไม่ตอบ หญิงสาวก็ตบโต๊ะยืนขึ้นมา“ฉันต่างหากที่อยากรู้ว่าเธอเป็นใคร เธอมาถึงก็มาตีคู่นัดบอดของฉัน ไม่เกินไปหน่อยเหรอ?”

“คู่นัดบอด?”วารุณีหน้าซีด เหมือนถูกโจมตีอย่างหนัก ตัวสั่น ถอยหลังไปสองก้าว เอามือกุมหัวใจไว้ มองนิรุตติ์แล้วตำหนิด้วยความเสียใจ“นิรุตติ์ คุณมันระยำ คุณแต่งงานกับฉันแล้วแท้ๆ ลูกของเราโตขนาดนี้ คุณยังออกมานัดบอด คุณ……ฉันจะตีคุณให้ตายเลย!”

พูดจบ วารุณีก็ยกกระเป๋าขึ้นมาทุบใส่ตัวเขาอีกครั้ง

นิรุตติ์คิดไม่ถึงว่าเธอจะทำอีก รีบหยิบเมนูบนโต๊ะขึ้นมาบังตัวไว้

อารัณก็ไม่ลืมหน้าที่ของตัวเอง กลอกตาไปมา ร้องไห้เสียงดังออกมา“ฮือๆๆ พ่อแย่มาก ไม่ต้องการหม่ามี๊และก็ไม่ต้องการผมแล้วฮือๆๆ……”

เวลานั้น เสียงตบดีในห้อง เสียงขอร้อง เสียงร้องไห้ของเด็กผสมปนเปไปหมด ในที่นั้นวุ่นวายอย่างมาก

หญิงสาวรำคาญเสียงดังจนไม่ไหว ยืนขึ้นมากระทืบเท้า“พวกคุณโวยวายกันพอหรือยัง?”

คำนี้พูดออกมา วารุณีหยุดลงมือ นิรุตติ์ก็วางเมนูลง อารัณก็หยุดร้องไห้

และถ้าดูดีๆล่ะก็ เด็กชายคนนั้นไม่มีน้ำตาไหลสักเม็ด มีแค่เสียงร้องออกมาอย่างเดียว

ผู้ใหญ่สองคนและเด็กคนหนึ่งมองไปที่หญิงสาวพร้อมกัน

หน้าอกของหญิงสาวกระเพื่อมไปมาอย่างรุนแรง ชี้นิรุตติ์อย่างสั่นๆ“คุณแต่งงานแล้ว?”

นิรุตติ์จับแว่นที่เอียงแล้วพยักหน้า“ขอโทษที่ผมหลอกคุณ ผมแต่งงานเมื่อห้าปีก่อนแล้ว นี่คือภรรยาผม นี่คือลูกชายผม”

มือข้างหนึ่งเขาโอบเอวของวารุณี มืออีกข้างลูบหัวของอารัณ

วารุณีตัวสั่นกับคำที่เขาเรียกว่าภรรยา ขนลุกไปทั้งตัว อยากจะผลักเขาออกมาก

แต่พอคิดว่าตอนนี้ตัวเองยังแสดงละครอยู่ จึงได้แต่อดทน

“แต่งงานเมื่อห้าปีก่อนแล้ว งั้นทำไมฉันไม่เคยได้ยินเลยล่ะ แล้วลุงขงเบ้งยังจะให้ฉันมานัดบอดกับคุณอีก?”หญิงสาวมองวารุณี แล้วก็มองอารัณอีก น้ำเสียงคมกริบ

วารุณีก้มหน้าลงเช็ดน้ำตาอย่างเสียใจ“นั่นเพราะว่าพวกเราไม่ถูกยอมรับ ดังนั้นเลยแอบแต่งงานมาตลอด ฉันคิดว่าพวกเราจะยืนหยัดไปอีกสองสามปี แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ฉันคิดไม่ถึงว่าไอ้ระยำนี่ จะฟังที่พ่อเขาพูด ออกมานัดบอด”

มุมปากนิรุตติ์กระตุก ในใจรู้สึกชื่นชมอย่างมาก

ผู้หญิงคนนี้ พูดคำโกหกออกมาได้ อย่างไม่มีความร้อนตัวเลยจริงๆ

เห็นนิรุตติ์ไม่พูด มีสภาพรู้สึกผิด หญิงสาวก็เชื่อวารุณีไปหมด โกรธแทบบ้า“แต่งงานแล้วและยังมานัดบอดกับฉันอีก คุณเห็นฉันเป็นอะไร ไร้ยางอายจริงๆ!”

พูดจบ หญิงสาวก็ถือไวน์แดง สาดใส่หน้านิรุตติ์อย่างแรง ภายใต้เสียงร้องตกใจของวารุณ จากนั้นวางลงแรงๆ หันกลับออกไป

ได้ยินเสียงปิดประตูห้องส่วนตัวดังปัง วารุณีกับอารัณตัวสั่นไปพร้อมกัน

จากนั้นวารุณีก็กลืนน้ำลาย มองไปที่นิรุตติ์อย่างรู้สึกขอโทษ“ผู้อำนวยการนิรุตติ์ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

นิรุตติ์มีสีหน้าหม่นลง เช็ดไวน์แดงที่หน้ากับผม ได้ยินที่เธอพูดคำนี้ออกมา ก็ตอบไปด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ“คุณคิดว่าไงล่ะ ไวน์ทั้งหน้าผมนี้จะไม่เป็นไรได้ไง นี่ก็เพราะว่าคุณทำทั้งนั้น!”

วารุณีหลบสายตาบิดนิ้วลง“อะไรกัน ไม่ใช่ว่าคุณให้ฉันช่วยคุณก่อกวนนัดบอดครั้งนี้เหรอ ไม่กระตุ้นไปหน่อย ผู้หญิงคนเมื่อกี๊ไม่เชื่อแน่ คุณดูสิเธอเดินดุ่มไปแบบนี้เลย ผลลัพธ์ก็ถือว่าดีมากใช่เหรอ?”