เมื่อเห็นท่าทางที่สิ้นหวังของหลิ่วเยว่เอ่อร์ ในใจของเกาจวินเซวียนก็เริ่มรู้สึกถึงความสุข
เขายังคงถามต่อไปว่า: “แล้วคุณไม่มีอะไรจะบอกกับผมเหรอ? เกี่ยวกับเฉินฮวนฮวน…”
หลิ่วเยว่เอ่อร์คว้าคอเสื้อเกาจวินเซวียนอีกครั้ง ใบหน้าของเธอซีดเผือก เธอจ้องไปที่เขาและกัดฟันพูดว่า: “คุณบอกเฟิงหานชวนอย่างนั้นเหรอ?”
“ไม่นี่!” เกาจวินเซวียนยักไหล่ เขาหัวเราะดังๆแล้วพูดว่า: “ผมยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลย แล้วผมจะไปบอกเฟิงหานชวนได้ยังไง?”
หลิ่วเยว่เอ่อร์ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของเกาจวินเซวียน เธอรู้สึกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
เห็นได้ชัดว่าเกาจวินเซวียนพูดว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา แถมยังเอ่ยชื่อของเฉินฮวนฮวนอีก ทำไมเขาถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น?
“เยว่เอ่อร์ ผมรู้ว่าคุณมีบางอย่างปิดบังผมอยู่ ตอนนี้คุณแค่ต้องบอกความจริงกับผม แล้วผมจะช่วยคุณเก็บความลับนี้ไว้”ร่องรอยของแสงชั่วร้ายส่องประกายผ่านดวงตาของเกาจวินเซวียน
เขารู้สึกถึงบางอย่างแต่เขาก็ยังไม่แน่ใจนัก ถ้าเขาเปิดเผยเรื่องของหลิ่วเยว่เอ่อร์เขาก็อาจจะไม่ได้รับเงินสิบล้าน
หลิ่วเยว่เอ่อร์จ้องไปที่ผู้ชายตรงหน้าเธอและพยายามหาร่องรอยของการโกหกในดวงตาเขา แต่สุดท้ายเธอก็คิดว่าเกาจวินเซวียนคงน่าจะไม่รู้ความจริง
เมื่อเห็นหลิ่วเยว่เอ่อร์ที่ดูลังเล เกาจวินเซวียนก็จับเอามือของเธอออกไป เขาลดศีรษะลงและจูบเธออย่างรุนแรง จากนั้นก็ยิ้มกว้างให้กับเธอ
หลิ่วเยว่เอ่อร์ตกใจและผลักเขาออกไปทันที เธอพูดด้วยความตกใจว่า: “คุณกำลังทำอะไรอยู่? อย่าลืมว่าฉันเป็นผู้หญิงของเฟิงหานชวนแล้ว! ”
“หลิ่วเยว่เอ่อร์ ถึงผมจะพูดไปเท่าไหร่คุณก็ไม่สนใจอยู่ดี อย่าทำเหมือนผมเป็นคนโง่เลย!” เกาจวินเซวียนชี้ไปที่เธอ เขาลดเสียงลงแล้วพูดว่า: “คุณช่วยบอกกับผมให้ชัดเจนหน่อยได้ไหมล่ะ”
หลิ่วเยว่เอ่อร์รู้สึกเพียงว่าในขณะนี้หัวใจของเธอเต้นแรงด้วยความกังวล ถ้าหากเธอยังคงปิดบังเกาจวินเซวียน เกาจวินเซวียนก็จะไปหาเฟิงหานชวนเพื่อพูดเรื่องไร้สาระนี้และทุกอย่างมันก็จะจบลง!
“คุณน่าจะเดาได้ไม่ใช่เหรอ?”หลิ่วเยว่เอ่อร์กัดริมฝีปากของเธอและพูดว่า: “คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ตอนที่เฉินฮวนฮวนมาทำงานแทนฉัน เธอถูกเฟิงหานชวนบังคับและฉันก็โกหกว่าเป็นผู้หญิงในคืนนั้น ดังนั้น…เฟิงหานชวนต้องรับผิดชอบฉัน”
“ฮ่าๆ ” เกาจวินเซวียนยิ้มทันทีหลังจากได้ยิน
เมื่อเห็นเกาจวินเซวียนหัวเราะออกมา หลิ่วเยว่เอ่อร์ก็รู้สึกอับอายมากขึ้นกว่าเดิม และมันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกโกรธมากขึ้นไปอีก
เดิมทีแผนของเธอกำลังไปได้สวย แต่ดันมาถูกเกาจวินเซวียนจับได้อีก และยิ่งไปกว่านั้นความคืบหน้าเกี่ยวกับเฟิงหานชวนก็ยิ่งไม่ค่อยดีอยู่ด้วย
ตอนนี้ในหัวสมองหลิ่วเยว่เอ่อร์วุ่นวายไปหมด
“เกาจวินเซวียน คุณไม่ได้รับอนุญาตให้บอกเฟิงหานชวน! คุณต้องการอะไรก็บอกฉันมา! “หลิ่วเยว่เอ่อร์พูดอย่างกังวลใจ เธอจับมือของเกาจวินเซวียนไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้างและขอร้อง: “เห็นแก่ความรักของเรา ถ้ามันสำเร็จฉันก็จะรวยมากขึ้นในอนาคตและฉันจะไม่ลืมคุณอย่างแน่นอน”
“จะไม่ลืมผมอย่างนั้นเหรอ? แล้วคุณตัดสายโทรศัพท์ผมทำไม หืม? “เดิมทีเกาจวินเซวียนก็ไม่ต้องการอยากที่จะทำตัวน่าเกลียดเกินไปกับหลิ่วเยว่เอ่อร์ แต่เขารู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อถูกหลิ่วเยว่เอ่อร์ตัดสาย
เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้กำลังจะเตะแฟนเก่าของเธอทิ้งไปเพื่อยกตัวเองให้สูงขึ้น
สีหน้าของหลิ่วเยว่เอ่อร์เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก เธอกัดริมฝีปากแน่นพูดอะไรไม่ออก
“เยว่เอ่อร์ ที่จริง…ยังไงซะสุดท้ายพวกเราก็ไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไรนี่ ตอนนี้ผมเองก็มีรุ่นน้องที่คุยด้วยอยู่แล้ว จริงๆผมไม่ได้ต้องการที่เปิดเผยความลับของคุณหรอก”เกาจวินเซวียนก้มตัวลงและเอนตัวไปกระซิบที่หูของหลิ่วเยว่เอ่อร์
ความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลิ่วเยว่เอ่อร์ เธอถามอย่างตื่นเต้นว่า: “จวินเซวียน คุณสัญญาว่าจะปิดบังต่อไปเพื่อฉันใช่ไหม?”
เกาจวินเซวียนมองไปที่ใบหน้าของเธอ ดวงตาของเขาค่อยๆเลื่อนมองลงไปที่หน้าอกของเธอ
“จวินเซวียน ป้าหวังน่าจะกลับมาเร็วๆ นี้…”หลิ่วเยว่เอ่อร์มองออกว่าเกาจวินเซวียนต้องการอะไร
นับตั้งแต่ที่เธอมุ่งเป้าไปที่เฟิงหานชวน เธอก็ไม่เคยมองเกาจวินเซวียนหรือผู้ชายคนอื่นอีกเลยและเธอเองก็ไม่ต้องการมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับผู้ชายคนอื่นนอกจากเฟิงหานชวน
อย่างไรก็ตามเฟิงหานชวนไม่เคยแตะต้องแม้แต่ปลายนิ้วของเธอเลยด้วยซ้ำ
“ผมรอไม่ไหวแล้ว!”เกาจวินเซวียนเลิกผ้าห่มของหลิ่วเยว่เอ่อร์ออก
ตอนนี้เขารู้สึกเจ็บปวดและต้องการแค่เล่นสนุกกับเธอ เขาไม่สนใจความรู้สึกของหลิ่วเยว่เอ่อร์เลยสักนิด เขาเพียงแค่ต้องการเล่นสนุกและบีบผู้หญิงคนนี้ให้จนมุมเท่านั้น
“จวินเซวียน อย่า…”หลิ่วเยว่เอ่อร์จับข้อมือของเกาจวินเซวียนไว้ และส่ายหัวอย่างเขินอาย
ตอนนี้เธอไม่สามารถทำอะไรกับเกาจวินเซวียนในห้องพักของผู้ป่วยได้จริงๆ ถ้าป้าหวังกลับมาล่ะ
อย่างไรก็ตาม หากเธอทำให้เกาจวินเซวียนไม่พอใจ และถ้าเกาจวินเซวียนบอกความจริงออกไป เธอจะสูญเสียมากกว่าที่เธอจะได้รับ
ดังนั้นหลิ่วเยว่เอ่อร์จึงตัดสินใจขึ้นคร่อมเกาจวินเซวียน
……
ในขณะเดียวกันป้าหวังก็กลับมาและเกาจวินเซวียนก็กำลังรูดซิปกางเกงของเขาขึ้นพอดิบพอดี
หลิ่วเยว่เอ่อร์ก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที
เกาจวินเซวียนรู้สึกตื่นตระหนก เขากำลังจะเตรียมตัวเดินออกไป แต่ป้าหวังก็เรียกเขาไว้ก่อน: “คุณคะ ทานผลไม้ไหมคะ?”
“ไม่ล่ะ ลาก่อนครับ”พูดจบเกาจวินเซวียนก็เดินออกไปทันที
หลังจากที่หลิ่วเยว่เอ่อร์ล้างปากและเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอก็ไม่เห็นเกาจวินเซวียนในห้องอีกแล้ว มีแค่ป้าหวัง
หัวใจของเธอยังคงเคว้งอยู่ในอากาศ
ตอนนี้เธอดำเนินการมาถึงขั้นนี้แล้ว เกาจวินเซวียนคงจะไม่ทรยศเธอใช่ไหม?
เมื่อนึกถึงหลิ่วเยว่เอ่อร์ก็แอบรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
“คุณหลิ่ว อยากทานผลไม้เพิ่มไหมคะ?” ป้าหวังถามด้วยรอยยิ้ม
หลิ่วเยว่เอ่อร์รู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย เธอส่ายหน้าและกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า: “ฉันอยากนอน”
……
เกาจวินเซวียนเดินออกจากตึกของโรงพยาบาลและยิ้มอย่างมีชัย
เขาหยิบบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋าของเขา เขาจูบลงไปที่บัตรเครดิตและนึกถึงท่าทางที่เหมือนทาสของหลิ่วเยว่เอ่อร์แล้วมันทำให้เขารู้สึกสนุกอย่างช่วยไม่ได้
ตอนนี้เขาได้ทั้งเงินของเฟิงหานชวน และทั้งได้หลิ่วเยว่เอ่อร์มาอยู่ในกำมือของเขา เขาสามารถเล่นสนุกกับหลิ่วเยว่เอ่อร์เมื่อไหร่ก็ได้ที่เขาต้องการ
มันช่างลงตัวอะไรเช่นนี้?
ในขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เกาจวินเซวียนก็เดินออกไปพร้อมกับเอามือล้วงกระเป๋าอย่างสบายใจ
……
ตกดึก
ทันทีที่เฉินฮวนฮวนลงจากรถเมล์ ท้องฟ้าก็เริ่มครึ้มราวกับพายุกำลังจะมา
เธอไม่ได้พกร่มมาด้วย เธอกอดกระเป๋าไว้แน่นและวิ่งไปยังบ้านตระกูลเฟิง
เมื่อเฟิงหานชวนได้ยินเสียงฝนตกข้างนอก เขาก็เหลือบมองนาฬิกาของเขาและลุกจากเตียงเดินไปที่ระเบียง
เขามองไปยังตามถนนแต่ไม่เห็นแม้แต่เงาคน เขาหันหลังกลับเพื่อเดินออกไปจากห้อง แต่ฝีเท้าของเขาก็หยุดชะงักลงเสียก่อน
เฟิงหานชวนกำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นบ้า?
เขากังวลเกี่ยวกับเฉินฮวนฮวนอีกแล้วอย่างนั้นเหรอ?
……
เมื่อเฉินฮวนฮวนวิ่งมาถึงที่ประตูบ้านตระกูลเฟิง เธอก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่เดินออกมาพร้อมกับร่มพอดี
ร่างของผู้ชายคนนั้นคุ้นตาเธออย่างมาก แม้ว่าร่มสีดำจะปิดบังหน้าของเขา แต่เธอก็ยังจำได้อยู่ดีว่าเขาคือเฟิงหานชวน
“อาสาม!” เฉินฮวนฮวนตะโกนและวิ่งไปทางเขา
เฟิงหานชวนหยุดชะงักเพราะเสียงของเธอ และพบว่าเฉินฮวนฮวนกำลังวิ่งมา เธอหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเขา
“อาสามนี่มันดึกมากแล้ว คุณจะไปไหน?” เฉินฮวนฮวนโพล่งถามออกมาอย่างสงสัย
แต่หลังจากที่เธอรู้สึกตัว เธอก็เอามือขึ้นมาปิดปากของเธอโดยไม่รู้ตัว เธอรู้สึกเสียใจกับการกระทำของเธอเมื่อครู่
เกิดเรื่องน่าอายมากมายระหว่างเธอกับเฟิงหานชวน เฟิงหานชวนคงไม่อยากพบเธอในตอนนี้และเธอก็ยังคงหน้าด้านไปทักทายเขาอีก
เฟิงหานชวนขมวดคิ้วและมองไปที่ผู้หญิงที่เปียกโชกอยู่ข้างหน้าเขา ฝนยังคงตกลงกระทบผม ใบหน้า และร่างกายของเธอ แต่เธอก็ยังคงยืนตากฝนอยู่เหมือนคนบื้อ
เขายื่นมือเอาร่มไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว