ร่างกายของเธอถูกปกคลุมไปด้วยร่ม
เฉินฮวนฮวนตกตะลึง ใบหน้าที่ว่างเปล่าของเธอเงยขึ้นและมองไปยังร่างสูงที่อยู่ข้างหน้าเธอ
เฟิงหานชวนกางร่มให้เธอ?
เขาไม่ได้เกลียดเธอหรอกเหรอ? เมื่อเช้านี้เขาวางสายโทรศัพท์ใส่เธอ
“ไม่ได้ดูพยากรณ์อากาศเหรอ?” เมื่อเห็นตัวเธอสั่น เฟิงหานชวนก็รู้สึกโกรธไปหมด
เมื่อวานไข้สูงแล้วยังไม่รู้จักจำ อาการป่วยเมื่อวานก็ยังไม่หายดีแล้วยังมาเดินตากฝนอยู่แบบนี้อีก
“ฉัน…..”เฉินฮวนฮวนเม้มริมฝีปากของเธอและตอบว่า: “เช้านี้ฉันรีบออกจากโรงพยาบาลและรีบตรงไปมหาวิทยาลัยเลย ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนกลางคืนฝนจะตก”
ที่จริงแล้ว สิ่งที่เธอต้องการจะสื่อคือเธอรีบจนไม่มีโอกาสได้พกร่มไปด้วย เพราะร่มมันอยู่ในกระเป๋าเดินของเธอที่บ้านตระกูลเฟิง
เฟิงหานชวนขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาดูไม่พอใจอย่างมาก เขาพูดอย่างเย็นชาว่า: “เข้ามา”
ขณะที่เขาพูดเขาก็หันกลับไปพร้อมกับร่ม
แต่ในขณะที่กำลังเดินไป พอเขาหันกลับมาก็ยังคงเห็นเธอยืนงงอยู่ที่เดิม
สีหน้าของเฟิงหานชวนนิ่งเรียบ เขาเอื้อมมือออกไปคว้าข้อมือของเธอและดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาโอบเธอและพาไปที่ห้องนั่งเล่น
จนกระทั่งพาเธอเข้ามาในห้องนั่งเล่นและปล่อยเธอออกจากอ้อมแขน เฉินฮวนฮวนถึงค่อยได้สติกลับมา
“อาสาม ขอบคุณ…ขอบคุณ…”ตอนนี้จิตใจของเฉินฮวนฮวนรู้สึกสับสนนิดหน่อย เธอเอ่ยออกมาเสียงเบา
เธอไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเฟิงหานชวนก็ใจดีกับเธอ กางร่มให้เธอและพาเธอเข้ามา
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้เกลียดเธอ?
เฟิงหานชวนชำเลืองมองเธอ จากนั้นก็เอาร่มไปวางไว้ข้างๆ เขาเปลี่ยนรองเท้าแล้วเดินขึ้นไปชั้นบนทันที
เฉินฮวนฮวนหันไปมองที่แผ่นหลังของเฟิงหานชวน จู่ๆเธอก็เกิดความสงสัยขึ้นมา
เฟิงหานชวนไม่ได้จะออกไปข้างนอกหรอกเหรอ? ทำไมถึงขึ้นไปข้างบนอีกล่ะ?
ช่างเถอะ เธอไม่อยากคิดอะไรมาก เธอรีบเปลี่ยนรองเท้าและเดินขึ้นบันไดไป
เมื่อเธอขึ้นมาก็เห็นว่าเฟิงหานชวนได้เข้าไปในห้องเรียบร้อยแล้ว เธอเองก็รีบเข้าไปในห้องเหมือนกัน หลังจากปิดประตูแล้วเธอก็ต้องการที่จะถอดเสื้อที่เปียกออกทันที
เธอหนาวจนตัวสั่น
ในขณะที่เธอกำลังจะเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำอุ่นๆ แต่จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นเสียก่อน
“ก๊อกๆ….”
เฉินฮวนฮวนรีบเดินไปที่ประตู ในขณะที่เปิดประตูจากนั้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้างทันที
เป็นเฟิงหานชวนที่ยืนอยู่ที่ประตู
“อาสาม มี…มีอะไรหรือเปล่า?” เฉินฮวนฮวนรู้สึกประหม่า
คืนนี้จู่ๆเฟิงหานก็ชวนมาหาเธอ ไม่ใช่เพราะเขาต้องการจะทำสิ่งที่เขาไม่ได้ทำในคืนก่อนใช่หรือเปล่า
ใช่แล้ว ตอนนั้นเธอได้บอกเขาไปว่าเขาว่างตอนกลางคืนไหม เธอเคยเชื้อชวนเขาไปแบบนั้น
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอไม่ได้มีความคิดแบบนั้นอีกแล้ว
เธอรู้สึกว่าการขอความช่วยเหลือจากเฟิงหานชวนไม่น่าจะเหมาะเท่าขอความช่วยเหลือจากเฟิงเฉินเหยี่ยน เพราะว่าเธอน่าจะเข้ากันได้ดีกับเฟิงเฉินเหยี่ยนมากกว่าเฟิงหานชวน
เฟิงหานชวนไม่ได้แสดงออกอะไรผ่านสีหน้า เมื่อเขามองไปที่เฉินฮวนฮวนและเมื่อเห็นการแสดงออกของเธอที่ดูประหม่า เขารู้สึกได้เลยว่าทักษะการแสดงของเธอนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ
ในขณะที่เธอคลุมเครือกับเขา และในขณะเดียวกันก็วางแผนที่จะเข้าใกล้อาเหยี่ยน เขาชื่นชมวิธีการของเฉินฮวนฮวนจริงๆ
สายตาของเขาค่อยๆมองต่ำลงไป ตอนนี้เธอสวมเสื้อแขนยาวถักแบบเรียบๆ เพราะฝนเลยทำให้เสื้อผ้าของเธอเปียกโชก เผยให้เห็นโครงร่างของเธออย่างเต็มตา
เฟิงหานชวนเริ่มนึกถึงคืนก่อน ตอนที่เธอสวมชุดนอนผ้าไหมสายเดี่ยวและไปที่ห้องของเขาเพื่อยั่วยวนเขา พอเขาจะเล่นกับเธอ เธอก็วิ่งหนีไปเลย…
“อา อาสาม คุณมาหาฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”เมื่อเห็นว่าเฟิงหานชวนไม่ตอบ เฉินฮวนฮวนก็เงยหน้าขึ้นและถามเขาอีกครั้ง
แต่เธอก็ต้องพบว่าดวงตาของเฟิงหานชวนดูเหมือนจะมองมาที่เธอ…
“อ๊าย!”เธอเอามือปิดตัวเองทันทีและรีบพูดว่า: “อาสาม สิ่งที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ คุณลืมมันไปเถอะนะ!”
“……” มุมปากของเฟิงหานชวนกระตุกสองสามครั้ง
ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเขามาหาเธอเพื่ออะไร?
“เอานี่ไป!”เขาเอื้อมมือออกไปและโยนกล่องยาสองกล่องให้เธอ
จากนั้นก็เดินออกไป
เฉินฮวนฮวนมองไปที่กล่องยาลดไข้และยาแก้หวัดสองกล่องในมือของเธอ เธออ้าปากค้างและพูดไม่ออก
ก่อนที่จะได้พูดขอบคุณเขาก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะเขาได้เดินไปแล้ว
“ทำยังไงดีล่ะเนี่ย!”เฉินฮวนฮวนเกาหัวของตังเองอย่างหงุดหงิด ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหงุดหงิด
เธอเข้าใจเฟิงหานชวนผิดไป เฟิงหานชวนอุส่าห์เอายามาให้เธอ เธอกลับไปคิดว่าเขา…
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เฉินฮวนฮวนก็รีบออกจากห้องและเดินไปที่ห้องถัดไป และพูดกับคนข้างในห้องผ่านประตูว่า: “อาสาม ขอบคุณสำหรับยาแก้หวัด ฉันจะกินมันเดี๋ยวนี้แหละ”
เธอไม่ได้เคาะประตูด้วยซ้ำ เมื่อเธอพูดจบเธอก็รีบลงไปข้างล่างทันที
เธอรู้สึกว่าถ้าเธอเคาะประตูและคุยกับเฟิงหานชวนแบบเห็นหน้ากัน มันจะต้องเหมือนว่าเธอสื่อความหมายโดยเจตนาในแง่นั้นอย่างแน่นอน เธอจึงขอบคุณเฟิงหานชวนผ่านประตูแทน
เมื่อเฟิงหานชวนเปิดประตูออกมา ก็พบว่าไม่มีใครอยู่ที่ประตูแล้ว แต่เขาได้ยินเพียงเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดไปเท่านั้น
ผู้หญิงคนนี้อยากตายหรืออย่างไร!
ขอบคุณที่ทำตัวงี่เง่าอย่างนั้นเหรอ?
ยิ่งไปกว่านั้นนี่ไม่ใช่สิ่งนี้ที่ทำให้เขาโกรธมากที่สุด แต่มันคือเรื่องที่เฉินฮวนฮวนคิดว่าอาเหยี่ยนเฝ้าเธอที่โรงพยาบาลตลอดทั้งคืน
แต่เป็นเขาต่างหาก!
……
หลังจากที่เมื่อคืนกินยาและหลับไป พอตอนเช้าที่เธอตื่นขึ้นมา นอกจากเจ็บคอนิดหน่อยเธอก็ไม่ได้มีอาการอะไรไปมากกว่านี้
ถ้าหากไม่ได้ยาของเฟิงหานชวนแล้วล่ะก็ วันนี้เธอคงจะเป็นหวัดอีกแน่นอน เธอคงต้องลาเรียนและลาทำงานแน่ๆ
ตอนนี้เธอไม่ควรป่วย เธอจำเป็นต้องแข็งแรง
หลังจากลุกขึ้นและเก็บที่นอน เฉินฮวนฮวนก็เปิดประตูและเดินออกไป แต่กลับได้ยินเสียงของเฟิงเฉินเหยี่ยนดังมาจากห้องถัดไป
“อาสาม อาทำผมตกใจจริงๆ ทำไมถึงเล่นกับชีวิตคนแบบนี้ล่ะ? ผู้หญิงกรีดข้อมือเพื่อฆ่าตัวตายเพราะอา มันทำให้ผมโคตรตกใจเลย! ”
ฆ่าตัวตายด้วยการกรีดข้อมือ?
เมื่อเฉินฮวนฮวนได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นทันที เธอผงะไปครู่หนึ่ง
เธออดไม่ได้ที่จะเดินไปใกล้ๆห้องถัดไป และตอนนี้เสียงของเฟิงเฉินเหยี่ยนและเฟิงหานชวนก็ค่อยๆดังชัดเจนขึ้น
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระสักที”เฟิงหานชวนตอบอย่างเย็นชา
“อาสาม นี่มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระสักหน่อย หลักฐานชัดเจนขนาดนั้น แถมผู้หญิงคนนั้นก็ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลรุ่ยเอินอยู่เลย อาจะรับผิดชอบอย่างไรล่ะ?”น้ำเสียงของเฟิงเฉินเหยี่ยนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ราวกับว่าเขากำลังพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ
“ฉันให้เงินไปแล้ว”เฟิงหานชวนยังคงมีน้ำเสียงที่เย็นชา
“ผมยอมเลย อาให้ไปเท่าไหร่? ถ้าผู้หญิงคนนั้นรับเงินไปจริง ๆ เธอก็ไม่น่าจะกรีดข้อมือ หรือเพราะอาให้น้อยเกินไป หรือว่า…เธอไม่ยอมไปก็เพราะอา? “น้ำเสียงของเฟิงเฉินเหยี่ยนทั้งประหลาดใจแต่ก็ผสมไปด้วยการล้อเลียน
ข้างนอกประตู เฉินฮวนฮวนตกใจมาก เธอปิดปากแน่นด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
หญิงสาวที่เฟิงเฉินเหยี่ยนพูดถึงเป็นแฟนที่เฟิงหานชวนเพิ่งทิ้งไปหรือเปล่า?
ผู้หญิงคนนั้นกรีดข้อมือเพื่อฆ่าตัวตาย
“เฟิงเฉินเหยี่ยน ดูแลเรื่องตัวเองให้ดี เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย!”เฟิงหานชวนไม่อยากที่จะพูดคุยเรื่องนี้อีกต่อไป ขายาวๆของเขาเดินก้าวออกจากห้องไปทันที
แต่ทันทีที่เขาก้าวขาออกจากห้อง การเดินของเขาก็หยุดลงทันที เขามองไปที่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา สีหน้าของเขาปลี่ยนไป