บทที่ 182 ลงมือหนักไปหรือเปล่า
หลังจากที่ตบหลี่หรูหยู้ไปหลายรอบแล้ว ความโกรธของเจียงหยุนเอ๋อก็ค่อยๆ ลดลง
เมื่อมองดูสีหน้าของหลี่หรูหยู้อีกครั้ง เจียงหยุนเอ๋อก็พอจะเดาได้ว่าในใจของเธอนั้นด่าอะไรตัวเองบ้าง แต่ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจตัวเองมากขนาดไหน เธอก็ทำได้แค่เก็บเอาไว้ในใจ
แค่คิดถึงในใจของหลี่หรูหยู้ เจียงหยุนเอ๋อก็คิดว่าควรจะให้เธอได้ชดใช้อะไรบ้าง
ในตอนนั้นเอง สีหน้าของหลี่หรูหยู้นั้น บวมขึ้นเล็กน้อย เพราะว่าถูกเจียงหยุนเอ๋อตบไปหลายครั้ง
ถึงแม้ว่าหลี่หรูหยู้จะดูเหมือนเจ็บปวดไร้เรี่ยวแรงมาก แต่อารมณ์ของเจียงหยุนเอ๋อนั้นกลับไม่หวั่นไหวเลย พลางกลับคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เธอควรได้รับเสียด้วยซ้ำ
หลี่หรูหยู้ก้มหัวลงเบาๆ โดยที่ไม่กล้าเงยหน้ามองเลยด้วยซ้ำ
ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้แล้ว ไม่แน่ใจว่าจะถูกคนหัวเราะเยาะมากแค่ไหน……แววตาแบบนั้น เธอรับไว้ไม่ไหวจริงๆ
“ช่างมันเถอะ เรื่องในวันนี้ฉันไม่อยากจะยุ่มย่ามเสียเวลากับคุณอีกแล้ว แต่ทว่า ฉันก็ยังหวังว่าต่อจากนี้คุณจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก ดังนั้น เอาลูกของคุณไปลาออกเถอะ”
“นี่……” เมื่อได้ฟัง หลี่หรูหยู้ก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มรู้สึกลังเลใจ
ไม่พูดไม่ได้เลย ว่าโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ถือว่าเป็นโรงเรียนอนุบาลที่มีคุณสมบัติดีที่สุดแห่งหนึ่งเลยล่ะ ดังนั้นเลยมีพ่อแม่มากมายที่ทำทุกวิถีทางเพื่อส่งลูกของตัวเองมาเรียนที่นี่
ในสถานการณ์แบบนี้ ค่าเทอมนั้นมันแพงมาก ถ้าเกิดว่าลาออกไปตอนนี้ ก็จะไม่สามารถเอาเงินคืนกลับมาได้เลย
เมื่อมองสีหน้าแววตาของหลี่หรูหยู้ เจียงหยุนเอ๋อก็หัวเราะด้วยความเย็นชาก่อนจะพูดว่า: “เป็นอะไรเหรอ?ตอนแรกคุณไม่ได้หวังว่าอยากจะเรียนหนังสือห้องเดียวกับลูกฉันงั้นเหรอ?ตอนนี้ฉัน เองก็หวังว่าคุณจะสามารถทำตามสิ่งที่ตัวเองเคยพูดเอาไว้ได้นะ”
เมื่อเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อพูดแบบนี้แล้ว ถึงแม้ว่าในใจจะไม่ยินยอมเท่าไหร่ หลี่หรูหยู้เลยทำได้แค่พูดออกไปเบาๆ ว่า: “คุณหนูเจียง เมื่อครู่ฉันพูดผิดไปแล้ว……”
“พอแล้ว ฉันไม่อยากจะฟังคุณอธิบายอะไรแล้ว จะทำอย่างไรดี ตอนนี้ในใจคุณก็น่าจะรู้ดี”
เจียงหยุนเอ๋อพูดอย่างเย็นชา
หลี่หรูหยู้กับหลี่เฉิงเจ๋สองสามีภรรยานั้นจะกล้ามาโต้แย้งอะไรอีก เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้พูดถึงความต้องการอะไรที่โหดร้ายกับพวกเขาไปมากกว่านี้ ก็ให้พวกเขาคิดว่าโชคดีมากแล้ว จากนั้นก็รีบพาลูกของตัวเองออกไปจากโรงเรียนอนุบาลนั้นอย่างรวดเร็ว
ฉากที่หลี่หรูหยู้เป็นคนก่อเรื่องขึ้นมามันจะจบลงแล้ว ผู้อำนวยการมองท่าทีของลี่จุนถิง ในใจก็ยังรู้สึกลังเลอยู่ไม่น้อย เกรงว่าเขาจะโกรธจนมาลงที่ตัวเอง
แต่ทว่า เห็นได้ชัดว่าลี่จุนถิงกับเจียงหยุนเอ๋อไม่ใช่คนที่จะลากคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาด้วย เมื่อเห็นว่างานนี้มันจบลงแล้ว พวกเขาก็เตรียมจะพาถวนจื่อกลับไป
ถ้าไม่มีเรื่องอย่างหลังเกิดขึ้น บางที……ประสบการณ์ในวันนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ดีกว่านี้ก็ได้
หลังจากที่มีคนหลายๆ คนขึ้นรถไปแล้ว เจียงหยุนเอ๋อถึงจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ส่งมาจากฝ่ามือนั้น
เธอแบมือออกมาดู ก่อนจะเห็นว่ามือของตัวเองนั้นมันแดงไปทั้งฝ่ามือเลย
ถวนจื่อเข้ามาหาด้วยความสงสัย พลางมองฝ่ามือของเจียงหยุนเอ๋อ ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่ตกใจขึ้นว่า: “แม่!มือของคุณแม่เจ็บมากไหม?”
เจียงหยุนเอ๋อยิ้มพลางส่ายหัว ก่อนจะพูดว่า: “ไม่เจ็บ”
เมื่อพูดจบ เธอก็มองมือของตัวเองก่อนจะตกอยู่ในภวังค์ โดยที่ไม่พูดอะไรอยู่นานมาก
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเงียบอยู่พักใหญ่ ลี่จุนถิงเลยหันมามองเธอ ก่อนจะถามว่า: “คิดอะไรอยู่เหรอ?”
เจียงหยุนเอ๋อถูกทำให้ตกใจตื่น ก่อนจะพูดด้วยความลุกลน: “ฉัน……ลงมือหนักไปหรือเปล่านะ……”
เมื่อได้ยินดังนั้น ลี่จุนถิงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเบาๆ
ถึงแม้ว่าเขาจะคิดว่า ไม่มีอะไรจะต้องเห็นใจหลี่หรูหยู้ ตอนนี้ทุกอย่างก็เป็นแค่การตักเตือนตัวเองก็เท่านั้นเอง
“ทำไมเหรอ?ตอนนี้เริ่มใจอ่อนแล้วเหรอ?” น้ำเสียงของลี่จุนถิง ถึงแม้ว่ามันจะดูเรียบๆ แต่ในนั้นกลับมีอารมณ์หยอกล้อซ่อนอยู่
“เห้อ……แค่คิดว่าตัวเองทำแบบนั้นลงไป มันเกินไปหน่อย อันที่จริง แค่สั่งสอนเธอนิดหน่อยก็น่าจะพอแล้ว” เจียงหยุนเอ๋อพูดด้วยความเจ็บปวด มักจะคิดว่าการกระทำของตัวเองมันจะทำให้ตัวเองดูใจร้ายมากเกินไป
สีหน้าของลี่จุนถิงจริงจังขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า: “คุณใจดีมากจริงๆ”
เจียงหยุนเอ๋ออึ้งไปพักหนึ่ง เพราะฟังออกว่าคำพูดของลี่จุนถิงนั้นมันดูแปลกไปสักหน่อย ก่อนจะหันกลับมาถาม: “ทำไมเหรอ?หรือว่าคุณยังเตรียมจะทำอะไรอีกเหรอ?”
“ปกติธรรมชาติ” ลี่จุนถิงกลับไม่ได้ปกปิดความประสงค์ของตัวเอง เลยบอกเจียงหยุนเอ๋อออกไปตรงๆ “หญิงแก่คนนั้นก็แค่กุมบริษัทเซียวซื่อเอาไว้เลยกล้ามาข่มคนอื่นขนาดนี้ ไม่ดูฐานะตัวเองสักหน่อยเลย”
น้ำเสียงของลี่จุนถิงนั้นมีแต่ความเหยียดหยาม เหมือนกับว่าหลี่หรูหยู้เป็นเพียงแค่มดน้อยๆ ตัวหนึ่งในสายตาเขาเท่านั้นเอง
ถึงแม้ว่า……อันที่จริงมันก็เป็นแบบนั้นแหละ
ลี่จุนถิงไม่แม้แต่จะมองบริษัทเซียวซื่ออยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ ยิ่งแบบนี้มันเป็นแค่คนไม่สำคัญในบริษัทเซียวซื่อเท่านั้นเองเหรอ?
“งั้น……คุณกำลังเตรียมอะไร?” เจียงหยุนเอ๋อมองหน้าด้านข้างของลี่จุนถิง ก่อนจะถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย
ในใจของเธอนั้นอันที่จริงก็พอจะเดาออกว่าลี่จุนถิงเตรียมจะทำอะไร แต่ทว่า……อยากจะถามให้ชัดเจนไปเลย
“บริษัทเซียวซื่อน่ะ ฉันเตรียมจะเก็บกวาดให้เรียบร้อย จากนั้น ก็จะไม่ต้องมีโอกาสให้เธอได้มาโอ้อวดอีกแล้ว” ลี่จุนถิงพูดเสียงทุ้มต่ำ
เรื่องในวันนี้ ถึงแม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะป้ายสีหลี่หรูหยู้ไปเล็กน้อย แต่ทว่าสำหรับลี่จุนถิงแล้ว มันยังไม่เพียงพอ
คนที่ทำร้ายเขา คิดว่าจะปล่อยไปได้ง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ?มันถือเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นได้
คนของครอบครัวหลี่……นั้นใสซื่อจริงๆ เลย
เมื่อมองท่าทีที่โหดร้ายของลี่จุนถิง เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้เกรงกลัว แต่กลับรู้สึกน่าหัวเราะ
เธอรู้ ว่าที่ลี่จุนถิงจะทำแบบนั้น ไม่ได้ทำเพื่อออกหน้าแทนตัวเองกับถวนจื่อเหรอ?
แต่ทว่า……เจียงหยุนเอ๋อกลับแอบเป็นห่วงถวนจื่อนิดหน่อยว่าจะได้รับผลกระทบอะไรเพราะเรื่องนี้
แต่ว่าเธอคิดมากเกินไปแล้ว จิตใจของถวนจื่อนั้นแข็งแรงดีมาตลอด ตอนที่เจียงหยุนเอ๋อหันกลับมามองเขา ก็เห็นว่าเขากำลังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะเล่นเกมกับเพื่อน
……
หลังจากที่กิจกรรมของโรงเรียนอนุบาลจบลง เจียงหยุนเอ๋อก็กลับมาทำงานของตัวเองอย่างตั้งใจอีกครั้ง
ขนาดทางฝั่งของลี่จุนถิง เองก็ช่วยเจียงหยุนเอ๋อหาข่าวจากแหล่งต่างๆ มากมาย
หลังจากนั้นไม่นาน ซู่จี้งยี้ก็หาข้อมูลเจอ แล้วมาที่ห้องทำงานของลี่จุนถิง
“ทำไมเหรอ?ได้ข่าวแล้วเหรอ?” ลี่จุนถิงชายตาขึ้นมามองเบาๆ ก่อนจะถาม
“อือ” ซู่จี้งยี้ตอบรับ ก่อนจะเอาเอกสารฉบับนั้นส่งมาในมือของลี่จุนถิง พลางพูดว่า “ตอนนี้หาเจอแล้ว คนสนิทของชาวต่างชาติคนนั้นดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ทว่า……ภรรยาของชาวต่างชาตินั้น……”
เมื่อฟังถึงตรงนี้ ลี่จุนถิงก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเบาๆ
“มีลูกพี่ลูกน้องห่างๆ แต่พี่น้องคนนั้น เคยแต่งงานกับคนที่รับผิดชอบงานนี้ชื่อจ้าวเซียว”
คนรับผิดชอบเหรอ?
ลี่จุนถิงก็ขมวดคิ้วมากขึ้นกว่าเดิม
“ก็คือว่า……เรื่องนี้มันน่าจะเกี่ยวข้องกับจ้าวเซียว” ซู่จี้งยี้พูดแบบนี้ในตอนท้าย