ตอนที่ 145 – ติดอยู่ที่ใจกลาง
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่าน ในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
“หยุด!!”
เย่เทียนไปยืนอยู่ระหว่างพวกทหารและชาวบ้านแล้วตะโกน.
“ท่านเป็นใครท่านลอร์ด? โปรดถอยไปด้วย อย่าทําให้งานเราล่าช้าเลย!!”
มีกองทัพทหารอย่างน้อยพันคนอยู่ด้านหน้าเย่เทียน กองทัพนี้เป็นนายทหารที่รวมกันจากหลายๆตระกูล
“ซาตาน เย่เทียน! ข้าเป็นชนชั้นสูง!!”
เย่เทียนกล่าว
“หากท่านเป็นชนชั้นสูง ขอได้โปรดอย่าหยุดพวกเรา พวกเราต้องหยุดพวกมันเดี๋ยวนี้ก่อนที่จะรวมตัวกันเยอะขึ้น! ฉะนั้นได้โปรดถอยไปเถอะครับ ไม่งั้นแล้วเราคงต้องได้ล่วงเกิน!”
หัวหน้าทหารวัยกลางคนตะโกนออกมา
“ถอยไป! เจ้าจะฆ่าชาวบ้านไปอีกซักกี่คนกัน!”
เย่เทียนตะโกนกลับ เสียงของเขาก้องไปทั่วฟ้าราวกับว่าดูโกรธแค้นมากๆ
เขาบรรลุเป้าหมายแล้วและชื่อเสียงของสุละก็เสียหายหนักมาก. แต่ตอนนี้พวกชั้นสูงหลายๆ คนดันจัดตั้งกองทัพมาปราบชาวบ้านและหยุดเรื่องนี้ไว้ เย่เทียนไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแน่
ถ้ามันบานปลายไปกว่านี้ จะต้องเกิดสงครามกลางเมืองระหว่างชาวบ้านและชนชั้นสูงอย่างแน่นอน.
ถ้ามันเกิดขึ้นจริงไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะเย่เทียนก็ไม่ได้ผลดีอยู่ดี
“ข้าไม่ให้พวกเจ้าทําร้ายใครแน่!”
เย่เทียนพูด ชาวบ้านที่กําลังโกรธดูจะอารมณ์เย็นลงหน่อยๆ
“ซาตาน เย่เทียน!”
พวกเขาจะจดจําชื่อเขาไว้
เขาคือชนชั้นสูงผู้มีคุณธรรม ชนชั้นสูงที่เหลียวแลพวกเขา
“ลอร์ดซาตาน!!”
หัวหน้าทหารตะโกนอย่างดุดัน
“พวกเจ้ามันถ่อย! มีแต่ไอ้พวกขี้ขลาดทั้งนั้น นายของพวกเจ้าทุกตัวด้วย!”
เย่เทียนตะโกน “เจ้ายังจะปราบชาวเมืองอีกรึ, พวกเจ้าอยากให้โรมเกิดสงครามกลางเมืองไง? ตอนนี้พวกเจ้าไม่ควรยั่วโมโหเพิ่มอีก แต่ควรจะเห็นใจชาวเมืองพวกนี้ พวกเจ้าทุกคนและเจ้านายของพวกเจ้าควรชดใช้ชาวบ้านพวกนี้สิ…”
“ใช่ครับ ลอร์ดซาตานพูดถูก. ท่านควรชดใช้ให้ครอบครัวของเหยื่อผู้บริสุทธิ์!”
“ชดใช้!”
“ชดใช้!”
……
ทันทีที่ชาวบ้านได้ยินคําว่าชดใช้ พวกเขาก็เริ่มดีใจกัน
“พี่น้องทั้งหลาย, พวกท่านคือลูกหลานของโรมและข้าก็รู้ดีว่าพวกท่านถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม. แต่ให้ข้าได้พูดอะไรซักอย่างเถิด, พวกท่านจะยอมรับฟังข้ารึไม่?”
เย่เทียนหันหน้ามาคุยกับชาวบ้านด้วยน้ําเสียงสุภาพ.
“ได้ เราจะฟังท่าน!”
“ครับ!”
“ลอร์ดซาตาน, พูดมาเลย!
…..
เย่เทียนแสดงความถูกต้องให้ชาวบ้านเห็นแล้ว พวกเขาจึงยอมฟังคําพูดของเขา
“พวกท่านทุกคน, คือลูกหลานแห่งโรม. ข้ารู้ดีและข้าก็มั่นใจว่าทางสภาเองก็ทราบดี ว่าพวกท่านถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม! ดังนั้นโปรดเชื่อข้าว่าทางสภาจะต้องหาทางออกที่ยุติธรรมให้ท่านได้แน่! และท่านเองก็รู้ดี, ตระกูลสุละคือคนที่ฆ่าคนของพวกเรา! แม้ว่าตระกูลสุละจะเป็นชนชั้นสูงแต่ก็ไม่ใช่ตัวแทนของชนชั้นสูงทุกคน อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตัวแทนของข้า. พวกเขาไม่มีอํานาจใหญ่แบบนั้นหรอก!”
เย่เทียนกล่าวต่อ.
“แต่พวกท่านรู้หรือไม่? พวกท่านนั้นน่าหวาดกลัวมากและการกระทําของพวกท่านก็ดูโหดร้ายมากเช่นกัน ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะมาพูดกับพวกท่านแต่ข้าหวาดกลัวพวกท่านเกินไปเลยไม่กล้าออกมา, ทั้งพวกผู้เฒ่าชนชั้นสูงเหล่านั้นด้วย. ดูใบหน้าของพวกท่านสิ พวกท่านดูเหมือนกับพวกกบฏ พวกท่านดูราวกับว่าจะฆ่าชนชั้นสูงเราให้ตายกันไปหมด, แล้วพวกผู้เฒ่าในสภาจะกล้าตัดสินความยุติธรรมให้ท่านได้เหรอหากพวกท่านทําแบบนั้น? พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะออกมาด้วยซ้ํา, แล้วพวกท่านคุยกับใครอยู่เล่า? พวกท่านอยากจะมีปากเสียงกับพวกสมองขี้เลื่อยพวกนี้? พวกเขาแค่จะมาปราบพวกท่าน แล้วพวกท่านก็จะฆ่าพวกเขาตาย แล้วทุกอย่างก็จะน่าเศร้ายิ่งไป กว่าเดิม….”
เสียงของเย่เทียนดูสุขุมและติดตลก เขาพูดเหมือนกับว่าจะเยินยอพวกชาวบ้าน
“ฮ่าฮ่า…”
“ฮ่าฮ่า…”
….
ชาวบ้านที่กําลังโกรธใจเย็นลงแล้วเพราะอารมณ์ดีจากคําพูดของเย่เทียน พวกเขาอดหัวเราะ เพราะคําเยินยอของเย่เทียนไม่ไหวจึงรู้สึกมีความสุขและภูมิใจมากๆ
ผลลัพธ์ก็คือ พวกเขามองเยู่เทียนดีขึ้น
“ลอร์ดซาตาน โปรดกล่าวต่อเถิด. สิ่งที่ท่านพูดเป็นความจริง พวกเราอยากได้ยินอีก!”
“ใช่ ลอร์ดซาตาน โปรดบอกเราเถิด พวกเราควรทําอย่างไรดี?”
…..
พวกชาวเมืองพูดอย่างมีความสุขกับเย่เทียน
“พระเจ้าทรงสั่งสอนเราให้รู้จักแยกแยะ ไม่ใช้ให้เหมารวม และไม่ให้ฆ่าทุกๆคนไม่เลือกหน้า!”
เย่เทียนยิ้มแล้วกล่าวต่อ “ข้าเชื่อว่าสิ่งที่พวกท่านพูดเป็นความจริง และก็จริงอยู่ที่ว่า พวกทาสของสุละพยายามจะปล้นเหมืองของชาวบ้านและฆ่าคนตาดําๆ, ดังนั้นข้าเชื่อว่าทางสภาเองจะต้องให้ความช่วยเหลือพวกท่านอย่างแน่นอน! ตอนนี้ทางสภาน่าจะกําลังถกเถียงกันว่าจะทําอย่างไรกับสุละอยู่ แต่หากผลตัดสินยังไม่ออกมา พวกท่านก็สามารถไปที่ประตูบ้านสุละเพื่อโวยวายพวกเขาได้! แต่พวกท่านไม่ควรจะทําร้ายตระกูลอื่นเพราะพวกท่านจะต้องมีความเป็นธรรมและแน่นอน ถ้าใครผู้ใดมันกล้าออกตัวแทนสุละ พวกท่านจะทําอย่างไรกับมันก็ได้!”
“ก็ได้ พวกเราจะเชื่อท่านลอร์ดซาตาน!”
“พวกเราจะทําตามที่ลอร์ดซาตานบอก!”
….
ชาวบ้านส่งเสียงดีใจราวกับว่าได้เป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว พวกเขามีความกล้าและความมั่นใจมากขึ้น เพราะพวกเขามีเป้าหมายที่แน่ชัดแล้ว นั่นคือตระกูลสุละนั่นเอง
“ลอร์ดซาตาน!!”
หัวหน้าทหารรู้สึกงุนงงอย่างมาก
“กลับไปแล้วบอกเจ้านายโง่ๆของพวกเจ้าว่าสถานการณ์เรียบร้อยแล้วตอนนี้ บอกพวกเขาว่าตอนนี้ชาวบ้านจะถาโถมความโกรธแค้นใส่เพียงตระกูลเดียว และศรัทธาพวกเขาต่อโรมก็ไม่ได้เสื่อมคลาย! แต่หลังจากพรุ่งนี้ไปถ้าพวกเจ้าไม่ให้คําอธิบายแก่ชาวเมือง เจ้าและเจ้านายของเจ้าก็เตรียมตัวรับความโกรธแค้นได้เลย!”
เย่เทียนกล่าวกับทหารด้วยท่าที่เย้ยหยันและกดดันพวกสภา
“ก็ได้ครับ! เราไม่จําเป็นต้องปราบชาวบ้านแล้ว! พวกเราจะกลับไปและแจ้งนายเราให้ทราบ! แต่ท่านลอร์ดครับ โปรดรับคําชมของข้าและคําขอบคุณแทนทั่วทั้งโรมด้วย หากท่านไม่มาช่วยเมื่อตะกี้ล่ะก็คงเกิดความวุ่นวายแน่ๆ และความวุ่นวายนั้นคงจะเป็นชนวนลามไปสู่สงครามกลางเมืองแน่นอน! โรมคงไม่เหลือแน่”
หัวหน้าทหารคํานับศีรษะและขอบคุณเย่เทียนอย่างสุดซึ้ง
ความจริงแล้วนั้นตอนที่เขาได้รับคําสั่งมาให้ปราบพวกชาวบ้าน ใจของเขานั้นทั้งระสับระส่ายและสับสนไปหมด
การปราบพวกชาวบ้านนั้นคงจะกระตุ้นให้พวกเขาก่อกบฏแน่ๆ
“เจ้านี่ก็ฉลาดหนิ แถมยังเจ๋งอีกด้วย! เจ้าสามารถเข้าใจได้ดี ข้าเสี่ยงถูกเจ้าและพวกเขาฆ่าเพื่อยุติปัญหานี้!”
เย่เทียนยิ้มแล้วตอบชายวัยกลางคน.
“ข้าเข้าใจสิ่งที่ท่านพูดแต่ข้าไม่รู้ว่าจะรับมือกับสถานการณ์อย่างไร, ข้าทําอะไรไม่ได้เลยนอกจากทําตามคําสั่งเท่านั้น…”
ชายวัยกลางคนยิ้มอย่างเศร้าๆแล้วพูด “โชคดีที่ยังมีชนชั้นสูงแบบท่านอยู่ในโรมนะครับ!”