บทที่ 150 กฎพื้นฐาน

สองวันหลังจากที่กิจกรรมเกาะมนุษย์เงือกสิ้นสุดลง

หลังจากที่วีลาได้รับรายงานเกี่ยวกับ “บุคคลน่าสงสัยที่อยู่นอกเมืองไร้ชื่อ แต่ผู้เล่นไม่สามารถทําอะไรได้เพราะพวกเขาเป็นมิตร” เธอก็ได้นําผู้เล่นหลายคนที่แองโกร่าได้คัดเลือกเป็น NPC มาที่นี่ นั่นคือตอนที่พวกเขาได้พบกับ คินลีย์ ไอนซ์วอเตอร์ นักเล่นแร่แปรธาตุฝึกหัดที่เธอเคยพบในทุนย่า

ดวงตาโต ๆ ของคนลีย์เบิกกว้างเมื่อเห็นวีลา

“เจ้า…เจ้าไม่ได้ตายไปแล้วเหรอ!”

แม้ว่าคินลีย์จะเห็นแล้วว่าผู้เล่นต่อสู้อย่างไรในขณะที่เธออยู่แอบข้างหลังเอ็ดเวิร์ดและคนอื่น ๆ แต่ปาร์ตี้ของเอ็ดเวิร์ดนั้นเป็นกําลังหลักอันดับต้น ๆ ของเหล่าผู้เล่น และตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ทําอะไรโง่ ๆ การต่อสู้ของพวกเขาก็ไหลลื่นราวกับสายน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นเอลีน่านักบุญหญิงฝึกหัดก็กําลังอารมณ์เสียเพราะเธอไม่ได้กินขุดดิ้งนม ทําให้พลังการต่อสู้ของเธอพุ่งทะยาน เอฟเฟกต์พิเศษและทักษะต่าง ๆ จึงถูกโยนออกไปเหมือนกระแสน้ำ

และในจังหวะโกลาหล แม้ว่าโจและโกวต้านจะถูกฆ่าโดยไม่ได้ตั้งใจในขณะที่พวกเขาล่อสัตว์ประหลาด เจสสิก้าและเอลีน่าก็จะชุบชีวิตพวกเขาขึ้นมาทันที ในสายตาของคินลีย์เลยกลายเป็นว่า ทั้งสองถูกปีศาจโจมตีจนล้มลงกับพื้นแล้วก็ลุกขึ้นมาใหม่ด้วยคาถารักษาเพียงคาถาเดียว เหตุการณ์เช่นนี้มันยังอยู่ในขอบเขตความเข้าใจของคินลีย์ แม้ว่าเธอจะไม่แน่ใจว่ามีคาถารักษาใดที่สามารถรักษาได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้

ในทางกลับกัน ความจริงที่ว่าคนตายสามารถฟื้นคืนชีพได้นั้นมันน่าประหลาดใจเกินไป จนคินลีย์คงไม่อาจรักษาภาพลักษณ์ของหญิงสาวที่บอบบางของเธอเอาไว้ได้

ท้ายที่สุดดยุกอินทรีเงินเองก็เชื่อว่าวีลาได้ตายไปแล้วเช่นกัน เขาถึงกับคิดว่าเขาได้ทําให้คนรักของลูกชายเสียชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจ และรู้สึกผิดกับเรื่องนี้มาก ด้วยเหตุนี้เขาเลยแนะนําปาร์ตี้จับคู่ให้แองโกร่าหลายครั้ง ซึ่งเขาคิดจะเชิญลูกสาวขุนนางทุกคนในภาคเหนือ เพื่อให้ลูกชายของเขาได้เลือกคนชอบ แต่แองโกร่ากลับปฏิเสธอย่างไม่ลังเล

แองโกร่านั้นชัดเจน ผู้เล่นไม่มีเวลาหาแฟน!

เป็นธรรมดาที่ฮอร์รันจะไม่รู้ว่าลูกชายของเขาหมกมุ่นอยู่กับเกมมากเกินไปจนไม่มีเวลาออกเดท เขาจึงคิดว่าแองโกร่ากําลังจมอยู่กับความเสียใจจากการที่ต้องสูญเสียคนรักไป และด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้สึกผิดมากขึ้น

แม้ว่าฮอร์รันจะพยายามคิดหาวิธีอื่นเพื่อกอบกู้สถานการณ์ แต่ปาร์ตี้ของแองโกร่าก็รีบเทเลพอร์ตไปที่ไลฟ์สโตนในหมู่บ้านมนุษย์กบเมื่อพวกเขารู้เรื่องสินามิไปแล้ว ก่อนที่ฮอร์รันจะทันได้ทําอะไรต่อ

ด้วยเหตุนี้ คินลีย์ผู้ซึ่งตกตะลึงกับเทคโนโลยีของระบบ และสันนิษฐานว่าเมืองไร้ชื่อได้พัฒนาการเล่นแร่แปรธาตุจนก้าวล้ำยุคสมัยไปแล้ว จึงได้ตามหาฮอร์รัน และแจ้งให้เขาทราบว่า เธอตั้งใจจะไปเยี่ยมแองโกร่าที่ศักดินาของเขา (เพื่อเรียนรู้การเล่นแร่แปรธาตุที่นั่น)

แต่นั่นก็ทําให้ชายชราโล่งใจ และไม่คิดทักท้วงแม้แต่น้อย เขาได้ให้เงินจํานวนมากแก่เธอเพื่อเป็นค่าเดินทาง รถม้าหรูหราหลายคัน และมอบทหารที่ดีที่สุดของเขาไปเป็นผู้คุ้มกันของเธอ ความจริงฮอร์รันถึงกับบอกใบ้เธอว่าแองโกร่าได้เปลี่ยนใจไปเลื่อมใสศรัทธาเทพเจ้านอกรีตเพื่อให้เด็กสาวได้เตรียมใจ

คินลีย์ไม่สนใจคําบอกใบ้ของชายชรามากนัก ในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุ เธอก็เป็นผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุซึ่งเป็นเทพนอกรีต และเป็นกลางต่อศาสนจักรสีขาวอันสว่างไสว

ที่พวกเขาเป็นกลาง นั่นอาจเป็นเพราะว่าเทพเจ้าแห่งการแร่แปรธาตุมีผู้ศรัทธาเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่กระจายกันอยู่ทั่วทวีป และยังมีปรมาจารย์เล่นแร่แปรธาตุหลายคนที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีการเล่นแร่แปรธาตุ และปรมาจารย์แต่ละคนก็มีเทคโนโลยีที่สามารถโค่นล้มสถานการณ์ในปัจจุบันของทวีปได้ง่าย ๆ นั่นคือเหตุผลที่ทุกอาณาจักรปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเคารพโดยที่ราชาของอาณาจักรเล็ก ๆ บางอาณาจักรก็ยังมีสถานะน้อยกว่าพวกเขา!

อาจารย์ของคินลีย์ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ทําให้แม้แต่เซซิลก็ยังพยายามทําตัวเหมือนสุนัขเลียเธอ ทั้ง ๆ ที่เขาก็เป็นถึงลูกชายคนโตของดยุก เพียงเพื่อเขาจะได้ขยายอํานาจและได้รับสิทธิพิเศษมากขึ้น

แต่ไม่ว่าจะเพราะเหตุใด เทพเจ้าของพวกเขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะตรากฏขึ้นมาใหม่เพื่อแทรกแซงข้อพิพาทของมนุษย์ ดังนั้นศาสนจักรสีขาวอันสว่างไสวและศาสนจักรอื่น ๆ จึงไม่ได้ตามล่าผู้ศรัทธาของเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปลธาตุ เหมือนกับที่พวกเขาทํากับผู้ศรัทธาของเทพนอกรีตอื่น

นั่นคือเหตุผลที่คนลีย์ไม่รู้สึกกังวล แต่จริง ๆ แล้วเธอกลับยินดีที่พบว่าแองโกร่าก็เป็นผู้ศรัทธาในเทพเจ้านอกรีตเช่นกัน ไม่น่าแปลกใจที่แองโกร่าและผู้ติดตามของเขานั้นมีวิธีการต่อสู้ที่แตกต่างไปจากศาสนจักรอื่น ๆ และเทคโนโลยีการเล่นแร่แปรธาตุแปลก ๆ ของพวกเขาก็เป็นอะไรที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน มันสมเหตุสมผลแล้วถ้าพวกเขาศรัทธาในเทพเจ้านอกรีต ที่มีตัวตนอยู่นอกเหนือจากศาสนาหลัก ที่เชื่อว่าตนเป็นศาสนาที่สร้างขึ้นโดยเทพเจ้าที่แท้จริง!

คินลีย์ที่อยากรู้อยากเห็นจึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาก ว่าเทพเจ้านอกรีตองค์นี้จะมีอํานาจมหัศจรรย์อะไรบ้าง?

และเธอก็ไม่ผิดหวังเลยเมื่อมาถึงเมืองไร้ชื่อ มันเป็นศักดินาที่ทําให้เธอสับสนมึนงงทันทีที่มาถึง

“อ๊าาา เทคโนโลยีการคืนชีพนี่มันมากเกินไปแล้วรึเปล่า พวกเจ้าไม่กลัวว่าราชาแห่งความตายมาเคาะประตูบ้านจริง ๆ เหรอ?”

“ท่านนี่เอง” วีลาไม่ได้กังวลเรื่องที่ดินลีย์คิดว่าเธอตายไปแล้วและทําเพียงแค่ขมวดคิ้ว ”ทําไมท่านถึงอยู่ที่นี่?”

ปฏิกิริยาของเธอลบล้างข้อสันนิษฐานทั้งหมดของคินลีย์ที่คิดว่าเธอเป็นฝาแฝด ซึ่งทําให้คนลีย์ยิ่งสงสัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีของเทพเจ้านอกรีตองค์นี้มากขึ้น

“แน่นอนว่าข้าต้องมาเยี่ยมแองโกร่า เจ้าช่วยนําทางข้าหน่อยได้ไหม เลดี้” ดินลีย์ยิ้มให้อย่างมีเสน่ห์ ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอดูเป็นมิตรจนคนอื่น ๆ รอบข้างอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีกับเธอ

มีเพียงวีลาเท่านั้นที่รู้สึกปวดหัวทันทีหลังจากที่เห็นสิ่งนั้น

เธอรู้สึกเสมอว่าผู้หญิงตรงหน้าเธอที่ดูอ่อนแอและบอบบางนั้น ไม่ง่ายอย่างเห็น

ยิ่งไปกว่านั้นมันก็น่าหนักใจมาก เมื่อวีลาเห็นขบวนรถม้ายาวเหยียดด้านหลังเธอ ที่ดูราวกับว่าพวกเขาได้เตรียมชุดแต่งงานและสินสอดทองหมั้นไว้พร้อมแล้ว

แต่วีลาก็ไม่ได้ใช้อํานาจของเธอไล่คน ๆ นี้ออกไป เธอพาคินลีย์เข้าไปในเมืองหลังจากถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

ท้ายที่สุดระบบยอมรับว่าคินลีย์เป็นมิตร มันดีกว่าที่จะให้แองโกร่าตัดสินว่าจะทํายังไงกับเธอ

ในทางกลับกัน คินลีย์ก็รู้สึกได้ถึงความเป็นปรปักษ์ของวีลา แต่เธอก็ไม่สนใจเลย เนื่องจากวีลายังคงเป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้าน แม้ว่าเธอจะสามารถกลับมาจากความตายได้ แต่สถานะของวีลาก็เทียบเธอไม่ได้

ขณะที่เธอเข้าไปในเมือง ดินลีย์ก็เริ่มมองไปรอบ ๆ และพบสิ่งแปลก ๆ มากมายที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างที่เธอต้องการ

จากนั้นวีลาก็พาเธอไปพบแองโกร่าที่กําลังทํางานอยู่

หลังจากที่คินลีย์มาถึง เธอก็ได้อธิบายความตั้งใจของเธอ แต่นั่นกลับทําให้แองโกร่าต้องการปฏิเสธเธอไปตรง ๆ

เมื่อเขาคิดจะอ้าปาก ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็แข็งทื่อ หลังจากเขาจ้องมองไปในอากาศบาง ๆ ตรงหน้าสักพัก เขาก็พึมพําออกมาอย่างเหนื่อยล้าว่า “นี่ถือเป็นคําสั่งให้ยอมรับผู้หญิงคนนี้ใช่ไหมเนี่ย…”

เขาเกาหัวอย่างไม่พอใจท่ามกลางสายตาที่จ้องมองมาของวีลา และพูดว่า “ข้าอนุญาตให้เจ้าอยู่ในเมืองก็ได้ แต่มีข้อแม้ก็ไม่เชิงว่าเป็นข้อแม้หรอก ประชาชนในเมืองเกือบทั้งหมดของข้านั้น พวกเขาพิเศษนิดหน่อย ดังนั้นข้าจึงต้องตั้งกฎพื้นฐานบางอย่างกับเจ้า เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้น”