ตอนที่ 67

Hell mode

บทที่ 67 มอนสเตอร์ระดับ C (2)

อเลนใช้เวลาค่อนข้างมากในการกำจัดมดเกราะ ตั้งแต่เวลาที่พบจนถึงตอนที่กำจัดได้ใช้เวลาเกินกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว

(ใช้เวลาไปค่อนข้างมาก เอาละต้องเก็บหินเวทแล้ว)

ในระหว่างที่บ่นๆ ก็เอาดาบสั้นแทงเข้าไปตรงส่วนอกของมดเกราะ

แก๊ง

“เอ๊ะ?”

เผลอหลุดเสียงออกมาโดยไม่รู้ตัว ตรงโครงส่วนนอกบริเวณอกเกิดรอยบุ๋มจากดาบสั้นของอเลน เลยลองแทงอีกหลายๆครั้ง

(แย่แล้ว หรือว่าดาบสั้นนี้จะไม่สามารถเก็บหินเวทได้?)

ดูเหมือนว่าดาบสั้นราคา 50 เหรียญเงินจะไม่สามารถชำแหละมดเกราะได้ ตัวคมดาบเองก็เกือบบิ่นแล้ว จะเสียเวลาไปมากกว่านี้ไม่ได้ แต่ทำให้รู้ว่าดาบสั้นนี้สามารถตัดได้แค่ส่วนที่เป็นข้อต่อ

ใช้เวลามาก แถมไม่สามารถเก็บหินเวทได้ ไหนสัตว์อัญเชิญสัตว์ E จะโดนเล่นงานไปหลายตัว ทำให้สิ้นเปลืองหินเวทอีก

(เจ้านี่ไม่ใช้ศัตรูที่จะจัดการได้ด้วยการโจมตีแบบกายภาพ ต้องใช้เวทมนตร์งั้นเหรอ ถ้าเป็นสายกายภาพหากไม่ใช้อาวุธขนาดใหญ่อย่างดาบ 2 มือคงจะยากน่าดูเลย)

อเลนลงความเห็นว่ามดเกราะเป็นศัตรูที่กำจัดได้ยาก

อเลนมองดูบนท้องฟ้า ก็เห็นฮอค 3 ตัวที่คนหาศัตรูเสร็จบินรออยู่

(เหล่าฮอค มดนี้ยังไม่ได้ ฮอคตัวไหนเจอออร์ค 1 ตัวให้บินลงมาที)

ทันใดนั้นสัตว์อัญเชิญนก E 1 ตัวก็บินลงมา เลยให้นำทางไปหาออร์ค

หลังจากวิ่งไปได้ 20 นาที ก็เห็นมอนสเตอร์ที่หลับอยู่ตรงต้นไม้

มอนสเตอร์หน้าหมูสวมชุดปอนๆ เพราะมันนั่งหลับอยู่เลยทำให้ไม่รู้ส่วนสูง แต่น่าจะตัวโตกว่าผู้ใหญ่ไม่ผิดแน่ๆ ตรงพื้นมีหอกขนาดใหญ่วางอยู่

(มอนสเตอร์เองก็หลับด้วยเหรอ? ไม่สิมดเองก็หลับเพราะทักษะพิเศษของอาเกฮะเหมือนกัน เพิ่งจะมารู้อะไรตอนนี้ ออร์คมีหอกด้วยเหรอ ถ้าหลับอยู่อย่างนี้ก็ดีเลย เหล่าทามะออกมา!)

ในระหว่างที่มองจากเงาไม้ ก็ทำการเรียกสัตว์อัญเชิญสัตว์ E 14 ตัวออกมา

‘‘‘กรรรรร’’’

ออร์คที่หลับอยู่ใต้เงาไม้โดนเหล่าสัตว์อัญเชิญสัตว์ E เข้าล้อม และใช้ทักษะพิเศษตะปบที่เสริมความแข็งแกร่งเลเวล 5

‘บุฮี้!!!!’

ออร์คที่จู่ๆโดนโจมตีส่งเสียงร้องขึ้นมา เลือดสดๆของออร์คย้อมใบไม้สีน้ำตาลที่ร่วงอยู่ตรงพื้น

(โอ๊ะ! สมแล้วที่เป็นเสริมความแข็งแกร่งเลเวล 5 ทำให้พลังโจมตีเป็น 250 แถมการโจมตีด้วยการตะปบสามารถโจมตีใส่ออร์คได้)

14 ต่อ 1 ต่อให้อเลนไม่เข้าร่วมก็น่าจะจัดการได้ พอมองออร์คนั้นก็นึกออก

(อย่างนี้นี่เอง ดีนะเนี่ยที่เล่นงัดข้อ)

ที่นึกออกคือตอนที่เล่นงัดข้อกับโรดันและเกลด้าเมื่อก่อน ถึงจะชนะเกลด้าแต่แพ้โรดัน

ตอนนั้นพลังโจมตีของอเลนอยู่ที่ 300 ต้นๆ ทำให้พอจะประเมินพลังโจมตีคร่าวๆของเกลด้ากับโรดันได้

โรดันพลังโจมตี 300 – 350

เกลด้าพลังโจมตี 250-300

คนที่เสียบจัดการเกรซบอร์คือโรดัน ทำให้รู้ว่าการจะปราบเกรซบอร์ได้จำเป็นต้องมีพลังโจมตี 300-350 กับหอก

ในระหว่างที่อเลยกำลังคิดอยู่ สัตว์อัญเชิญสัตว์ E ก็ยังโจมตีอย่างต่อเนื่อง ออร์คที่ยืนแล้วมีส่วนสูงประมาณ 2.5 เมตร ล้มลงกับพื้นจนเกิดเสียงดังสนั่น

‘กำจัดออร์ค 1 ตัว ได้รับค่าประสบการณ์ 1500’

สัตว์อัญเชิญสัตว์ E ที่มีพลังโจมตี 250 สามารถทำความเสียหายและจัดการออร์คที่อยู่ระดับ C เท่ากับเกรซบอร์ได้

(จัดการมอนสเตอร์ระดับ C ได้แล้วสินะ ทักษะพิเศษตะปบน่าจะทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 1.5 เท่าหรือเปล่านะ)

จากการงัดข้อกับสภาพที่จัดการออร์คได้ ทำให้คาดเดาผลของทักษะพิเศษตะปบ

เรื่องที่สำคัญของการมาล่ามอนสเตอร์ระดับ C ในครั้งนี้คือ การโจมตีของสัตว์ E ที่เสริมความแข็งแกร่งแล้วจะสามารถโจมตีเข้าได้หรือไม่

สัตว์อัญเชิญสัตว์ E พลังโจมตีธรรมดาอยู่ที่ 250 มันไม่ได้สูงขนาดนั้นถ้าเทียบกับตอนที่โรดันไปล่าหมูป่า คิดว่าพลังป้องกันของออร์คกับเกรซบอร์คงจะต่างกัน ทำให้กังวลว่าการโจมตีจะได้ผลหรือเปล่า

ถ้าการโจมตีไม่สามารถทำอะไรกับออร์คและมดเกราะที่อยู่ระดับเดียวกันได้แล้วละก็ คิดจะกลับไปล่าก็อบลินตามเดิม

ถึงมดเกราะจะยาก แต่พลังโจมตี 250 ที่ผสานกับทักษะพิเศษสามารถโจมตีใส่ออร์คได้

(ทามะโดนจัดการไป 3 ตัวเหรอ ถ้ามีการสนับสนุนจากโปรยเกล็ดของอาเกฮะ น่าจะป้องกันการสิ้นเปลืองหินเวทได้อยู่)

เอาดาบสั้นแทงเข้าไปตรงอกของออร์คเพื่อเก็บหินเวทระดับ C คมดาบผ่านเข้าไปได้ต่างกับมดเกราะ และหยิบหินเวทสีม่วงที่มีขนาดพอๆกับลูกปิงปองออกมา

(งั้นเหรอ 1 ปีสามารถล่ามอนสเตอร์ระดับ C ได้แล้วสินะ)

รู้สึกประทับใจอย่างมาก การล่ามอนสเตอร์ที่อยู่ระดับเดียวกับเกรซบอร์ด้วยตัวคนเดียว และไม่จำเป็นต้องวางกับดักเหมือนอย่างไวท์เดียร์ด้วย

ผลจากการล่าก็อบลินเกินหมื่นตัวเพื่อเพิ่มเลเวล และเพิ่มสกิลเสริมความแข็งแกร่งใน 1 ปี

(หือ คิดอะไรอยู่ ฉันในตอนนี้ยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอก)

ตำหนิใส่ตัวเองที่จมไปกับความประทับใจนี้ ก่อนหน้านี้ครึ่งปี แพ้มิไฮพี่ชายของเซซิลหมดรูปเลยไม่ใช่หรือ

ความพยายามมากกว่า 8 ปี พ่ายแพ้ให้กับผู้มีพรสวรรค์ที่ไปเมืองหลวงแห่งการศึกษาแค่ 1 ปี ทำให้รู้ว่าแค่ 2 เดือนในการผ่านดันเจี้ยน สามารถเพิ่มสกิลกับเลเวลได้มากกว่าความพยายาม 8 ปี

ทำให้รู้ถึงความเร็วและพลังในการเติบโตของผู้มีพรสวรรค์ในโลกของนอร์มอลโหมด

(ที่ต่างโลกนี้พวกคนของโรงเรียนน่าจะแข็งแกร่งอยู่)

มิไฮบอกเกี่ยวกับโรงเรียนให้ฟัง จาการสรุปเรื่องพูดนั้น ดูเหมือนความต่างของพลังไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ว่ามีพรสวรรค์หรือไม่มีพรสวรรค์

ผู้ที่แข็งแกร่งลำดับที่ 1 คือผู้ที่มีพรสวรรค์และจบการศีกษา

ผู้ที่แข็งแกร่งลำดับที่ 2 คือ มีพรสวรรค์แต่ไม่จบการศึกษา

ผู้ที่แข็งแกร่งลำดับที่ 3 คือ ผู้ที่ไม่มีพรสวรรค์ แต่รูปร่างและค่าความสามารถสูง

ผู้ที่แข็งแกร่งลำดับที่ 4 คือผู้ที่ไม่มีพรสวรรค์และค่าความสามารถไม่สูง

ผู้ที่เข้าข่ายลำดับที่ 1 มีไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ ถ้ารวมลำดับ 1 กับ 2 มีแค่ราวๆ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ได้ยินมาว่าโรงเรียนมีทั้งการสอบและต้องใช้เงิน กว่าจะจบการศึกษามีหัวข้อที่ต้องผ่านอยู่มากมาย ถ้าหากไม่ผ่านก็เท่ากับสอบตก การที่จะจบการศึกษาได้จำเป็นต้องมีค่าสเตตัสที่สูงพอควรเลย

ถ้าอย่างนั้นคนที่เข้ากลุ่มอัศวิน เกินกว่าครึ่งจะเป็นพวกลำดับที่ 2 กับลำดับที่ 3

ส่วนลำดับที่ 1 จะสมัครเป็นหัวหน้าหน่วยของอัศวิน ดูเหมือนหัวหน้ากลุ่มอัศวินกับรองหัวหน้าน่าจะอยู่ลำดับที่ 1 สินะ

พอได้ฟังเรื่องนี้ก็นึกถึงรองหัวหน้าที่โดนคุเรนะอัดยับเมื่อตอนอายุ 5 ขวบ จากที่มิไฮบอก ดูเหมือนรองหัวหน้าจะแข็งแกรงกว่ามิไฮอยู่ พอได้ยินอย่างนั้นสำหรับอเลนที่เคยเห็นคุเรนะอัดยับมาแล้วถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลย ไม่อาจรู้ได้เลยว่าคุเรนะแข็งแกร่งเกินไป หรือว่ารองหัวหน้าออมมือให้กันแน่

คนที่เป็นนักผจญภัยส่วนใหญ่จะเป็นลำดับที่ 3 นักผจญภัยส่วนใหญ่จะไม่มีพรสวรรค์ เพราะถ้ามีพรสวรรค์คงไปรับราชการแล้ว ได้ยินมาจากเรเวนว่านักผจญภัยที่มาจากลำดับ 2 จะอยู่ที่ระดับ B ถ้าเป็นลำดับ 1 แล้วละก็สามารถมาถึงระดับ A ได้อยู่

(นอร์มอลโหมดเองก็หลากหลายนะเนี่ย เอาละ ฉันที่อยู่ในเฮลโหมดคงต้องล่าต่อไปเรื่อยๆ ต่อไปลองสู้กับออร์ค 2 ตัวดีกว่า ไปหาออร์ค 2 ตัวในระยะ 3 กิโลเมตรที)

ทำการปรับเปลี่ยนอารมณ์ วันนี้การล่ายังไม่สิ้นสุด สัตว์อัญเชิญนก E 4 ตัว บินกระจายออกไปหาออร์คตามคำสั่งของอเลน

แล้วเวลาก็ผ่านไป 4 ชั่วโมงกว่า

ผลสรุปของวันนั้น ทำการกำจัดมดเกราะ 1 ตัว และออร์ค 15 ตัว ได้ค่าประสบการณ์ 25500

โปรยเกล็ดของแมลง E ใช้กับออร์คได้ผลอยู่ ถึงจะไม่เท่ากับก็อบลิน แต่ระดับความสำเร็จก็อยู่ที่ราวๆ 60เปอร์เซ็นต์ ถ้าหากใช้โปรยเกล็ดกับลูกเหล็กในการสนับสนุนสัตว์ E แล้วละก็ สามารถจัดการฝูงออร์ค 3 ตัวได้โดยไม่ได้รับความเสียหาย

(เอาละ กลับดีกว่า)

ตรวจสอบตำแหน่งของดวงอาทิตย์ เนื่องจากไม่มีนาฬิกา เลยต้องคำนวณเวลาและหาตำแหน่งจากดวงอาทิตย์ เนื่องจากมาไกลกว่าทุกที เลยต้องจบเร็วตามไปด้วย แล้วต้องไม่ลืมล่าเนื้อมอนสเตอร์สำหรับเป็นอาหารกลับไปด้วย

(อืมๆ ตอนล่าก็อบลินได้ค่าประสบการณ์ราวๆ 25000 หรือเปล่านะ ถ้าทำการล่าออร์คตั้งแต่เช้าแล้วละก็ น่าจะได้ราวๆห้าหมื่นเลยนะเนี่ย? ถ้าอย่างนั้นตั้งโควตาสัก 40 ตัวนิดๆก็แล้วกัน)

ตัดสินแล้วว่าการล่าออร์คทำให้เพิ่มเลเวลได้จริง ตั้งแต่วันนี้เลยทำการล่ามอนสเตอร์ระดับ C เพื่อเพิ่มเลเวล