ตอนที่ 3 สาวกที่เหลืออยู่

Game of the World Tree

อีฟไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ต แถมเมื่อพยายามระลึกสาเหตุที่ทำให้ชีวิตของตนจบลงก็ได้แต่เดาขึ้นมาทีละอย่างสองอย่าง

มันคลับคล้ายคลับคลาว่าชีวิตช่วงท้าย ๆ จะเต็มไปด้วยความเพลิดเพลินจากเกม VR ในเครื่องแคปซูล เหมือนว่าอีฟจะตายด้วยการพักผ่อนไม่เพียงพอ …

ใช่แหงล่ะ ข้อความสุดท้ายที่บอกว่ามีเกมเมอร์ตายคาห้องก็คงเค้าเอง

เทคโนโลยี Virtual Reality กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันพัฒนามาถึงจุดที่ใช้มอบประสบการณ์โลกเสมือนให้กับผู้คนได้โดยตรง

อีฟเดาว่าตนคงเสียชีวิตไปในขณะที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต ทำให้จิตวิญญาณยังมีช่องทางเข้าสู่ระบบอยู่

แต่เมื่อพิจารณาจากการไหลของเวลาทั้งสองฝั่ง อีฟพบว่ากระแสเวลาในฝั่งซากัสจะไวกว่าของดาวเคราะห์ฟ้าอยู่ประมาณสี่เท่า

นี่มันอะไรเนี่ย? เค้าจะติดต่อกับคนที่บ้านได้มั้ยนะ?

เมื่อไอเดียนี้ผุดขึ้นมา อีฟแทบจะหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน เพราะตนเคยตัดสินใจว่าจะเริ่มชีวิตใหม่และลืมทุกสิ่งในอดีต แต่ตอนนี้พลันเกิดความลังเลเมื่อพบว่าตนสามารถข้ามไปสู่โลกเดิมได้

การต้องตัดขาดอย่างไร้เยื่อไย บางครั้งอาจจะทรมานน้อยกว่าการมีความหวังที่บรรลุได้ยาก

“เราเพิ่งตายนี่นา … ไม่รู้ว่าคุณแม่กับน้องสาวจะเศร้าขนาดไหน”

อีฟถอนใจ พลางคิดถึงสถานการณ์ของตัวเองที่เกิดใหม่เป็นต้นไม้โลกในจักรวาลซากัส ป่านนี้ร่างของตนในโลกเก่าคงถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปตามพิธี เมื่อทราบเช่นนี้แล้วแม้จะเชื่อมต่อกับโลกเก่าไป อีฟจะทำอะไรได้?

อีฟจำลองสถานการณ์คร่าว ๆ ว่าถ้าใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตแล้วจะเป็นเช่นไร มันคงเป็นแค่การก่อให้เกิดผลกระทบในโลกออนไลน์ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือไม่สามารถเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้ อย่างมากคงเป็นเพียงการสร้างกลุ่มข้อมูลหรือร่างจำแลงในระบบเท่านั้น …

หากจำลองไปถึงการดึงสติสัมปชัญญะของตนไปเป็นร่างจุติในโลกจริงล่ะ? ปริมาณพลังที่ใช้พลันสูงจนน่าหวาดหวั่น ประมาณตัวเลขที่หมื่น ๆ แต้มเป็นขั้นต่ำ!

นับเป็นทุกขลาภที่อีฟกลายเป็นเทพไปแล้ว เพราะเมื่อปราศจากการเกื้อหนุนโดยพลังศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าสถานที่ใดก็คงรองรับร่างจุติของอีฟไม่ได้แม้เพียงเสี้ยวหนึ่ง

การหลอมรวมกับต้นไม้โลกมอบชีวิตใหม่ให้กับอีฟ ในเวลาเดียวกันก็เป็นคุกที่จองจำดวงจิตนี้ไว้ …

งี้ถ้าเค้าแข็งแกร่งขึ้น มีพลังมากขึ้น เค้าจะกลับไปโลกเดิมได้มั้ยนะ?

ความหวังเล็ก ๆ ผุดขึ้นในใจ แต่มันพังลงในเวลาไม่นานเมื่ออีฟตระหนักถึงบางสิ่ง

หนทางช่างยาวไกลค่ะ

เพื่อการจ่ายแต้มหลักหมื่น อีฟต้องมีสถานะเป็นเทพระดับกลางเป็นอย่างน้อย ซึ่งตอนนี้ตนเป็นเพียงเทพชั้นต้นในสภาวะอ่อนแอ หรือเรียกว่าใกล้ตายคงตรงจุดกว่า

หากจำแนกเหล่าเทพด้วยปริมาณพลังศักดิ์สิทธิ์ที่มี จะเริ่มตั้งแต่ระดับต้น ระดับกลาง ระดับสูง และระดับมหาเทพที่มีพลังล้นฟ้า … ในกรณีนี้อีฟมีพลังเท่าเทพระดับต้น แถมยังอยู่ในสภาพอ่อนแรงสุด ๆ

หนทางช่างยาวไกลค่ะ!

ที่สำคัญ เป้าหมายตอนนี้ยังไม่ใช่การกลับสู่โลกเดิม … อีฟเหลือบดูค่าสถานะของตนพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เราต้องทำให้ตัวเองอยู่รอดได้ก่อน เทพระดับต้นสภาพปางตายก็ไม่ต่างอะไรกับเหมืองทองเดินได้! เรื่องอื่น ๆ เก็บเอาไว้คิดตอนชีวิตมั่นคงก็ยังไม่สาย!”

ในใจอีฟพลันปรากฏเป้าหมายระยะยาวที่ชัดแจ้ง เริ่มจากการสร้างรากฐานให้แข็งแรง แล้วจึงมุ่งสู่อิสรภาพในชีวิต เมื่อคิดได้ดังนี้ อีฟจึงฝืนใจผละจากบอลแสงสีฟ้า และหันมาเผชิญหน้ากับกลุ่มแสงสีเขียวอีกครั้ง

ถ้าไม่นับก้อนหนึ่งของเบอร์เซิร์กเกอร์ อีฟมุ่งเป้าไปที่ก้อนแสงสองกลุ่มที่เหลือ ในวินาทีนั้นพลันเกิดเสียงภาวนาขึ้นอีกครั้ง

ครั้งนี้อีฟจำแนกที่มาของเสียงได้อย่างชัดเจน มันมาจากกลุ่มแสงสีเขียวที่กำลังเปล่งประกาย!

  อีฟลังเลเล็กน้อยก่อนโผเข้าสู่ต้นกำเนิดเสียง …

มันเป็นความรู้สึกมหัศจรรย์ราวกับการล่องลอยในสภาวะไร้น้ำหนัก พลันกลายเป็นความรู้สึกราวกับพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำ และพื้นที่รอบตัวเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

ร่างจิตอีฟออกมาจากห้วงมิติของตน มันพุ่งสู่ทิศหนึ่งราวกับถูกพลังบางอย่างดึงเข้าไป …

เมื่อดวงจิตกลับสู่โลกปกติ อีฟพบว่าสภาพรอบข้างเป็นวิหารขนาดย่อม มันสร้างมาจากพืชตระกูลหวายและไม้โบราณ ตกแต่งด้วยการแกะสลักลวดลายอ่อนช้อย แม้ว่าสภาพจะดูทรุดโทรมและเก่าแก่แต่ก็ให้เค้าลางบางอย่างของความศักดิ์สิทธิ์

 แท่นบูชาเรียบ ๆ ณ ใจกลางมีวงเวทหน้าตาประหลาดบนพื้นผิวหินแตกร้าว สิ่งที่อยู่สูงขึ้นไปจากแท่นเป็นรูปปั้นเทพธิดาเก่าแก่ ในสภาพแตกหักและปราศจากเศียร

ที่นี่ที่ไหน?

อีฟชะงักเล็กน้อย ความรู้สึกแปลก ๆ ในใจเริ่มแจ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออีฟกระจายร่างจิตครอบคลุมทั่วบริเวณ

วิหารนี้ … อยู่บนตัวเค้าเอง

พูดอีกแง่คือสิ่งปลูกสร้างนี้อยู่บนต้นไม้โลก ซึ่งก่อนหน้านี้อีฟใช้เวลาสำรวจสภาพรอบข้าง จึงมองข้ามรายละเอียดบนร่างตนเองไป

อีฟตาถั่วค่ะ

หลังแซะตัวเองพอเป็นพิธี อีฟดึงความสนใจกลับมาสู่แท่นบูชากลางโบสถ์ เบื้องหน้าลานพิธีปรากฏร่างสูงของเอลฟ์สองตน หนึ่งหญิงแรกรุ่น หนึ่งชายชรา

เอลฟ์ชายดูมีอายุอานามอยู่มากโขจากทั้งเส้นผมและเคราที่หงอกสนิท พยุงร่างโทรมในชุดพิธีสีเทาไว้ด้วยไม้เท้า ดวงตาเกือบจะไร้ประกายแฝงไปด้วยความเศร้าโศกและสิ้นหวังเหลือคณา

อีฟพิจารณาเอลฟ์สาวอีกตนที่อยู่ใกล้ ๆ

เป็นเอลฟ์วัยรุ่นที่สวยสะพรั่ง

อายุน่าจะประมาณ 16 ถึง 17 ปี กำลังคุกเข่าภาวนาพร้อมกับกุมเหรียญตราหน้าตาคล้ายใบไม้ไว้ในอุ้งมือ ตาทั้งสองข้างยังคงปิดสนิทและพึมพำคำภาวนาอย่างต่อเนื่อง

เป็นเอลฟ์ที่ดีงามแบบหลุดมาจากเทพนิยายเลยค่ะ

หูแหลมอันเป็นเอกลักษณ์ คอระหง เครื่องหน้าสวยสด ผิวขาวผ่องราวหิมะต้นฤดู ผมสีทองยาวสลวยจรดพื้น ดูมีเสน่ห์อยู่ไม่น้อย ร่างบางปกคลุมด้วยชุดพิธีกรรมที่งดงาม เต็มไปด้วยลวดลายเถาวัลย์สีทองแต้มจุดเขียว เมื่อรวมกับรูปร่างงดงามตามธรรมชาติและบรรยากาศที่ดูสูงศักดิ์แล้ว ย่อมทำให้ผู้ที่มองดูเกิดความรู้สึกเคารพได้ไม่ยาก

เธอเป็นที่มาของเสียงภาวนาที่อีฟได้ยิน!

ในวินาทีที่อีฟเห็นเอลฟ์สาว ข้อมูลเกี่ยวกับเอลฟ์พลันปรากฏขึ้น

[ชื่อ: อลิส เกล]

[เผ่า: เอลฟ์]

[อาชีพ: นักบวช]

[เลเวล: 23 (ระดับเหล็ก ขั้นกลาง)]

[ศรัทธา: อีฟ อึกก์ดราซิลล์] [ระดับ: อุทิศตน]

[ฉายา: นักบุญแห่งธรรมชาติ]

….

เมื่ออีฟพบว่าตัวเองมีเอลฟ์สาวเป็น [สาวกระดับอุทิศตน] เพียงหนึ่งเดียวในปัจจุบัน ความผิดหวังในใจพลันมลายหายไปทันที … แน่นอนว่าอีฟก็ชอบสิ่งสวยงามเช่นกัน

ส่วนเอลฟ์ชราอีกตนหนึ่งเป็นผู้มีศรัทธาตื้นเขิน

ชื่อจากข้อมูลที่แสดงให้อีฟได้เห็นคือ ซามีร์ เกล เป็นดรูอิดและนักบวชแห่งธรรมชาติเลเวล 30

ทั้งคู่เป็นกลุ่มยอดฝีมือในระดับเหล็กขั้นกลาง แต่เอลฟ์ชราขาดเพียงเลเวลเดียวก็จะก้าวสู่ระดับเหล็กขั้นสูง

ทั้งหมดนี้เป็นสาวกของเค้าล่ะ

อีฟพยักหน้ากับตัวเองอยู่ในใจ ขั้นต่อไปคือการหาหนทางสื่อสารกับเหล่าสาวกและเพิ่มจำนวนผู้ศรัทธา

ขณะที่อีฟกำลังเตรียมการตอบกลับด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ในปริมาณน้อย เป็นเวลาเดียวกับที่การสวดภาวนาของเด็กสาวได้หยุดลง

เธอค่อย ๆ ลืมตาสีมรกตขึ้น มือน้อยเช็ดน้ำตาหยดหนึ่งที่ยังคลออยู่ขอบตา จมูกสีค่อนไปทางแดงแสดงให้เห็นถึงอารมณ์โศกเศร้า และแล้วร่างบางก็ลุกขึ้นช้า ๆ ด้วยแรงจากแขนที่ค้ำยันพื้นข้างลำตัวไว้

เอลฟ์สาวหมุนตัวมาหาพร้อมกับฝืนยิ้ม เสียงแหบแห้งกล่าวขึ้นด้วยความสิ้นหวัง

“คุณตาคะ บทภาวนารอบสุดท้าย … จบแล้วค่ะ”

หลังจากที่เธอนั่งภาวนาต่อเนื่องมาสามวันสามคืน ความหวังที่เคยมีทั้งหมดกลายเป็นความสิ้นหวัง เอลฟ์ชรานามว่าซามีร์ได้แต่ถอนใจเมื่อเห็นความเศร้าของเด็กสาว

เขาซ่อนความเศร้าของตนและพยายามปลอบ

“บางครั้ง บางอย่างมันก็เกินกว่าจะแก้ไขล่ะนะ … ไม่ว่าเราจะหมั่นเพียรหรือคาดหวังไว้เพียงใดก็ต้องยอมรับความจริงที่ว่า …”

ซามีร์เงยหน้าขึ้น มองไปทางรูปปั้นที่ยังปรากฏความเสียหายจากอดีต น้ำตาค่อย ๆ คลอขึ้นในเบ้าตาขุ่นมัวของเอลฟ์ชรา

“พระมารดาของเรา … ใต้ฝ่าละอองพระบาทของเรา สิ้นพระชนม์แล้ว …”

ในบรรยากาศอันเงียบงันของวิหาร พลันปรากฏเสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นเป็นระยะอยู่ครู่หนึ่ง ชายชราถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนเปล่งเสียงแหบแห้งของตน

“ไปกันเถอะ …”

“พวกเรายืนหยัดมาเป็นพัน ๆ ปีแล้ว … มันคงไม่มีประโยชน์หากหลานยังทำต่อไป …”

หลังจากประโยคดังกล่าว อีฟพลันเห็นก้อนแสงสีเขียวที่เป็นตัวแทนของศรัทธาทั้งสองค่อย ๆ มืดลง ประกายของมันค่อย ๆ หายไปราวกับจะแตกดับ

อีฟ : “…”

เดี๋ยวนะคะ! จะมาถอดใจต่อหน้าเทพแบบนี้มันใช่เหรอคะ! ได้เหรอคะ?!

ในใจของอีฟเต็มไปด้วยความเศร้า

เดิมทีตนตั้งใจว่าจะแสดงปาฏิหาริย์เพื่อยกระดับความศรัทธาของเอลฟ์ทั้งสอง เช่นศรัทธาของเอลฟ์สาวจากระดับอุทิศเป็นคลั่งไคล้ และเอลฟ์ชราจากระดับตื้นเขินเป็นอุทิศ แต่อีฟไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอเรื่องหนักใจตั้งแต่วินาทีแรกที่ตนปรากฏตัว

แน่นอนว่าถ้าอีฟไม่ลงมือทำอะไรเลย ศรัทธาของสาวกทั้งสองคงจะสลายไปในเร็ว ๆ นี้

ใจเย็นแปป เค้าเพิ่งมารับช่วงต่อเองนะ ทุกอย่างมันก็ยากตอนต้นทั้งนั้นแหละ … ถ้าเลวร้ายที่สุดเค้าก็ยังเหลือเบอร์เซิร์กเกอร์ …

อีฟปลอบใจตัวเองและกัดฟันพร้อมจ่ายแต้มเพื่อพิสูจน์การคงอยู่ของตน แต่ไอเดียบางอย่างพลันผุดขึ้นในใจและหยุดการกระทำของอีฟไว้

ร่างจิตแผ่สัมผัสไปในทิศทางหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกล อีฟสงบลงตามลำดับ

พลังศักดิ์สิทธิ์มีค่ามากเกินไปที่จะใช้ตอนนี้ แถมตอนนี้เค้ามีวิธีดี ๆ ในการแสดงปาฏิหาริย์ด้วยล่ะ …

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ ._ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ .

T/N: เปิดตัวน้องหมายเลข 1 ค่ะ น้องใส น้องน่ารัก น้องขาว น้องหูยาว และน้องเป็นนักบวชสาวชาวเอลฟ์ แฮ่ก

การแปลเรื่องนี้ขออนุญาตให้ความสำคัญกับความสม่ำเสมอของภาษาเป็นสำคัญนะคะ จะพยายามหลีกเลี่ยงการเขียนภาษาอังกฤษลงในนิยายถ้าไม่จำเป็น ยกเว้นจะเป็นคำพื้นฐานหรือตัวย่อที่พบได้ทั่วไปเช่น VR ดังนั้นชื่อตัวละครก็จะยึดหลักนี้ในการแปลเช่นกันค่ะ และขออธิบายเพิ่มเติมไว้ในเชิงอรรถนะคะ

ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทได้ที่ต้นทางนะคะ

Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ ._ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ .

เชิงอรรถท้ายตอนที่ 3:

ชื่อตัวละคร:

ชื่อตอนเอลฟ์พื้นเมืองในเรื่องนี้จะเป็นชื่อภาษาอินโดยูโรเปียน+นามสกุลจีนตามชนเผ่า (จำแนกตามธาตุ) เช่น 爱丽丝·疾风 Alice Jifeng และ 萨米尔·疾风 Samir Jifeng ทางผู้แปลจึงเลือกแปลนามสกุลให้เป็นภาษาฝั่งตะวันตกเช่นเดียวกับชื่อ 疾风 > Gale > เกล