185 – อานุภาพปืนใหญ่มังกรอัคคี
มีเข็มอย่างน้อยยี่สิบเล่มที่ถูกซัดออกไปข้างหน้า เอี้ยนลี่เฉียงเหวี่ยงแขนของเขาอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วที่เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยส่งเข็มบินทั้งหมดออกไปภายในเวลาไม่ถึงครึ่งวินาที
เข็มบินพุ่งเข้าหาโม่เล้งจากทุกทิศทุกทาง มุ่งไปที่หัว คอ หลัง หน้าอก หน้าท้อง แขนและขาของเขา และยังมีอีกมากมายที่มุ่งเข้าหามุมอับสายตาซึ่งโม่เล้งยากที่จะมองเห็น
เข็มบินถูกอาบด้วยพิษ เอี้ยนลี่เฉียงจะสามารถแก้แค้นได้สําเร็จตราบใดที่มีหนึ่งเล่มในนั้นสะกิดโดนเป้าหมาย
อย่างไรก็ตามเอี้ยนลี่เฉียงยังคงประเมินความสามารถของนักรบขั้นสูงต่ําเกินไป
เพราะว่าตอนนี้โม่เล้งไม่ได้เป็นเพียงนักรบขั้นสูงทั่วไปเท่านั้น แต่เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่กําลังจะก้าวไปสู่การเป็นปรมาจารย์นักรบ
เขามีพลังมากเกินไปเมื่อเทียบกับเอี้ยนลี่เฉียง มันเปรียบได้กับดวงอาทิตย์และหิงห้อย
ดวงตาของโม่เล้งซึ่งถูกปิดอยู่ตลอดเวลาจู่ๆก็เปิดออกเมื่อเข็มบินอยู่ห่างจากเขาเพียงไม่ถึงวาระหว่างการซุ่มโจมตีอย่างรวดเร็วแสงสว่างวาบผ่านดวงตาของเขา ขณะที่เขาเอนตัวไปด้านข้างด้วยวิธีแปลกๆ
ดิง! ดิง! ดิง! เกิดเสียงกรุ๊งกริ้งเล็กๆ หลายชุดพร้อมกัน
ครึ่งหนึ่งของเข็มบินของเอี้ยนลี่เฉียงตกลงไปที่พื้นทันทีโดยไม่กระทบกับเป้าหมาย ในขณะที่อี กครึ่งหนึ่งถูกทําลายด้วยดาบแวววาวของโม่เล้ง
หากโม่เล้งเป็นเพียงนักรบหรือนักรบขั้นสูง มันจะเป็นเรื่องยากสําหรับเขาที่จะหลบเข็มบินของเอี้ยนลี่เฉียง น่าเสียดายที่โม่เล้งนี้มีพลังมากเกินกว่านั้นไปแล้ว
“ใคร!?”
ด้วยการตะโกนอย่างเยือกเย็น ร่างของโม่เล้งที่มีผมสีขาวก็พุ่งเข้าหาเอี้ยนลี่เฉียงราวกับสาย
เอี้ยนลี่เฉียงโบกมือและส่งเข็มบินอีกสองเล่มไปทางโม่เล้ง ในเวลาเดียวกันเขาก็รีบวิ่งไปที่ทางออกของถ้ํา แสร้งทําเป็นหนี
เข็มทั้งสองบินขึ้นไปในอากาศและถูกทําลายด้วยดาบยาวในมือของโม่เล้ง โม่เล้งเหลือบเห็นใบหน้าของเอี้ยนลี่เฉียงซึ่งถูกปิดบังด้วยหน้ากากสีดําก่อนที่เขาจะไล่ตามเอี้ยนลี่เฉียงทันที
เมื่อเทียบกับสถานที่ที่มีหลุมขนาดใหญ่บนภูเขา ทางเดินในถ้ําซึ่งสูงไม่ถึงสองเมตรนั้นยาวและแคบอย่างมากที่สุดมีเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถผ่านมันไปได้ในแต่ละครั้ง
ด้วยโม่เล้งที่กําลังไล่ตามหลัง เอี้ยนลี่เฉียงจึงได้ปลดปล่อยเก้ากระบวนท่าเงาสายลมอย่างเต็มกําลังในขณะเดียวกันมือของเขายังยิงเข็มพิษออกไปอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกว่าโม่เล้งอยู่ห่างจากเขาเพียงไม่กี่วา เอี้ยนลี่เฉียงก็หยิบปืนใหญ่มังกรอัคคีที่เขาซ่อนไว้ออกมา
ในขณะที่ยังคงวิ่งด้วยความเร็วสูง เขาหมุนไปรอบๆกลางอากาศและเล็งปืนใหญ่มังกรอัคคีไป ที่โม่เล้งซึ่งกําลังวิ่งเข้าหาเขา
เอี้ยนลี่เฉียงเห็นสีหน้าของโม่เล้งบิดเบี้ยวทันที
นี่คือช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ทั้งสองได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะสังหารฝ่ายตรงข้า มก่อน
เอี้ยนลี่เฉียงกดไกปืนซึ่งเล็งไปที่โม่เล้ง ส่วนโม่เล้งก็เขวี่ยงดาบยาวมุ่งเข้าหาเอี้ยนลี่เฉียง
มังกรไฟสีขาวที่ลุกโชติช่วงพุ่งไปทางที่ไม่เล้ง มันกินเนื้อที่ว่างทุกตารางนิ้วในทางเดินแคบๆทําให้ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้
ช่วงเวลาหนึ่งที่อุณหภูมิสูงที่แผดเผาทําให้เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกราวกับว่าเขากําลังยืนอยู่หน้าเตาหลอมเหล็ก
ดาบยาวของโม่เล้งเฉือนผ่านเปลวไฟขณะที่เขาบินไปทางเอี้ยนลี่เฉียงอย่างรวดเร็วเช่นกันเปลวเพลิงเข้าปกคลุมดาบยาว ทําให้ความเร็วของดาบในอุโมงค์ช้าลงชั่วขณะ
ในช่วงเวลาสั้นๆนี้เองที่เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกว่ามีบางอย่างแหลมคมทุ่งมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เขาใช้ท่อโลหะของปืนใหญ่มังกรอัคคีในมือทุบเข้ากับดาบที่เปล่งประกายในขณะที่เขาหันหลังและกระโดดไปด้านข้างโดยไม่ลังเล
และในไม่ช้าเอี้ยนลี่เฉียงก็รู้สึกเย็นที่แขนของเขา หลังจากนั้นไม่นานร่างกายของเขาทั้งหมดถูกส่งกลับไปโดยแรงกระแทกมหาศาลก่อนที่เขาจะตกลงบนพื้นอย่างหนัก
ขั้นตอนสุดท้ายของการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจบลงในเวลาไม่ถึงวินาที
เอี้ยนลี่เฉียงซึ่งล้มลงกับพื้นรีบหันศีรษะกลับมาดูและเห็นดาบยาวที่โม่เล้งโยนเข้าหาเขาปักอยู่ที่พื้นข้างๆกับตําแหน่งที่เขาอยู่
ปลายดาบยาวแทงทะลุเสื้อผ้าสองสามชั้นที่เขาสวมอยู่ มันทิ้งบาดแผลที่ไม่รุนแรงและไม่เบาไว้ที่แขนของเขา และมันทําให้เขาล้มลงกับพื้นพร้อมๆกัน
“อ๊ากกกกกกก!!!!”
เสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงกลัวดังก้องไปทั่วอุโมงค์ ชายคนหนึ่งจมอยู่ในเปลวเพลิงสีขาวกรีดร้องเสียงดังขณะที่เขาเหวี่ยงแขนและขาไปรอบๆ ราวกับแมลงวันหัวขาด
เขาพุ่งตรงมายังที่ที่เอี้ยนลี่เฉียงอยู่ พร้อมกับตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
“ไอ้ลูกหมาข้าจะฆ่าเจ้า!”
ร่างกายของโม่เล้งถูกห่อด้วยเปลวเพลิงประหลาด
เอี้ยนลี่เฉียงนอนอยู่บนพื้น โดยไม่ได้ลุกขึ้น เขาส่งเข็มบินอีกสองเข็มออกไปอีกครั้ง ซึ่งพวกมันก็หายเข้าไปในร่างที่ถูกเปลวไฟดูดกลืน
“ข้าจะฆ่าเจ้า”
เสียงกรีดร้องในถ้ําหยุดลงกะทันหัน เมื่อร่างมนุษย์ที่อยู่ห่างจากเอี้ยนลี่เฉียงไม่กี่วาล้มลงกับพื้นร่างกายของเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวและนอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น
เอี้ยนลี่เฉียงสูดอากาศบนพื้นครู่หนึ่งก่อนจะเอื้อมมือไปดึงดาบยาวที่ทะลุผ่านชั้นเสื้อผ้าของ เขาสองสามชั้นออกมา จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงนึกย้อนกลับไปถึงฉากนี้ เขาก็รู้สึกสั่นไหวจนถึงแก่น นี่เป็นการดิ้นรนระหว่างชีวิตและความตายอย่างแท้จริง
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าปฏิกิริยาตอบสนองของโม่เล้งจะเร็วขนาดนี้แม้กระทั่งสามารถหลบเข็มบินในขณะที่กําลังนั่งบ่มเพาะอยู่
โดยเฉพาะดาบยาวที่ถูกโยนออกมาในครั้งสุดท้าย
หากไม่ใช่เพราะปืนใหญ่มังกรอัคคีชะลอความเร็วของดาบยาวลงไปบ้าง อีกทั้งความเร็วในการ ตอบสนองของเอี้ยนลี่เฉียงก็เพิ่มขึ้นพอสมควร การโจมตีครั้งสุดท้ายของโม่เล้งจะเจาะทะลุหน้าอกของเขาอย่างแน่นอน
โดยไม่ต้องสงสัยโม่เล้งเป็นคนที่ตกอยู่ในความประหลาดใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เขาไม่มีวันคิดว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะพกอาวุธที่น่ากลัวอย่างปืนใหญ่มังกรอัคคีมายิงใส่เขา
เป็นเพราะเอี้ยนลี่เฉียงมีปืนใหญ่มังกรอัคคีเขาจึงพยายามล่อหลอกโม่เล้งให้ตามมายังที่แคบที่สุดของถ้ําและลงมือสังหารภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
เอี้ยนลี่เฉียงรอดชีวิตและโม่เล้งตาย นี่คือผลลัพธ์สุดท้าย ผู้เชี่ยวชาญระดับนักรบขั้นสูงสุดถูกเอี้ยนลี่เฉียงฆ่าในถ้ําแปลกๆนี้
เอี้ยนลี่เฉียงถือดาบของโม่เล้งไว้ในมือและไปที่ศพซึ่งยังคงไหม้อยู่ เขายกดาบขึ้นและฟันศพของโม่เล้งอย่างรุนแรงหลายสิบครั้งราวกับว่าเขากําลังระบายความโกรธแค้น
หลังจากแน่ใจว่าโม่เล้งจะไม่ตายไปมากกว่านี้ เขาก็หันกลับมาและหยิบกระบอกโลหะที่เหลืออยู่ของปืนใหญ่มังกรอัคคีแล้วหันหลังออกจากถ้ําอย่างรวดเร็ว
บรรยากาศภายนอกถ้ํายังมืดและอึมครึมเช่นเคย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในถ้ําใช้เวลาเพียง ไม่ถึงครึ่งนาที ทางคดเคี้ยวเข้าไปในถ้ําบนภูเขาทําให้มองไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายใน
สองนาทีต่อมา เอี้ยนลี่เฉียงก็มาถึงหุบเขาที่เต็มไปด้วยวัชพืชและโครงกระดูกอยู่ทุกหนทุกแห่งเขาโยนดาบยาวและกระบอกโลหะลงบนพื้น
หลังจากนั้นไม่นานร่างของเอี้ยนลี่เฉียงก็ผสานเข้ากับความมืดในชั่วพริบตา
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงกลับมาที่ลานเล็กๆของเขาในหมู่บ้านอู่หยางอย่างเงียบๆ ฟื้น” ภายในถ้ําก็ค่อยๆหรี่ลงและหรี่ลงจนไม่เหลืออะไรนอกจากกองขี้เถ้า