3 ลัทธิ 9 ขุมพลัง
จากที่ผู้เฒ่าพยากรณ์กล่าวบอกไว้ ต้วนหลิงเทียนลูกชายของมันต้วนหรูเฟิง…มิใช่คนอายุสั้น!
เมื่อตระหนักได้ว่าสมควรมีเรื่องบาดหมางระหว่างเผ่าพันธุ์มังกรกับต้วนหลิงเทียน ต้วนหรูเฟิงและกู่มี่ก็เร่งรุดเดินทางไปยังทวีปเมฆาล่องทันที
ด้วยความเร็วของทั้งคู่ เพียงเวลาแค่ไม่นานก็บรรลุถึงทวีปเมฆาล่อง
เรื่องราวพวกนี้ต้วนหลิงเทียนไม่อาจรับรู้ได้เลย
หลังจากที่ฝึกฝนปรับด่านพลังสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ออกจากเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ
หลังจากที่ออกจากเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ ต้วนหลิงเทียนก็ย้อนกลับมายังสำนักจันทร์จรัสแสงก่อนอื่นใด
หลังจากที่ซุ่มสังเกตการณ์อยู่ 2-3 วัน ในที่สุดเขาก็พบโอกาสอันดี จัดการทุบศิษย์ฝ่ายในของสำนักคนหนึ่งจนสลบ หลังจากที่มั่นใจว่าคงไม่ตื่นง่ายๆ จากนั้นเขาก็ปลอมตัวเป็นอีกฝ่ายอย่างแยบยล ทั้งใช้ป้ายของศิษย์ฝ่ายในคนนี้ลอบเข้าไปตรวจสอบเรื่องราวในสำนักจันทร์จรัสแสงได้อย่างง่ายดาย ไร้ผู้ใดล่วงรู้
หลังจากที่เข้ามาในสำนักจันทร์จรัสแสงแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็มุ่งหน้าไปยังฝ่ายในทันที
ไม่นานเขาก็ได้รับทราบมาว่าป๋ายลี่หงกับพวกเฟิ่งหวู่เต้าได้หลบหนีไปนานแล้ว แถมไม่น่าจะอยู่ใกล้ๆสำนักจันทร์จรัสแสงอีกต่อไป ต้วนหลิงเทียนพอได้ระบายลมหายใจด้วยความโล่งอกทันที
‘ในเมื่อศิษย์พี่พาพวกลุงเฟิ่งไปด้วย นั่นหมายความว่าทั้งหมดยังปลอดภัยดีอยู่…ด้วยพลังฝีมือของศิษย์พี่รวมถึงฐานะปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาว แม้จะออกจากเขตปกครอง 9 พันธมิตร ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่ให้ไป’
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ใจต้วนหลิงเทียนที่หนักอึ้งก็เบาลงไม่น้อย
หลังจากที่ยืนยันได้แล้วว่าป๋ายลี่หงกับคนอื่นสมควรหลบหนีออกจากสำนักจันทร์จรัสแสงได้อย่างปลอดภัย ต้วนหลิงเทียนก็แวะออกมายังฝ่ายนอกของสำนัก เพื่อหาตัวหลิงอวิ๋นกับฉงหู่ทันที
น่าเสียดายที่หลิงอวิ๋นและฉงหู่ไม่อยู่บ้าน
‘คงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกมันหรอกนะ?’
เนื่องจากกลัวว่าตัวตนจะถูกเปิดเผย ต้วนหลิงเทียนไม่คิดจะตรวจสอบเรื่องราวแต่อย่างใด
หลังจากนั้นเขาก็ออกจากสำนักและมุ่งหน้าไปยังเมืองชงซัน
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เปิดเผยตัวตนออกมา
ใครจะไปรู้ว่าคนของสำนักจันทร์จรัสแสง ส่งใครมาเฝ้าจวนเจ้าเมืองชงซัน ซุมรอจับเขาไว้หรือไม่?
ต้วนหลิงเทียนคอยหาข่าวรอบๆจวนเจ้าเมืองชงซันอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็ได้รับทราบว่าฟางฮุ่ยไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
‘เจ้าสำนักจันทร์จรัสแสงนั่นก็ยังนับว่าไม่ได้ไร้ศีลธรรมอะไร’
ในขณะที่บ่นต้วนหลิงเทียนก็เดินออกจากเมืองชงซัน
หลังจากออกมานอกเมืองแล้ว ใจต้วนหลิงเทียนก็ฉุกคิดเรื่องราวขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง ‘หลังออกจากสำนักจันทร์จรัสแสงแล้ว ไม่รู้ศิษย์พี่จะพาพวกลุงเฟิ่งไปยังเมืองหานเหอรึเปล่า…ลองไปดูก่อนแล้วกัน’
ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังเมืองหานเหอทันที
เมืองหานเหอนั้น นับเป็นเมืองหลักของเขตปกครอง 9 พันธมิตรก็ว่าได้
เมืองหานเหอจะอย่างไรก็เป็นเมืองหลักของ 9 พันธมิตร เป็นดั่งจุดศูนย์รวมของข้อมูลทั้งหลายก็ไม่ปาน เช่นนั้นสมควรสืบข่าวคราวได้ดีที่สุด
หลังจากที่มาถึงเมืองหานเหอแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ไปนั่งตามเหลาอาหารต่างๆ เพื่อฟังเรื่องราวจากผู้คนกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในบรรดา 9 ขุมพลัง
อย่างไรก็ตามเขาพบว่าเรื่องราวของสำนักจันทร์จรัสแสง กลับไม่ได้แพร่งพรายออกมา
ยอดฝีมือขอบเขตเซียนของสำนัก เฉียนคุน ตกตาย… อาวุโสป๋ายลี่หลบหนี สองเรื่องนี้ไม่มีใครพูดถึงกันเลย
เรื่องนี้ทำให้ต้วนหลิงเทียนแปลกใจอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนไม่ทราบ ว่ายอดฝีมอขอบเขตเซียนรวมถึงเจียงเว่ย หลังจากที่หาตัวเขาไม่พบ พวกมันก็ให้อาวุโสฝ่ายในและฝ่ายนอกกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า ว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นเด็ดขาด…
เรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนสังหารเฉียนคุน รวมถึงเรื่องที่ป๋ายลี่หงลอบหลบหนีออกไปจากสำนัก
เพราะ 2 เรื่องนี้ใหญ่หลวงนัก ไมว่าเรื่องใด ก็ล้วนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงสำนักทั้งสิ้น
เพราะสุดท้ายแล้ว เฉียนคงก็เป็นหนึ่งในยอดฝีมือขอบเขตเซียนไม่กี่คนของสำนักจันทร์จรัสแสง
ป๋ายลี่หงก็คือปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาวเพียงหนึ่งเดียวของสำนัก
หากบุคคลภายนอกล่วงรู้ว่าเฉียนคงตกตาย ป๋ายลี่หงหนีหาย น่ากลัวสำนักจันทร์จรัสแสงอาจเกิดมรสุมช่วงชิงอำนาจขึ้นมา
หลังจากใช้เวลาไป 2 วันในเหลาอาหารต่างๆภายในเมืองหานเหอ ต้วนหลิงเทียนก็ไม่พบข้อมูลใดๆที่มีประโยชน์เลย
จังหวะนี้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเคว้งคว้าง
แล้วตอนนี้เขาควรไปที่ไหนดีล่ะ?
สำหรับเขาแล้ว การอยู่ในพื้นที่ 9 พันธมิตร ก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะรั้งอยู่ในเขตปกครองของ 9 พันธมิตรให้นาน
สภาพของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าก็ละม้ายคล้ายทวีปเมฆาล่อง ยิ่งเข้าใกล้จุดศูนย์กลางทวีปมากเท่าไหร่ ก็จะเจอผู้ฝึกยุทธ์และผู้ฝึกเต๋าที่ร้ายกาจมากขึ้นเท่านั้น
ยังมีขุมพลังต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะพรรคหรือสำนักอะไร เรียกว่าไม่ขาดขุมพลังชั้น 6 แม้แต่น้อย
‘งั้นขึ้นเหนือมุ่งหน้าไปยังหลวงของประเทศฝูเฟิงก่อนแล้วกัน’
ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็ตัดสินใจได้
ในตอนที่ยังอยู่สำนักจันทร์จรัสแสง ต้วนหลิงเทียนก็ได้รับทราบเรื่องราวทั่วไปในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าจากหยกบันทึกข้อมูลไม่น้อย เขารู้เรื่องขุมพลังใกล้ๆ 9 พันธมิตร อีกทั้งยังรู้อีกว่าพื้นที่เหนือขึ้นไปอันกว้างใหญ่ไพศาลของ 9 พันธมิตรนั้น คือประเทศที่รู้จักกันในนาม ฝูเฟิง
ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า นอกจาก สำนัก พรรค นิกายแล้ว ยังมีประเทศของเซียนอีกด้วย
แน่นอนว่า ที่เรียกว่าประเทศของเซียนนั้น แต่เดิมพวกมันก็คือตระกูลๆหนึ่ง หากแต่ปฏิเสธจะร่วมมือกับขุมพลังอื่นใด เลือกจะปกครองพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลด้วยกำลังของตัวเอง และสร้างชาติขึ้นมา!
พื้นที่อันกว้างใหญ่ กินอาณาบริเวณมากกว่าพื้นที่ปกครองของ 9 พันธมิตรไปกว่าครึ่งนั้น ถูกประเทศที่เรียกว่า ฝูเฟิง ครอบครอง
เนื่องจากพวกมันยินดีเป็นหัวไก่ดีกว่าหางหงส์ฟ้า พวกมันจึกเลือกมาสร้างชาติในพื้นที่ไกลห่างธุระกันดาร พวกมันไม่อยากอยู่ใต้อาณัติหรือปกครองของผู้ใด ตั้งตัวเป็นประเทศอิสระ! ซึ่งบังเอิญใกล้กับพื้นที่ 9 พันธมิตรพอดี…
ว่ากันว่าด้วยอาณาบริเวณอันกว้างใหญ่ไพศาลของประเทศฝูเฟิง ทำให้ 9 พันธมิตรไม่หวาดกลัวว่าฝูเฟิงจะมายึดอาณาเขตอะไรของพวกมัน
เพราะมีทะเลทรายอันแห้งแล้งไร้ชีวิต กั้นขวางระหว่างประเทศฝูเฟิงกับเขตปกครอง 9 พันธมิตรเอาไว้
ในทะเลทรายร้อนระอุนี้นอกจากจะเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายอันน่ากลัวแล้ว สภาพแวดล้อมยังอันตรายนัก
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะบรรลุพลังฝึกปรือถึงสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ แต่ถ้าไม่ใช้เขตแดนหมื่นกระบี่ และใช้ออกด้วยหมื่นกระบี่รวมหนึ่งสร้างกระบี่แล้วขี่เหินไปล่ะก็…ต้องใช้เวลาถึง 10 วันกว่าจะข้ามทะเลทรายผืนนี้ไปได้
“ไม่น่าแปลกที่ประเทศฝูเฟิงไม่ไปรุกรานจับ 9 พันธมิตรมาควบรวมอะไร…ทะเลทรายบ้านี่มันจะร้อนและกว้างไปไหน!”
ยืนอยู่ที่ชายขอบเขตปกครอง 9 พันธมิตร ต้วนหลิงเทียนเหม่อมองทะเลทรายร้อนระอุ ที่เต็มไปด้วยไอความร้อนด้วยสายตาเฉยเมย ปากบ่นเล็กน้อยค่อยตัดสินใจออกเดินทางข้ามทะเลทรายร้อนระอุทันที
เรื่องที่ต้วนหลิงเทียนไม่รู้ก็คือ ขณะที่เขากำลังเดินทางข้ามทะเลทรายนั้น บิดาของเขาต้วนหรูเฟิงก็มาถึงทวีปเมฆาล่องแล้ว
พุ่งร่างมาไม่นานก็ผ่านราชอาณาจักรต้าฮั่น ข้ามผ่านจักรวรรดิศิลาทมิฬ เลยพ้นอาณาจักรพนาคราม และบรรลุถึงอาณาจักรนภาล่องในไม่กี่อึดใจ
“กู่มี่เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่”
ขณะมองลงไปยังอาณาจักรนภาล่องใต้เท้า ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวบอกกู่มี่
“ทราบแล้วจ้าวตำหนัก”
ต่อหน้าต้วนหรูเฟิง กู่มี่ไม่กล้าละเลยมารยาท ยังให้ความเคารพอย่างถึงที่สุด
หลังจากนั้นต้วนหรูเฟิงก็ไปเยือนเมืองหลวงของอาณาจักรนภาล่องทันที
ต้องกล่าวบอกเลยว่าต้วนหรูเฟิงไหวพริบดีไม่น้อยที่เลือกจะมาหาข่าวที่เมืองหลวงอาณาจักรนภาล่อง
หลังจากไปยังสถานที่ๆคุ้นเคยในอาณาจักรนภาล่อง ต้วนหรูเฟิงก็ได้พบเบาะแสที่มองหา…เบาะแสนี้เป็นต้วนหลิงเทียนตั้งใจทิ้งไว้ให้พวกลี่เฟยก่อนที่จะออกจากทวีปเมฆาล่อง เพราะเขารู้ว่าหากลี่ฟยยังมีชีวิตอยู่ นางต้องย้อนกลับมาที่นี่เพื่อหาข่าวเขาแน่
อย่างไรก็ตามเรื่องที่ชวนให้ประหลาดใจก็คือ กลับเป็นบิดาของเขาที่ได้รับทราบเบาะแสนี้ก่อนลี่เฟย
กระทั่งหยกบันทึกเสียงที่ตั้งใจฝากไว้ให้ลี่เฟย ตอนนี้ก็อยู่ในมือของต้วนหรูเฟิงเรียบร้อย
ด้วยหยกบันทึกเสียงที่ต้วนหลิงเทียนทิ้งไว้ ในที่สุดต้วนหรูเฟิงก็รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด
“เผ่าพันธุ์มังกรมันช่างหาญกล้านัก! เจ้ามันแน่นักหรือตี้จิ่ว! ดี ดีมาก!! กลับกล้าทำลายนิกายของลูกชายข้างั้นเหรอ ข้าจะไปขอคำอธิบายเจ้าถึงรังมังกร!!”
ลูกตาต้วนหรูเฟิงเผยเจตนาฆ่าฟันออกมาทันที
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้รับทราบเรื่องที่ ลูกสะใภ้คนหนึ่งถูกนำตัวไป สีหน้ามันก็กลายเป็นหนักอึ้งทันที
“ลัทธิบูชาไฟงั้นเหรอ!? ลูกสะใภ้ข้ามีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ ไฉนถึงได้มีพี่สาวอยู่ลัทธิบูชาไฟได้? มิใช่ว่าลัทธิบูชาไฟอยู่ภูมิภาคเบื้องบนหรือไร…ไฉนถึงลงมาภูมิภาคเบื้องล่างแบบนี้?”
(ขอเปลี่ยนนิกายบูชาไฟ เป็นลัทธิบูชาไฟนะ…)
‘ไม่สิ! หรัวเอ๋อ กล่าวบอกไว้ว่าลูกสะใภ้ที่ชื่อ เค่อเอ๋อ นั้นเติบโตมาพร้อมเทียนเอ๋อ…ไฉนไปเกี่ยวข้องกับลัทธิบูชาไฟในภูมิภาคเบื้องบนได้…แต่เทียนเอ๋อกลับบอกว่ามีสตรีที่อ้างตัวว่ามาจากลัทธิบูชาไฟพาตัวนางไป! ยังบอกว่าเป็นพี่สาวฝาแฝดของนางอีก!!’
‘ยิ่งไปกว่านั้นพี่สาวฝาแฝดของเค่อเอ๋อ กลับทรงพลังถึงขั้นซัดตี้จิ่วหมอบได้ในฝ่ามือเดียว!’
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ สีหน้าต้วนหรูเฟิงก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันใด
ตี้จิ่วนั้นแม้ไม่ได้อยู่ในสายตามัน แต่จะอย่างไรตี้จิ่วก็นับว่าไม่ใช่ชนชั้นต่ำทราม
สุดท้ายแล้วตี้จิ่วก็เป็นมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บของเผ่าพันธุ์มังกร!
ถึงแม้จะยังไม่โตเต็มวัยดีเท่าไหร่ แต่พลังฝีมือก็ไม่ได้ต่ำต้อย
หากสตรีนางนั้นเป็นพี่สาวฝาดแฝดของเค่อเอ๋อจริงๆ ไม่ใช่ว่านางยังพึ่งมีอายุได้ 30 ต้นๆหรอกหรือ?
เพียงวัย 30 ต้นๆ กลับมีพลังฝีมือเหนือกว่าตี้จิ่ว?
‘นางยังเยาว์แต่กลับมีพลังฝีมือร้ายกาจปานปีศาจ…ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้กล่าวโป้ปดเรื่องมาจากลัทธิบูชาไฟ! ยอดฝีมือรุ่นเยาว์ระดับอัจฉริยะเช่นนี้มีเพียงขุมพลังระดับนั้นถึงจะเพาะสร้างออกมาได้!’
มาถึงจุดนี้ต้วนหรูเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะหายใจติดขัด
ถึงแม้มันจะได้ยินเรื่องภูมิภาคเบื้องบนมานานแล้ว
แต่ก็ไม่เคยพบเจอคนที่มาจากภูมิภาคเบื้องบนมาก่อน
‘ในสมัยโบราณ กล่าวกันว่าดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าถูกปงครองด้วย 3 ลัทธิ 9 ขุมพลัง…ขุมพลังทั้ง 9 นั่นก็เป็นขุมพลังชั้น 1 ถึง 9 ที่รู้จักกันดี ส่วน 3 ลัทธินั่นเป็นมหาอำนาจที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า 3 ลัทธินั่นก็ถือครองอำนาจของขุมพลังชั้น 1 ถึง 3 เอาไว้…ยังเป็นมหาอำนาจที่ร้ายกาจที่สุด ลัทธิบูชาไฟก็เป็นหนึ่งในนั้น’
‘ตั้งแต่ที่ดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าถูกแบ่งออกเป็น 2 ภูมิภาค 3 ลัทธิรวมถึงมหาอำนาจที่เข้มแข็งบางส่วนก็ได้ลงหลักปักฐานอยู่ที่ภูมิภาคตอนบน…ผ่านมาเนิ่นนานหลายปีคนภูมิภาคเบื้องล่างก็ลืมเลือน 3 ลัทธินั่นไปหมดสิ้นแล้ว’
ทันใดนั้นในใจต้วนหรูเฟิงก็นึกย้อนถึงข้อมูลของลัทธิบูชาไฟที่มันได้รับรู้มา