บทที่ 203 เห่าหอนทำซากอะไร

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 203 เห่าหอนทำซากอะไร?

บทที่ 203 เห่าหอนทำซากอะไร?

“อ๊ากกกกก!!!”

“ลู่หยวน แกต้องตาย!!”

ฉู่เชิ่งพยายามสุดความสามารถ สิ้นเสียง ‘กร๊อบ ๆ’ ร่างของเขาผู้อยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลก็เริ่มขยับได้ขึ้นมาทีละน้อย

สรรพสิ่งรอบด้านเริ่มพังทลาย ฉู่เชิ่งยังคงรวบรวมพละกำลัง พลังวิญญาณเริ่มสั่นไหว พลังวิถีแห่งสวรรค์กำลังพวยพุ่งออกจากร่างของเขาอีกครั้ง แรงกดดันโดยรอบก็สลายเลือนหายไปในช่วงเวลานี้

ศิษย์เอกบรรพชนดาบที่เป็นอิสระ ส่งสายตามองอย่างดุร้าย เจตจำนงดาบแล่นผ่านอากาศประหนึ่งเทพสังหาร

“ลู่หยวน ตายเพื่อข้าซะ!”

ฉู่เชิ่งสะบัดมือ ปราณดาบก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้นมา กลายเป็นดาบขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในมือ

เพียงหนึ่งย่างก้าว ความว่างเปล่าพลันแตกสลาย ทั้งกายเขาเปรียบดังลูกศรที่พุ่งทะยานผ่านอากาศตรงเข้าหาบุตรศักดิ์สิทธิ์

ตูม! ตูม! ตูม!

ปราณดาบกวาดออกไป ทะลวงค่ายกลชั้นแล้วชั้นเล่า ก่อนพุ่งตรงเข้าหาศัตรู

ลู่หยวนหันไปด้านข้าง พร้อมเย้ยหยันออกมา “เจ้าประเมินตนเองสูงไป”

หลังจากนั้น เขาฟาดฟันดาบในมือที่เริ่มริบมาจากอีกฝ่ายออกไป

วิ้ง!

วิถีกระบี่ปรากฏขึ้นในท้องนภาระหว่างสวรรค์และโลก เสียงคำรามของอสนีบาตดังขึ้นเหนือฟากฟ้า ประกายสีทองเคลื่อนผ่านชั้นหมู่เมฆสีดำ ก่อนจะสาดส่องลงมา

แสงสว่างสีทองพุ่งลงมาพร้อมกับจิตสังหาร มันตรงเข้าหาฉู่เชิ่งที่อยู่ด้านล่าง!

พลังทั้งสองฟาดฟันเข้าใส่กัน แสงสว่างวาบไหว กลืนกินพื้นที่ทั้งหมดในพริบตา

ไม่ถึงหนึ่งอึดใจ เสียงระเบิดดังอย่างต่อเนื่อง

ตูม! ตูม! ตูม!

แสงสว่างจางหายไป เพียงแต่วิถีดาบของฉู่เชิ่งสลายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ ส่วนวิถีกระบี่ที่เคลื่อนลงมายังคงฟาดฟันอย่างคลุ้มคลั่ง มันทะลวงผ่านศิษย์เอกบรรพชนดาบจนเข้าถึงตัว

ตูม!

ร่างของฉู่เชิ่งกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง ผลจากวิถีกระบี่ที่เคลื่อนลงมา ทำให้ครึ่งหนึ่งของยอดเขาหอกหายไป!

“เห่าหอนทำซากอะไร? ไม่เห็นหรือว่าข้ากำลังยุ่ง?”

ลู่หยวนกลอกสายตา ก่อนจะเตรียมเหวี่ยงดาบในมือฟาดฟันอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้กลับได้พบว่าตัวดาบแตกหักไปเสียส่วนใหญ่ เพราะต้องแบกรับวิถีแห่งกระบี่ที่ไม่คุ้นเคย

“ชิ ไร้ประโยชน์เสียจริง ไร้ประโยชน์ยิ่งกว่าฉู่เชิ่งเสียอีก”

ลู่หยวนสะบัดมือ ดาบกลายเป็นผุยผง ก่อนหายไปในอากาศ

ฝูงชนที่อยู่ด้านข้างเงียบสงัดจนสามารถได้ยินเสียงเข็มหล่น

ผ่านไปหลายอึดใจ ใครบางคนกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ก่อนกล่าวด้วยเสียงอันสั่นเทาว่า “เมื่อครู่ข้าไม่ได้เข้าใจผิดใช่หรือไม่ บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ถึงกับใช้ดาบเพื่อปลดปล่อยวิถีกระบี่ออกมางั้นหรือ?!”

“บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ยังเป็นมนุษย์อยู่แน่หรือ? แค่กระบวนท่าเดียวก็เล่นงานฉู่เชิ่งอยู่หมัดได้เชียวหรือ?!”

“ถ้าข้าจำไม่ผิด ดาบที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ถือเมื่อครู่เป็นของฉู่เชิ่ง ดาบเล่มนี้เหมือนจะเป็นอาวุธครึ่งก้าวสู่ระดับจักรพรรดิ”

“อาวุธครึ่งก้าวสู่ระดับจักรพรรดิกลับไม่สามารถต้านพลังกระบี่ของบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ได้ จนแตกหักไปอย่างนั้นหรือ?!”

ทุกคนประหลาดใจ

ด้วยพละกำลังต่อสู้ของลู่หยวน ย่อมสามารถก้าวเข้าสู่ทำเนียบสวรรค์ได้ เผลอ ๆ อาจจะติดสามอันดับแรกเลยก็เป็นได้!

ฉู่เชิ่งผู้ถูกฟันร่วงหล่นลงกับพื้นอาบไปด้วยเลือด เขาพยายามหอบหายใจอย่างหนัก ทั้งร่างกายไม่มีส่วนใดที่ไม่แผดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

เขาพยายามขยับร่างกาย แต่เศษเสี้ยววิถีกระบี่ที่หลงเหลืออยู่ตรึงร่างไว้กับพื้นอย่างแน่นหนา ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

หัวใจของฉู่เชิ่งในตอนนี้รู้สึกเหมือนกับโดนกระแสน้ำซัด

เป็นไปไม่ได้!

ลู่หยวนทรงพลังขนาดนี้เชียวหรือ?!

วิถีดาบที่เขาเชี่ยวชาญ ไม่อาจขัดขืนการโจมตีของลู่หยวนได้!

ไม่จริง… นี่มันเป็นไปไม่ได้!

ฉู่เชิ่งเดือดดาลอยู่ในใจ ทั่วร่างรู้สึกสับสน

“ท่านหู่ ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าฆ่ามัน! ฆ่ามัน!”

จากก้นบึ้งหัวใจของฉู่เชิ่ง เสียงแหบพร่าดังขึ้น “เจ้าหนู วันนี้ลู่หยวนมีกลอุบายมากมาย แถมเจ้าสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ยังยืนอยู่ข้างมันอีก ต่อให้ข้าช่วยไป เจ้าก็ฆ่ามันในวันนี้ไม่ได้! ตอนนี้หากข้าลงมือขึ้นมา มันจะต้องรู้ตัวแน่นอน!”

“ในความเห็นของข้า ดูเหมือนลู่หยวนไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเจ้าในตอนนี้ ยอมอดทนรออีกสักหน่อย เพื่อหาโอกาสหนีเป็นอย่างไร?”

โทสะในใจของฉู่เชิ่งรุนแรงมากขึ้นเมื่อได้ยินประโยคนี้ แต่ผ่านไปหนึ่งอึดใจก็หายไป

เหอะ…

แน่นอนว่า เขาไม่ควรพึ่งพาคนอื่นเลยจริง ๆ

ต่อให้พยัคฆ์โลหิตนี้จะแบกรับวาสนาเอาไว้ แต่ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว มันกลับคิดถึงแต่ตัวเอง!

ฆ่าลู่หยวนไม่ได้อะไรกัน กลอุบายมากมายอะไรกัน พวกมันล้วนเป็นข้ออ้างทั้งสิ้น!

ตอนอยู่ที่เขตแดนลับหุบเขาเมฆา พยัคฆ์โลหิตช่วยเขาสังหารสัตว์อสูรที่เทียบเท่ากับครึ่งก้าวสู่ขั้นปรมาจารย์ยุทธ์ไม่ใช่หรือ?!

หรือว่าพละกำลังของลู่หยวนจะแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรตัวนั้น?!

ข้ออ้างทั้งนั้น!

ก็แค่กลัวว่าข่าวที่วิญญาณของมันยังมีชีวิตอยู่จะแพร่งพรายออกไปก็เท่านั้น!

[ระบบแจ้งเตือน บุตรแห่งโชคชะตาฉู่เชิ่งมีสภาพจิตใจย่ำแย่ ค่าชะตาจึงลดลง 5,000 แต้ม! ค่าชะตาที่เหลือในตอนนี้คือ 2,000 แต้ม!]

[ค่าชะตาวายร้ายของท่านเพิ่มขึ้น 10,000 แต้ม! ค่าชะตาวายร้ายของท่านในปัจจุบันคือ 33,000 แต้ม!]

ลู่หยวนขมวดคิ้ว เขากวาดสายตามองฉู่เชิ่งที่นอนอยู่บนพื้นราวกับสุนัขที่ตายแล้ว ก่อนลอบยิ้มหยันออกมา

ไร้ประโยชน์อีกแล้ว

ข้าแค่ฟาดนิดเดียว แต่สภาพจิตใจกลับแหลกไม่มีชิ้นดี

หึ ๆ บุตรแห่งโชคชะตาปีนี้ไม่มีฝีมือเอาเสียเลย!

“บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่”

เสียงของชิวชิงหลีดังขึ้น ลู่หยวนหันกลับมามอง พบว่าความอับอายและโทสะในสายตาของอีกฝ่ายถูกสะกดไว้นานแล้ว มันกลับกลายเป็นสายตาระแวดระวังที่จับจ้องลู่หยวนอยู่

“ทำอย่างไรบุตรศักดิ์สิทธิ์ถึงจะยอมรามือจากฉู่เชิ่ง?”

“หากบุตรศักดิ์สิทธิ์มีเงื่อนไขอะไรก็เชิญว่ามา ข้าจะพยายามสุดความสามารถเพื่อทำให้ท่านพึงพอใจ”

ลู่หยวนยิ้มออกมา “นี่สิคือท่าทีของผู้กำลังร้องขอความช่วยเหลือ”

“หากข้าบอกว่าต้องการอะไร เจ้าจะหามาให้หรือ?”

ชายหนุ่มมีเคล็ดวิชามากมาย เมื่อผู้คนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ได้ยินคำพูดเหล่านี้เข้า ในใจของพวกเขาแทบหลั่งโลหิตออกมา

จุ๊ ๆๆ บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ยังน่าทึ่งเหมือนเคย!

ผู้ที่กล้าพูดแบบนั้นกับศิษย์พี่ชิวชิงหลี ทั่วทั้งสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ก็มีเพียงบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่เท่านั้น!

ชิวชิงหลีหลุบตา ความเย็นเยือกฉายผ่านดวงตา เพียงแต่หนึ่งอึดใจ นางก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง “ใช่ ขอเพียงบุตรศักดิ์สิทธิ์พูดมา ข้าจะพยายามสุดความสามารถเพื่อทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์พึงพอใจ”

“ขอเพียงแค่บุตรศักดิ์สิทธิ์ยอมรามือจากฉู่เชิ่ง”

“อย่า!”

“อย่านะ!”

ฉู่เชิ่งผู้อยู่ด้านล่างตะโกนเสียงต่ำ “ชิงหลี อย่าทำแบบนี้เพื่อข้า ลู่หยวนคนนั้นมันเป็นสัตว์ร้าย!”

เขาเงยหน้าขึ้นพร้อมสายตาเต็มไปด้วยความมาดมั่นไม่ยอมอ่อนข้อ “ลู่หยวน ถ้าเจ้ากล้า วันนี้ก็ฆ่าข้าเลย! ถ้าวันนี้ข้าไม่ตาย เจ้า…”

ยังไม่ทันกล่าวจบประโยค ลู่หยวนพลันตบเข้าที่บ้องหูอีกฝ่าย ทำให้ร่างกระเด็นไปถึงสิบจั้ง ก่อนจะกระแทกเข้ากับก้อนหิน

พรวด!

ฉู่เชิ่งกระอักโลหิตออกมา ราวกับทั่วร่างกำลังจะตายเสียให้ได้

[ระบบแจ้งเตือน บุตรแห่งโชคชะตาฉู่เชิ่งกำลังจะตาย หากท่านทำร้ายอีกครั้ง อาจทำให้เขาถึงแก่ความตาย ถึงตอนนั้นจะมีการลงทัณฑ์จากวิถีแห่งสวรรค์ ขอให้ท่านโปรดระวังด้วย!]

ลู่หยวนขมวดคิ้ว “แตะต้องไม่ได้เลยรึ? เป็นกระดาษหรือไร?”

เสียงพึมพำนี้ลอยเข้าหูผู้คนรอบข้าง ทำให้ทุกคนรู้สึกสั่นสะท้าน

ฉู่เชิ่งคืออันดับห้าในทำเนียบสวรรค์!

พลังระดับนี้กลับเป็นแค่กระดาษในสายตาของลู่หยวน หากพวกเขายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ในวันนี้ โดนฟาดทีเดียวคงกลายเป็นก้อนเนื้อไปแล้ว!

ความคิดดังกล่าวผุดขึ้นในใจของทุกคน

ให้ตายก็ไม่ขอสู้กับลู่หยวนอย่างเด็ดขาด!