ตอนที่ 323 เก็บงาน (2)
ภายในยอดเขาเร้นเมฆา เฉียวฉู่เอนหลังพิงเก้าอี้แล้วนั่งไขว่ห้างมองไปที่จวินอู๋เสียที่กำลังลูบขนเจ้าแมวดำ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสนใจ “น้องเสีย เจ้านี่เลวจริงๆ เจ้ายังโยนศพเหล่านั้นไปทิ้งไว้ให้แต่ละยอดเขา ถ้าผู้อาวุโสเหล่านั้นเห็นคงโมโหตายกันพอดี”
แย่งลูกศิษย์ของเขามาต่อหน้าเขาได้ไม่นาน ลูกศิษย์ที่แย่งมากลายเป็นศพแล้วยังโยนศพกลับไปไว้หน้าประตูของแต่ละยอดเขา สิ่งที่ทำให้กระอักเลือดที่สุดคือจวินอู๋เสียได้เขียนจดหมายหนึ่งฉบับพร้อมลงชื่อ ‘เคอฉังจวี’ ไว้บนทุกศพ
บนจดหมายมีเพียงไม่กี่คำ…ได้นำลูกศิษย์กลับมาให้อย่างสมบูรณ์และจะมาเลือกอีก
คำพูดเหล่านี้ ทั้งจองหองและยั่วยุ อย่าว่าแต่ผู้อาวุโสที่โมโหในใจอยู่แล้ว เพราะแม้แต่เฉียวฉู่ก็แทบกระอักเลือดเมื่อเห็น
ชั่ว ชั่วจริงๆ ทำศพของเขาให้กลายเป็นสภาพแบบนั้นแล้ว ยังกล้าพูดว่า “นำกลับมาให้อย่างสมบูรณ์” แล้วพูดอีกว่าจะมาเลือกอีก…นี่ไม่ใช่เป็นการบังคับให้พวกผู้อาวุโสเหล่านั้นโมโหมากขึ้นไปอีกหรือ
“กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง” จวินอู๋เสียกล่าวอย่างเฉยเมย นอกจากยอดเขาเทียมเมฆา ศิษย์สายในของสำนักชิงอวิ๋นไม่มีใครดีเลย หมู่บ้านเชิงเขาที่หายไปและชาวบ้านที่หายไปเป็นฝีมือของคนเหล่านี้ทั้งสิ้น และสิ่งที่เลวร้ายกว่าคือหลังจากเข้ามาอยู่ในยอดเขาเร้นเมฆา พวกเขาจึงจะรู้ว่าในตอนนั้นหญิงสาวในหมู่บ้านเหล่านั้นได้ถูกข่มขืนกระทำชำเราก่อนที่จะเสียชีวิต สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นฝีมือของศิษย์สายในสำนักชิงอวิ๋นทั้งนั้น
ในชาติก่อนจวินอู๋เสียไม่เคยชอบหรือไม่ชอบอะไร สิ่งเดียวที่นางทนไม่ได้คือข่มขืนกระทำชำเราสตรี
แม้แต่ตอนที่อยู่ในองค์กร หากมีสมาชิกทำเรื่องแบบนี้ แม้ว่าผู้นำองค์กรจะเอ่ยปากเองนางก็ไม่รักษา นางจะมองคนเหล่านั้นทรมานแล้วตายไปอย่างเจ็บปวดด้วยสายตาเย็นชา
ดังนั้น จวินอู๋เสียจึงไม่ใจอ่อนแม้แต่น้อยเมื่อต้องลงมือกับลูกศิษย์เหล่านั้น
หากพระเจ้าไม่สามารถลงโทษพวกเขาได้ นางก็ทำแทนเอง
“เฮ่อ ข้าคิดว่าอีกไม่นาน ผู้อาวุโสเหล่านั้นก็คงไปวุ่นวายที่ฉินเย่ว์และเมื่อถึงเวลานั้นก็เป็นเวลาที่เราจะเก็บงานเสียที” เฉียวฉู่ลูบคางของเขา ทำเรื่องราวเล่านี้กับจวินอู๋เสียมันช่างอันตรายและน่าตื่นเต้นจริงๆ คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเด็กน้อยที่ปกติไม่ค่อยพูดจาเวลาทำเรื่องแบบนี้จะเป็นคนที่รอบคอบเยี่ยงนี้
เขาอยากจะเปิดศีรษะเล็กๆ ของจวินอู๋เสียออกเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในนั้น
“วางเรียบร้อยแล้วหรือ” ฮวาเหยากล่าวถาม เขาไม่ใช่คนที่ไม่คิดอะไรมากเหมือนเจ้าโง่เฉียว เขารู้ถึงความรุนแรงของเรื่องนี้ หากพวกเขาไม่สามารถล้มศัตรูได้คนที่ซวยก็จะเป็นพวกเขา
“เรียบร้อยนานแล้ว เรื่องที่น้องเสียสั่งข้าจะไม่ตั้งใจได้อย่างไร” เฉียวฉู่ตบหน้าอกของเขาด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เกินสามวัน ผู้อาวุโสเหล่านั้นจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน บอกให้มู่เฉินเตรียมตัวไว้ให้ดี ข้าไม่ต้องการให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ ขึ้น” จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้น หลังจากเตรียมงานมาหนึ่งเดือนกว่าก็ถึงเวลาเก็บงานเสียที
ให้นางลงโทษความบาปของสำนักชิงอวิ๋นเถิด
หลังจากออกมาเป็นเวลานาน นางก็เริ่มรู้สึกคิดถึง
ท่านปู่ ท่านอาเล็ก… จวินอู๋เย่า…
ถึงเวลาที่นางต้องกลับไปแล้ว
เมื่อเรื่องจบลง นางจะกลับไปที่จวนหลินอ๋องก่อนแล้วค่อยไปหลอมโอสถวิเศษให้เฉียวฉู่กับฮวาเหยา
“ได้ คืนนี้ข้าจะไปที่ยอดเขาเทียมเมฆา เพราะข้าไม่กล้าไปตอนกลางวัน ตอนนี้ลูกศิษย์ของยอดเขาเทียมเมฆาโกรธแค้นยอดเขาเร้นเมฆามาก” เฉียวฉู่เกาหัว เรื่องที่จวินอู๋เสียและมู่เฉินร่วมมือกันมีแค่พวกเขาสี่คนเท่านั้นที่รู้ ลูกศิษย์ของยอดเขาเทียมเมฆาคิดว่าผู้อาวุโสของตัวเองถูกรังแกที่ยอดเขาเร้นเมฆา ตอนนี้พวกเขามองคนของยอดเขาเร้นเมฆาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ถ้าพวกเขาพุ่งเข้ามาทุบตีนั้นถือว่าเบาแล้ว
…………
ตอนที่ 324 เก็บงาน (3)
สิ่งที่น่าหดหู่ใจยิ่งกว่านั้นคือแม้ว่าเฉียวฉู่จะถูกลูกศิษย์ของยอดเขาเทียมเมฆาทุบตี เขาก็ไม่สามารถโต้ตอบได้ ไม่เยี่ยงนั้นดูจากนิสัยของมู่เฉินแล้วถ้าเขาโต้ตอบมู่เฉินต้องเอาเขาตายแน่ๆ
ทุกอย่างพร้อมแล้ว รอแค่พายุมาเท่านั้น
และหลังจากนั้นสองวัน ผู้อาวุโสที่โมโหจนแทบกระอักเลือดเหล่านั้นก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป พวกเขารวมตัวกันแล้วไปยอดเขาเมฆาครามเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับลูกศิษย์ของพวกเขา
ถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าพวกเขายังทนต่อไปพวกเขาก็ไม่ต้องเป็นผู้อาวุโสกันแล้ว
ผู้อาวุโสทุกคนของสำนักชิงอวิ๋นออกตัวพร้อมกัน แม้แต่มู่เฉินที่ยังไม่หายดีก็ถูกลากไปด้วยเหลือเพียง ‘เคอฉังจวี’ ที่เป้าหมายของการทวงความยุติธรรมครั้งนี้
ฉินเย่ว์ที่นั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ของยอดเขาเมฆาคราม ตอนนี้หัวของเขาใกล้จะระเบิดแล้ว
ผู้อาวุโสของสำนักชิงอวิ๋นมีทั้งหมดสิบเอ็ดคน นอกจากเจียงเฉินชิงที่เสียชีวิตไปไม่นานและเคอฉังจวีผู้กระทำผิดแล้วก็มากันครบทุกคน
ผู้อาวุโสทั้งเก้าท่านนั่งลงสองฝั่งของห้องโถง แต่ละคนต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด
ในฐานะผู้อาวุโสที่อายุมากที่สุดและเป็นผู้อาวุโสมานานที่สุด ไช่จัวกล่าวขึ้นมาเป็นคนแรกด้วยสีหน้าขาวซีดร่างกายโอนเอนไปมา
“ท่านเจ้าสำนัก เคอฉังจวีมีเจตนาร้ายแอบแฝงอยู่! เขาบอกว่ายืมลูกศิษย์ของพวกข้าไปช่วยงานที่ยอดเขาเร้นเมฆาตามคำสั่งของท่าน เพราะเป็นคำสั่งของท่านพวกข้าจึงยอมให้ลูกศิษย์ไป แต่เขากลับทำอะไร ลูกศิษย์ที่เขานำไปตอนนี้ตายอย่างน่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้และศพของพวกเขายังถูกโยนไว้ที่หน้าประตูยอดเขาของพวกข้า”
ไช่จัวหอบแฮกแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า “พวกเขาเป็นลูกศิษย์ที่พวกข้าเลี้ยงดูมาด้วยตัวเอง! แต่ตอนนี้พวกเขากลับถูกเคอฉังจวีทรมานจนเสียชีวิต ศพของพวกเขาไม่มีศพใดที่มีสภาพสมบูรณ์เลย พวกเขาถูกทิ้งไว้บนยอดเขาแบบนั้น พวกเขาเป็นลูกศิษย์สำนักชิงอวิ๋นของเราแต่กลับถูกผู้อาวุโสของสำนักชิงอวิ๋นฆ่า เรื่องนี้ทำให้ลูกศิษย์คนอื่นๆ ผิดหวังมากเพียงใด ยิ่งไปกว่านั้นคือเคอฉังจวียังทิ้งจดหมายไว้ว่าเขาได้นำลูกศิษย์กลับมาให้อย่างสมบูรณ์แล้วยังบอกว่าจะมาเลือกลูกศิษย์อีก ท่านเจ้าสำนักในโลกนี้สามารถรังแกคนแบบนี้ได้หรือ”
ฉินเย่ว์กุมขมับ เส้นเลือดตรงขมับของเขาเต้นตุบๆ ให้ตายเขาก็ไม่คิดว่าเคอฉังจวีจะทำถึงขั้นนี้
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้อาวุโสท่านอื่นจะโมโห เพราะเรื่องที่เขาทำแม้แต่ฉินเย่ว์ก็ทนไม่ได้
เจ้าจะฆ่าคนเจ้าก็ฆ่าแต่เจ้ากลับนำศพไปทิ้งไว้หน้ายอดเขาของผู้อาวุโสแต่ละคน แบบนี้มันคือการไม่ไว้หน้าผู้อาวุโสทุกคนมิใช่หรือ
ตอนที่นำคนไป เขายังสามารถบอกว่าลูกศิษย์เหล่านั้นไปช่วยงานยอดเขาเร้นเมฆาไม่มีอันตรายใดๆ แม้ว่าสุดท้ายพวกเขาจะเสียชีวิต ตราบใดที่ผู้อาวุโสเหล่านั้นไม่เห็นศพด้วยตาของพวกเขาเอง พวกเขาก็ไม่มีหลักฐาน
แต่เคอฉังจวีกลับทำอะไร
เห็นได้ชัดว่าเพื่อเป้าหมายเขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
ถึงขั้นไม่ไว้หน้าผู้อาวุโสทุกคน
ตอนนี้ แม้แต่ฉินเย่ว์ก็ไม่รู้ว่าจะปกป้องเขาอย่างไร ในสถานการณ์ตอนนี้ผู้อาวุโสทุกคนโมโหมาก ศักดิ์ศรีและอำนาจของพวกเขาถูกยั่วยุ พวกเขาไม่มีทางยอมอย่างแน่นอน
“ข้าจะให้คำอธิบายเรื่องนี้กับทุกท่าน ไปเชิญผู้อาวุโสเคอมา” ฉินเย่ว์เข้าใจดีว่าหากเรื่องนี้เขายังเข้าข้างเคอฉังจวีอีก เกรงว่าผู้อาวุโสเหล่านี้อาจก่อกบฏได้ ดังนั้นให้เคอฉังจวีมาอธิบายด้วยตัวเองดีที่สุด
หลังจากนั้นไม่นาน ลูกศิษย์ที่ไปยอดเขาเร้นเมฆาก็ได้เชิญเคอฉังจวีมา
แต่นอกจากเคอฉังจวีแล้ว เขายังพาลูกศิษย์อีกสองคนมาด้วยและทั้งสามคนก็ยืนอยู่นอกห้องโถง
……………