บทที่ 185 เอาหลักฐานออกมา
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อพูดเรื่องต่างๆ กับลี่จุนถิงจบ ก็ออกไปจากห้องทำงาน ก่อนจะไปเตรียมเรื่องที่จะให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในตอนบ่าย
ตอนบ่าย ที่สถานที่การประชุมของนักข่าว
เพราะว่าครั้งนี้มันเกี่ยวข้องกับการลอกเลียนแบบของบริษัทเจียงหยุนเอ๋อ ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ตหรือเคาน์เตอร์ตามห้างต่างๆ ก็เป็นข่าวใหญ่ ดังนั้นการให้ข่าวกับนักข่าวในครั้งนี้ เลยมีนักข่าวมาเยอะมาก
ก่อนที่จะถึงเวลาให้ข่าวประมาณหนึ่งชั่วโมง สถานที่ก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมายแล้ว
บางคนเป็นนักข่าว บางคนเป็นลูกค้า บางคนมาดูฉากเด็ด บางคนมาหาความจริง
โดยรวมแล้วเป้าหมายของทุกคนไม่เหมือนกัน แต่ทว่าทุกคนก็มาเพราะเรื่องของการลอกเลียนแบบทั้งหมด
เจียงหยุนเอ๋อเห็นฉากแบบนี้มาจากอีกด้าน มันน่าตกใจมากเลย
ยิ่งคนเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้ว่ามีคนสนใจเจียงหยุนเอ๋อมากขนาดไหน
แต่ทว่าคนเยอะขนาดนี้ มันมีข้อดีต่อการล้างมลทิน ยิ่งคนเยอะเท่าไหร่ ผลลัพธ์ก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อเจียงหยุนเอ๋อเห็นว่าได้เวลาแล้ว ก็เตรียมตัวออกไปด้านหน้า
เมื่อเจียงหยุนเอ๋อออกไป นักข่าวก็หันมามองตาลุกวาว กล้องที่อยู่ในมือก็พากันสาดแฟลชเข้ามา
เจียงหยุนเอ๋อใช้มือบังเอาไว้ เพราะแสงที่สาดเข้ามามันสว่างเสียจนลืมตาไม่ขึ้น
นักข่าวเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อพยายามหลบแฟลช คิดว่าเธอคงจะกลัวถูกจับได้ กลัวว่าเธอจะหนีไป เลยรับยื่นไมค์ให้: “ผู้จัดการเจียง ที่เชิญนักข่าวมาในครั้งนี้จะประกาศอะไรเหรอ?คุณอยากจะขอโทษใช่ไหม หรือว่าผลการพิสูจน์ของพวกคุณมันออกมาแล้ว จะล้างมลทินให้ตัวเองงั้นเหรอ?”
ทุกคนมองไปทางเจียงหยุนเอ๋อ และสงสัยกับคำตอบนั้นมาก เรื่องนี้มันป่านมานานมากแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าบริษัทของเจียงหยุนเอ๋อจะหาผลอะไรออกมาได้หรือเปล่า
เจียงหยุนเอ๋อคิดว่าคนเยอะมาก เธอเลยยืนไม่อยู่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนตอบคำถามเลย
ซู่จี้งยี้ยืนอยู่อีกฝั่ง พบว่าตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อลำบากใจและตกอยู่ในอันตราย ก่อนที่จะพูดอะไรกับนักข่าว ใช้มือหนึ่งบังทางด้านหน้าของเจียงหยุนเอ๋อ และอีกมือหนึ่งอยู่ทางด้านหลัง กันคนจะเข้ามาชนเธอ: “ขอโทษนะ รบกวนทุกคนหลีกทางหน่อย ให้ผู้บริหารของพวกเราขึ้นไปหน่อยได้ไหม?วันนี้พวกเราจะล้างมลทินและทำทุกอย่างให้ชัดเจน”
เมื่อได้ยินซู่จี้งยี้พูดแบบนั้น นักข่าวเหมือนกับเห็นสัญญาณอะไรบางอย่าง เลยรีบยื่นไมค์ไปที่ปากของซู่จี้งยี้: “ถ้างั้นขอถามหน่อยว่าพวกคุณจะเอาหลักฐานอะไรมาล้างมลทินให้ตัวเองเหรอ?”
“พวกเราหาหลักฐานได้แล้ว พิสูจน์ได้ว่าในบริษัทมีหนอนบ่อนไส้ แถมยังพิสูจน์ได้ด้วยว่าบริษัทเซียวซื่อขโมยสูตรของพวกเราไป” ซู่จี้งยี้พูดพลางพาเจียงหยุนเอ๋อขึ้นไปบนเวที “รบกวนทุกคนหลีกทางหน่อย ให้ผู้บริหารของพวกเราขึ้นไปได้ไหม?”
เมื่อทุกคนเห็นว่าครั้งนี้จะมีข่าวใหญ่ เลยรีบหลีกทางให้
ในตอนนั้นเองเจียงหยุนเอ๋อคิดว่าอากาศรอบๆ มันสดชื่นเหลือเกิน เลยสูดอากาศหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินขึ้นเวทีไป
ก่อนจะจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองให้ดี
“ตอนนี้ ฉันอยากจะพูดอีกครั้ง บริษัทพวกเราไม่ได้ลอกสูตรของใครมา การลอกเลียนแบบครั้งนี้ เพราะถูกคนใส่ร้าย มันเป็นหลักฐานที่พวกเราหามาได้ ขอให้ทุกคนดูจอนี้” เจียงหยุนเอ๋อพูดออกไปทีละคำๆ ครั้งนี้มีหลักฐานแล้ว คำพูดของเธอเลยดูมีน้ำหนัก
แววตาของทุกคนต่างมองไปที่หน้าจอ
หน้าจอนั้นเผยภาพที่ถ่ายจากห้องทำงานของลี่จุนถิง แต่ทว่ากลับไม่มีใบหน้าของลี่จุนถิงอยู่ มีแต่ท่าทีของจ้าวเซียว ที่ถูกถ่ายเก็บเอาไว้ได้หมดเลย
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกตกใจ เธอไม่รู้เลยว่าลี่จุนถิงถ่ายทุกอย่างนี้เอาไว้ เธอมองไปที่ซู่จี้งยี้ อยากจะถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมื่อครู่ตอนที่ซู่จี้งยี้เข้าใกล้ตัวเองนั้น ก็พูดกับตัวเอง ว่าให้ทุกคนดูหน้าจอ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคลิปนี้
บนใบหน้าของซู่จี้งยี้เต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม
หลักฐานทั้งหมดเทียบกับการยอมรับจากปากของตัวเองไม่ได้เลย
หลังจากที่เปิดคลิปนี้เสร็จ ทุกคนก็เริ่มฮือฮากันขึ้นมา
คนที่ดูคลิปอย่างเงียบๆ อยู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น
“ให้ตายเถอะ คนรับผิดชอบคนนี้นี่เอง”
“นั่นสิ ดูๆ ไปแล้วสิ่งที่ผู้จัดการเจียงพูดมันก็ถูกนะ”
“ใจร้ายเกินไปแล้ว” มีบางคนเชื่อเมื่อได้ดูคลิปนี้
นักข่าวมากมายถูกบริษัทเซียวซื่อซื้อตัวไป เลยถามขึ้น: “ผู้จัดการเจียงขอถามหน่อยว่าคลิปนี้พวกคุณเป็นคนจัดฉากขึ้นหรือเปล่า?ยังไงก็มีหลักฐานแล้ว ทำไมคุณถึงได้เอาออกมาช้าขนาดนี้ล่ะ?”
“นั่นสิ ไม่แน่ว่าคนรับผิดชอบคนนี้ถูกพวกคุณใส่ร้ายไงล่ะ?” มีบางคนพูดขึ้น
เจียงหยุนเอ๋อถึงกับพูดไม่ออก ทำไมถึงได้มีคนคิดร้ายได้ขนาดนี้ล่ะ?
เมื่อรู้สึกตกใจกลัว ตัวเองสามารถอธิบายตอบคำถามนักข่าวได้เลยด้วยซ้ำ แต่ว่าเธอไม่มีหลักฐานอะไรเลยด้วยซ้ำ ถ้าหลักฐานนี้ไม่สามารถทำให้ทุกคนเชื่อได้ จะทำอย่างไรดี?
ซู่จี้งยี้ไม่รีบร้อนอะไร ก่อนจะยืนขึ้น และมีรอยยิ้มเหมือนกับลี่จุนถิงบนใบหน้า: “ฉันรู้ว่าคลิปนี้ไม่สามารถทำให้ทุกคนเชื่อได้ แต่ถ้ามีแค่หลักฐานเดียว พวกเราคงไม่ให้พวกคุณดูแบบนี้หรอก”
“งั้นคุณรีบเอาหลักฐานออกมาสิ” มีคนที่รีบร้อนพยายามกดดัน
หลักฐานต่างๆ มันจะอะไรนักหนาล่ะ
“ทุกคนไม่ต้องรีบร้อนไป” ซู่จี้งยี้ให้ทุกคนเงียบลงก่อน จากนั้นก็หยิบรายการออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง และให้ทุกคนดู
ทุกคนมองไม่เห็นว่ามันคืออะไร ต่างชะโงกดู เพราะอยากดูว่ามันคืออะไรกันแน่
ซู่จี้งยี้เอากระดาษนั้นวางไปที่เลนส์ ก่อนจะซูมและวฉายไปบนจอ: “นี่มันเป็นการโอนเงินออกไปนอกประเทศของบริษัทเซียวซื่อ แต่คนรับกลับเป็นคนรับผิดชอบของบริษัทพวกเราในครั้งนี้”
หลักฐานมันชัดมากขึ้นไปอีก นี่ก็เป็นการยืนยันได้แล้ว
ทุกคนต่างพากันตกใจยกใหญ่
นักข่าวของบริษัทเซียวซื่อ จนมาถึงตอนนี้ ก็ไม่กล้าพูดอะไรแล้ว
มีลูกค้าบางคนตกใจจนเอามือปิดปากตัวเอง: “นี่มันเป็นเรื่องจริง พวกเราดูผู้บริหารผิดไปแล้ว”
ไม่มีใครเคยคิดมาก่อนเลย บริษัทของเจียงหยุนเอ๋อจะถูกทำลายขนาดนี้
ทุกคนคิดมาตลอดเลยว่าทุกบริษัทมีกระบวนการการตรวจสอบเป็นปกติ
แต่พวกเขาถูกบังตากันหมด เลยมองพวกเขาผิดไป
เพียงแวบเดียว เสียงด่าทอของบริษัทเซียวซื่อก็ดังสนั่น
มีคนมากมายบนอินเทอร์เน็ตที่ดูการถ่ายทอดสด ก็เริ่มเคาะแป้นพิมพ์ วิจารณ์ต่างๆ นากับบริษัทเซียวซื่อ
เจียงหยุนเอ๋อมองคนที่อยู่ด้านล่างเวที ที่มีท่าทีตกใจ และได้ยินพวกเขาพูดคุยกัน รู้ว่าครั้งนี้ตัวเองกอบกู้ชื่อเสียงกลับมาได้แล้ว
มุมปากก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้น
เรื่องที่ทำให้ปวดหัวในช่วงนี้ มันถือว่าคุ้มค่ากับการแลกมาเหลือเกิน