บทที่ 186 น่าน้อยใจเหลือเกิน

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 186 น่าน้อยใจเหลือเกิน

เพราะว่าข่าวต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตก่อนหน้านี้ มันทำให้หุ้นของบริษัทเซียวซื่อตก ถือได้ว่าอยู่ในขีดอันตรายเลยล่ะ

ในขณะเดียวกัน บริษัทของลี่จีถองเองก็ถูกโยงไปด้วย มีลูกค้าไม่น้อยเลยที่คิดว่าพวกเธอนั้นได้มาอย่างไม่ใสสะอาด ไม่แน่ว่าอาจจะอยู่บนการกำหนดของเจียงหยุนเอ๋อก็ได้

“เห้อ ที่แท้ก่อนหน้านี้ก็เข้าในบริษัทของพวกเจียงหยุนเอ๋อผิดไปนี่เอง ฉันโทรไปขอคืนของอยู่ตลอดเลย……คิดไม่ถึงเลย ว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้”

ในร้านค้าซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ หลังจากที่หนุ่มสาวได้ยินข่าวนี้ ต่างพากันพูดคุยกันไปต่างๆ นานา

เมื่อได้ยินคนหนุ่มสาวพูดแบบนี้แล้ว เพื่อนของเธอมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด: “นั่นสิ ก่อนหน้านี้ฉันยังด่าบริษัทพวกเขาบนอินเทอร์เน็ตอยู่เลย…เห้อ คิดๆ ไปก็รู้สึกผิด”

ทั้งสองคนถกเถียงพูดคุยกันเสียงเบา เลยไม่ได้สนใจสิ่งที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ว่าเจียงหยุนเอ๋อยืนอยู่ข้างหลังชั้นวางถัดจากพวกเธอไป

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะถูกใส่ร้ายขนาดไหน แต่ทว่าก็ได้อธิบายไปหมดเรียบร้อยแล้ว เจียงหยุนเอ๋อเองก็รู้สึกสบายใจขึ้นได้ในที่สุด

หลังจากซื้อของจำนวนมาก เจียงหยุนเอ๋อก็เตรียมตัวจะกลับบ้าน ตรงทางเข้าออกของห้างก็เดินชนกับผู้หญิงสองคนนั้นพอดี

ก่อนหน้านี้ เจียงหยุนเอ๋อเองก็ออกทีวีเพราะเรื่องนี้ไม่น้อย และก็มีคนบนโลกอินเทอร์เน็ตไม่น้อยที่ว่าว่าเธอเป็นพวกห้างใจดำ ดังนั้นเลยถือว่าเป็นคนที่คนรู้จักกันไม่น้อยเลย

เมื่อครู่ทั้งสองคนไม่ได้สังเกตเห็นเจียงหยุนเอ๋อ พอมาเดินชนกันตอนนี้ ก็คิดออกแล้วว่าเป็นเจียงหยุนเอ๋อ

ดังนั้น พวกเธอเลยตกใจ มีคนหนึ่งดึงเสื้อเพื่อน ก่อนจะพูดเสียงเบาว่า: “นี่ ดูสิ ใช่เจียงหยุนเอ๋อหรือเปล่า?”

“เอ๋?” ผู้หญิงอีกคนไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้ เลยมองไป และก็คิดว่าเจียงหยุนเอ๋อดูคุ้นตา คนที่อยู่บนข่าวเมื่อครู่…เหมือนกันเลยไม่ใช่เหรอ?

“น่าจะใช่นะ……” เธอพูดเสียงเบา

ทั้งสองคนยังพูดอยู่ ก่อนจะเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อยิ้มพลางเดินเข้ามาหาพวกเธอ

ในสถานการณ์แบบนี้ ใจของผู้หญิงทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตึงเครียดขึ้นมา และก็ไม่รู้ด้วยว่าควรจะทำอย่างไรดี

“สวัสดีค่ะ ฉันคือเจียงหยุนเอ๋อเอง”

เพราะว่าก่อนหน้านี้ตัวเองมีเรื่องราวแบบนั้น ผู้หญิงทั้งสองคนเลยรู้สึกกลัวขึ้นมา ก่อนจะรีบยิ้มแห้งๆ พลางพูด: “เจียง……คุณหนูเจียงสวัสดีค่ะ……พวกเรา พวกเราแค่พูดไปเรื่อยน่ะ ไม่ได้หมายความไม่ดีเลยนะ”

เมื่อเห็นท่าทีตึงเครียดของทั้งสอง เจียงหยุนเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่ามันตลกดี: “พวกคุณไม่ต้องเครียดไป เมื่อครู่ที่พวกคุณพูดในห้างฉันได้ยินหมดแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างอธิบายไปหมดแล้ว ที่ผ่านมามันเป็นแค่ความผิดพลาด พวกคุณไม่ต้องใส่ใจ”

เมื่อเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อใจกว้างแบบนี้ ทั้งสองคนก็แอบตกใจเล็กน้อย

หลังจากนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็คุยกับพวกเธอเล็กน้อย ก่อนจะเชิญพวกเธอไปลองสินค้าใหม่ของบริษัทจากนั้นก็แยกจากกัน

ระหว่างทางกลับบ้าน ในใจของเจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกเห็นใจ

ในสถานการณ์แบบนี้ น่าจะมีคนคิดแบบผู้หญิงสองคนนั้นไม่น้อยเลย……

แต่ทว่า แบบนี้ก็ดี ยังไงเรื่องต่างๆ ก็สะสางเสร็จแล้ว สถานการณ์ของบริษัทหลังจากนี้คงจะดีขึ้นเอง

อีกฝั่ง ถึงแม้ว่าบริษัทของพวกน้าสาวจะถูกโจมตี แต่ทว่าก็เป็นแค่แผลเล็กน้อยเท่านั้นเอง

ถึงแม้ว่าจะมีคนโดนใส่ร้ายป้ายสีเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ แต่ถึงอย่างไรคุณภาพของผลิตภัณฑ์ก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่ ยังคงมีคนที่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์อยู่

ลี่จีถองเป็นห่วงอย่างมากในตอนแรก แต่หลังๆ พบว่าบริษัทไม่ได้เสียหายอะไรมาก เลยวางใจได้บ้าง

แต่ทว่า สถานการณ์ไม่เหมือนกับทางฝั่งของลี่จีถอง บางคนไม่ได้มีชีวิตที่ดีเหมือนเคยแล้ว——เช่น เซียวอี้เฟิงกับเจียงหนิงเอ๋อ

เพราะว่าความยากลำบากในครั้งนี้ บริษัทเซียวซื่อเลยได้รับผลกระทบหนัก ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีทุนเดิมที่ดีมากอยู่แล้ว อาจจะไม่มีโอกาสได้พลิกฟื้นกลับมาเลยก็ได้

ถึงแม้ว่าสถานการณ์ของบริษัทเซียวซื่อในตอนนี้จะไม่ได้ย่ำแย่ แต่ว่าไม่พูดไม่ได้เลยว่า มันเกิดผลกระทบอย่างหนัก

ช่วงนี้ อารมณ์ของเซียวอี้เฟิงนั้นหงุดหงิดง่าย เพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ครอบครัวเลยพากันประชุมเกี่ยวกับการปลดเขาออกจากตำแหน่ง

เซียวอี้เฟิงมีท่าทีทระนงและโดนเอาใจมาโดยตลอด จะไปแบกรับความน้อยเนื้อต่ำใจแบบนี้ได้อย่างไร

แต่ว่า เขาไม่มีทางขัดขวางความคิดเห็นของคนจำนวนมากเหล่านั้นได้เลย ถ้าเกิดว่าสุดท้ายพวกเขาตัดสินใจแบบนี้จริงๆ เซียวอี้เฟิงก็คงทำอะไรไม่ได้

ถึงแม้ว่าเซียวอี้เฟิงจะเคยขอร้อง แต่ก็ถูกเมิน แถมยังถูกรุ่นพี่สั่งสอนอย่างโหดเหี้ยมอีกด้วย,แต่ว่า

“คุณว่า คุณทำอะไรลงไปบ้าง?ชื่อเสียงของบริษัทเซียวซื่อถูกคุณทำลายหมด!” พ่อเซียวดุด่าเซียวอี้เฟิงอย่างจริงจัง

ในตอนแรกเซียวอี้เฟิงได้เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของบริษัทเซียวซื่อ ในชีวิตนี้ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เซียวอี้เฟิงได้มีหน้ามีตา

พ่อเซียวคาดหวังในตัวเซียวอี้เฟิงเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงตอนนี้กลับก่อเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ต่อจากนี้จะไปสู้หน้าคนในตระกูลเซียวได้อย่างไรกัน?

“พ่อ……ฉันเองก็คิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นแบบนี้นี่……” เซียวอี้เฟิงพูดด้วยความหงุดหงิดใจ

เรื่องนี้มันวุ่นวายมาถึงขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องไม่พอใจกันทั้งนั้น ยิ่งเขาในตอนนี้ยังต้องมาโดนดุด่าจากคนมากมายแบบนี้อีก

หลังจากนั้น เซียวอี้เฟิงเอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้าน เพราะว่าถูกปลดออกจากตำแหน่ง นับวันยิ่งเกลียดเจียงหนิงเอ๋อมากขึ้นไปอีก

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเจียงหนิงเอ๋อที่เป่าหูเขาอยู่ตลอดเวลาแบบนั้น ตัวเองจะไปทำให้เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน?

เพราะว่ารู้ว่าช่วงนี้เซียวอี้เฟิงไม่ค่อยสู้ดีนัก ก็ถือว่าเป็นคนซัพพอร์ตตัวเองคนหนึ่ง เจียงหนิงเอ๋อเลยไปหาเซียวอี้เฟิงด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่า……เซียวอี้เฟิงจะไม่ค่อยต้อนรับเธอสักเท่าไหร่

“เซียวอี้เฟิง ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นคุณออกจากบ้าน เอาแต่หมกตัวในบ้าน คุณไม่เบื่อเหรอ?” เจียงหนิงเอ๋อเอาของมากมายเข้ามาในบ้านของเซียวอี้เฟิง ก่อนจะเอ่ยปากถาม

เมื่อเห็นว่าเป็นเจียงหนิงเอ๋อ สีหน้าของเซียวอี้เฟิงก็ดูไม่ได้มากขึ้นไปอีก: “คุณมาที่นี่ได้อย่างไร?”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงแบบนี้ของเซียวอี้เฟิง ในใจของเจียงหนิงเอ๋อก็รู้สึกไม่ดี

ตัวเองตั้งใจมาหาเขาแท้ๆ เขากลับทำท่าทีแบบนี้เหรอ?

“ทำไมเหรอ?ตอนนี้ฉันเป็นห่วงก็ไม่ได้เหรอ?” เจียงหนิงเอ๋อทำปากมุบมิบเบาๆ พลางพูดด้วยความไม่พอใจ

เมื่อได้ยินดังนั้น เซียวอี้เฟิงก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก ก่อนจะยืนขึ้นแล้วเอาของทั้งหมดที่เจียงหนิงเอ๋อเอามาขว้างลงกับพื้น: “ฉันเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เพราะคุณทำหรอกเหรอ?ถ้าไม่ใช่เพราะว่าได้ยินที่คุณพูด ฉันจะเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้เหรอ?”

เมื่อมองท่าทีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟของเซียวอี้เฟิง ในใจของเจียงหนิงเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยใจ