บทที่ 187 งานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 187 งานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ

วันต่อมา

“ เมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้วก็ทำให้ตัวเองดูใสสะอาดได้” เซียวอี้เฟิงปาหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะอย่างแรง โดยที่เต็มไปด้วยความโกรธ

หลังจากที่ตัวเองประกาศเสร็จ หุ้นของตระกูลเซียวก็ร่วงระนาว เพียงแค่อาทิตย์เดียวหุ้นก็ร่วงไปสามจุด

สำนักข่าวต่างๆ ลงข่าวกันเป็นว่าเล่น สำนักข่าวต่างของบริษัทต่างๆ ยุ่งกันเป็นอย่างมาก

งานประชุมของผู้บริหารนั้นสั่งสอนละดุด่าเซียวอี้เฟิงอย่างหนัก เมื่อพิจารณาจนถึงจุดสูงสุด สุดท้ายก็จะต้องปรับเรื่องราวต่างๆ ภายในสองสัปดาห์

มันให้เซียวอี้เฟิงยิ่งโกรธขึ้นไปอีก แค่ความแข็งแกร่งที่ตัวเองมีนั้นจะเอาไปสู้ได้อย่างไร เขาไม่ใช่เทพเทวดาที่ไหน

“งั้นตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?” ผู้ช่วยถามด้วยอาการสั่นครืน

“จะทำอย่างไรได้ล่ะ ทำได้แค่พยายามยื้อเรื่องนี้ให้ได้มากที่สุด จะให้ดีก็ต้องเอางานนี้ออกไป ถ้าไม่อย่างนั้นตามสถานการณ์แบบนี้ ยังไงก็ต้องจบไม่ดีแน่นอน!” เซียวอี้เฟิงพูดด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

เรื่องนี้ยังไงก็ต้องเกิดผลกระทบอย่างหนักต่อบริษัทเซียวซื่อ

ถ้าเลือกที่จะออกมาขอโทษ ก็จะถูกมองว่ายอมรับความผิดไปโดยปริยาย แล้วก็ถือว่าเป็นการยืนยันความผิดของตัวเองอย่างแท้จริง

แต่ถ้าไม่ขอโทษก็ต้องเสียลูกค้าเป็นจำนวนมาก ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือผลักเรื่องนี้ไปให้คนอื่น

ทำให้ตัวเองบริสุทธิ์ที่สุด ให้ไม่มีที่ให้เดินต่อไปเลย

เซียวอี้เฟิงจุดบุหรี่ขึ้นมา ก่อนจะขมวดคิ้ว พลางถามด้วยความไม่พอใจ “เรื่องที่ฉันให้คุณทำก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ตรวจสอบจนหมดแล้ว” ผู้ช่วยพยักหน้า

“โอเค งั้นก็ทำตามทุกอย่างที่วางแผนเอาไว้ อย่าให้เกิดข้อผิดพลาดหรือรั่วไหลอะไรเลยแม้แต่น้อย” เซียวอี้เฟิงสูบบุหรี่เข้าลึกๆ มุมปากพลางมีรอยยิ้มที่ดูไม่ได้ตั้งใจ มันทำให้คนมองไม่ออก

เช้าวันที่สอง บนweiboมีคลิปหนึ่งว่อนเน็ต แถมยังอยู่บนหน้าแรกอีก

บนนั้นมีตัวหนังสือ บอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นของบริษัทเซียวซื่อมีความเกี่ยวข้องกับอดีตคนดูแลบริษัทของเจียงหยุนเอ๋อ——จ้าวเซียว

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุคคลสำคัญใหญ่โตหลายคนเสนอ ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จ้าวเซียวแอบวางแผนเอาไว้ทั้งหมด เป้าหมายก็คือผลประโยชน์ อีกอย่างขนาดคลิปและรูปภาพเขาก็มีหมด

เมื่อมีเรื่องนี้เกิดขึ้น ความนิยมของบริษัทเซียวซื่อถือว่าหายไปราวๆ ครึ่งหนึ่ง มันยากที่จะกอบกู้ชื่อเสียงกลับมาได้

มีเพียงแต่จ้าวเซียวที่เข้าคุกไป

ทางอีกฝั่ง——

เพราะว่าหลักฐานเพียงพอแล้ว ศาลเลยสามารถปิดคดีความได้

ตระกูลเซียวต้องชดเชยค่าเสียหายให้กับบริษัทของเจียงหยุนเอ๋อสองเท่าตัว

ดังนั้นบริษัทเลยจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง ทุกคนกินอย่างเอร็ดอร่อย เพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ

“สรุปแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ต้องขอบคุณทุกคนสำหรับความช่วยเหลือ” เจียงหยุนเอ๋อยกเหล้าขึ้นก่อนจะดื่ม จนหมดแก้ว ระหว่างที่เอาแก้วเหล้าส่งเข้าปาก เจียงหยุนเอ๋อดื่มหมดในครั้งเดียว เหมือนกับจะมีความสุขมาก แถมยังลืมเรื่องท้องของตัวเองไปเลย

ในสถานการณ์แบบนี้ ทยอยทุกคนลุกขึ้นมาคุยตัวต่อตัว ก่อนจะ รินไวน์แดงลงแก้ว

เมื่อเอาแก้วไวน์แดงวางลงบนโต๊ะ เจียงหยุนเอ๋อก็พูดต่อว่า “ฉันรู้ว่าบริษัทจะสามารถมีวันนี้ได้ก็เพราะความขยันอดทนของทุกคน ดังนั้นฉันเลยตัดสินใจให้รางวัลกับทุกคน ถือเป็นการปลอบใจ”

เมื่อพูดจบ เจียงหยุนเอ๋อก็หยิบกระเป๋า มือที่เรียวยาวหยิบแบงก์สีแดงออกมา เงินแต่ละกองถูกมัดด้วยเชือกสีน้ำตาล นับเงินอยู่สักพัก ทั้งหมดน่าจะประมาณหนึ่งล้านได้

“มีเงินสดทั้งหมดนี้ มีมากกว่าหนึ่งล้าน ฉันจัดสรรปันส่วนให้ตามจำนวนคนในแต่ละแผนก ถือว่าเป็นกำลังใจเล็กๆ น้อยๆ สำหรับทุกคน และสำหรับการอุทิศให้บริษัท”

หยุดไปสักพัก ก่อนจะพูดต่อ “แน่นอนว่าฉันเองก็หวังว่าเงินนี้จะสามารถซื้อใจทุกคนได้ จากนี้ไปขอให้บริษัทพวกเราดำเนินไปได้ด้วยดี อย่าได้ทำอะไรที่จะเกิดอันตรายกับบริษัทและเกิดอันตรายขึ้นกับตัวเอง” เจียงหยุนเอ๋อมีสายตาผลุบมือลง

เมื่อผ่านเรื่องราวอะไรต่างๆ ก็ทำให้ได้ประสบการณ์

ในตอนแรกคนที่รับผิดชอบก็เป็นเพราะเงินเลยทรยศบริษัท ดังนั้นหลังจากกลับมา เธอก็ทำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกอย่างจริงจัง

คนที่สามารถทำงานที่บริษัทนี้ได้ ก็เป็นเพราะเคยเชื่อมั่นในตัวเจียงหยุนเอ๋อ ถ้าเกิดว่าเรื่องนี้มันเกิดความผิดพลาด หลังจากนี้บริษัทยังจะสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างไร?แล้วจะส่งสินค้าออกนอกนอกประเทศได้อย่างไร?

ดังนั้นคุณภาพของทุกคน เธอมีการรับประกัน

แน่นอนว่า ทุกคนในที่นี่ก็ไม่ใช่คนที่จะทำอะไรลับๆ เลยเข้าใจคำพูดของเจียงหยุนเอ๋อได้โดยปริยาย

สำหรับความเคารพรักของเธอนั้นก็เกิดขึ้นเล็กเบาๆ คิดไม่ถึงเลยว่าเจียงหยุนเอ๋อจะสามารถพูดอะไรแบบปกติออกมาได้ ทั้งๆ ที่เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น โดยที่ไม่มีความโกรธเคืองซ่อนอยู่เลย

มันเป็นเหมือนงานชิ้นเอก

เมื่อเห็นว่าหลายๆ คนพึงพอใจมาก เจียงหยุนเอ๋อเลยเอาเงินที่ตัวเองเตรียมมาส่งให้กับหัวหน้าของทุกฝ่าย เพื่อให้พวกเขาแบ่งปันตามชื่อที่อยู่บนซอง และไม่ให้ตกหล่นเลยแม้แต่คนเดียว

คิวยาวมาก ถือได้ว่ามั่นคงและเป็นระเบียบ อย่างน้อยอารมณ์และทัศนคติของทุกคนก็ดีมาก

จนกระทั่งเสี่ยวเฉิน รับเงินแล้วก็หน้าแดง ก่อนจะก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย พลางยืนอยู่ที่เดิมด้วยความเงอะงะ แล้วก็มองชั้นอยู่แบบนั้น

รู้สึกเหมือนมีอะไรไม่ชอบมาพากล เจียงหยุนเอ๋อถามด้วยความเป็นห่วง “ทำไมเหรอ?มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นไหม?”

“ไม่ไม่ไม่มีอะไร……” เสี่ยวเฉินพูดประจบประแจง

เจียงหยุนเอ๋อขมวดคิ้วไปเอง พลางยักขึ้นขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ : “ถ้าเกิดว่าเงินไม่พอ ก็ติดต่อฉันได้เลยนะ”

“ไม่ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น อันที่จริงเจียงหยุนเอ๋อ ขอโทษนะ……” เสี่ยวเฉินเงียบอยู่นาน ก่อนจะพูดความคิดที่อยู่ในใจของตัวเอง

“ตอนแรกฉันไม่รู้อะไรเลย เอาแค่โทษคุณเหมือนกับคนโง่เขลา ขอโทษ……” เสี่ยวเฉินก้มหน้าลงพูดความในใจ

น่าจะเป็นเพราะคิดไม่ถึงเลยว่าเสี่ยวเฉินจะพูดขอโทษออกมาแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อเลยอดไม่ได้ที่จะตะลึงไปเล็กน้อย

เงียบอยู่พักหนึ่ง มุมปากของเจียงหยุนเอ๋อก็ยิ้มขึ้นเบาๆ ก่อนจะตบไหล่เธอ “ฉันรู้ว่าคุณก็คิดถึงบริษัท ตอนนี้ทุกอย่างก็โอเคแล้วไม่ใช่เหรอ?ไม่มีเรื่องอะไร”

“แต่ว่า……” เสี่ยวเฉินเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะสบตากับเจียงหยุนเอ๋อ

“ไม่มีแต่ว่าอะไรทั้งนั้น ตอนแรกที่คุณไม่ออกมาโทษฉัน แต่ตอนนี้ฉันกลับว่าคุณว่าไม่ให้ใจกับบริษัท” เจียงหยุนเอ๋อถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะยิ้มออกมานิดๆ

แน่นอนว่าเจียงหยุนเอ๋อ ไม่ใช่คนที่จิตใจกว้างขวางอะไร แต่ว่าทุกคนก็ทำเพื่อบริษัท เลยไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกล่าวโทษ

ถึงแม้ว่าในตอนแรกนั้น ในใจของเธอยังรู้สึกไม่สบายใจ แต่ว่าสุดท้ายก็ค้นพบแล้ว อันที่จริงมันไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อผ่านการพิสูจน์มาแล้วก็ยังมีพนักงานมากมายที่อยากจะให้บริษัทพัฒนาไปในทางที่ดี