ตอนที่ 221 หลักสูตรเก็บกวาดหมี

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

221 หลักสูตรเก็บกวาด

 

“――เนีย・ลิสตัน ทำไมไม่ลองต่อสู้กับ อีสจากหลักสูตรเก็บกวาดล่ะ”

 

โอ๊ะ?

 

วันรุ่งขึ้นหลังมีลูกศิษย์ชั่วคราวชื่อมิโตะ

ซิลเลนที่หดหู่ใจก็พูดว่า「เราจะไปทำให้ความรู้สึกกลับมาเป็นปกติก่อน」แล้วกลับไปที่ปราสาท วันนี้ฉันจึงไปโรงเรียนคนเดียวเป็นครั้งแรกหลังจากผ่านมาระยะหนึ่ง

 

ขณะที่ฉันเดินผ่านประตูโรงเรียน ฉันก็ได้พบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีผิวสีแทนที่ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ต่างแดนเรียกตัวเอาไว้

 

“เมื่อกี้คุณพึ่งบอกว่าอยากสู้กับฉันเหรอคะ?”

 

“ไม่ได้พูดแบบนั้น แต่ก็น่าสนใจอยู่”

 

เธอดูอายุประมาณสิบสี่หรือสิบห้าปี มีผิวสีแทน และมีผมสั้นสีน้ำตาลแดงเกือบดำ แม้ว่ามองแวบแรกจะดูเหมือนเด็กผู้ชายก็ตาม แต่เธอเป็นผู้หญิงแน่นอน

เหตุผลที่เธอพูดในลักษณะที่ค่อนข้างโบราณ อาจเป็นเพราะเป็นชาวต่างชาติจากต่างประเทศจริง ๆ

 

……เดาว่ามีคนอื่นนอกเหนือจากฉัน นักเรียนต่างชาติ ไม่สิ เป็นไปได้ไหมที่ทั้งครอบครัวจะย้ายมาที่นี่

 

“ขอโทษที เธอพูดกะทันหันไปหน่อย ฉันเลยฟังไม่ชัด คุณพูดว่าอะไรนะ?”

 

“เธออยากสู้กับอีสจากหลักสูตรเก็บกวาดไหม?”

 

สาวน้อยพูดช้า ๆ เพื่อให้ฉันได้ยินเธออย่างถูกต้อง ไม่สิ เป็นเพราะจู่ ๆ ก็มาพูดหนอก ออกเสียงได้ดีเลย

 

แต่ถึงอย่างงั้นฉันก็ยังไม่เข้าใจ ฉันไม่เข้าใจความหมายของคำพูด

 

“อีส?”

 

“อืม”

 

เธอพยักหน้าและเชิดหน้าอก บางทีสาวน้อยคนนี้อาจจะชื่ออีส

 

“หลักสูตรเก็บกวาดคืออะไร?”

 

“หลักสูตรศาสตร์การต่อสู้น่ะ”

 

……อืม เข้าใจล่ะ เข้าใจล่ะ ฉันคิดว่าเหมือนเคยได้ยินชื่อนี้อยู่เหมือนกัน

 

“พูดโดยสรุปก็คือ……..คุณกับหลักสูตรเก็บกวาดต้องการต่อสู้กับฉันด้วยเหตุผลบางอย่าง?”

 

“อืม”

 

ฟุมุ งั้นเหรอ

ม๊า ไม่มีทางที่ฉันจะไม่สนใจถ้าได้ยินเรื่องการต่อสู้

 

――แต่ยังไงก็ตาม

 

“เน๊”

 

ฉันจับทหารจักรกลหญิงคนหนึ่งที่กำลังหัวเราะคิกคักและพยายามเดินผ่านไป ฉันจำใบหน้าของเธอได้ กี่ครั้งแล้วที่คุณมีส่วนร่วมน๊า

 

“คุณหัวเราะเยาะเธอทำไม? แล้ว『หลักสูตรเก็บกวาด』ที่พูดถึงคืออะไร?”

 

“ปะ ปล่อยนะ! จู่ ๆ ก็ทำอะไรกันย๊ะ!”

 

“แปลกจังเน๊?”

 

ฉันดึงแขนของเธอให้เข้ามาใกล้ขึ้น คว้าหน้าอกให้เธอก้มลงมาอีก

และจากนั้นก็ถามคำถามกับเธอด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เธอดูกังวล

 

“คุณเลือกต่อสู้ก่อนจริงไหม? คุณจะบอกว่าไม่ได้เลือกสิ่งนี้เองเหรอ? ช่วยหยุดทำตัวเหมือนเหยื่อได้ไหม?”

 

“อะ อะ อะไรเล่า! แค่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับซิลซามาะนิดหน่อย! ยังไงก็พวกหลักสูตรทั่วไปอยู่ดีล่ะน๊า!”

 

“คุณไม่หนวกหูไปหน่อยเหรอ? คุณเป็นคนเริ่มการต่อสู้ก่อนน๊า――หืม?”

 

พอฉันหันกลับไป…….อีสก็มองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มอันดุร้ายบนใบหน้า

 

“――ดีจังน้า เธอ ดีน้า เป็นนักสู้น้า”

 

…………

 

“แม่นั้นอ่อนแอ นักรบจะปกป้องผู้อ่อนแอ ดังนั้นยกโทษให้เธอซะ ความภาคภูมิใจของเธอจะถูกทำให้มัวหมอง”

 

……โห๊ว คุณต้องการแก้ปัญหาแบบนักรบกับฉันเหรอ

 

“น่าสนใจเน๊ คุณน่ะ”

 

จู่ ๆ ฉันก็เริ่มสนใจแล้ว

ฉันไม่รู้ว่าเธอเรียกฉันไว้เพื่ออะไร แต่ฉันอยากได้ยินเรื่องจากเธอ

 

 

 

ระหว่างพักรับประทานอาหารกลางวันในวันนั้น ฉันนำ「กล่องอาหารกลางวันแห่งความรักโอโจซามะ」ติดตัวมาด้วย ฉันกำลังไปเยี่ยมชมห้องเรียนของชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 หลักสูตรเก็บกวาดของอีส

 

“เนีย! มาแล้ว!”

 

ฉันมองเข้าไปในห้องเรียน และ อีสก็ออกมาผลักฉันเข้าไปในห้องเรียน

 

――นี่เป็นห้องเรียนเล็ก ๆ ที่เงียบเหงาสำหรับหลักสูตรทั่วไปด้วยเช่นกัน แต่มีนักเรียนสามคนอยู่ภายใน

 

ชายหนุ่มร่างใหญ่ เด็กชายรูปร่างปานกลาง และสาวน้อยร่างเล็ก

และอีสสินะ

 

“เนียล่ะ! ดูสิ! ไมค์ดูสิ!”

 

“เห็นแล้วน๊า”

 

เด็กชายรูปร่างปานกลางตอบอย่างห้วน ๆ

 

“นอกจากนี้ยังมีเสียงสุด ๆ เนีย・ลิสตัน นักเรียนต่างชาติที่เลือกจกสู้กับหลักสูตรทหารจักรกล”

 

“นักรบล่ะ! นักรบล่ะ!”

 

“ก็เคยได้ยินเรื่องนั้นอยู่หรอก ………เอ๊ะโตะ ขอโทษที? คิดว่าบางทีอีสอาจจะบังคับเชิญเธอมาสินะ…….”

 

เด็กชายรูปร่างปานกลางที่ดูเหมือนเป็นพี่ชายคนโตพูดจาใจดีกับฉัน

 

“ไม่ค่ะ ไม่เลย นอกจากนี้อีสกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างอยู่………ฉันสนใจเรื่องนั้นมากเลยจนอยากถามคะ”

 

“อะ อ้า………เอ๊ะโตะ……..จะ จะพูดยังไงดี……….”

 

ยังไงดีเหมือนอยากจะหลีกเลี่ยงล่ะ ทำไมล่ะ คุณวางแผนที่จะต่อสู้กับศัตรูที่ยากลำบากอย่างงั้นเหรอ ไม่เห็นต้องกังวลเลย น่าตื่นเต้นดีออก

 

“ทหารจักรกล!”

 

ความตื่นเต้นของฉันถูกรบกวนด้วยการเข้ามาขัดของอีส

 

“ทหารจักรกล! ต่อสู้! หลักสูตรเก็บกวาด! เทศกาลที่กำลังมาถึง! สู้!”

 

…………

 

“………ฮะๆๆๆ……….ม๊า ก็ความรู้สึกทำนองนั้น……….”

 

…………

 

“เอ๊ะ? หลักสูตรนี้จะไปต่อสู้กับทหารจักรกลในเทศกาลฤดูหนาวนี้อย่างงั้นหรือคะ? และก็เลยเรียกฉัน?”

 

“ขอโทษเน๊ะ มันคงจะน่ารำคาญมากที่ได้ยินเรื่องไร้สาระแบบนี้ เป็นการดีกว่าที่จะไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับพวกเราน่ะ”

 

……โอะ โอ้

 

“ฉันเองที่ควรจะพูดขอโทษค่ะ ฉันเสียสมาธินิดหน่อยค่ะ”

 

“เอ๊ะ?”

 

ทหารจักรกลสินะ…….มันไม่สนุกเลยที่จะต่อสู้กับสิ่งที่อ่อนแอแบบนั้นเลยน๊า ยิ่งไปกว่านั้น ในปีนี้แทนที่จะเป็นทหารประจำการ แต่กลับให้นักเรียนหลักสูตรทหารจักรกลแทน

ฉันไม่รู้สึกอยากเข้าร่วมเลยน๊า

 

…………

 

แต่เดี๋ยวก่อน?

กะแล้วฉันรู้สึกสนใจเรื่องนี้นิดหน่อย

 

“ฉันคิดมาตลอดทางเลย ช่วยเล่าเรื่องให้ฉันฟังหน่อยได้ไหมคะ?”

 

“เอ๊ะ? อยากฟังเหรอ?”

 

อยากฟังสิ

เมื่อวันก่อน ลูกศิษย์คนใหม่ของฉันก็ตัดสินใจที่จะต่อสู้กับทหารจักรกลเหมือนกัน

 

ถ้าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ฉันจะแนะนำให้กับซิลเลน

 

 

 

“พวกเราหลักสูตรเก็บกวาด ……….เอ๊ะโตะ พูดให้เข้าใจง่าย ๆ เดาว่าน่าจะเหมือนกันทหารฝึกหัดล่ะนะ ในสนามรบ พวกเราคือคนที่ทำในสิ่งที่ทหารจักรกลทำไม่ได้ยังไงล่ะ”

 

อีสกับชายหนุ่มร่างใหญ่วิ่งไปที่ไหนสักแห่งเพื่อให้แน่ใจว่าทีอาหารกลางวันทำหรับทุกคน

 

ระหว่างนี้ก็นั่งลงและแนะนำตัวเองกัน

 

คนที่มีรูปร่างปานกลางและมีความสูงปานกลางคือ ไมค์・เอ็นคาร์โด้

เขาเป็นลูกชายของนักผจญภัย และได้เรียนรู้วิชาดาบจากพ่อตั้งแต่อายุยังน้อย

 

และ สาวน้อยที่นิ่งเงียบตลอดเวลาก็คือ ฮอลโลว์・กิฟเวนส์

สิ่งเดียวที่ไมค์แนะนำให้ฉันรู้จักคือชื่อของเธอ ดังนั้นจึงไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่านั้น แต่ตอนนี้ไม่เป็นไร

 

“ทหารฝึกหัด เข้าใจล่ะ ……….แล้วหลักสูตรเก็บกวาดคืออะไรคะ?”

 

“ฮะ ฮ่าๆๆ………เป็นชื่อสามัญล่ะ หลักสูตรเก็บกวาดสินะ

งานของทหารในแนวหน้าของมาเวเลียก็คือ การเก็บกวาดสัตว์อสูรที่ถูกทหารจักรกลสังหาร และเก็บหินเวทมนตร์ ฯลฯ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง

พวกเราจะทำความสะอาดสนามรบที่ทหารจักรกลทิ้งไว้เบื้องหลัง นั่นล่ะหลักสูตรเก็บกวาด”

 

งั้นเหรองั้นเหรอ

 

“ฉันได้ยินบางอย่างที่พูดยากแล้วสิเน๊”

 

“ไม่สำคัญหรอก จริง ๆ แล้วก็เป็นสิ่งที่สามารถหาข้อมูลได้ง่าย ๆ อยู่แล้วถ้าหาสักหน่อย”

 

――แล้ว 

 

“ทำไมคุณถึงบอกว่าหลักสูตรเก็บกวาดต้องการต่อสู้กับทหารกลล่ะคะ?”

 

“ถ้าถามว่าทำไม……..ก็เป็นเพราะอีสโกรธล่ะเน๊ะ เธอโกรธเพราะโดนพวกนักเรียนทหารจักรกลล้อเลียน ดังนั้นก็เลยตัดสินใจสู้น่ะ”

 

อาร๊า

 

“หรือก็คือการต่อสู้เน๊ะ?”

 

“ม๊า นั่นสินะ พวกเราสี่คนในหลักสูตรเก็บกวาด อาจจะได้สู้กับทหารจักรกลหนึ่งคน……นั่นคือสิ่งที่เรากำลังคุยกันอยู่”

 

“อาจจะได้ต่อสู้?”

 

“ก็อย่างที่เดาได้ การต่อสู้ระหว่างทหารมีเลือดเนื้อและทหารจักรกลไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เกรงว่าทางโรงเรียนเองก็จะไม่อนุญาตเหมือนกัน จริง ๆ แล้วดูเหมือนคงต้องยอมแพ้ล่ะ”

 

ม๊า เน๊ะ

 

ในฐานะคนที่ทำลายทหารจักรกลไปมากกว่าห้าสิบนายเมื่อวันก่อน แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่การต่อสู้ระหว่างทหารมีเลือดเนื้อกับทหารจักรกลไม่มีทางได้รับอนุญาตได้ง่าย ๆ หรอก เพราะถ้าทำไม่ดีก็จะมีคนตายแน่นอน

 

“แล้ว ไมค์มีแรงจูงใจไหม? ดูเหมือนอีสจะมีแรงจูงใจสูงมากนะ”

 

“อื~ม ……….ม๊า ก็จะทำล่ะนะ”

 

ไมค์ที่เคยเป็นพี่ชายที่ใจดีมาจนบัดนี้กลับมีสีหน้าเคร่งขรึมและเย็นชา

 

“การถูกหัวเราะเยาะใส่ถือเป็นเรื่องปกติ แต่การที่เพื่อนถูกหัวเราะเยาะใส่เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้จริงไหมเน๊ะ เรื่องแบบนั้นสะสมมาหลายปีแล้ว คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องเหวี่ยงกำปั้นอย่างน้อยสักหนึ่งครั้งได้แล้ว ต่อให้จะต้องพ่ายแพ้ก็ตาม”

 

ฟุอืม ใช่ เข้าใจล่ะ

 

“ดีจังเน๊ ฉันตอบรับความโกรธนั่น”

 

ฉันไม่รู้ว่าฉันจะลงมือได้มากแค่ไหน

แต่เรื่องนี้ ฉันก็อยากจะดูจนจบเหมือนกัน

 

 

 

 

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

 

คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ 

{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}

 

ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ

ขอบคุณงับ

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

ไร้สาระ

ทั้งๆที่เริ่มร้อนแล้ว แต่ฝุ่นหนาจัดจนต้องปิดหน้าต่างปิดบ้าน กลายเป็นเตาอบเรียบร้อย ฮา

อาบน้ำเสร็จแทบไม่อยากใส่เสื้อผ้าเลย ฮา