222 คำขอของซิก
ขณะที่พวกเรายังคุยกันอยู่ สมาชิกของหลักสูตรเก็บกวาดสองคนที่ไปซื้นอาหารกลางวันก็กลับมา
“ข้าคือดิออน・อิเบส”
ชายหนุ่มร่างใหญ่คนนี้เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นลูกชายของทหารที่ทำงานให้กับมาเวเลีย เขาดูเป็นคนเงียบ ๆ และไม่พูดอะไรมาก
“อีสคืออีส ฉันบอกชื่อจริงได้แค่ครอบครัวและสามีของฉันเท่านั้น”
โอย๊ะ
จากคำพูดของสาวน้อยต่างชาติที่เรียกฉันมาที่นี่ เดาว่า「อีส」น่าจะเป็นนามสกุลครอบครัว
………อีส สินะ
“เหมือนกับของราชาคนเถื่อน ไกสต์・อีสเลยเน๊ะ”
ราชาคนเถื่อน เขาเป็นวีรชนที่มีบทบาทก่อนที่「วิเครันด้า ผู้ฉีกกระชากแผ่นดิน」จะทำลายโลก
กล่าวกันว่าในช่วงเวลาที่โลกยังไม่ถูกทำลาย เขาเริ่มทำสงครามกับประเทศทุกประเทศเพื่อที่จะบรรลุความทะเยอทะยานในการครอบครองโลก และได้รับชัยชนะในทุกประเทศ
ไม่ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน เขาก็ไม่ยอมตาย ไม่ยอมแพ้ และมีแต่จะก้าวไปข้างหน้า
นั่นคือ「ไกสต์・อีส ราชาผู้โหดเหี้ยมพันความตาย」
หากวิเครันด้าไม่ได้ทำลายโลก ราชาคนเถื่อนอาจจะสามารถครองโลกได้จริง ๆ
ผู้ที่มีชื่อในประวัติศาสตร์ก่อนเกิดเกาะลอยฟ้าที่ยังคงเป็นที่รู้จักในปัจจุบันนั้น มีเพียงน้อยนิด
นี่เป็นชื่อที่ไม่ค่อยปรากฏแม้แต่ในหนังสือประวัติศาสตร์เก่า ๆ
ม๊า รวมถึงเหล่าวีรชนในอดีตคนอื่น ๆ เช่นกันที่ทุกวันนี้จะได้ยินเกี่ยวกับพวกเขาแค่เพียงในเทพนิยาย หรือนิทานพื้นบ้านเท่านั้น
“หึ!”
อีสเชิดหน้าอกอย่างภาคภูมิใจ
“ไกสต์! บรรพบุรุษของอีส!”
เอ๊ะ
ไมค์พูดด้วยรอยยิ้มฝืน ๆ ให้กับฉันที่ประหลาดใจตามปกติ
“ไม่ต้องใส่ใจกับเรื่องนั้นหรอก ดูเหมือนว่าอีสจะโตมากับการถูกบอกแบบนั้น แต่ไม่มีอะไรที่จะพิสูจน์ได้เลย”
…….โห๊ว ไม่มีหลักฐานใด ๆ แต่ทายาทของไกสต์・อีส……สินะ
เมื่อมองอย่างใกล้ชิด จู่ ๆ อีสที่กำลังยัดขนมปังที่ซื้อมาเข้าปากงั่ม ๆ ก็พูดขึ้น
“จริง โกหก จะอะไรก็ได้ ความจริงอยู่ในใจของอีส แค่นั้นก็พอ”
…………
เธอเป็นสาวน้อยที่น่าสนใจ ทายาทของคนงี่เง่าคนนั้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโกหกหรือความจริง แต่ฉันก็ต้องคอยจับตาเรื่องนี้ให้มากขึ้น
――ฉันออกจากหลักสูตรเก็บกวาดโดยไม่ได้พูดคุยอะไรมากนัก
เราพึ่งได้พบหน้ากันเท่านั้น เพียงพอแล้วสำหรับวันนี้
แล้วพบกันใหม่ ครั้งหน้าฉันอยากจะถามเรื่องบางอย่างในเชิงลึกในภายหลัง
ฉันกลับมาที่คฤหาสน์ ขณะกำลังคิดกับตัวเองว่าฉันจะมีเรื่องสนุกมากขึ้นในภายหลัง
“เนียจ๊างเนียจัง มารันต้นแบบกันเถอะ ต้นแบบก๊าน”
วันนี้อาคาชิอยู่กับฉัน
เมื่อซิลเลนกลับไปที่ปราสาทเป็นครั้งแรกหลังจากผ่านมาระยะหนึ่ง ดูเหมือนว่างานเบ็ดเตล็ดจะกองพะเนินเทินทึกไปหมด ทำให้วันนี้ต้องอยู่ที่บ้าน
“ซิลเลนบอกว่าไม่ได้ไม่ใช่เหรอ”
ระหว่างทาง อาคาชิคอยชวนฉันอยู่เรื่อย ๆ แต่……..ฉันไม่อยากพัฒนารถม้าที่สามารถวิ่งได้โดยไม่ต้องใช้ม้าของเธอเลย ถึงจะคิดว่าลงเรือลำเดียวกันไปตั้งแต่แรกแล้วก็ตาม ฉันไม่อยากถูกโกรธแหละ
“ตอนนี้ม๊ายอยู่!”
เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สำนึกผิดจริง ๆ …….ม๊า ถึงจะพูดมากขนาดนั้นฉันก็ไม่ทำหรอก……..
” ――อะ เนียโอโจ้ซามาะ! อาคาชิซามะ! ยินดีต้อนรับกลับครับ!”
โอย๊ะ?
“มีอะไรเหรอ ซิก?”
ซิก พี่ชายของมิโตะ และเป็นหัวหน้าของพวกเด็ก ๆ เขายืนอยู่หน้าคฤหาสน์
ดูจากปฏิกิริยานี่ ดูเหมือนว่าเขาจะรอฉันอยู่……..
“อ๊า เข้าใจแล้ว เธอขโมยอาหารจนโดนริโนกิสโกรธ แล้วโดนซาคุมะไล่ออกมาใช่ไหม?”
“ผมไม่ใช่อาคาชิซามะนะครับ”
“เธอทำเหรอ?”
“อะฮ่าๆๆๆ ก็อาหารของอาร์ตัวร์อร่อยนิน๊า”
เด็กสินะ เด็กที่เด็กยิ่งกว่าเด็กสินะ ………..ม๊า ฉันก็เข้าใจความรู้สึกของเธอล่ะนะ ฉันเองก็ใช่ว่าจะชอบขนมหวานขนาดนี้มาก่อน แต่ช่วงนี้ขนมอร่อยจริง ๆ
“อาโน เรื่องนั้นไว้ก่อนเถอะครับ เนียโอโจ้ซามะ! ผมมีเรื่องที่ต้องการจะขอร้องครับ!”
โห๊ว ขอร้อง
“แต่ฉันไม่ให้ขนมหรอกนะ”
“ผมไม่ใช่คาลัวนะครับ”
ไม่เกี่ยวกับขนมหรอกเหรอ จ๊า………ม๊า ฉันว่าฉันควรฟังเขาอย่างใจเย็น และไม่พูดอะไรแปลก ๆ ขัดออกไปก่อนดีกว่า
“อาคาชิ กลับไปก่อน”
ดูจากท่าทางของซิกแล้ว ดูเหมือนว่าเขาน่าจะไม่ต้องการให้ใครได้ยินเรื่องนี้ นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมารออยู่ที่นี่
“ฉ๊านสามารถทดสอบต้นแบบด๊ายม๊าย?”
“ฉัน ม่อยากโดนคุณนายฝั่งตรงข้ามหรือซิลดุหรอกนะ”
เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สำนึกผิดจริง ๆ
” ――งั้นเหรอ มีเรื่องแบบนั้นด้วยสินะ”
หลังจากไล่อาคาชิออกไป และฟังเรื่องราวของซิก ข้อมูลที่ถูกฝังลึกอยู่ในหัวจนหายไปของฉันก็ปรากฏขึ้นทันที
ฉันลืมเรื่องนี้ไปหมดแล้วจนกระทั่งซิกบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้
ใช่แล้ว เด็กกำพร้าทหารจักรกล
ฉันลืมไปแล้ว แม้ว่าฉันจะไม่ชอบมัน และอยากจะทำอะไรบางอย่างกับมันด้วยซ้ำ ฉันกำลังเรื่องใจร้ายมาก
จากนี้ไปในมาเวเลียจะมีอากาศที่หนาวมาก
พูดอีกอย่าง ―― นั่นหมายความว่าจะต้องมีเด็กตาย
“ผมกับมิโตะ รวมถึงบัลเจอร์กับคาลัว ได้รับการดูแลที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ครับ
ที่นั่นมีเด็ก ๆ อยู่มากมายเกินไป จนที่อยู่ไม่เพียงพอ แล้วมิโตะก็ป่วย พวกเราจึงตัดสินใจออกเดินทางทันทีเพราะถ้าโรคนี้แพร่ระบาดคงไม่ดี………
วันนี้ ผมได้ไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น และได้นำของขวัญติดตัวไปด้วย แล้วก็อย่างที่คาดไว้ พวกเขามีเด็ก ๆ มากมาย และสถานะปัจจุบันแทบไม่เหลืออะไรแล้ว……..เนียโอโจ้ซามะ!”
ซิกคุกเข่าลงบนพื้นและประสานมือของเขาเข้าด้วยกัน
“ขอร้องล่ะครับ! แค่ฤดูหนาวนี้ก็ยังดี ได้โปรดช่วยพวกเด็ก ๆ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าให้ผ่านพ้นฤดูหนาวนี้ไปด้วยเถอะครับ! ผมจากนี้ไปจะขอรับใช้ท่านไปจนวันตาย! เพราะอย่างงั้นแล้วได้โปรดเถอะครับ!”
――อืม
“ฉันขอปฏิเสธ ฉันไม่ต้องการชีวิตของซิก เธอควรใช้ชีวิตตามที่ต้องการได้”
“เอ๊ะ…….”
ซิกดูตกใจ คงเพราะไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้
ปฏิกิริยานี้อาจเป็นการทรยศต่อความไว้วางใจที่มีในตัวฉัน………หรืออาจเป็นอย่างอื่นก็ได้
บางทีเขาอาจจะแค่อยากเอาเปรียบฉัน
แต่ หากเขาต้องการใช้ฉันเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ฉันก็ไม่อยากดุเขาเลย
ฉันคิดว่านั่นเป็นความรู้สึกที่สำคัญเช่นกัน
” ――สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ใช่ความรับผิดชอบของเธอ แต่เป็นสิ่งที่ฉันต้องการจะทำเอง ดังนั้นฉันจะหาทางทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้เอง เธอไม่จำเป็นต้องรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณหรอกนะ”
หลังจากคุยกับซิกเสร็จแล้ว ฉันก็ชวนอาคาชิมาที่สมาคมการค้าทันที
“อะ เนียซัง! ยินดีต้อนรับค่ะ!”
ทันทีที่ฉันโผล่หน้าเข้าไป พนักงานต้อนรับสาวก็เดินผ่านเคาน์เตอร์มาหาฉันทันที ปล่อยให้ลูกค้าอยู่ตามลำพังเช่นเคย
“ริเพียว ฉันมาที่นี่เพื่อคุยเรื่องธุรกิจ”
“เอ๊ะ? ธุรกิจ เหรอคะ”
“ก่อนอื่นตอนนี้ให้ฉันเช่าบ้านก่อน ฉันอยากมีบ้านหลังใหญ่ ๆ ล่ะ”
หลังจากนั้นสักพัก ฉัน อาคาชิ ริเพียว และผู้บริหารของสมาคม กัดดัมซึ่งปรากฎตัวมาโดยไม่ได้เชิญ ก็เริ่มคุยกันเรื่องอนาคต
พูดอย่างตรงไปตรงมา ช่วยได้มากเลย
ฉันสามารถคุ้มครองพวกเด็ก ๆ ได้แค่ชั่วคราว แต่ฉันก็ยังไม่ได้คิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ฝนตกมาคืนหนึ่ง ฟ้าใสขึ้นมาหน่อย ออกไปสูดอากาศตอนเช้าได้เต็มปอดนิดหน่อย อยากให้ตกบ่อยๆแต่ขอตกแค่กลางคืนพอ ตอนเช้าขอซักผ้าก่อน ฮา
วันนี้
วันก่อน