ตอนที่ 148 – โรสเสียสติไปแล้ว

*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

“จับพวกมันทั้งสองคนไว้”

โรสพาทหารเข้าไปที่ห้องของมาราสกับคุระคาโอ้ ทหารเตะประตูและตะโกนเสียงดังไปหมด

“ท่านหญิงครับ…”

ทหารพากันลังเล เพราะมาราสกับคุระคาโอ้เป็นหลานของสุละ ถ้าสุละไม่ได้สั่งพวกเขาก็ไม่กล้าลงมือ.

“นี่เป็นคําสั่งของข้า!!”

แม้เสียงของโรสจะดูสุขุม แต่นั่นก็ทําให้พวกทหารตัวสั่นด้วยความกลัวขึ้นมา แล้วพวกเขาก็ทําตามคําสั่งอย่างเร็ว

“โรส ท่านนี่กล้ามากเลยนะ ท่านจับข้ามัดไว้ทําไม?”

มาราสตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธจากก้นบึงในใจ ทุกๆคนในบ้านนั้นกลัวสุละมากที่สุด รองลงมาก็เป็นท่านหญิงโรสสวยสังหาร แผนการและวิธีของเธอนั้นน่ากลัวมากๆ

“ทุกอย่างที่ข้ากําลังทําก็เพื่อความยิ่งใหญ่ของโรมและความรุ่งโรจน์ของสุละ, พอท่านปู่ของเจ้ากลับมา ข้าจะอธิบายให้เขาฟังทุกอย่างเอง”

เสียงของโรสดูสุขุมมากๆ

“เวรเอ้ย ไอ้พวกทาสระยํา ออกไปให้พ้นตัวข้านะ!!”

มาราสเห็นทหารหลานคนกรูเข้ามาหาจึงตะโกนเสียงดัง

แต่นั่นก็ไม่มีผลอะไร. ในบ้านสุละนั้นอํานาจของโรสใหญ่กว่าพวกเขามาก.

ภายในไม่กี่นาทีชายหนุ่มทั้งสองก็ถูกจับมัดแน่นหนาแล้วถูกลากออกมาจากห้องของพวกเขา

นอกจากนายน้อยทั้งสองที่ถูกจับแล้ว พวกทหารจํานวนหนึ่งที่ลงมือฆ่าคนในคืนนั้นก็ถูกจับมัดมาไว้ด้วย

“โรส เจ้ากําลังจะทําอะไร?”

หญิงชราคนหนึ่งเดินมาหาโรสอย่างเร็วโดยมีพวกทาสประคอง นางถามเสียงดัง

“ท่านหญิง, ข้าพยายามจะรักษาชื่อเสียงและเกียรติของสุละเอาไว้อยู่ พวกมันทุกคนจะต้องรับผิดชอบหายนะครั้งนี้ ไม่งั้นแล้วตระกูลสุละของเราคงจะล่มจมแน่นอน ถ้าเราฆ่าพวกมันเราจะได้โอกาสรักษาชื่อเสียงของตระกูลสุละไว้ พอสุละกลับมาจากสนามรบพร้อมกับความดีความชอบ เราก็จะสามารถกู้หน้ากลับมาได้! ไม่เช่นนั้นสุละคงหมดโอกาสชนะการเลือกตั้งกงศุลครั้งหน้าแน่!”

โรสอธิบายอย่างใจเย็น.

“แต่เจ้าจะฆ่าเด็กพวกนั้นไม่ได้! มาราสกับคุระคาโอ้เป็นสายเลือดของสุละนะ!”

หญิงชราไม่พอใจและโกรธมากๆ

“ทางเดียวที่เราจะช่วยตระกูลได้คือต้องฆ่าพวกมันเท่านั้น. จะยอมตายหรือจะยอมเสียอํานาจล่ะ!!”

โรสกล่าวด้วยน้ําเสียงน่ากลัวพร้อมกับจ้องมาทางหญิงชราอย่างเยือกเย็น.

เธอโชคดีจริงๆที่ได้คุยเรื่องนี้กับหญิงชราก่อน ถ้านางคุยกับสุละตรงๆล่ะก็ เธอคงเป็นฝ่ายที่จะตายซะเองในคืนนี้

“เจ้าบ้าไปแล้วรึ โรส, เจ้านี่มันโหดร้ายจริงๆ เจ้าจะฆ่าข้าด้วยรึไง?”

หญิงชราตัวสั่นเพราะคําพูดของโรส.

“ข้ามิบังอาจหรอก! แต่ข้าแค่คิดว่าเราควรเลือกเสียสละคนในบ้าน ถ้ามันจําเป็น!”

โรสพูดอย่างใจเย็นมากๆ

“เจ้า…”

หญิงชราโกรธเกรี้ยวมากๆถึงขนาดชี้นิ้วไปที่โรส แต่ก็พูดอะไรไม่ออก

“อย่ามาขวางข้า! ใครก็ได้ไปเอาเหรียญทองมาที!”

โรสเมินหญิงชราคนนั้นแล้วหันไปสั่งทหาร

“ท่านย่าช่วยข้าด้วย…”

“ท่านย่าช่วยข้าด้วย…”

นายน้อยสุละทั้งสองตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ในตาของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขากําลังจะตาย และจะตายด้วยน้ํามือของยัยปีศาจสวยสังหารนี่

….

“เปิดประตูนะ!”

“เปิดประตูเซ่!”

“พังประตูกันเถอะ สุละต้องอธิบายเรื่องนี้แก่พวกเรา!!”

….

ด้านหน้าประตูบ้านตระกูลสุละนั้น มีชาวเมืองหลายคนกําลังตะโกนอย่างบ้าคลั่งอยู่

ตอนนี้ก็มีดแล้ว พวกเขาสุมกองไฟไว้หน้าประตูบ้านสละและไฟมันก็แรงมากๆด้วย

“เผาพวกมันเลย!!”

“ใช่ เผาพวกมันซะ!!”

….

ชาวบ้านบางคนถึงขนาดทําตัวเป็นโจรไปเลย

เอี๊ยดดด!!

ในตอนนั้นเองประตูบานใหญ่ก็เปิดออก

“พวกเขาเปิดประตูแล้ว เข้าไปกันเลย!!”

พอเห็นประตูเปิด พวกชาวบ้านหลายคนก็ตะโกน

เกร็งๆๆๆๆ

หญิงงามคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับสะบัดมืออย่างแรงจากนั้นเหรียญทองก็ปลิวออกมาจากมือนาง. ภายใต้แสงไฟนั้นแสงของเหรียญทองสุกสะกาวมาก

“ทอง!”

“ทองหนิ!”

“ของข้า มันเป็นของข้า!”

“อย่ามาแย่งข้านะ!”

พวกชาวเมืองที่กําลังโกรธสุดๆนั้นถูกเหรียญทองดึงความสนใจไป พวกเขาพุ่งไปแย่งกันอย่างกับหมาบ้า

โรสส่งสายตาขยะแขยง

นี่ก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่เย่เทียนรู้ว่าเขาไม่สามารถฆ่าตระกูลสุละได้, เหตุผลที่เขาสามารถก่อพายุลูกใหญ่ได้ในเวลาอันสั้นๆก็เพราะเงินยังไงล่ะ ตราบใดที่ตระกูลสุละมีคนที่ฉลาดพอจะยอมเสียเงิน พวกเขาก็สามารถทําให้ชาวบ้านสงบลงได้

ใครๆก็รักเงินทั้งนั้นแหละ!

สําหรับชาวบ้านแล้ว เหรียญทองเหรียญเดียวก็เพียงพอที่จะทําให้พวกเขามีความสุขได้เลย

ดังนั้นเย่เทียนจึงทําใจไว้แล้วว่าเขาทําให้ตระกูลสุละเจ็บได้แค่นั้น อย่างน้อยก็ถอดเขี้ยวถอดเล็บซะแม้ว่าจะฆ่าไม่ตายก็ตาม

ทางสภาก็คงไม่ยอมแน่ เพราะตอนนี้สุละเป็นแม่ทัพแนวหน้าอยู่

“ทุกๆคนเงียบด้วย!”

เสียงของโรสดังก้องออกไป

ทุกๆคนเงียบลงในทันที

“พวกเจ้าอยากได้คําอธิบายไม่ใช่รึ ? ตอนนี้ข้าจะให้คําอธิบายแทนสุละเอง!”

โรสกล่าวอย่างใจเย็นจากนั้นก็ดึงตัวมาราสและคุระคาโอ้ออกมาแล้วกล่าวต่อ “พวกเจ้าเห็นมันชัดหรือไม่? สองคนนี้คือหลานชายของสุละ! สถานการณ์มันเป็นเช่นนี้, เหมืองของฟิลิปนั้นเดิมเป็นของตระกูลสุละแต่โชคร้ายที่มันถูกขายให้ฟิลิปโดยลูกชายของข้า มาโคเนีย พวกเราไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ท่านสุละผู้สูงส่งเองก็ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะตอนนี้เขาอยู่ในสนามรบแนวหน้าปกป้องโรมอยู่ มาราสกับคุระคาโอ้เองก็ไม่รู้เช่นกัน ดังนั้นพอพวกเขารู้ว่าฟิลิปเริ่มทําเหมือง พวกเขาก็เข้าใจผิดและตัดสินใจนํากองทหารไปปล้นเหมืองอย่างลับๆ แต่พวกเขาก็ฆ่าชาวบ้านโรมันไปเยอะมาก! นี่เป็นความผิดร้ายแรง, ชาวเมืองโรมนั้นสูงส่งและชีวิตของพวกเขาเองก็สําคัญ แม้จะเป็นชนชั้นสูงแต่พวกเขาก็ไม่มีสิทธิไปฆ่าพวกเขา ดังนั้น! ข้าเองก็จะไม่ปกป้องพวกเขาเช่นกัน พวกเจ้าพูดถูก คนที่ฆ่าผู้อื่นนั้นไม่มีค่าอันใด!!”

พอพูดเสร็จโรสก็จ้องไปมาระหว่างมาราสและคุระคาโอ้แล้วในที่สุดเธอก็เลือกมาราสแล้วลากเขาออกมา

ฉึ่ก

ความเย็นชาผุดขึ้นในดวงตาของโรสจากนั้นนางก็คว้ามีดมาจากมือของทหารคนหนึ่งแล้วเสียบเข้าไปที่คอของมาราสอย่างรุนแรงจนเลือดสาดไปทั่ว