ตอนที่ 149 – เจตนาและความทะเยอทะยานของโรส
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
ชาวเมืองทั้งหมดตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น บางคนถึงกับหวาดกลัวไปเลย
เขาตายแล้ว!
หลานชายของสุละตายแล้ว!
ทายาทตระกูลชนชั้นสูงถูกฆ่าตายตอนหน้าทุกคนโดยน้ํามือของสตรีผู้งดงามคนนั้น
น่าจะพูดว่าถูกประหารมากกว่า!
พวกชาวบ้านพากันตะโกนว่าฆ่าชนชั้นสูงให้ตายหมดซะมาทั้งวัน ต่อให้จะเอาความก็ทําไม่ได้เพราะมีคนเยอะเกินไป
แต่ตอนนี้พอชนชั้นสูงตายขึ้นมาต่อหน้าพวกเขาจริงๆ พวกเขาก็พยายามจะสงบใจลง แต่วินาทีต่อมาพวกเขาก็รู้สึกอึ้งจนพูดไม่ถูกและเครียดมากๆ
นี่แหละธรรมชาติของมนุษย์ ปากคอจะโหดร้ายแค่ไหนแต่พอมีเรื่องขึ้นมาจริงๆพวกเขาก็อยากจะวิ่งหนีไปให้ไกล.
มันก็ไม่ผิดหรอก, ธรรมชาติของมนุษย์ต้องการสิ่งดีๆและเกลียดสิ่งร้ายๆ.
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าทําไมข้าถึงฆ่ามาราสก่อน? เพราะมันหยิ่งยโสเกินไป มันกล้าแม้แต่จะคิดล่วงเกินข้าด้วย!”
โรสยิ้มอย่างอํามหิตขณะก้มหัวไปกระซิบข้างๆหูของคุระคาโอ้จนเขาตัวสั่นไปด้วยความกลัว
“วันนี้, ข้า, โรสผู้นี้จะเป็นคนให้คําอธิบายแก่พวกเจ้าแทนตระกูลสุละเอง!!”
โรสเงยหัวขึ้นแล้วพูดต่อจากนั้นก็ชี้นิ้วไปทางพวกทหารกลุ่มนึงที่ถูกมัดอยู่แล้วตะโกน
“พวกมันฆ่าชาวเมืองที่น่ายกย่องของโรมด้วยน้ํามือพวกมันเอง. พวกมันจะต้องชดใช้สิ่งที่ก่อตัดหัวพวกมันซะ ตัดให้หมดทุกคน!”
ฉิ้ง
ฉิ้ง
….
ตุ่บ
ตุ่บ
….
พวกทหารชักดาบขึ้นมาแล้วเหวี่ยงตัดหัวพวกทหารกระเด็นไปจนเลือดสาดกระเซ็นทั่วพื้น และกระเด็นไปโดนพวกชาวบ้านเต็มไปหมด
“ว้าย.. ”
“เห้ย…”
….
พวกชาวเมืองหวาดกลัวมากๆ โดยเฉพาะคนที่ถูกเลือดกระเด็นใส่จนพากันถอยหลังไปและกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
พวกเขาตายแล้ว!
ตายอีกแล้ว!
พวกเขาชนะแล้ว พวกเขาบีบให้ชนชั้นสูงยอมก้มหัวรับความผิดและรับผิดชอบในสิ่งที่ทําไป แต่ชัยชนะนี้กลับทําให้พวกเขาหวาดกลัวและไม่สบายใจ
“พวกมันชดใช้ความผิดด้วยชีวิตแล้ว! เราสุละจะไม่ปกป้องฆาตกรที่ฆ่าชาวเมืองโรมไว้แน่ แม้ว่าจะเป็นคนของตระกูลสุละก็ตาม เราไม่มีวันปกป้องแน่! แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับท่านสละเลย. หากพวกเจ้ายังไม่เชื่อเราอีก พวกเจ้าก็จงฆ่าเขาด้วยตัวเองซะ! ถ้าฆ่าแล้วพวกเจ้ายังไม่อภัยให้พวกเราอีก ก็ขอให้ฆ่าข้าเถอะ ข้าจะไม่ตอบโต้เลย ข้าจะไม่เอาผิดพวกเจ้าด้วย!”
โรสกล่าวด้วยน้ําเสียงเศร้าและน่าสงสาร จากนั้นก็ผลักคุระคาโอ้ไปที่ฝูงชาวบ้าน
แต่ชาวเมืองก็พากันหลีกคนแล้วคนเล่า ไม่มีใครกล้าฆ่าคุระคาโอ้เลย
ถ้าเป็นเมื่อตะกี้ตอนที่โรสยังโผล่มา พวกเขากล้าฆ่าแน่แต่พอพวกทหารตายกันทีละคนๆ แล้วก็มาราสด้วย พวกเขาทุกคนก็สงบลงและถึงขนาดกลัวด้วย
“ฆ่าเขาเลยสิ! นี่แหละคําอธิบายของข้า!”
รอยยิ้มของผู้ชนะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโรสจากนั้นนางก็ตะโกนอย่างดัง
“ไม่!”
“ไม่ค่ะ ท่านหญิงโรส ท่านได้ชดใช้ความผิดให้เราแล้ว!”
“ขอบพระคุณ ขอบพระคุณแทนเหล่าผู้ตายด้วย ท่านหญิงช่างงดงามนัก!”
พวกชาวบ้านถอยกันไปทีละก้าวๆแล้วพูดอย่างเร็ว
“ดีจังเลย! ข้าจะขออภัยพวกเจ้าแทนตระกูลสุละอีกซักครั้ง และในเวลาเดียวกัน ข้าสัญญาว่าจะจัดงานศพให้เหล่าคนที่ตายเป็นอย่างดี และชดใช้ค่าทําขวัญให้แก่ครอบครัวที่โชคร้ายแล้วข้าก็จะให้เหรียญทองแก่ทุกๆคนที่อยู่ตรงนี้วันนี้ด้วย!”
โรสกล่าวอย่างใจเย็นพร้อมกับยิ้มอย่างพึงพอใจ. ครั้งนี้เธอสามารถกู้ชื่อเสียงของสุละกลับมาได้อย่างงดงาม
ใช่ แม้จะเล็กน้อยแต่นางก็สามารถหยุดยั้งเรื่องไม่ให้เลวร้ายไปกว่านี้ได้สําเร็จ. ปัญหาของตระกูลสุละครั้งนี้ใหญ่หลวงจริงๆ ชื่อเสียงของพวกเขาเสียหายอย่างหนักมาก
มีชาวเมืองตายกันเยอะเกินไปและพวกชาวเมืองก็จะไม่ลืมเรื่องนี้ในเวลาสั้นๆแน่! เรื่องตะลึงของคืนนี้และเงินตราทําให้พวกเขาสงบลงได้เดี๋ยวเดียวเท่านั้น พวกเขาจะไม่มีวันลืมว่าตระกูลสุละเป็นคนฆ่าชาวบ้านไปหลายคนเด็ดขาด
เรื่องนี้คงจะต้องใช้เวลาเยียวยา. เวลานานมากๆ
แต่ทว่าด้วยความสูญเสียของสุละทําให้โรสรู้ว่า นางจะมีอภิสิทธิใหญ่ขึ้นและคนในตระกูลสุละจะต้องพึ่งพาเธอไปอีกนานแน่ๆ. คงไม่มีใครกล้ามองหยามเธออีกเด็ดขาด
สุละเป็นฝ่ายพ่ายแพ้! แต่โรสกลับเป็นฝ่ายชนะแทน!
นี่คือชัยชนะของเธอ โรสจะรู้สึกไม่พอใจได้ยังไงกัน
“ซาตาน, บางทีข้าน่าจะขอบคุณเจ้าสําหรับของขวัญชิ้นนี้!”
โรสพึมพําเบาๆแต่ก็ไม่มีใครรู้ว่านางกําลังคิดอะไรอยู่
“เหล่าชนชั้นสูงมีคําสั่งมาแล้ว พวกเจ้าถอยได้แล้ว!”
“การประชุมของทางสภาจบแล้ว งานของเราลุล่วงแล้ว!”
“พวกเจ้าพอได้แล้วล่ะ!”
ในหมู่ชาวบ้านนับพันนั้น มีคนส่งข่าวอย่างลับๆอยู่
พวกนั้นไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา แต่เป็นพวกที่เย่เทียนจ้างมาใส่ไฟชาวบ้านคนอื่น
ไม่งั้นแล้วแอนดรูว์คงไม่กล้าเสนอ ให้ตัดสิทธิทางทหารของสุละแน่ เพราะเขารู้แผนของเย่เทียน ตราบใดที่มีคนใส่ไฟเรื่อยๆก็คงไม่มีใครกล้ามาปราบชาวบ้านที่กําลังโกรธอยู่แน่
อาจพูดได้เลยว่าการตกต่ําของสุละครั้งนี้ ทําให้ตระกูลใหญ่ทั้ง4ได้รับชัยชนะภายใต้แผนของเย่เทียนและได้รับผลดีมากมายเกินกว่าจะคาดถึง
การได้ครองเหมืองนั้นเป็นแค่เรื่องเล็กๆ เล่นงานชื่อเสียงสุละสิคือของจริง แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายก็คือพวกเขาได้ริดรอนสิทธิทางทหารของสุละและได้รับความชอบจากชาวเมืองหลายๆคน.
“จบแล้วงั้นรึ?”
โรสเห็นชาวบ้านบางคนค่อยๆเดินกลับไปอย่างช้าๆ จึงพึมพําเบาๆ
“ซาตานดูเหมือนว่าข้าไม่ได้เอาชนะเจ้าจริงๆสินะ, เจ้าก็แค่ยอมรับอะไรก็ได้ที่เกิดขึ้นมางั้นรึ ข้าย้อนแผนของเจ้าไม่ได้รึไงนะ?”
โรสพึมพําเบาๆ จากนั้นตาของเธอก็ลุกเป็นไฟขึ้นมา “ไม่สิ! ถ้าข้าคํานวณเวลาไม่ผิดล่ะก็ การประชุมของสภาน่าจะจบแล้ว! พูดอีกอย่างก็คือ กาอิอุส มาเรียสกับคนอื่นๆชนะแล้ว พวกเขาได้สิ่งที่ต้องการแล้วไม่อยากบีบคั้นต่อสินะ! แล้วข้าชนะหรือแพ้กันเนี่ย?”
“ข้ายังแพ้ให้ซาตานอยู่แต่ก็กู้ชื่อเสียงของสุละกลับมาได้ อย่างน้อยก็เรียกว่าเป็นชัยชนะก็ได้ล่ะนะ! แต่ศึกครั้งนี้ข้าเสียไปเยอะจริงๆเข้าแพ้ให้ซาตานมัน!”
โรสส่ายหัวพร้อมกับความสงสัยและจิตวิญญาณนักสู้ที่ผุดขึ้นมาในดวงตา “ซาตาน เจ้าเป็นคนแบบไหนกันนะ? ตอนนี้เจ้าแค่อยู่ใต้อาณัติของตระกูลใหญ่ ข้าสงสัยจริงๆถ้าเจ้าได้เป็นผู้นําของทั้ง4ตระกูลขึ้นมา เจ้าจะคว้าโอกาสขยี้ตระกูลสุละให้สิ้นซากรึป่าวนะ? ข้าว่าเจ้าต้องทําแน่! ไม่นานทางสภาคงจะต้องเสียใจที่ใส่ชื่อเจ้าลงในบัญชีชนชั้นสูงของโรมันแน่ๆ! ใช่แน่ๆ!! กาอิอุส มาเรียสเป็นเจ้าบ้า แต่เจ้าน่ะเป็นปีศาจที่น่ากลัวของจริง!”
“ข้าจะต้องเผชิญหน้ากับเจ้าและเรียนรู้เจ้าให้ได้”
ไม่นานโรสก็หลุดจากภวังค์แล้วสั่งให้พวกทหารจ่ายทองให้ชาวบ้าน