บทที่ 155 สกปรก

ภายในเวลาไม่ถึง 3 นาที ขุนนางหนุ่มคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกลายเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ นอกเหนือจากปีศาจที่ถือดาบยาวและผีน้อยอีก 2 คนที่ตกตะลึง

ขุนนางหนุ่มรู้สึกหนาวเยือกเมื่อในที่สุดมูฟาซาก็หันมามองเขา

เขาพยายามจับไหล่นาล่าตัวน้อยและกดดาบไว้ที่คอเธอ ขณะที่ร่างกายของเขาหดตัวซ่อนอยู่ข้างหลังเธอ

“ยะ อย่าเข้ามานะ! ไม่งั้นเธอตายแน่!”

แม้ว่าขุนนางหนุ่มจะมีทักษะอยู่บ้างเหมือนกัน แต่เขาก็รู้ดีว่าเขาไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วปานสายฟ้าเช่นนั้น เขาตามการเคลื่อนไหวของมูฟาซาไม่ทัน!

เมื่อสิ่งต่างๆมาถึงขั้นนี้แล้ว ชิปต่อรองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือเด็กตัวเล็กๆที่เขาจับเอาไว้

มูฟาซาหยุดเข้ามาโจมตีเขา นั่นทําให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณความฉลาดของตัวเอง

มันได้ผล!

เพื่อนคนนี้ให้ความสําคัญกับเด็ก 3 คนนี้มาก ถึงขนาดยอมก่ออาชญากรรมร้ายแรงอย่างการสังหารหัวหน้าทหารรักษาการของเมือง…เขาเป็นสาวกของวิหารแห่งความยุติธรรมใช่ไหม ศาสนาเก่าแก่ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม?

ขุนนางหนุ่มกัดฟัน ให้ตายเถอะ ทําไมข้าต้องมาเจอกับพวกบ้าแบบนั้นที่นี้ด้วย! ข้าควรให้เจ้าเมืองขึ้นบัญชีดําวิหารแห่งความยุติธรรมเป็นศาสนานอกรีตตั้งแต่แรก!”

อย่างที่บอก สลัมเขตเหนือของเมืองเป็นที่ๆมีทหารยามน้อยที่สุด หากต้องการขอความช่วยเหลือ เขาจะต้องวิ่งไปที่กําแพงเมือง

ดูเหมือนว่าเขาคงต้องเกลี้ยกล่อมปีศาจนเสียก่อน

เขามีหลายล้านวิธีในการหลอกชาวบ้านที่ไม่เคยเห็นโลก!

เขาพยายามบีบรอยยิ้มออกมา “ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่ติดตามเอาความเรื่องในวันนี้ถ้าเจ้าปล่อยข้าไป! ขยะพวกนี้ตายไปแล้ว จะไม่มีใครมาล้างแค้นเจ้า แต่ข้าต่างออกไป ข้าเกิดมาเป็นขุนนางตระกูลในเจลาเนีย หากเจ้าฆ่าข้า เจ้าจะถูกพบอย่างแน่นอน!”

“ด้วยชาติกําเนิดชาวนาอย่างเจ้า มันยากที่เจ้าจะบรรลุอุดมการณ์และเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน เอาแบบนี้เป็นไง ข้าจะแนะนําให้เจ้ารู้จักกับเจ้าเมือง ให้เจ้าเข้ารับตําแหน่งแทนโบลท์ จากนี้ต่อไปตําแหน่งหัวหน้าทหารรักษาการของเมืองจะเป็นของเจ้า! ด้วยวิธีนี้ไม่ว่าเจ้าต้องการทําอะไร เจ้าก็สามารถทําได้ทุกอย่าง!”

มูฟาซาไม่ตอบ เขาก้มหัวลงไม่ให้เห็นใบหน้าของเขาขณะที่เขานิ่งเงียบ

กลับกันขุนนางหนุ่มค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าเขาโน้มน้าวใจมูฟาซาได้ เขาจึงรีบตีเหล็กขณะที่ยังร้อน

“ดูสิ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า เจ้าจะไม่ต้องคลานไปมาในสลัมร่วมกับพวกชั้นต่ํา ที่มีโอกาสติดโรคระบาดตายได้ทุกเมื่อ! เจ้าจะสามารถเหยียบย่ําพวกมันและยืนหยัดอยู่เหนือผู้คนร่วมกับเราเหล่าขุนนางได้!”

“ตอนแรกเจ้าอาจต้องทํางานโดยที่ไม่ได้รับค่าตอบแทน แต่ถึงอย่างนั้นข้าจะสงเคราะห์เจ้า ด้วยเงิน 100 เหรียญทองแอบบี้ นั่นคือเงิน 120,000 ริออน!”

มูฟาซายังคงไม่พูดอะไร ตอนนี้ขุนนางหนุ่มมั่นใจแล้วว่าเขากําลังลังเลอยู่ จึงพยายามเกลี้ยกล่อมต่อไป “ยังไม่หมดแค่นั้นนะ เจ้าชอบเด็กๆแบบนี้ใช่ไหมล่ะ ข้าสนิทกับพ่อค้าทาสบางคน ปีนี้มีทาสเยอะมากโดยเฉพาะทาสคาทามิที*แบบนี้ เจ้าสามารถมีได้มากเท่าที่เจ้าต้องการ!”

(TL:คาทามิที่ catannite (ไม่รู้เขียนคําอ่านถูกรึเปล่า 555) คือคําเรียกของชายที่อายุมากกว่า ที่มีสัมพันธ์รักกับเด็กหนุ่ม (หรือเด็กชาย) ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในยุคกรีกโบราณ หรือหมายถึงเด็กหนุ่มบําเรอกามนั่นเอง)

ซิมบ้าและซาซูไม่รู้ว่าคาทามิที่หมายถึงอะไร แต่พวกเขาสามารถบอกได้จากบริบทว่ามันไม่ใช่เรื่องดี และอาจเลวร้ายยิ่งกว่าการเป็นทาสในเหมือง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงระเบิดคําสาปแช่งใส่ขุนนางหนุ่ม

แต่ขุนนางหนุ่มไม่กังวลเลย เขาพยายามเกลี้ยกล่อมมูฟาซาต่อไป “ถ้าเจ้าคิดว่าการฝึกพวกเด็กๆเป็นเรื่องยาก ข้าสามารถให้พวกเขาฝึกเด็กก่อนที่จะส่งให้เจ้าได้”

” พอ!”

ในที่สุดมูฟาซาก็พูด

แต่น้ําเสียงของเขาไม่ใช้น้ําเสียงของคนที่มองเห็นอนาคตอันยิ่งใหญ่ หรือหลงใหลในทองคํา แต่มันเจือไปด้วยความโกรธ “เจ้าจะเหยียบย่ําผู้คนต่อไปอีกนานแค่ไหน? ขุนนางอย่างเจ้าไม่ใช่ผู้สูงส่ง แต่เป็นปีศาจที่เห็นชาวบ้านทั่วไปเป็นปศุสัตว์ ที่เอาแต่ดูดเลือดและชีวิตของพวกเขา!”

มูฟาซายกดาบขึ้นและชี้ไปที่ขุนนางหนุ่มที่กําลังลุกลี้ลุกลน “ทีแรกข้าไม่ได้ตั้งใจจะขัดแย้งกับสวะอย่างเจ้า แต่ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว อย่างน้อยมันก็ทําให้เจ้าได้บทเรียนว่าไม่ใช่ทุกคนที่เป็นทาส ไม่ใช่ทุกคนที่เจ้าสามารถกลั่นแกล้งได้ตามใจชอบ! วันหน้าเจ้าจะได้ระวังเมื่อเจ้าคิดจะกลั่นแกล้งผู้อื่น!”

“อะไร?! มันยังไม่สายเกินไป หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ขุนนางหนุ่มหดตัวอยู่ข้างหลังนาล่าเมื่อเขาตระหนักว่าทุกอย่างผิดพลาด เขาถูกกดดันด้วยจิตสังหารที่ไม่อาจระงับได้ของมฟาซา “อย่าทําอะไรโง่ๆ! หากเจ้าฆ่าข้า เด็กคนนี้จะตายก่อน นี่หรือนิยามความยุติธรรมของเจ้า!”

ซิมบ้าและซาซูมองมุฟาซาอย่างหวาดกลัว พวกเขากลัวว่าความโกรธจะทําให้มูฟาซาคลั่งจนฆ่านาล่าไปด้วย

อย่างไรก็ตามมูฟาซากลับลูบคมดาบเบาๆ ราวกับว่าเขากําลังทําความสะอาดใบดาบ ความโกรธที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของเขาได้กลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง ราวกับว่าการได้ถือดาบทําให้เขาใจเย็นลง

“การใช้ดาบเป็นอะไรที่ไม่ค่อยสะดวก” เขาพูดเบาๆ

ขุนนางหนุ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เขาก็รู้สึกตัวช้าเกินไป

เงาสะท้อนของใบดาบสว่างวาบ

จากนั้นมือขวาที่ถือดาบอยู่ของขุนนางหนุ่มก็ได้ร่วงลงไปบนพื้น บาดแผลนั้นเรียบอย่างไม่น่าเชื่อ จนแม้แต่เลือดก็ดูเหมือนจะลืมทําหน้าที่ของมัน นี่เป็นการโจมตีที่สะอาดที่สุด ในเวลาไม่ถึง 1 วินาทีเลือดก็ค่อยๆไหลออกมาจากบาดแผล

“อ๊าาาาา! มือข้า! มือของข้า!”

ขุนนางหนุ่มช็อกไปครู่หนึ่ง ก่อนจะปล่อยเด็กหญิงโดยไม่รู้ตัวและเริ่มกรีดร้องขณะจับตรงที่ๆเคยเป็นมือขวาของเขา

ทั้งซิมบ้าและซาซูวิ่งออกไปทันทีและพานาล่ากลับมา

ในที่สุดขุนนางหนุ่มก็ได้เผชิญหน้ากับมูฟาซาโดยที่ไม่มีอะไรมาขวางกั้น

“เดี๋ยวก่อน อย่าฆ่าข้า! เจ้าต้องการอะไร? เงิน? ข้าสามารถมอบเงินให้เจ้าได้ ข้าสามารถให้ทุกอย่างที่ข้ามกับเจ้าแม้แต่ตําแหน่งของข้า!” ใบหน้าของขุนนางหนุ่มเต็มไปด้วยน้ําตา เขาเริ่มอ้อนวอนร้องขอความเมตตากับมูฟาซา “แค่ไว้ชีวิตข้าแล้วเจ้าจะได้เป็นขุนนาง!”

มูฟาซาหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่เขาถือดาบยาว ก่อนที่จะคํารามออกมาด้วยความขยะแขยง “ใครจะอยากได้ของสกปรกแบบนั้น! สับ!”

วินาทีถัดมา ขุนนางหนุ่มและกําแพงด้านหลังของเขาก็ถูกสับเป็นสองท่อนภายใต้ดาบของมูฟาซา ทําให้เขาสูญเสียสัญญาณชีวิตและตายทันที