บทที่ 156 ไม่อยู่ในสามอันดับแรก

ซิมบ้า ซาซู และนาล่าติดตามมูฟาซาไปตามถนนกว้างและสว่างไสวด้วยความงุนงง

แม้เขาจะเคยทํางานในย่านการค้าเขตตะวันออกของแลงคาสเตอร์มาก่อน แต่ซิมบ้าก็คิดว่าถนนการค้าที่พลุกพล่านก็ไม่สะอาดและสวยงามเท่าถนนในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้

ความจริงเขตตะวันออกของแลงคาสเตอร์ยังคงถูกหิมะถ่ม แต่เมืองนี้ไม่ใช่ ที่นี่ไม่มีหิมะบนถนนเลย ถ้าไม่ใช่เพราะมีหิมะเกาะอยู่บนหลังคาอาคาร 2 ข้างทาง ซิมบ้าคงจะคิดว่าพวกเขาถูกวาร์ปไปยังทวีปทางใต้ในตํานานที่อบอุ่นแม้ในฤดูหนาว

ยิ่งไปกว่านั้น ความเยือกเย็นและน่าหดหูใจของฤดูหนาวที่ควรจะมีก็ขาดหายไป ที่นี่แม้ว่าจะมีพลเมืองไม่มากนัก แต่ร้านค้าส่วนใหญ่ก็ยังเปิดทําการ

หากซิมบ้าไม่ได้เข้าร่วมศาสนจักรเทพแห่งเกม เขาก็รู้สึกว่าถึงพวกเขาสามารถพึ่งพาการเป็นลูกจ้างเพื่ออยู่รอดได้ในเมืองนี้

เด็ก ๆ ไม่ปฏิเสธ เมื่อมฟาซายื่นคําเชิญให้เข้าร่วมศาสนจักรอีกครั้งหลังจากที่เขาสับขุนนางหนุ่มออกเป็นสองส่วน

พวกเขาไม่สามารถอยู่ในแลงคาสเตอร์ได้อีกต่อไป หลังจากที่พวกเขาออกจากบ้านโทรม ๆ ที่ขุนนางหนุ่มถูกฆ่าตาย

เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับศาสนจักรลึกลับที่มูฟาซาเคยพูดถึงหลังจากได้เห็นสิ่งที่เขาสามารถทําได้

เนื่องจากซิมบ้าและเด็กคนอื่น ๆ ไม่ใช่ผู้เล่น และไม่สามารถใช้ไลฟ์สโตนของฐานที่มั่นลับในแลงคาสเตอร์ได้ มูฟาซาจึงไปเยี่ยมผู้เฒ่าแวนเค่อเพื่อซื้อใบอนุญาตเทเลพอร์ต (ไอเทมสิ้นเปลืองอนุญาตให้ผู้ที่ไม่ใช่ผู้เล่นสามารถเทเลพอร์ตผ่านไลฟ์สโตนได้)

แต่ถึงอย่างนั้นมูฟาซาก็ไม่ได้พาพวกเขาไปสวดอ้อนวอนต่อหน้ารูปปั้นของเทพเจ้าแห่งเกมทันที เขาพาพวกเด็ก ๆ ไปที่ร้านค้าระบบให้พวกเขาได้ทานอาหารดี ๆ ก่อน เพราะหม้อซุปเนื้อที่เขาต้มในแลงแคสเตอร์ ถูกคว่ำเมื่อเขาต่อสู้กับทหารยาม ทําให้ตอนนี้พวกเด็ก ๆ ยังคงหิวโหย

สําหรับมูฟาซาแล้ว อาหารของระบบก็ยังเหมือนเดิม มันไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ถือว่าดี เพราะผู้เล่นไม่ได้ยากจนและไร้พลังอีกต่อไป ถ้าไม่ใช่เพราะใบอนุญาตเทเลพอร์ตทําให้เขาเสียเงินไปมาก เขาคงจะเลือกพาพวกเด็ก ๆ ไปที่โรงเหล้ากาต้มน้ำเหล็กแล้ว เนื่องจากเนื้อรมควันที่นั่นมีรสชาติดีกว่ามาก

แต่สําหรับเด็กทั้งสามที่อดอยากและไม่ได้กินอาหารปกติมาหลายวัน นี่คือสวรรค์บนดิน

ขนมปังปิ้งกรอบ ๆ สีทองได้กลิ่นหอมของเนยและชีสโชยออกมา มันมีรสชาติพิเศษเฉพาะตัวเมื่อกัด แป้งกรุบกรอบ นุ่ม ๆ หวาน ๆ อร่อยและมีแคลอรี่เพียงพอจากเนยและชีส ทําให้เด็ก ๆ ได้รับประสบการณ์การกินที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

เมื่อเทียบกันแล้ว มันดีกว่าขนมปังแข็ง ๆ ในแลงคาสเตอร์ที่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวแปลก ๆ แถมยังปนไปด้วยเศษหญ้าและเปลือกข้าวสาลีมาก

หากขนมปังเหล่านั้นไม่ได้ถูกทําให้นิ่มโดยการแช่ในน้ำร้อน มันก็จะมีรสชาติไม่ต่างจากก้อนหินที่กัดไม่เข้าและย่อยไม่ได้

นอกจากขนมปังแล้ว เด็ก ๆ แต่ละคนยังได้เพลิดเพลินกับแยมผลไม้และซุปเนื้ออุ่น ๆ อีกด้วย

ไม่รู้ว่าแยมทําจากผลไม้อะไร แต่มันมีรสเปรี้ยวอมหวาน และพวกเขาก็สามารถกลืนมันลงไปพร้อมขนมปังปิ้งกรุบกรอบได้ในคําเดียว ซิมบ้าไม่เคยได้กินอะไรอร่อย ๆ แบบนี้เลยตั้งแต่ที่พ่อกับแม่เสียชีวิต

และนั่นเลวร้ายยิ่งสําหรับซาซูและนาล่าที่เป็นเด็กกําพร้า พวกเขาแต่ละคนไม่มีใครสนใจจะพูดคุยกันอีกต่อไป เด็ก ๆ ทําทุกวิถีทางเพื่อยัดขนมปังทาแยมที่เรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ เข้าปากราวกับว่าพวกเขาจะตายวันนี้หากไม่ได้กินจนหมด

แต่คอของเด็ก ๆ ก็เล็กนิดเดียว พวกเขาจะสาลักขนมปังแน่หากพวกเขายัดเข้าไปมากเกินไป

โชคดีที่มีซุปเนื้ออยู่ ดื่มเพียงแค่หนึ่งช้อนขนมปังที่นุ่มอยู่แล้วก็จะยิ่งเปียกมากขึ้น และกลืนลงไปในท้องได้ง่าย หลังจากนั้นความสดชื่นและความอบอุ่นของซุป ก็จะทําให้ร่างกายกลับมามีพลังตั้งแต่แขนขาลงไปจนถึงกระดูกทุกส่วนในร่างกาย!

“อร่อยจัง….ข้าจะทําอย่างไรถ้าข้าไม่สามารถกินของที่อร่อยแบบนี้ได้ในอนาคต” เมื่อกินอาหารจนหมดเกลี้ยงและเสียชามไม้ของตัวเองจนสะอาดแล้ว ซาซูก็จ้องมองถาดไม้บนโต๊ะอย่างไม่เต็มใจ

นาล่าน้องสาวของเขาน่ารักกว่ามากเมื่อเทียบกันแล้ว เธอถือชามของตัวเองและปล่อยเสียงเรอเบา ๆ ออกมา พร้อมกับสีหน้าแดงระเรื่อและพอใจ

หลังจากมื้ออาหารแสนอร่อยจบลง มูฟาซาก็พาทั้งสามคนไปที่น้ำพุร้อน

เมื่อผู้เล่นทํางานหนักเกินไป พวกเขาก็มักจะเหนื่อยล้าทางจิตใจและรู้สึกเซื่องซึม

ในช่วงแรกน้ำพุร้อนมักมีแต่ผู้หญิงแวะเวียนมาใช้บริการ ทําให้มีผู้ชายมาเพิ่มขึ้น แต่มันก็ลดลงในเวลาต่อมา เมื่อพวกเขาตระหนักว่าพวกเขาไม่สามารถถ้ำมองพวกผู้หญิงได้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงพากันจากไป

แต่แล้วมันก็กลายเป็นสถานที่โปรดของผู้เล่นอีกครั้ง เมื่อมีคนสังเกตเห็นว่าการแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนช่วยลดความเหนื่อยล้าได้มาก ทําให้ผู้เล่นหลายคนรู้สึกราวกับว่าวันของพวกเขายังไม่จบลงหากไม่ได้อาบน้ำสักครั้ง

แต่ตอนนี้ยังเช้าอยู่ จึงไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการ

หลังจากมอบความไว้วางใจให้ผู้เล่นหญิงดูแลนาล่าแล้ว มูฟาซาก็ไปที่บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งฝั่งผู้ชายกับซาซูและซิมบ้า

ปกติแล้วน้ำพุร้อนจะไม่มีผลมากนักกับเด็ก แต่ทั้งซิมบ้าและซาซูมีอาการบาดเจ็บแฝงอยู่มากมาย เนื่องจากพวกเขาทํางานหนักทั้งที่ยังเด็ก และมักจะถูกรังแกหรือทุบตีโดยคนจรจัดคนอื่น ๆ ผลของน้ำพุร้อนจึงปรากฏชัดเจนเมื่อพวกเขาลงสระ จนพวกเขาไม่สามารถกลั้นเสียงครางได้เมื่อมีอาการคันเล็กน้อยและชาตามข้อต่อ

“มูฟาซา ลุงยอดเยี่ยมมาก ลุงต้องเป็นแชมป์เปี้ยนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของศาสนจักรแน่!” ซาซูอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาในขณะที่เขาแช่น้ำพุร้อน

ซิมบ้ายังจําสไตล์การต่อสู้ที่เฉียบขาดและแม่นยําของมูฟาซาได้ เขารู้ทันทีว่ามูฟาซาต้องเป็นแชมป์เปี้ยนที่น่าเกรงขาม เพราะเขาเอาชนะหัวหน้าทหารรักษาการของเมืองได้อย่างง่ายดาย!

ท้ายที่สุดหัวหน้าทหารรักษาการของเมือง ก็เป็นบุคคลที่มีอํานาจมากที่สุดเท่าที่เด็ก ๆ เคยพบ

ขณะเดียวกัน มูฟาซาก็จําได้ว่าเขาน่าจะอยู่อันดับประมาณ 70 ด้วยคะแนนที่เขาได้รับจากกิจกรรมเกาะมนุษย์เงือก และยังไม่ได้รับแม้แต่หมวกโลมาที่เขาชอบ…

เมื่อดูความแข็งแกร่งจากจํานวนการล่ามนุษย์เงือก และผู้ที่ได้ฉายา “นักสํารวจเจ็ดทะเล” ที่มีเพียงไม่กี่คนที่ได้รับ ยกเว้นเทรอสเช่(อ้วน) และซิลวา(ผอม) ที่ได้มาโดยบังเอิญ

เนื่องจากผู้เล่นหลายคนมีทักษะ AOE มันเลยยากเกินไปที่เขาจะเก็บคะแนนจากการล่าด้วยทักษะดาบล้วน ๆ แม้ผู้เล่นทั่วไปจะไม่รู้ว่า “เกงโยคุ” เป็นยังไง แต่ผู้เล่นอาจรู้ว่าเกิ้งโยคห่วยแค่ไหนในการโจมตีระยะไกล ด้วยเหตุนี้การล่าจึงเป็นเรื่องยากอย่างมากสําหรับมูฟาซาผู้ไร้เทียมทานในการสู้ระยะประชิด

ดังนั้นเขาจึงไอแห้ง ๆ และใช้น้ำเสียงที่จริงจังอย่างผู้เชี่ยวชาญทางโลกว่า “ไม่หรอก ข้ายังเข้าไม่ถึงสามอันดับแรก”

เด็กชายทั้งสองประหลาดใจมาก พวกเขามองมูฟาซาย่างชื่นชมทันที แววตาของพวกเป็นประกายโดยไม่มีการเสแสร้งเจือปน นั่นทําให้มูฟาซารู้สึกผิดเหมือนโดนมีดปักหลัง