ตอนที่ 151 – โอกาสที่จะขยายกองทัพ!

โรมโบราณ: จากนายทาสสู่มหาจักรพรรดิ์

ตอนที่ 151 – โอกาสที่จะขยายกองทัพ!

*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

“ซาตาน ท่านรู้หรือไม่ว่าครั้งนี้สุละจะสิ้นท่าจริงๆนะ, ชื่อเสียงของเขาร่วงไปจุดต่ําสุดเลย จะเรียกชื่อเสียงกลับมาได้ก็คงยาก ยิ่งไปกว่านั้นทางคณะสภาก็ได้ออกเสียงเห็นด้วยกับข้อเสนอของข้าที่จะให้ยกเลิกความดีความชอบทางการทหารของสุละอีกด้วยนะ แค่นี้สุละก็ไม่สามารถเป็นกงศุลไปได้อีกสิบปีเลย…”

หลังจากกินเค้กหมดไป2ก้อน แอนดรูว์ก็ทนรอบอกข่าวดีให้เย่เทียนฟังไม่ไหว

“เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆครับ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ!”

เย่เทียนยิ้ม. นี่เป็นข่าวดีสําหรับแอนดรูว์และฝั่งของกาอิอุส มาเรียสจริงๆ สุละไม่สามารถสร้างอํานาจได้แล้ว. กาอิอุส แอนดรูวและฉินน่ามีโอกาสที่จะสร้างอํานาจได้มากกว่า

เย่เทียนเองก็ดีใจเหมือนกัน เพราะเหมือนได้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์, ตราบใดที่ฝั่งของเขามีอํานาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วิธีหาเงินต่างๆของเขาก็จะสะดวกขึ้น

เมื่อเวลามาถึง เขาจะเสนอให้พวกเขามาช่วยคุ้มกันธุรกิจของเขา เขาจะหาเงินไปซื้อเมือง หรือที่ซักที่ไว้ทํากองทัพอย่างลับๆและสะสมแหล่งอาหาร. เป็นดั่งจักรพรรด์เลยทีเดียว

ตราบใดที่แผนของเขายังราบรื่นไปเรื่อยๆ เย่เทียนเชื่อว่าเขาสามารถครอบครองทั่วทั้งโรม, ทําตัวเป็นทรราช, ค่อยๆเปลี่ยนแปลงระบอบสาธารณรัฐกลับเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ จากนั้นก็ยึดทั่วทั้งเมดิเตอเรเนี่ยนมาเป็นของเขาให้ได้

แน่นอนว่าที่พูดมาทั้งหมดนั้นไม่ได้ง่ายเลย เพราะทางสภามีคนคอยสอดส่องและจัดการเมืองใต้อาณัติของโรมอยู่ตลอด

เขากลัวว่าถ้าพยายามจะเปลี่ยนระบอบกลับ ในไม่ช้าก็คงโดนทหารจากทั้งโรมล้อมไว้แน่ๆ

“ทําไมท่านจึงดูนิ่งเฉยนักเล่า?”

หลังจิบไวน์เสร็จแอนดรูว์ก็เห็นว่าเย่เทียนเหม่อราวกับว่ากําลังคิดอะไรบางอย่างอยู่จึงถามออกไป.

“โอ๊ะ ท่านพูดอะไรน่ายินดีอีกหรือครับ?”

เย่เทียนได้สติกลับมาแล้วกล่าว

“บ้าจริง ข้านึกว่ามันจะทําให้เจ้าประหลาดใจได้ซะอีก. ข้าไม่นึกเลยว่าท่านจะตอบรับด้วยท่าทีนิ่งแบบนี้”

แอนดรูว์สายหัวแล้วพูดเบาๆ

“ผลประโยชน์เป็นของท่านหนิครับ. ข้าจะรอให้ท่านมอบรางวัลให้ข้านะครับ!”

เย่เทียนยิ้ม.

“บ้าเอ๊ยซาตาน ข้าไม่นึกเลยว่าท่านจะโลภเยี่ยงนี้ เราเป็นฝ่ายเดียวกันนะท่านยังมาถา มหาของรางวัลอีกรึ”

แอนดรูว์ยิ้มเงื่อนๆ เย่เทียนคิดแบบนี้ซะงั้นแต่มันก็ไม่ผิดหรอก. การเล่นงานสุละรอบนี้เป็นผลงานของเยเทียนทั้งหมด. ตระกูลทั้ง4ก็ได้เงินมหาศาลมาเพราะเขา เย่เทียนได้เพียงแค่5%จากเหมืองกับกากแร่แค่นั้นเอง

“ฮ่าๆๆๆ….กินเนื้อกินปลาสิครับ เดี๋ยวข้าไปเอาเครื่องดื่มร้อนๆมาให้…”

เย่เทียนหัวเราะ

“ท่านอยากได้อะไร?”

แอนดรูว์ยิ้มแล้วถามเย่เทียนไปตรงๆ

“ข้าอยากได้ทาสหญิงงามๆเสียหน่อย ขอที่ยังบริสุทธิ์และถ้าเป็นไปได้ข้าขอม้าศึกดีๆด้วยนะครับ!”

เย่เทียนยิ้มแล้วพูด

เงินเขามีไม่ขาดมือและอีกไม่นานก็คงหาได้อีกเป็นกอบเป็นกํา ที่ดินเองก็มีพอแล้วตอนนี้ดังนั้นเขาจึงอยากได้ทาสสาวงามมาสร้างกองทัพและสิ่งที่ทําให้ชีวิตเขามีความสนุกมากที่สุด นอกจากสะสมสาวงามแล้วก็เป็นม้าศึกนี่แหละ เพราะพวกมันหายากมาก

“พวกหนุ่มๆนี่ดีจังนะ!”

พอได้ยินเย่เทียนขอสาวงาม แอนดรูว์ก็ทําสายตาอิจฉา. ตอนนี้เขาชรามากแล้วอย่างมากก็ทําได้แค่มองสาวๆแค่นั้น

“เรื่องทาสสาวน่ะข้าหาให้ท่านได้ แต่ท่านก็ทําใจไว้ได้ล่ะว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสวยไปหมดหรอกนะ! ส่วนเรื่องม้าศึกข้าคงให้ไม่ได้หรอกเพราะตอนนี้ข้าเองก็ต้องการพวกมันเหมือนกัน!”

แอนดรูว์ยิ้มแล้วกล่าวกับเย่เทียนอย่างน่าเสียดาย

“ท่านจะเข้าสนามรบรครับ?”

เย่เทียนขมวดคิ้วแล้วถามแอนดรูว์

“ใช่แล้ว! ทางสภาตัดสินว่าจะตัดความดีความชอบของสุละทิ้ง, เพื่อที่จะเป็นการเลี่ยงไม่ให้เขาโกรธและต่อต้าน พวกเขาขอให้ข้าเป็นแม่ทัพแทนเขา, ข้าเองก็อยากหาโอกาสดีๆทิ้งจารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ของโรมด้วย”

แอนดรูว์ยิ้มแล้วพูดอย่างมีความสุข “หลังสงครามจบแล้ว ข้าอยากจะลงสมัครเป็นกงศุลต่อด้วย ถ้าได้เป็นหลายสมัยก็ดี!”

“แต่ในสนามรบนั้นการเปลี่ยนแม่ทัพและขบวนทัพเป็นเรื่องที่ไม่ดีหนิครับ!!”

เย่เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วกล่าวด้วยน้ําเสียงหนักแน่น

“ไม่อยากเชื่อจริงๆ ซาตาน นี่ท่านรู้เรื่องทางการทหารด้วยรึ?”

พอได้ยินเย่เทียนพูด สายของแอนดรูว์ก็ลุกเป็นไฟแล้วถามด้วยความประหลาดใจ..

“ข้ามิกล้าพูดหรอกว่าข้ารู้ เพราะข้าเองก็ไม่เคยก้าวเท้าเข้าสนามรบมาก่อนแต่ข้าเองก็พอจะเดาได้บ้าง!”

เยเทียนสายหัวทําตัวอ่อนน้อม

“ถ้าอย่างนั้นก็เข้าสนามรบไปกับข้าเป็นไง?”

แอนดรูว์ถามเย่เทียนด้วยความคาดหวัง

“ไม่ดีกว่าครับ ข้าเกลียดสงครามอีกอย่างข้าก็มีอีกหลายสิ่งที่ต้องทํา!”

เย่เทียนส่ายหัว. คงจะโง่มากถ้าเขาไปรบในแนวหน้า, คงจะใช้เวลาตรงนั้นอย่างน้อยก็ปีสองปีแน่ ช่วงนั้นใครจะไปรู้ว่าเขาจะพลาดอะไรบ้าง. ถ้าเขาใช้เวลา2ปีนั้นในโรม เขาก็น่าจะมีหนทางเติบโตได้เร็วกว่าทางทหารแน่

อีกอย่างเขาก็ไม่ได้มีความสนใจเรื่องสงครามสังคมมากด้วย เพราะสงครามนี้มันก็แค่สงครามกลางเมืองระหว่างโรมและอดีตพันธมิตรอิตาลี

ถ้าจะชนะสงครามก็คงต้องไปโค่นราชามิทริเดเชี่ยนหรือไม่ก็หายึดเมืองหรือชนเผ่าจํานวนมาก

ถ้าพวกเขาทําได้ ก็คงจะได้ทาส, ที่ดินและความมั่งคั่งมามากมายให้โรม.

“น่าเสียดายจริงๆ…”

แอนดรูว์กล่าวด้วยความเสียดายมากๆ เขานึกว่าเย่เทียนจะเคียงบ่ากับเขาเสียอีกถ้าได้แบบนั้นก็คงไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว

“จะว่าไปแล้ว ทางสภาก็อนุมัติให้ท่านไปปราบพวกท่านจลาจลแล้วนะ. ท่านไปจัดการซะแล้วทางสภาจะตบรางวัลให้, พรุ่งนี้หลังรุ่งสางจะมีม้าศึกดีๆเกือบ50ตัวรอให้ท่านใช้งาน!”

แอนดรูว์กล่าวกับเย่เทียน

“ขอบพระคุณครับท่านลอร์ด ออเรเลียส ค็อตต้า!”

เย่เทียนดีใจมากๆเพราะม้าศึกเกือบ50ตัวจะมาอยู่ในมือของเขาแล้ว เขาคงไม่ปล่อยให้พวกมันหลุดมือไปแน่.

“ข้าเดิมพันไว้กับพวกผู้ใหญ่ว่าท่านสามารถปราบพวกทาสจลาจลได้ด้วยตัวคนเดียว โดยไม่ต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากเรานะ!”

แอนดรูว์กล่าวพร้อมรอยยิ้ม

“เดิมพันไว้เท่าไหร่หรือครับ?”

เย่เทียนถาม.

“การเดิมพันก็คือถ้าท่านล้มเหลว ท่านจะต้องถูกทาสของตัวเองตัดหัว! แต่ถ้าท่านชนะได้ ทางสภาจะอนุญาตให้ท่านขยายกองทัพเพิ่มเป็น500คน!”

แอนดรูว์กล่าวด้วยเสียงขึงขัง “ข้าไม่ได้เพิ่มเดิมพันมากกว่านี้!”

“ฮ่ะๆ…แสดงว่ามีคนอยากให้ข้าตายเยอะสินะครับ?”

เย่เทียนยิ้มอย่างเยือกเย็น.

“ใช่ ในศาลครั้งก่อน ท่านทําตัวเด่นเกินไปแถมยังจะใช้กฏ “12โต๊ะ” ประหารชนชั้นสูงอีก คงทําให้ชนชั้นสูงคนอื่นไม่พอใจมากๆ!”

แอนดรูว์กล่าวกับเย่เทียนด้วยน้ําเสียงจริงจัง