ตอนที่ 212+123 เถาหยางทำการกุศล/ยับยั้ง
ตอนที่ 212 เถาหยางทำการกุศล
ซูเถาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ติงเหออวี้อย่างเข้าใจมากขึ้น โดยสงสัยว่าเธอจะ ‘เห็น’ สถานที่ที่เขาเสียชีวิตหรือไม่
แต่ไม่ว่าเธอจะมองขึ้น ลง ซ้าย ขวาอย่างไร ก็ไม่สามารถทำให้ความสามารถของเธอทำงานได้อีก หรือว่าจะต้องมีการสัมผัสเกิดขึ้น?
เพิ่งจะจับมือกันไป เธอไม่รู้จะหาจังหวะไหนสัมผัสเขาได้อีก งั้นก็ช่างมันเถอะ
รอยยิ้มของติงเหออวี้ปรากฏขึ้นเมื่อเขามองไปที่เธอ
อดไม่ได้ที่จะนึกถึงข่าวลือข้างนอกที่ว่าเถ้าแก่สาวของเถาหยางเป็นผู้หญิงไม่ดี… ขโมยคู่หมั้นของคนอื่น และคิดที่จะแทรกตัวเข้าไปเป็นมือที่สาม
ตอนแรกเขาไม่เชื่อ แต่ตอนนี้สายตาของเธอทำให้เขาคิดมากขึ้น
ถ้าเขาโสดก็ว่าไปอย่าง…แต่เหตุผลหลักคือเขามีภรรยาแล้ว และเขาไม่อยากยุ่งกับคนอื่น
ซูเถาจ้องมองเขาอย่างสำรวจ และตระหนักได้ว่าหากยังมองอย่างนี้ต่อไปจะเป็นการไม่สุภาพ ดังนั้นเธอจึงเบนสายตาและส่งยิ้มให้
“เมื่อกี้ ฉันคิดว่ารองนายกเทศมนตรีติงดูคุ้น ๆ น่ะค่ะ แต่ฉันอาจจำผิดคน เลยอดไม่ได้ที่จะดูอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจ อย่าถือสาเลยนะคะ”
ในขณะที่พูดเธอก็ส่งปืนของเธอให้ติงเหออวี้ “หากรองนายกเทศมนตรีติงอยากลองดู คุณสามารถออกไปข้างนอกและลองยิงได้”
ติงเหออวี้รู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น จากนั้นเขาก็หยิบปืนพกอย่างตื่นเต้นและวิ่งไปที่ประตูเพื่อพยายามยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือเขตเถาหยาง
แน่นอนว่ากระสุนดูเหมือนจะโดนโดมป้องกัน มันเกิดประกายไฟเล็กน้อยและระเบิดออกมา
แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่การได้เห็นอาวุธป้องกันที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ด้วยตาของเขาเองก็ยังทำให้ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
เดิมทีเขายังมีความสงสัยอยู่บ้างว่าเถาหยางมีเสบียงหรือไม่ แต่ในขณะนี้เรื่องนั้นมันถูกปัดไปหมดแล้ว
แม้แต่ฉางจิงเองก็ล้มเหลวในการพัฒนาโดมป้องกันที่มีความแข็งแกร่งและทรงพลัง แต่เถาหยางสามารถทำได้และยังครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดได้ ความแข็งแกร่งของผู้ที่อยู่เบื้องหลังไม่สามารถประเมินต่ำเกินไปได้จริง ๆ
ข่าวที่ว่ามีเสบียง ก็ยิ่งน่าเชื่อถือเข้าไปใหญ่
ติงเหออวี้รู้สึกประหลาดใจมากและอดไม่ได้ที่จะถามซูเถา
“ทำไมผมถึงไม่เคยได้ยินชื่อเถาหยางมาก่อน พูดตามตรง คุณมีเสบียงมากมายและระบบป้องกันที่ทรงพลังขนาดนี้ มันไม่น่าจะปิดได้เงียบขนาดนี้”
หากเขาไม่ได้รับการแนะนำจากจี้ป๋อต๋าจากฐานเหอคังในครั้งนี้ เขาคงไม่รู้ว่ามีสถานที่ดี ๆ อยู่ข้าง ๆ ตงหยาง
ถ้าก่อนหน้านี้มีชื่อเสียงโด่งดังก็คงไม่ถูกถามมากขนาดนี้
ซูเถาพูดอย่างเป็นกันเองว่า “พวกเราไม่ได้อยากโอ้อวด”
ในความเป็นจริง เธอรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องสร้างชื่อใหญ่ให้ตัวเองตั้งแต่แรก
พื้นที่ดินของเถาหยางนั้นเล็กมากและมีห้องไม่มากนัก มันไม่มีประโยชน์ที่จะทำให้มันมีชื่อเสียงเนื่องจากจำนวนผู้ที่สามารถเข้าพักอาศัยได้ก็มีไม่มาก
อีกอย่างเธอก็ขาดแคลนกำลังคน การที่มีคนจากตงหยางเพียงฐานเดียวลงทะเบียนขอเข้าพักก็ทำให้จวงหว่านปวดหัวมากแล้ว
ตอนนี้ซูเถาไม่ได้คิดเกี่ยวกับการมีชื่อเสียง
แต่การปล่อยข่าวเรื่องการขายเสบียงออกสู่โลกภายนอกนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าการหาช่องทางทำเงิน
ติงเหออวี้กระตุกมุมปากของเขา
จี้ป๋อต๋าถามด้วยความอิจฉาและคาดหวัง
“เถ้าแก่ซูให้ใครสร้างโดมป้องกันแบบนี้? ช่วยแนะนำเราด้วยได้ไหม ผมได้ยินมาว่าตงหยางสร้างกำแพงเมืองแต่ก็ถูกทำลายลงได้ แต่ของคุณดูใช้งานง่ายและแข็งแกร่ง”
ติงเหออวี้ลืมตาขึ้นเล็กน้อยและมองไปรอบ ๆ
แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่ากำแพงเมืองที่สร้างโดยอู๋ไถของพวกเขามานานหลายทศวรรษ ซอมบี้ก็ไม่สามารถเข้ามาได้ และไม่จำเป็นต้องมีโดมป้องกันนี้เลย
แต่เขาก็ยังสงสัยอยู่มากว่าเถาหยางได้โดมนี้มาได้อย่างไร
“ฉันไม่ได้หาคนสร้างมัน นี่คือความสามารถของฉัน”
นี่คือสิ่งที่ซูเถาพูดกับโลกภายนอกเสมอ
แน่นอนว่าทั้งสองยอมรับคำอธิบายนี้ทันที
ท้ายที่สุดแล้ว ในวันสิ้นโลกแบบนี้ การมีความสามารถที่แปลกประหลาดหรือพลังต่าง ๆ มากมาย และไม่ว่ามันจะไร้เหตุผลเพียงใด มันก็ดูสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง
จี้ป๋อต๋ายังคงไม่ค่อยเต็มใจที่จะยอมแพ้และถามอย่างไม่แน่ใจ
“ถ้าเกิดขอให้เถ้าแก่ซูไปที่เหอคังเพื่อสร้างโดมป้องกัน… เพื่อแลกกับของบางอย่างล่ะ”
ซูเถายิ้มและไม่พูดอะไร
ผู้อาวุโสเหม่ยสอนเธอว่าถ้าเธอมีคำถามที่ไม่สะดวกตอบ ให้มองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นสิ่งนี้จี้ป๋อต๋าพูดทันทีว่า “ผมขอโทษที่รีบร้อนไปหน่อย”
ขณะที่เขาพูด เขาถอนหายใจสองครั้ง “ผมค่อนข้างเป็นกังวล”
เหอคังไม่ใช่แค่ขาดเรื่องเสบียง
แต่เนื่องจากเงินทุนส่วนใหญ่ของพวกเขาถูกนำไปลงทุนในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้ว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จบ้าง แต่การพัฒนาอื่นๆ กลับล้าหลัง เช่น การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
แม้ว่าเหอคังจะมีกำแพงเมืองป้องกัน แต่เนื่องจากเหตุผลหลายประการ เช่น เงินทุนไม่เพียงพอ แม้ว่าการก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่คุณภาพก็ยังน่าเป็นห่วง
เคียวโลหิตแค่สองตัวก็สามารถทำลายมันลงได้
ซึ่งในตอนนี้มันเกิดรอยราวและเสียหายเป็นบริเวณกว้างหลายแห่ง
หากทีมของเสิ่นเวิ่นเฉิงไม่ได้สร้างผลการวิจัยในครั้งที่แล้ว ฉางจิงคงจะมอบอาวุธพลังงานนิวเคลียสให้เหอคังไปอีกสามอันและวัสดุก่อสร้างจำนวนมากเพื่อเป็นรางวัล เพื่อให้พวกเขาที่สามารถต้านทานคลื่นซอมบี้ขนาดใหญ่ระลอกสองได้
มิฉะนั้น เหอคังอาจล้มลงอย่างสมบูรณ์ภายในหนึ่งเดือน
ไม่รู้ว่ากำแพงเมืองที่ซ่อมแซมใหม่จะอยู่ได้นานแค่ไหน
จี้ป๋อต๋าเต็มไปด้วยความกังวล
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ติงเหออวี้ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ โชคดีที่ฐานอู๋ไถของพวกเขามีกำแพงเมืองถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วและแข็งแรง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนนี้
พวกเขาเดินไปรอบ ๆ เถาหยางเพื่อเยี่ยมชม
ติงเหออวี้ไม่อยากจะเชื่อมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพวกเขานั่งในห้องประชุมที่กว้างขวาง มีความสว่างไสวและเย็นสบายหลังการเยี่ยมชม พวกเขาก็เงียบไปเล็กน้อย
เขารู้สึกเสมอว่าการพัฒนาฐานอู๋ไถนั้นดีมาก อย่างน้อยก็ติดหนึ่งในฐานที่ดีที่สุดในชิงเผิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสะสมเสบียงและการก่อสร้างในช่วงปีแรก ๆ มีไม่รู้กี่ฐานที่อิจฉาพวกเขา
แต่ทว่าเมื่อเห็นเถาหยางตอนนี้ ก็รู้สึกทันทีว่าความคิดของเขาคับแคบมาโดยตลอด
ซูเถายื่นใบเสนอราคาสำหรับวัสดุให้พวกเขา และยังแสดงวิดีโอหรือภาพถ่ายของสินค้าแต่ละประเภทบนหน้าจอในห้องประชุม
ข้าวกล่องปรุงสำเร็จ ธัญพืช น้ำมันและเครื่องดื่ม ขนมปรุงรส ของใช้ในห้องน้ำ…มีทุกอย่าง
ติงเหออวี้ตื่นตาและตกตะลึง
เขาคิดว่าเสบียงเป็นน้ำหรืออาหารสำเร็จรูปธรรมดา ๆ หรือไม่ก็อาหารเทียมราคาถูก ๆ
ไม่คิดว่าจะมีคุณภาพขนาดนี้
เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเป็นเรื่องจริง
จี้ป๋อต๋าจ้องมองนานมาก และเริ่มตรวจสอบสิ่งของอย่างชำนาญ
ติงเหออวี้ก็เริ่มตรวจสอบและกรอกข้อมูลอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อเขาเห็นราคาในรายการใบเสนอราคาเขาก็ตกตะลึงอีกครั้ง
ใจที่เคยเชื่อ 99% กลับเหลือ 20% อย่างช่วยไม่ได้
จะมีเสบียงราคาถูกแบบนี้ได้ยังไง!
น้ำแร่เป็นขวด ที่เคยถูกปล้นไปขายข้างนอกมีราคาเพียง 20 เหลียนปัง?
ข้าวกล่องแสนอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการมีราคาเพียง 60 เหลียนปังต่อกล่อง?
……
เถาหยางกำลังทำการกุศลอยู่หรือเปล่า
ในวันสิ้นโลกแบบนี้ ไม่มีใครทำการกุศลแบบไม่หวังผล และมักจะมีกลอุบาย
ติงเหออวี้เริ่มจะระวังตัวมากขึ้น แม้กระทั่งมองจี้ป๋อต๋าในทางที่ไม่ดีไปแล้ว
เป็นไปไม่ได้ที่เหอคังและเถาหยางจะร่วมมือกันเพื่อโกงเขา
จี้ป๋อต๋าเงยหน้าขึ้นราวกับเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าเกรงขาม เขาเดาอะไรบางอย่างได้ และพูดออกมาอย่างไม่พอใจเล็กน้อย
“นายกเทศมนตรีติงคิดว่าเถ้าแก่ซูและผมได้สร้างกลอุบายเพื่อหลอกลวงคุณเหรอ? คุณกางใบเสนอราคาแล้วอ่านดูสิ”
ติงเหออวี้ปฏิบัติตามด้วยความลำบากใจและเมื่อเห็นเงื่อนไขเพิ่มเติมสามประการที่ด้านหลัง
การจัดหาเสบียงระยะยาวต้องชำระเงินเป็นผลึกนิวเคลียส 8 อันในคราวเดียว (สมาชิกระดับพรีเมี่ยม)
การจัดหารายเดือนต้องชำระผลึกนิวเคลียว 3 อัน (สมาชิก)
สำหรับการทำธุรกรรมรายครั้ง ต้องชำระเป็นผลึกนิวเคลียส 1 อัน และจำกัดการซื้อต่อหนึ่งครั้งไม่เกิน 500 จิน และต้องชำระผลึกนิวเคลียสเพิ่มเติมสำหรับทุก ๆ 100 จินที่เกิน (ลูกค้าทั่วไป)
……
ตอนที่ 213 ยับยั้ง
ดวงตาของติงเหออวี้เบิกกว้าง
ที่แท้ข้อแลกเปลี่ยนก็อยู่ตรงนี้!
แต่ตรงกันข้าม เขารู้สึกว่ามันสมเหตุสมผล และความไว้วางใจที่เขามีต่อเถาหยางก็กลับมาเป็น 90%
เขาเพิ่งพูดว่าเสบียงหายากเช่นนี้จะขายถูกและได้มาง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร
จี้ป๋อต๋าส่ายหัวและถอนหายใจ
“รองติงคงไม่ได้คิดว่าผมเป็นมิตรสหาย เพราะผมคิดว่าเสบียงของเถ้าแก่ซูน่าจะมีอย่างจำกัด ดังนั้นผมจึงไม่รีบร้อนที่จะพูดออกไป แต่ผมก็นึกถึงคุณและพาคุณมาที่นี่เพื่อซื้อก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด และไม่ได้สินค้าไป…”
ติงเหออวี้รีบขอโทษ “มันเป็นความผิดของผมเอง”
ซูเถายิ้มและพูดว่า “ทั้งสองท่านตรวจสอบเรียบร้อยดีหรือยังคะ หลังจากทำการตัดสินใจแล้ว ฉันจะให้คนเตรียมเสบียงไว้ล่วงหน้า”
จี้ป๋อต๋ารีบเซ็นเอกสารอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าติงเหออวี้จะตื่นเต้นมาก แต่เขามาที่เถาหยางในครั้งนี้เพื่อจุดประสงค์ในการตรวจสอบ และผู้นำเบื้องบนไม่ได้ให้งบประมาณแก่เขาเพื่อซื้อเสบียง
เขาคิดเรื่องนี้ไม่ตก
ซูเถาเห็นว่าเขาไม่ยอมขยับปากกา จึงถามว่า “รองติง มีเรื่องกังวลใจอะไรหรือเปล่าคะ”
ติงเหออวี้โบกมือ “เปล่าครับ” จากนั้นเขาก็กัดฟันและตัดสินใจซื้อเสบียงชุดแรกโดยควักกระเป๋าของเขาเอง
มิฉะนั้น เขากังวลจริง ๆ ว่าถ้าเขาไม่ซื้อมันในครั้งนี้ เขาจะรายงานต่อผู้นำอย่างไรเมื่อเขากลับไป และกว่าเงินจะได้รับการอนุมัติ เสบียงก็คงขายหมดแล้ว
ติงเหออวี้นำผลึกนิวเคลียส 1 อันออกมาอย่างไม่เต็มใจและถามอย่างเศร้าใจ
“เถ้าแก่ซู ถ้าครั้งหน้าผมมาที่นี่อีก คุณจะยังมีเสบียงอยู่ไหม”
เขาเพิ่งเหลือบมองไปที่รายการของจี้ป๋อต๋า มันอัดแน่นและดูเหมือนว่าเขาจะซื้อไปอย่างมากมาย
จี้ป๋อต๋าที่ต้องการเพิ่มอีกก็รู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย
ซูเถาพยักหน้าและพูดว่า “มีค่ะ ฉันมีการจัดจำหน่ายระยะยาว แต่ถ้าเสบียงบางอย่างขาดแคลนและมีไม่มาก ฉันก็จะให้สิทธิ์กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกอย่างเช่นคุณจี้ก่อน”
ติงเหออวี้รู้สึกโล่งใจและตัดสินใจที่จะกลับไปเกลี้ยกล่อมผู้นำเพื่อขออนุมัติผลึกนิวเคลียส 8 อันเพื่อสมัครเป็นสมาชิกระดับพรีเมี่ยม
จู่ ๆ จี้ป๋อต๋าก็มีความรู้สึกเหนือกว่าอย่างอธิบายไม่ได้
ทั้งสองส่งใบรายการสินค้าที่กรอกให้ซูเถา
ซูเถาดูอย่างรวดเร็วและให้หลินฟางจือเป็นคนเตรียม แต่เมื่อไป เธอก็เห็นติงเหออวี้กำลังกรอกเพื่อรับข้าวกล่อง 10,000 ชุด
“ข้าวกล่อง 10,000 ชุด? ถ้าอากาศร้อน อายุการเก็บก็แค่ 1 วัน เพราะมันเป็นอาหารปรุงสุก คุณอาจต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งวันในการส่งมันไปยังอู๋ไถ และมันอาจจะเน่าเสียระหว่างทาง” ซูเถาเตือน
ติงเหออวี้ยิ้ม
“เถ้าแก่ซูไม่ต้องกังวล ความสามารถของผมคือ ‘ยับยั้ง’ ซึ่งสามารถหยุดกาลเวลาในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งได้ คุณส่งมอบข้าวกล่องให้ผมแบบไหน ผมก็จะนำกลับไปถึงอู๋ไถแบบนั้น ถ้าของร้อนก็จะยังร้อนอยู่ ของเย็นก็จะยังคงเย็นอยู่”
ซูเถาทั้งตกใจและมองเขาอย่างประหลาดใจ
ความสามารถดีขนาดนี้…
เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพที่เธอ ‘เห็น’ เขายืนอยู่ใต้กำแพงเมืองและถูกสัตว์ประหลาดเลื้อยคลานข้ามกำแพงเมืองมากัด และจู่ ๆ ก็รู้สึกว่าน่าเสียดายที่ติงเหออวี้ที่ต้องมาเสียชีวิตแบบนี้
เธอถามด้วยความสับสน “รองติง คิดยังไงกับตงหยางคะ”
ติงเหออวี้ตกตะลึง คำพูดของเธอมีความหมายที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่ ดูเหมือนว่าเถาหยางมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตงหยางมาก
เขาจึงกล่าวขอโทษอย่างรวดเร็วว่า
“เป็นความจริงที่ผู้นำบางคนของอู๋ไถของเรามีอคติต่อตงหยาง แต่โดยส่วนตัวแล้วผมไม่มีความคิดในเรื่องนี้ มันเป็นจุดจบของโลกและไม่มีใครสามารถมีเกียรติหรือรักษาอำนาจได้ตลอดไป ในเวลานี้ทุกคนควรทำงานร่วมกัน”
ความประทับใจของซูเถาที่มีต่อเขาดีขึ้นมาก ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะเตือน
“รองติง กำแพงเมืองของคุณไม่ปลอดภัย คุณควรพยายามหลีกเลี่ยงการไปที่นั่นให้มากที่สุด”
ติงเหออวี้ขมวดคิ้ว
เขารู้สึกอยู่เสมอว่าอู๋ไถจะไม่สามารถถูกโจมตีได้ แต่กำแพงเมืองเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง เป็นสิ่งที่ฐานจำนวนมากอิจฉา ดังนั้นมันจะไม่ปลอดภัยได้อย่างไร