บทที่ 105: ห้ามหาวิทยาลัยชั้นนํา

ห้องทํางานของผู้อํานวยการไม่ใหญ่มาก มันดูเรียบง่ายและธรรมดาเสียด้วยซ้ํา

มันมีโซฟาและโต๊ะกาแฟอยู่ตรงข้ามโต๊ะทํางานของผู้อํานวยการ และผู้อํานวยการหยูก็กําลังชงชาอยู่

เจ้าหน้าที่รับสมัครจากมหาวิทยาลัยต่างๆนั่งลงพร้อมกับหวังเต็ง

“เป็นเกียรติของผมที่พวกคุณทุกคนมาด้วยตัวเอง ฉันรู้สึกซึ้งจริงๆ” หวังเต็งกล่าว

“คนเก่งมักได้รับสิทธิพิเศษเสมอ และเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น” ชายร่างอ้วนวัยกลางคนชมหวังเต็งโดยไม่ลังเล เขายิ้มและพูดต่อ “ให้ฉันแนะนําตัวเอง ฉันเป็นครูจากโรงเรียนทหารฮวงไห่ เรียกฉันว่าคุณฉินก็ได้”

ครูอีกคนที่อยู่ข้างๆสังเกตว่าคุณฉันเป็นผู้ริเริ่ม ดังนั้นเขาจึงรีบพูดต่อว่า “หวังเต็ง ฉันเป็นครูจากมหาวิทยาลัยตงไห่ เรียกฉันว่าคุณหลี่ก็ได้”

“…จากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง เธอสามารถเรียกฉันว่าคุณหวังก็ได้”

ครูจากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งเป็นชายอายุประมาณสามสิบปี เขาดูเย็นชาและมีน้ําเสียงที่หยิ่งผยอง

“ฉันมาจากโรงเรียนทหารนครหลวง นามสกุลของฉันคือโจว”

“ฉันมาจากมหาวิทยาลัยจินหลิน เรียกฉันว่าคุณเซียก็ได้” คุณเซียเป็นผู้หญิงคนเดียวในบรรดาครูทั้งหมด เธอไม่ได้น่าทึ่ง เธอดูธรรมดามาก กระนั้นเธอก็มีออร่าที่สง่างามและดูเป็นผู้ใหญ่ น้ําเสียงของเธอแผ่วเบาและอ่อนโยนราวกับว่ามีลมอุ่นๆพัดผ่านใบหน้าของคุณ

มันมีครูเพียงห้าคนเท่านั้นที่มาในวันนี้

อย่างไรก็คาม ครูทั้งห้าก็มาจากมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศ!

มหาวิทยาลัยอื่นต่างก็รู้สึกว่าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะพวกมหาวิทยาลัยเหล่านี้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะไม่มา

ตราบใดที่หวังเต็งไม่โง่ หวังเต็งก็จะไม่มีทางเลือกมหาวิทยาลัยของพวกเขาแทนมหาวิทยาลัยชั้นนําอย่างแน่นอน

ในขณะนี้ คุณหวงจากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งก็เปิดปากอย่างสงบ “หวังเต็ง เธอน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งมาก่อนใช่ไหม?”

“เรามีเครื่องอํานวยความสะดวกสําหรับการใช้สอนที่เพรียบพร้อมที่สุดในประเทศ ครูของเราเองก็ล้วนเป็นนักสู้ระดับทหารอย่างน้อยสี่ดาว!”

“นอกจากนี้ผู้บริหารของเราส่วนใหญ่ก็เป็นนักสู้ระดับทหาร 6 ดาวด้วย”

“เราสามารถให้คําแนะนําที่ยอดเยี่ยมแก่เธอได้ ไม่ว่าเธอจะมีคําถามเกี่ยวกับการฝึกฝนประจําวันของเธอหรือความยากลําบากเมื่อเธอต้องการที่จะบุกทะลวง”

“ต่อไปมาพูดถึงเรื่องทรัพยากรกัน เธอจะไม่สามารถจินตนาการได้แน่นอนว่าแหล่งข้อมูลที่คุณสามารถเพลิดเพลินได้ที่มหาวิทยาลัยของเรานั้นมันมีอะไรบ้างทั้งคัมภีร์,เทคนิคการต่อสู้,ยาเม็ด, หินพลังงาน ฯลฯ เราสามารถมอบทุกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเธอได้ และฉันไม่ได้อยากจะดูถูกที่อื่นหรอกนะ แต่พวกเขาอ่อนแอกว่าเรามากในเรื่องนี้”

“นอกจากนี้เราก็ยังมีศิษย์เก่าที่ได้ดีมากมาย บางคนเป็นนักธุรกิจ ในขณะที่บางคนก็เข้าสู่โลกการเมือง และมันก็ยังมีบางคนที่ไปรับราชการทหารด้วย ตราบใดที่เธอมาเรียนที่มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง รุ่นพี่เหล่านี้ก็จะเป็นเครือข่ายที่คอยสนับสนุนเธอเช่นกัน”

“ทุกคนต้องพึ่งพาตนเอง แต่การที่มีพวกเขายืนอยู่ข้างหลังเธอ มันก็จะช่วยเธอได้มากเหมือนกัน”

“อธิการบดีของเราคือนักสู้ระดับแม่ทัพ 11 ดาว เขาเป็นคนที่น่านับถือและมีอํานาจมากในโลกแห่งการศึกษา และเขาก็โด่งดังไปทั่วโลก!”

“ก่อนที่ฉันจะมาที่นี่ เขาก็บอกฉันแล้วว่าฉันต้องพาเธอไปหาเขาให้ได้ เขาต้องการที่จะพบเธอจริงๆ”

“มาที่มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง ถ้าเธอไม่มา เธอก็จะต้องเสียใจอย่างแน่นอน”

เมื่อพวกเขาได้ยินข้อเสนอทั้งหมด ครูจากอีกสี่มหาวิทยาลัยก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป แม้แต่ผู้อาวุโสที่อยู่บนจุดสูงสุดของโลกแห่งการศึกษาทางตอนเหนืออย่างมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งก็ยังหมายตาหวังเต็ง?

“หวังเต็ง ครูและทรัพยากรที่มหาวิทยาลัยจินหลินเองก็เทียบเท่าได้กับของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง และเราก็มีศิษย์เก่าที่ได้ดีมากมายหลายคนอีกด้วย อันที่จริงเราก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าพวกเขาเลย อธิการบดีของเราเองก็เป็นนักสู้ระดับ 11 ดาวเช่นเดียวกัน และเขาก็มีชื่อเสียงมากในภาคใต้ ตงไห่เองก็อยู่ทางภาคใต้เช่นกัน ดังนั้น จินหลินจึงเหมาะกับเธอมากกว่า” ครูจากมหาวิทยาลัยจินหลินกล่าวอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม คําพูดของเธอก็มีพลังน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับครูจากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง แม้แต่อธิการบดีของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งก็ยังตระหนักถึงความสําคัญของหวังเต็ง นั่นหมายความว่าเขาได้ตั้งความ หวังเอาไว้สูงมากสําหรับหวังเต็ง

ดังนั้นเมื่อหวังเต็งเข้าสู่มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งแล้ว เขาก็จะกลายเป็นนักเรียนคนสําคัญของพวกเขา

“หวังเต็ง อย่าไปสนใจเรื่องอื่นเลย ตงไห่ของเราเป็นเมืองธุรกิจที่สําคัญ ดังนั้นทรัพยากรของมหาวิทยาลัยตงไห่เองจึงเทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยอื่นๆเช่นกัน ครูของเราเองก็เก่งด้วย เรามีนักสู้ระดับทหาร 5 ดาว, 6 ดาว และ 7 ดาว เรามีมากเท่าที่เธอต้องการ” คุณหลี่จากมหาวิทยาลัยตงไห่กล่าว

จากนั้นเขาก็หัวเราะและพูดต่อ “สําหรับอธิการบดีของเรา เขาก็เป็นนักสู้ระดับแม่ทัพ 11 ดาว เขาพูดถึงเธอหลายครั้งต่อหน้าฉัน ถ้าเขาไม่มีงานต้องทํา เขาก็คงจะมาที่นี่เป็นการส่วนตัวและคว้าตัวเธอไปเองแล้ว เขาจะไม่มีวันยอมให้เธอหนีไปอย่างแน่นอน”

หวังเต็งรู้สึกประหลาดใจ

โอ้พระเจ้า!

นักสู้ระดับแม่ทัพ 11 ดาวสามคน!

ในขณะนี้ มันมีเพียงครูจากโรงเรียนทหารสองแห่งเท่านั้นที่ยังไม่ได้พูดอะไร พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน

กระจอก!

คุณฉินจากโรงเรียนทหารฮวงไห่ยังคงยิ้มต่อไปในขณะที่เขาพูดอย่างใจเย็น “อันที่จริง คุณภาพและปริ มาณของทรัพยากรและครูของโรงเรียนของเรานั้นก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ มันไม่มีอะไรแตกต่างกันมาก”

“หวังเต็ง ฉันเคยเห็นวิดีโอการประเมินการต่อสู้จริงของเธอแล้ว เธอแข็งแกร่งมาก มาที่โรงเรียนทหารของเราสิ นี่คือสถานที่ที่เธอจะสามารถพัฒนาความสามารถของเธอด้อย่างเต็มที่”

“เรากําลังสร้างกองกําลังในทวีปซินหวี่ ตราบใดที่เธอทําผลงานได้ดี เธอก็จะได้รับยศทางทหารและจะสามารถไปยังทวีปซินหวี่เพื่อต่อสู้และสั่งการกองกําลังของเธอเองได้”

“ ศักยภาพสูงสุดของนักสู้จะสามารถแสดงให้เห็นได้แค่ในสนามรบเท่านั้น และทวีปซินหวูนั้นก็เป็นสนามรบที่กว้างใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย

“จากมุมมองหนึ่ง นักสู้คือทหาร”

“นักสู้ต้องต่อสู้!”

“และทหารที่ไม่อยากเป็นนายพลก็จะไม่ใช่ทหารที่ดี”

“และมันก็มีเพียงโรงเรียนทหารเท่านั้นที่จะสามารถตอบโจทย์ในข้อนี้ได้”

“นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ยังได้พูดคุยและตกลงกันว่าเมื่อเธอเข้าสู่โรงเรียนทหารฮวงไห่ของเรา เธอก็จะได้รับยศจ่าในทันที”

ครูสามคนจากจินหลิน,ตงไห่และแม้แต่มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งต่างก็มีการแสดงออกที่เปลี่ยนไป “แก… ไอ้ไร้ยางอาย แกกําลังใช้ยศทางทหารเพื่อดึงดูดหวังเต็ง”

“หม คุณจะใช้วิธีนี้ก็ได้นะ” คุณฉินยิ้มและตอบอย่างไร้เดียงสา

“ใช่แล้ว คุณก็ใช้วิธีนี้ได้เหมือนกัน ถ้าทําได้อ่ะนะ” คุณโจวจากโรงเรียนทหารนครหลวงพยักหน้า จากนั้น เขาก็พูดกับหวังเต็งว่า “ โรงเรียนทหารนครหลวงของเราก็เสนอเงื่อนไขเดียวกัน อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับโรงเรียนทหารฮวงไห่ เราก็มีข้อได้เปรียบอยู่อีกประการหนึ่ง”

เขาหยุดและเหลือบมองไปที่คุณฉินอย่างภาคภูมิใจก่อนจะกล่าวว่า “ศิษย์เก่าที่โดดเด่นคนหนึ่งของเราคนหนึ่งคือ – นายพลเหล่ยเหยาผู้รับผิดชอบกองกําลัง พยัคฆ์แดงเดือด ในทวีปซินหวี่ กองกําลังพยัคฆ์แดงเดือดนั้นมีมาเป็นเวลาสิบปีแล้วและมันก็เป็นกองกําลังที่โตเต็มที่แล้ว หากเธอทําได้ดี เราก็สามารถมั่นใจได้ว่า เธอจะสามารถเข้าร่วมกับพวกเขาและมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องได้ในอนาคต และเธอก็จะสามารถสร้างชื่อให้ตัวเองได้”

คุณโจวพูดอย่างหนักแน่นและกระตือรือร้น คําพูดของเขานั้นน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก

ครูคนอื่นๆเงียบไป พวกเขาตั้งความหวังไว้สูงสําหรับหวังเด็ง ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะพาเขาเข้าหาฝ่ายตนเองให้ได้

อย่างไรก็ตาม หวังเต็งก็มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆตามข้อเสนอที่ทุกมหาวิทยาลัยมอบให้กับเขา

“หวังเต็ง ศิษย์เก่าหลายคนจากโรงเรียนทหารฮวงไห่ของเราก็กําลังสร้างกองกําลัง เหยี่ยวดํา เช่นกัน ด้วยการที่พวกเขาเพิ่งก่อตัวขึ้น ดังนั้นมันจึงมีปัญหามากมายตลอดทาง อย่างไรก็ตาม มันก็หมายความว่ามันก็มีโอกาสมากมายที่รอเธออยู่ ในทางกลับกันพยัคฆ์แดงเดือดนั้นก็โตเต็มที่แล้ว ดังนั้นแม้ว่าเธอจะได้เป็นถึงนายพล แต่การเติบโตของเธอก็จะมีขีดจํากัดอยู่ดี” คุณฉินกล่าว

“หืม คุณจะมอบตําแหน่งนายพลให้กับหวังเต็งในกองกําลังเหยี่ยวดําของคุณได้เลยหรอ? ฉันคิดว่าคุณกําลังวาดภาพเพ้อเจ้ออยู่นะ” คุณโจวกล่าวด้วยความรังเกียจ