หวัง​ซีส​่​งค​นที​่​มาช​มด​อก​ไม้​ใน​เรือน​ของ​นาง​กลับ​ไป​ด้วย​ความ​งุนงง​ ​ผล​ปรากฏ​ว่า​ฉับพลัน​นั้น​ก็​มี​แขก​อีก​กลุ่ม​หนึ่ง​มา​เยือน​อีกแล้ว

ยัง​มี​คน​ถาม​นาง​ว่า​ ​“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ไม่​ไปร​่ว​มงา​นม​งคล​”

หวัง​ซีจำ​ต้อง​นำ​เรื่อง​ที่​ตน​ระคายเคือง​คอ​ออกมา​เล่า​ให้​ฟัง​อีก​รอบ​หนึ่ง

ทุกคน​ไม่​ไล่​ถาม​อีก​ ​เรื่อง​ที่​ดึง​นาง​ไป​ถาม​ล้วน​เป็นเรื่อง​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​เหล่านั้น​ทั้งสิ้น

หวัง​ซี​หา​ใช่​คนโง่​ ​ไม่นาน​ก็​ค้นพบ​ความผิดปกติ

คน​เหล่านี้​ไม่ได้​มา​เพื่อ​ชื่นชม​ดอกไม้​ของ​นาง​แล้วก็​ไม่ได้​สนใจ​ว่านาง​จะ​ไปร​่ว​มงา​นม​งคล​หรือไม่​ด้วย​ ​ดูเหมือน​มา​เพื่อ​ดู​ว่านาง​หน้าตา​เป็น​อย่างไร​มากกว่า

มีเรื่อง​อะไร​ที่นาง​ไม่รู้​เกิดขึ้น​หรือเปล่า​นะ​?

หวัง​ซีล​อบ​ตรึกตรอง

พอ​มี​คน​มา​เยี่ยม​นาง​อีก​ ​นาง​จึง​บอกว่า​ป่วย​ไม่​ออก​ไป​พบ

มี​คน​ไป​พูด​ต่อหน้าฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ทันที​ว่า​ ​“​ได้​เชิญ​ท่าน​หมอ​มาดู​อาการ​หรือยัง​ ​แม้น​กล่าวว่า​วันนี้​เป็น​วัน​ออกเรือน​ของ​คุณหนู​ซือ​ ​แต่​ก็​ไม่​อาจ​ปล่อย​ให้​คุณหนู​หวัง​ต้อง​อดทน​เช่นนี้​ ​ยาม​ที่​ควร​เชิญ​ท่าน​หมอ​มาก​็​ต้อง​เชิญ​มาดู​หน่อย​ ​อย่างมาก​ก็​ให้ท่าน​หมอ​เข้า​จาก​ด้านหลัง​ก็ได้​!​”

น้ำเสียง​คล้าย​บอกว่า​ไม่จำเป็น​ต้อง​ละเลย​ความปลอดภัย​ของ​ทุกคน​ใน​บ้าน​เพียง​เพื่อให้​งานแต่ง​ของ​ซือ​จูมี​บรรยากาศ​ชื่นมื่น​เพียง​อย่าง​เดียว​ ​คน​เหมือนกัน​แต่กลับ​ปฏิบัติ​ต่างกัน

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​โกรธ​จน​แทบจะ​ล้ม​ตึง

นาง​ไม่​ให้​หวัง​ซี​ไปหา​หมอ​เมื่อใด​กัน​?

นอกจากนี้​ด้วย​ความ​ฉลาด​เฉียบแหลม​ของ​หวังห​มัว​มัว​คน​ข้าง​กาย​หวัง​ซี​ผู้​นั้นแล​้ว​ ​หาก​หวัง​ซีป​่วย​จริง​ ​จะ​ไม่​ไป​เชิญ​หมอ​เพราะ​เห็นแก่​งานมงคล​ของ​ซือ​จู​ได้​อย่างไร

แต่​เมื่อม​อง​สีหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​ความเป็นห่วง​ของ​คนที​่​มาหา​แล้ว​ ​นาง​ไม่​อยาก​ให้​มี​ ​‘​เรื่องอื้อฉาว​ของ​ครอบครัว​’​ ​แพร่​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​จึง​ระงับ​เอาไว้​ครั้งแล้วครั้งเล่า​จน​กลืน​ความ​เดือดดาล​นั้น​ลง​ไป​ได้​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​มีเรื่อง​เช่นนั้น​ที่ไหน​กัน​ ​นาง​ก็​แค่​ระคายเคือง​คอ​เท่านั้น​ ​หาก​ถึงขั้น​ที่​ต้อง​เชิญ​ท่าน​หมอ​จริง​ ​ข้า​ย่อม​ให้​คน​ไป​เชิญ​หมอ​มา​ให้​นาง​นาน​แล้ว​”

ทว่า​ใน​ใจ​กลับ​ตำหนิ​หวัง​ซี​ว่า​ไม่รู้​ความ​ ​มีเรื่อง​อะไร​ไม่​รอ​ให้​ซือ​จู​ออกเรือน​ไป​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​ ​โดยที่​ไม่รู้​ตัว​เลย​ว่า​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​นั้น​ดู​ฝืด​ฝืน​มาก​เท่าไร​ ​ทำให้​คนที​่​มาถา​มนา​งอด​พึมพำ​อยู่​ใน​ใจ​ไม่ได้​ว่า​ ดูแล​้ว​ข่าวลือ​ที่​บอกว่า​หย่ง​เฉิง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ตามใจ​หลานสาว​จาก​ตระกูล​เดิม​อย่าง​ไม่มีข้อจำกัด​นั้น​คง​ไม่ใช่​เรื่อง​เท็จ​เสีย​แล้ว​ ​แม้แต่​คุณหนู​หวัง​ที่​เป็น​เช่นนี้​ยัง​ต้อง​มีชีวิต​โดย​ดู​สีหน้า​ของ​ซือ​จู​ ​คนอื่นๆ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​แล้ว

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​แก่​จน​เลอะเลือน​ไป​แล้ว​จริงๆ​!

นาง​ยิ้ม​ตาหยี​พร้อมกับ​พยักหน้า​ ​กล่าว​กับ​โหวฮู​หยิน​ว่า​ ​“​เชิญ​หมอ​สัก​คน​มาดู​อาการ​เผื่อ​เอาไว้​ดีกว่า​!

โหวฮู​หยิน​ไม่​อยาก​ให้​มีปัญหา​อะไร​เกิดขึ้น​ในเวลานี้​อีก​ ​ขานรับ​คำ​ซ้ำๆ​ ​ว่า​ ​“​ได้​”​ ​จัด​ให้​คน​ไป​เชิญ​ท่าน​หมอ​มา

ฟาก​ซือ​จู​กลับ​เดิน​วน​ไป​วน​มา​อยู่​ใน​ห้อง​ชั้นใน​ ​ชุดแต่งงาน​สีแดง​สด​ปัก​ลาย​นก​เฟิ​่ง​เพลิง​ชม​ตะวัน​ด้วย​ด้าย​สีทอง​แขวน​อยู่​บน​ราว​แขวน​ผ้า​ ​แสง​ตกกระ​ทบ​ส่อง​ประกาย​ระยิบระยับ​จน​ตาพร่า

นาง​ต้อง​แต่ง​เข้า​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วกง​จริงๆ​ ​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ

นาง​ทำให้​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ไม่พอใจ​ไป​แล้ว​ ​แต่​ถ้า​ให้​ไป​ขอร้อง​ให้​เฉิน​อิง​คนอ่อนแอ​ไร้ความสามารถ​แต่​ยัง​คิด​ว่า​ตัวเอง​ถูกต้อง​ผู้​นี้​ปกป้อง​…​นาง​ยอม​ตายดี​กว่า​!

ซือ​จูนึก​ถึง​ภาพ​เหตุการณ์​ที่​เฉินลั​่ว​ยิง​ธนู​อยู่​บน​ลาน​ฝึก​แล้ว​ได้รับ​ความสนใจ​จาก​ทุกคน​ ​รวมถึง​เสียง​โห่ร้อง​ไชโย​ไม่​หยุด​ ​ในขณะที่​เฉิน​อิง​กลับ​หลบ​อยู่​ใน​มุม​หนึ่ง​มอง​ด้วย​สายตา​ที่​เต็มไปด้วย​ความริษยา​นั้นแล​้ว​ ​หัวใจ​รู้สึก​เหน็บ​หนาว​ยิ่งนัก

ด้าน​หวัง​ซีก​ลับ​ได้​ต้อนรับ​ท่าน​หมอ​ที่​โหวฮู​หยิน​เชิญ​มา​ให้

นาง​ตะลึงงัน​พูด​อะไร​ไม่​ออก​ไป​ครู่ใหญ่​ ​ถาม​หวังห​มัว​มัว​ว่า​ ​“​มี​คน​เชื่อ​คำพูด​ดังกล่าว​จริงๆ​ ​หรือ​”

หวังห​มัว​มัว​คิด​แล้ว​ตอบ​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​ไป​ถาม​ดู​เจ้าค่ะ​”

วันนี้​มีเรื่อง​แปลกประหลาด​มากเกินไป​แล้ว​ ​หวัง​ซี​โบกมือ​ ​กล่าว​อย่าง​หมดแรง​ว่า​ ​“​ช่างเถอะ​!​ ​เขา​จะ​จับชีพจร​ก็​ให้​เขา​จับชีพจร​ไป​ ​ข้า​ไม่ได้​ตรวจ​ชีพจร​มาระ​ยะ​หนึ่ง​แล้ว​พอดี​ ​ช่วงนี้​รู้สึก​ร้อน​คอ​เล็กน้อย​ด้วย​ ​กิน​ยาล​ดอา​การ​ร้อนใน​สักหน่อย​ก็ดี​เหมือนกัน​”

กล่าว​ไป​กล่าว​มา​ ​ก็​เป็น​เพราะ​หวัง​ซีจุด​ท่อ​ทำความ​ร้อน​เร็ว​เกินไป​นั่นเอง

หวังห​มัว​มัว​หัวเราะ​ ​ไป​เชิญ​ท่าน​หมอ​เข้ามา

ไม่​คิด​ว่า​จะ​เป็น​หมอ​หลวง​จาก​สำนัก​หมอ​หลวง

หมอ​หลวง​ท่าน​นั้น​จับชีพจร​แล้ว​เขียน​เทียบ​ยา​ให้​ ​หวัง​ซีดู​เทียบ​ยา​แล้ว​พบ​ว่า​มี​แค่​อาการ​ร้อนใน​เล็กน้อย​เท่านั้น​จริงๆ

นาง​ให้​ไป๋​กั่ว​ไป​จัด​ยา​ ​และ​ให้​หวังห​มัว​มัว​ไป​ส่ง​หมอ​หลวง​ท่าน​นั้น

หวังห​มัว​มัว​ยัด​ซอง​แดง​ให้​ซอง​หนึ่ง​ ​หลังจากที่​ทราบ​ลำดับ​ความเป็นมา​ของ​เรื่องราว​แล้วก็​อด​มุ่น​คิ้ว​จน​แน่น​ไม่ได้

ยัง​ไม่ได้​แลก​เทียบ​อักษร​แปด​ชะตา​กัน​เลย​ก็​ลือ​ว่า​คุณหนู​ของ​พวกเขา​กำลังจะ​แต่ง​กับ​เฉินลั​่ว​แล้ว​ ​นี่​ถ้า​งานแต่ง​นี้​ล้มเหลว​ ​มิ​เท่ากับ​ว่า​ชื่อเสียง​ของ​คุณหนู​ของ​พวกเขา​ก็​จบสิ้น​ไป​ด้วย​หรอก​หรือ

นาง​เดิน​กลับไปกลับมา​อยู่​นอก​ประตู​บ้าน​เป็นเวลา​เนิ่นนาน​ ​สุดท้าย​เข้า​เรือน​ไป​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​หวัง​ซีฟัง

หวัง​ซี​เบิก​ดวงตา​กว้าง​ ​ครู่ใหญ่​ก็​ยัง​ไม่ได้​สติ​คืน​กลับมา

จ่าง​กง​จู่​ถูกใจ​นาง​ตั้งแต่​เมื่อใด​กัน​?​ ​มี​ใคร​ไป​พูด​อะไร​ต่อหน้า​นาง​หรือเปล่า​ ​หรือ​จ่าง​กง​จู่​แค่​อยาก​หา​อนุภรรยา​ดี​ๆ​ ​ให้​เฉินลั​่ว​สัก​คน​ ​ทุกคน​ลือ​กัน​ไป​ลือ​กัน​มา​เลย​กลายเป็น​ว่า​ต้องการ​แต่ง​ภรรยา​?

นาง​รู้สึก​ร้อนใจ​เล็กน้อย​ ​รีบ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​หาทาง​ไป​สืบมา​ให้​กระจ่าง​ว่า​จ่าง​กง​จู่​หมายความว่า​อย่างไร​กัน​แน่​ ​ข้า​ไม่มีทาง​ยอม​เป็น​อนุภรรยา​ของ​ผู้อื่น​”

โดยเฉพาะ​เฉินลั​่ว

เหตุใด​เขา​กับ​ภรรยา​เอก​เป็น​กิ่งทองใบหยก​ ​ส่วน​ตน​กลับ​ต้อง​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​เพื่อ​ยก​น้ำ​ริน​ชา​ให้​พวกเขา​ด้วย​?

อย่า​แม้แต่​จะ​คิด

หวังห​มัว​มัว​กลับ​รู้สึก​ลำบากใจ​เล็กน้อย​ ​กล่าวว่า​ ​“​ก่อนหน้านี้​ข้า​ก็ได้​ยิน​ข่าวลือ​มาบ​้าง​แล้ว​ ​จึง​ไปหา​รือ​กับ​หลง​จู๊​ใหญ่​ ​อยาก​สืบ​ให้​กระจ่าง​ว่า​ตกลง​เรื่องราว​เป็นมา​อย่างไร​กัน​แน่​ ​แต่​จนถึง​บัดนี้​ด้าน​หลง​จู๊​ใหญ่​ก็​ยัง​ไม่มี​ข่าว​แน่ชัด​ส่ง​มา​ให้​ข้า​สัก​อย่าง​ ​หาก​ให้​ข้า​ไป​สืบ​ ​ผู้อื่น​ต่าง​รู้​ว่า​ข้า​เป็น​คน​ข้าง​กาย​ท่าน​ ​เกรง​ว่า​ข้า​ยัง​ไม่ทัน​ได้​เอ่ยปาก​ทุกคน​ก็​ระแวง​ข้า​ไป​ก่อน​แล้ว​”

กลัว​ว่า​ผู้อื่น​จะ​ไม่​พูดความจริง​ต่อหน้า​นาง​ ​ข่าว​ที่นาง​ได้มา​อาจ​เป็นข่าว​ลวง​ทั้งหมด

ข้าง​กาย​พวก​นาง​มี​ใคร​พอ​จะ​พูด​กับ​จ่าง​กง​จู่​ได้​บ้าง​นะ

หวังห​มัว​มัว​เสนอ​ความคิด​ให้​หวัง​ซี​ ​“​ควร​ไป​เยี่ยมฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ที่​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

คนที​่​พอ​จะ​พูด​กับ​จ่าง​กง​จู่​ได้​ก็​เห็นจะ​มี​แค่ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​และ​โหวฮู​หยิน​ที่​กุมอำนาจ​ใน​บ้าน​ไม่​กี่​ท่าน​เท่านั้น​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ไร้ประโยชน์​ ​จ่าง​กง​จู่​จึง​ไม่เห็น​นาง​อยู่​ใน​สายตา​ ​บัดนี้​อยาก​สืบ​ข่าว​ก็​คง​ต้อง​ไป​ขอร้อง​ถึง​จวน​ของ​ผู้อื่น​แล้ว

หวัง​ซี​ได้ยิน​แล้ว​ดวงตา​เป็นประกาย​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เหตุใด​ต้อง​ยุ่งยาก​ขนาด​นั้น​ด้วย​ ​แทนที่จะ​ไป​ถาม​ผู้อื่น​ ​ได้รับ​ข้อมูล​ที่​ไม่รู้​ว่า​จริง​หรือ​เท็จ​ ​ไม่​สู้​ไป​ถาม​เจ้าของ​เรื่อง​โดยตรง​เลย​ดีกว่า​”

นาง​ลุกขึ้น​มา​ ​ตะโกนเรียก​ไป๋​กั่ว​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​ไป​บอก​หวัง​สี่​สัก​คำ​หนึ่ง​ว่า​ข้า​ต้องการ​พบ​ใต้เท้า​เฉิน​!​”

ไป๋​กั่ว​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​ขานรับ​อย่างนอบน้อม​แล้ว​ถอย​ออก​ไป

หวังห​มัว​มัว​อยาก​พูด​อะไร​บางอย่าง​แต่​ก็​หยุด​ไป

หวัง​ซี​รู้​ว่านา​งกำ​ลัง​เป็นห่วง​ตน​ ​จึง​กล่าว​ปลอบโยน​นาง​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ต่อให้​ใต้เท้า​เฉิน​ไม่รู้​ ​แต่​มี​เขา​ช่วย​ไป​สืบ​ข่าว​ให้​ ​หรือไม่ก็​ช่วย​ปฏิเสธข่าว​ลือ​ให้​ ​ย่อม​สะดวก​กว่า​พวกเรา​มาก​”

นี่​ก็​จริง

หวังห​มัว​มัว​มี​ความกังวล​อีก​ประการหนึ่ง​ ​“​กลัว​แต่ว่า​จ่าง​กง​จู่​จะ​มี​ความคิด​นี้​จริงๆ​ ​อยาก​ให้ท่าน​เป็น​อนุภรรยา​”

“​เช่นนั้น​ก็​ประจวบเหมาะ​พอดี​”​ ​หวัง​ซีก​ลับ​ไม่​กังวล​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​จ่าง​กง​จู่​คง​ไม่​อาจ​บีบบังคับ​ให้​ใต้เท้า​เฉิน​รับ​อนุภรรยา​ได้​หรอก​กระมัง​ ​หาก​ข้า​โน้มน้าว​ใต้เท้า​เฉิน​ได้​ ​มิ​เท่ากับ​ว่า​เรื่อง​นี้​จะ​ได้รับ​การ​แก้ไข​ที่​ต้นเหตุ​แล้ว​หรอก​หรือ​ ​นี่​ถึง​จะ​เป็นการ​ใช้​กลยุทธ์​สลาย​กองทัพ​ของ​ศัตรู​อย่างที่​ท่าน​ปู่​เคย​บอก​ข้า​”

นี่​นับเป็น​ ​‘​กลยุทธ์​’​ ​อะไร​กัน​?

แต่​หวังห​มัว​มัว​มอง​สีหน้า​มั่นอกมั่นใจ​ของ​หวัง​ซี​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​ ​รู้สึก​มี​ความมั่นใจ​ขึ้น​มา​หลาย​ส่วน

***​

เฉินลั​่ว​มา​เร็ว​กว่า​ที่หวัง​ซีคา​ดกา​รณ​์​เอาไว้​มาก​โข

เกี้ยว​มงคล​ของ​ซือ​จู​ยัง​ไม่ทัน​ออกจาก​ประตู​ ​เขา​ก็​วิ่ง​มาถึง​ก่อน​แล้ว

หวัง​ซี​ถาม​อย่างแปลกใจ​ว่า​ ​“​ไม่​คิด​ว่า​เจ้า​จะ​มี​เวลาว่าง​มา​เจอ​ข้า​ด้วย​”

เฉินลั​่​วก​ล่า​วอ​ย่าง​ประหลาดใจ​ว่า​ ​“​ก็​เจ้า​บอกว่า​มีเรื่อง​สำคัญ​ต้องการ​พบ​ข้า​ด่วน​มิใช่​หรือ​”

หวัง​ซี​ถึง​ได้​สังเกตเห็น​ว่า​เฉินลั​่ว​ไม่​ต่าง​กับ​นาง​ ​สวม​แค่​ชุด​อยู่​บ้าน​กลางเก่ากลางใหม่​ตัว​หนึ่ง​ ​บน​ศีรษะ​ไม่​ปักปิ่น​แม้แต่​ชิ้น​เดียว​ ​แต่​ชุด​คลุม​ตัว​นั้น​ทำ​จาก​ผ้าไหม​สีดำ​ลาย​ว่าน​น้ำ​ ​ด้านใน​เป็น​ขน​สุนัขจิ้งจอก​สีดำ​ ​ปลาย​ขน​แต่ละ​เส้น​เห็น​เด่นชัด​ ​ต้อง​กับ​แสงอ่อน​ๆ​ ​แค่​มอง​ก็​รู้​ว่า​ไม่ใช่​ของ​สามัญ​ธรรมดา​ ​ดู​อุ่น​มาก

นาง​กล่าว​ ​“​ข้า​คิด​ว่าวั​นนี​้​เฉิน​อิง​แต่งงาน​ ​เจ้า​ต้อง​ไม่มีเวลา​…​”

เฉินลั​่​วก​ล่าว​ตัดบท​คำของ​นาง​ว่า​ ​“​เขา​แต่งงาน​แล้ว​เกี่ยว​อัน​ใด​กับ​ข้า​?​ ​วันนี้​ข้า​อยู่​ที่​ซอย​ลิ่ว​เถียว​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​เจ้า​ส่งจดหมาย​ไป​ให้​ข้า​ ​ข้า​คง​ไม่​มาที​่​นี่​”

เอาละ​!​ ​เขา​กับ​นาง​เหมือนกัน​ ​ต่าง​เบือนหน้า​หนี​เจ้าบ่าว​เจ้าสาว

หวัง​ซีคิด​ ​รู้สึก​ว่า​เช่นนี้​ทำให้​เบิกบานใจ​ยิ่ง​ ​ต่าง​ไม่​ให้เกียรติ​พวกเขา​แม้แต่​นิดเดียว

ไป๋​จื่อ​เข้ามา​ปรนนิบัติ​เฉินลั​่ว​ถอด​เสื้อคลุม​ ​ทั้งสอง​คน​นั่ง​ดื่ม​ชา​อยู่​บน​ตั่ง​ตัว​ใหญ่​ข้างหน้า​ต่าง

หวัง​ซีคุย​เรื่อง​ข่าวลือ​กับ​เขา

เฉินลั​่ว​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​ด้วย​ความประหลาดใจ

คิดไม่ถึง​ว่า​เรื่อง​นี้​จะ​ถูก​ลือ​ออก​ไป​เร็ว​ขนาด​นี้

ไม่​แปลกที่​ผู้อื่น​กล่าวว่า​ขอ​เพียง​คำพูด​ออกจาก​ปาก​ ​ก็​ไม่มี​ความลับ​ใน​จิง​เฉิง​อีก

เขา​ขมวดคิ้ว​ ​กล่าว​อย่างดูแคลน​ว่า​ ​“​ดูแล​้ว​เรือน​ชั้นใน​ของ​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​ก็​หา​ได้​เข้มงวด​อะไร​นัก​!​ ​คราวก่อน​เอา​คำพูด​ของปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ออกมา​ลือ​ ​ครั้งนี้​ก็​เอา​คำพูด​ระหว่าง​มารดา​ข้า​กับฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ออกมา​ลือ​ ​ไม่รู้​ว่า​พวกเขา​ดูแล​บ้าน​อย่างไร​”

นี่​ไม่น่า​ใช่​ประเด็นหลัก​กระมัง

ไม่รู้​เพราะเหตุใด​ ​หวัง​ซี​รู้สึก​ใจเต้น​แรง​เล็กน้อย

นาง​กล่าว​ ​“​นี่​เป็นเรื่อง​ที่ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​และ​โหวฮู​หยิน​ของ​พวกเขา​ต้อง​สนใจ​ด้วย​หรือ​ ​มิใช่​ว่า​ตอนนี้​สิ่ง​สำคัญ​คือ​ต้อง​หยุด​ข่าวลือ​พวก​นั้น​หรอก​หรือ​ ​เจ้า​ไม่รู้​อะไร​ ​เรือน​ข้า​กลายเป็น​สวนผัก​หลังบ้าน​ที่​ทุกคน​ต่าง​อยาก​มาดู​ไป​แล้ว​ ​ไม่รู้​พวก​นาง​อยาก​ดู​อะไร​กัน​แน่​”

ยัง​บ่น​เรื่อง​ที่​หย่ง​เฉิง​โหวฮู​หยิน​เชิญ​หมอ​มา​ให้​นาง​ด้วย

“​ไม่แน่​ว่า​พรุ่งนี้​เช้า​พอตื​่​นขึ​้​นมา​ ​ทุกคน​อาจ​กำลัง​ลือ​ว่า​ข้า​ใกล้​ตาย​แล้วก็​เป็นได้​!​”

นี่​มี​ความเป็นไปได้​สูง​มาก

นึกถึง​ตอนนั้น​ ​ท่าน​ปู่​ของ​นาง​เพียง​ไม่สบาย​เท่านั้น​ ​แต่​ทุกคน​ต่าง​ลือ​กัน​ว่า​เขา​ใกล้​ตาย​แล้ว​ ​เมือง​ที่​พวกเขา​อยู่​ต่าง​พากั​นขึ​้​นรา​คา​ผ้า​ขาว

เฉินลั​่​วก​ล่าว​ ​“​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​!​ ​ข้า​จะ​ไป​บอก​มารดา​ข้า​สัก​คำ​หนึ่ง​”

หวัง​ซี​รีบ​กล่าว​ ​“​กล่าว​เช่นนี้​แสดงว่า​คำพูด​นี้​ไม่ได้​ลือ​กัน​ไป​เอง​!​ ​จ่าง​กง​จู่​พูดว่า​อยาก​ให้​ข้า​แต่ง​กับ​เจ้า​จริงๆ​?​”

เฉินลั​่ว​ได้ยิน​แล้ว​สำรวจ​สีหน้า​ของ​นาง​อย่าง​ถี่ถ้วน

ไม่​เขิน​ ​ไม่อาย​ ​ทั้ง​ไม่มี​อาการ​ยินดี​หรือ​เคือง​โกรธ

พูด​ราบเรียบ​ไร้ค​วาม​ประหลาดใจ​ใดๆ​ ​เสมือน​กำลัง​ถาม​ว่า​ ​‘​วันนี้​เจ้า​กิน​อะไร​’​ ​เท่านั้น​ก็​ไม่​ปาน

ฉับพลัน​นั้น​เฉินลั​่​วรู​้​สึก​ไม่สบายใจ​เล็กน้อย

เหตุใด​นาง​ไม่รู้​สึก​…

แล้ว​รู้สึก​อะไร​เล่า​?

ดีใจ​?​!

ขัดเขิน​?​!

ทำตัว​ไม่​ถูก​?​!

เด็กสาว​ยาม​รู้​ข่าว​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​ตัวเอง​ ​มิใช่​ว่า​ควร​เป็น​เช่นนั้น​กัน​หรอก​หรือ​?

เช่นนั้น​แล้ว​หวัง​ซี​ ​นาง​ไม่ดี​ใจ​หรือ​เพราะ​รู้สึก​ว่า​อะไร​ก็ได้​กัน​แน่นะ​?

ความคิด​วาบ​ผ่าน​หัว​ของ​เฉินลั​่ว​ไป​ ​เขา​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ยิ่งนัก​ ​ถึงขั้น​รู้สึก​ถึง​ความ​กราดเกรี้ยว​จางๆ​ ​ที่​กระเพื่อม​อยู่​ใน​ใจ

เขา​ก้มหน้า​ลง​ดื่ม​ชาคำ​ใหญ่​ไป​ครึ่ง​ถ้วย​ ​อารมณ์​ถึง​ได้​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลงมา​ ​กล่าว​อย่าง​เย็นชา​ว่า​ ​“​ใช่​!​ ​มารดา​ข้า​เคย​กล่าว​เช่นนั้น​…​”

ตอนที่​เขา​พูด​ประโยค​นี้​จบ​แล้ว​ ​รู้สึก​โดยสัญชาตญาณ​ว่า​ควร​พูด​คำ​จำพวก​ ​‘​เจ้า​คิดเห็น​อย่างไร​’​ ​อีก​สัก​สอง​สาม​ประโยค​ถึง​จะ​ถูกต้อง​ ​แต่​ถ้อยคำ​มาถึง​ริมฝีปาก​แล้ว​ ​มุม​ปาก​เขา​กลับ​อ้า​ๆ​ ​หุบ​ๆ​ ​รู้สึก​ว่า​พูด​ออกมา​ไม่ได้

คล้าย​กับ​ว่า​เมื่อ​พูด​มัน​ออกจาก​ปาก​ไป​แล้ว​ ​เขา​ก็​เหมือน​คน​เปลือยเปล่า​ไร้​อาภรณ์​บัง​กาย​ ​ถูก​คน​มอง​จน​ทะลุปรุโปร่ง​ ​ประหนึ่ง​เนื้อ​บน​เขียง​ที่​หมดหนทาง​แล้ว

หวัง​ซีปา​กอ​้า​ตาค้าง​ด้วย​ความตกใจ​ไป​เรียบร้อย​แล้ว

เฉินลั​่ว​หมายความว่า​จ่าง​กง​จู่​อยาก​ให้​นาง​เป็น​บุตร​สะใภ้​ไม่ใช่​อนุภรรยา​อย่างนั้น​หรือ

เป็นไปได้​อย่างไร

เห็นได้ชัด​ว่า​จ่าง​กง​จู่​ไม่ใช่​คน​ประเภท​ที่​ไม่​ให้ความสำคัญ​กับ​เรื่อง​สถานะ​ของ​ตระกูล

ดู​จาก​คนที​่​นาง​คบค้าสมาคม​ด้วย​เหล่านั้น​ก็​รู้​แล้ว

นอกจากนี้​นาง​กับ​จ่าง​กง​จู่​ก็​ไม่เคย​คุย​กันตา​มลำ​พัง​มาก​่อน​ ​จ่าง​กง​จู่​จำ​หน้าตา​นาง​ได้​หรือเปล่า​ก็​ยัง​ไม่รู้​ ​จู่ๆ​ ​จะ​มี​ความคิด​อยาก​ให้​นาง​เป็น​บุตร​สะใภ้​ได้​อย่างไร

“​มิใช่​!​”​ ​นาง​ละล่ำละลัก​กล่าว​ ​“​เป็น​ ​เป็นไปได้​หรือไม่​ว่า​เข้าใจผิด​ ​หรือ​บางที​จ่าง​กง​จู่​อาจมี​แผนการ​อะไร​?​ ​บ้าน​ข้า​อยู่​สู่​จง​ ​ไม่มี​ความ​ข้องเกี่ยว​กับ​จิง​เฉิง​เลย​”

ต่อให้​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​ความเหมาะสม​ของ​สถานะ​ตระกูล​ ​แต่​การสู่ขอ​บุตร​สะใภ้​หา​ใช่​การ​ซื้อ​เสื้อผ้า​ ​ที่​ไม่​สวย​ ​ไม่เหมาะสม​ ​หรือไม่​ชอบแล้ว​แค่​เปลี่ยนตัว​ใหม่​ก็​พอ​ ​สู่ขอ​บุตร​สะใภ้​ต้อง​รู้จัก​นิสัยใจคอ​ของ​อีก​ฝ่าย​ด้วย​กระมัง

……………………………………………………………..